Monday, 29 April 2024
ม.112

“แรมโบ้” อัด “เพื่อไทย” หนุนม็อบสามกีบคิดล้มล้างสถาบัน กล้าเสนอแก้ ม.112และ116 ก็ต้องชัดเจนแล้ว จะได้ป่าวประกาศบอกประชาชนคนไทยทั่วประเทศว่า อย่าไปเลือกพรรคหนักแผ่นดินที่คิดล้มล้างสถาบันฯ

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพรรคเพื่อไทย ประกาศพร้อมนำข้อเสนอแก้กฎหมายมาตรา 112 และ 116 เข้าสู่วาระการประชุมรัฐสภา โดยระบุว่าการที่จะเสนอแก้กฎหมาย 2 มาตรานี้เข้าสภาฯ ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพียงเพราะผลประโยชน์ และสำหรับปกป้องการกระทำความผิดของบางกลุ่มหรือพรรคการเมืองบางพรรคเท่านั้น การกระทำเช่นนี้จะทำให้คนไทยที่รักสถาบันหูตาสว่างขึ้นว่าพรรคเพื่อไทยที่แท้ก็คืออีแอบที่เกี่ยวข้องเรื่องการคิดจาบจ้วงก้าวล่วงของม็อบสามกีบและคณะราษฎรตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างนั้นใช่ไหม

ขณะเดียวกัน ม.112 และ116 ตนเองพูดมาตลอดว่าไม่เคยไปใช้รังแกใคร มีแต่คนกลุ่มนี้วิ่งเข้าใส่เพื่อท้าทาย ม.112 และ116 ทำผิดกฎหมายฝ่าฝืนตั้งใจเย้ยฟ้าท้ากฎหมายบ้านเมืองเองจึงต้องมีความจำเป็นต้องคงไว้ ถ้ายกเลิกกฎหมายมาตราดังกล่าว รับรองได้เลยว่า คนชั่วๆคนเลวๆ คนหนักแผ่นดินพวกนี้จะเหิมเกริมก้าวร้าวจนเป็นบ้านเมืองเกิดกลียุค ลุกเป็นไฟ กลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนอย่างแน่นอน 

นายเสกสกลยังตั้งข้อสังเกตว่าการที่พรรคเพื่อไทยออกมาสนับสนุน เสนอแก้กฎหมาย ม.112 และ116 นั้น อาจเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้อาจสนับสนุนกลุ่มเคลื่อนไหวม็อบ 3 นิ้วอยู่เบื้องหลัง แต่พอรู้ว่าจะเคลื่อนไหวไม่สำเร็จจึงออกมาเปิดเผยตัวและใช้ความเป็นนักการเมือง ใช้สภาฯ เป็นช่องทางในการแก้ไขกฎหมายแทน

นอกจากนี้ตั้งแต่ได้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวนายใหญ่ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมของพรรคด้วย พรรคเพื่อไทย จึงทำให้พรรคเพื่อไทยรีบเสนอแก้กฎหมาย เพื่อเป็นการเอาใจนายใหญ่ด้วยหรือไม่ หรือนายใหญ่สั่งมา ต้องกล้าเอาความจริงออกมาพูด

“แรมโบ้” เห็นด้วย สำนักวิจัยซูเปอร์โพลเรื่องไม่ต้องการให้นำสถาบันกษัตริย์และการแก้ ม. 112 มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง อัด “เพื่อไทย- ก้าวไกล"หากนำมาชูหาเสียงอย่าหวังชนะถล่มทลาย เพราะประชาชนไม่เอาด้วย

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เห็นด้วยกับผลสำรวจสำนักวิจัยซูเปอร์โพลเรื่อง ม.112 ที่พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 98.5  การมีอยู่ของสถาบันกษัตริย์เป็นส่วนสำคัญของความสัมพันธ์เชิงลึกของคนในชาติและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในเชิงประวัติศาสตร์  นอกจากนี้เกือบร้อยละ 99.1 ไม่ต้องการให้นำสถาบันกษัตริย์และการแก้ ม. 112 มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง หาคะแนนเสียงและแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว เพราะจะทำให้สร้างความแตกแยกขัดแย้งในชาติ

จึงเป็นการแสดงให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศรักและศรัทธา และมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และจะไม่ยอมให้ใครนำเรื่องสถาบันไปแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเองหรือทางการเมืองของพรรคการเมือง

นายเสกสกล ยังอยากให้ฝ่ายค้านได้รู้จักคิดและฟังเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศบ้าง ว่าประชาชนมีความต้องการอะไร และการที่พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ต้องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้นตนเองมั่นใจว่าคนไทยทั้งประเทศไม่ยอมอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันการที่พรรคเพื่อไทย- พรรคก้าวไกล จะชูเรื่อง 112 ในการหาคะแนนนิยมของพรรคนั้นก็เป็นเรื่องที่ผิดพลาดอย่างมาก เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย หากมีการเลือกตั้งครั้งหน้ามั่นใจว่าคงไม่ชนะแบบถล่มทลายอย่างที่คุยไว้แน่นอน

‘เต้ มงคลกิตติ์’ ชัดเจน ไม่เอา พิธา พรรคก้าวไกล  จากปมแก้ ม.112 เพื่อสงบสุขของบ้านเมือง

วันนี้ (28 พ.ค. 66) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ พี่เต้ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อได้โพสต์ข้อความ สร้างกระแสฮือฮาไปทั่วโซเชียล โดยมีใจความว่า ...

ถ้าให้ผมเลือก ระหว่าง พิธา แก้ ม.112 กับ ลุงตู่ ไม่แก้ ม.112 “ผมเลือกความสงบสุขของบ้านเมือง เลือก ลุงตู่ คับ”

หลังจากเผยแพร่ไปได้ข้อความดังกล่าวไปได้ไม่นาน ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้าแสดงความคิดเห็นมากว่า 1 พันครั้ง ในช่วงพริบตา ซึ่งหากใครที่ติดตามข่าวสารการเมืองมาเป็นอย่างดี ช่วงที่ เต้ มงคลกิตติ์ ดำรงตำแหน่ง ส.ส. ก็มีท่าทีแสดงจุดยืนถึงการร่วมงานกับ ประยุทธ์ ที่ดูแล้วพี่เต้เองก็ไม่ได้เห็นด้วยสักเท่าไร อีกทั้งยังโหวตค้านเป็นประจำแต่กลับมาแสดงจุดยืนตอนนี้จึงทำให้ประชาชนจำนวนมากจับตามอง

ซึ่งก่อนหน้านี้ เต้มงคลกิตติ์ หลังจากผลคะแนนการเลือกตั้ง 2566 ที่ผ่านมา ชี้ชัดแล้วว่า พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้คะแนนน้อยกว่าที่คิด จนเต้เองถึงขั้นอยากเปลี่ยนอาชีพไปทำงานพิธีกรรายการดูบ้าง ซึ่งก็เคยได้เห็นการโชว์ฝีมือไปแล้วในรายการ ถกไม่เถียง ที่เป็นพิธีกรคู่กับ ป่อเปี๊ยะ โดยทางตัวเต้เองนั้นก็ทำผลงานออกมาได้ดีพอสมควร

ล่าสุด ก่อนที่เต้ มงคลกิตติ์ จะโพสต์เลือกข้างนี้ ก็เคยออกมาประกาศแล้วว่า ตนเองจะหยุดเรื่องการเมือง และขอลาออกจากหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ตั้งแต่ 26 พ.ค.2566 เวลา 14.39 น. แต่ในระยะเวลาหลังจากนั้น เต้ เองก็ยังมีการโพสต์เรื่องการเมืองอยู่เป็นระยะ จนทำให้ประชาชนที่เฝ้าติดตามมาเกิดความสงสัยว่า เหตุใดคนที่บอกจะพักกลับพูดถึงเรื่องการเมืองอยู่เป็นประจำ หนำซ้ำจู่ๆก็ออกมาโพสต์เลือกข้างว่าจะเลือก ลุงตู่ อีก


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top