Monday, 20 May 2024
ม็อบทะลุแก๊ส

'ปิยบุตร' ถามหากองหนุน วอนอย่าให้เด็กสู้ลำพัง หวั่นซ้ำรอย 45 ปีก่อน ที่นักศึกษาถูกบดขยี้จนหายวับ

6 ต.ค. 64 - นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul - ปิยบุตร แสงกนกกุล ถึงการร่วมเสวนาหัวข้อ “45 ปี มาตรา 112” ส่วนหนึ่งของกิจกรรมครบรอบ 45 ปี 6 ตุลาฯ ทาง Clubhouse เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2564 ที่กล่าวตอนหนึ่งว่ามาตรา 112 ไม่ใช่กฎหมายหมิ่นประมาทธรรมดา แต่คือภาพแทนของสถาบันกษัตริย์ ฝ่ายอนุรักษ์นิยมหลายคนที่เที่ยวไปแจ้งความคนอื่นทั้งที่ตนเองไม่ได้โดนดูหมิ่น ไม่ได้เสียหายเอง นั่นเพราะสำหรับพวกเขามองว่าคือการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดูหมิ่นความเชื่อถือ (Blasphemy)

ปิยบุตรตั้งข้อสังเกตว่าการใช้ การแก้ และการเพิ่มโทษที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 เป็นเครื่องมือทางการเมือง คือปฏิกิริยาสืบเนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงเวลานั้นๆ เสมอ ยกตังอย่างเช่น การแก้ไขเพิ่มโทษมาตรา 112 ให้เพิ่มขึ้นจนมากกว่าสมัยการปกครองในระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หลังการรัฐประหารของ พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ ช่วงต่อมาคือการใช้มาตรา 112 หลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 มาถึงหลังการรัฐประหาร 2549 และล่าสุดถูกนำมาใช้ใหม่อย่างกว้างขวางอีกครั้งหลังการชุมนุมปี 2563 

ดังนั้นมาตรา 112 จึงไม่ใช่เรื่องของกฎหมายอย่างเดียว แต่มีความสัมพันธ์กับสถานการณ์ทางการเมืองและกลุ่มคนที่ตั้งคำถามกับสถาบันกษัตริย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“ย้อนไปถึงการรณรงค์ของคณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 (ครก.112) ในตอนนั้น เคยมีคนเป็นรอยัลลิสต์มาเสนอว่าหากต้องการเสนอแก้ไขมาตรา 112 ให้มานั่งคุยกันปิดลับ โดยไม่ต้องเข้าชื่อเสนอกฎหมายในทางสาธารณะ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไม่อยากให้มีการเข้าชื่อ เมื่อมาวิเคราะห์ดูก็พบว่านี่คือวิธีคิดของรอยัลลิสต์และพวกอนุรักษ์นิยม คือคิดว่าถ้ายอมโอนอ่อนให้ข้อนึง ความต้องการจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปถึงเรื่องอื่นเรื่อยๆ จนไปถึงสุดทางเลย เขาไม่คิดว่าถ้ายอมปฏิรูปข้อนึง แล้วคนจะหยุด วิธีคิดของรัฐไทยขีดเส้นชัดเจน ไม่ขยับถอยเลย ต้องรอให้เกิดความสูญเสีย ถึงจะมายอมถอยเหมือนคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 ในอดีต” 

“โฆษกกห.” เผยตามข่าวม็อบทะลุแก๊สกลายพันธุ์  พร้อมแจงปมวิจารณ์เดือดธนาคารให้สิทธิ์นายทหารระดับสูง ปัดวิจารณ์โลโก้เพื่อไทยใหม่ พร้อมเผย นายกฯ สั่ง สภากลาโหมหนุนรับเปิดประเทศ 1 พ.ย. 

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม  กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวกลุ่มม็อบทะลุแก๊สอาจมีการกลายพันธุ์ไปสู่การแบ่งแยกดินแดน การข่าวของกระทรวงกลาโหมได้ติดตามเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ว่า เรามีการติดตามอยู่ และไม่อยากให้ความรุนแรงเกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงได้มีการเฝ้าระวังอยู่ เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาในเรื่องนี้ และเกิดเหตุการณ์ต่างๆ โดยทางฝ่ายการข่าวให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว หากประชาชนมีเบาะแสหรือมีข่าวที่เกี่ยวข้อง ขอให้แจ้งทางเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์การออกบัตรเครดิตของธนาคารแห่งหนึ่งให้สิทธิประโยชน์ให้สิทธิกำลังพลโดยเฉพาะนายทหารระดับสูง มีการมองถึงเรื่องชนชั้นศักดินาในกองทัพมองอย่างไร พล.อ.คงชีพ กล่าวว่า จะมองว่าเป็นเรื่องศักดินาไม่ได้ ทุกเป็นภาคเอกชน จะจัดโปรโมชั่นหรือออกบัตรให้ใครเป็นเรื่องของธนาคารฉะนั้นในการออกบัตรเครดิตจะต้องพิจารณาในเรื่องของฐานเงินเดือนและรายได้รวมถึงสินเชื่อเครดิตว่ามีสินเชื่อแค่ไหนซึ่งการออกบัตรเป็นเรื่องของแต่ละธนาคารจะให้เครดิตกับลูกค้าขึ้นอยู่กับเขา ปัจจุบันเงินเดือนทหารผูกกับธนาคารทหารไทย ซึ่งปัจจุบันรวมกับธนาคารธนชาติ ย้ำว่าไม่ใช่เรื่องของชนชั้น และไม่ได้มีสิทธิพิเศษอะไรให้กับนายทหาร และเป็นวันที่ธนาคารจะพิจารณาเอง

เมื่อถามว่าโลโก้พรรคเพื่อไทยมีแต่สีแดง แต่มีบางสีหายไป ในฐานะฝ่ายความมั่นคงมองอย่างไร พล.อ.คงชีพ กล่าวว่า เป็นเรื่องของแต่ละพรรคการเมือง อะไรที่เป็นเรื่องไม่ผิดกฎหมายสามารถทำได้ทั้งนั้น ในฐานะที่เป็นข้าราชการไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์เรื่องทางการเมือง แล้วแต่คนจะมอง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top