Sunday, 19 May 2024
พลโทนันทเดช

‘พล.ท.นันทเดช’ วิเคราะห์เลือกตั้งซ่อม ชี้ คนใต้สอน 'พปชร.' ให้รู้จักคำว่า 'พ่ายแพ้'

เมื่อวันที่ 17 ม.ค. พลโทนันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตกรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย และอดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กถึงผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส. จังหวัดชุมพรและสงขลา ว่า ในที่สุดประชาชนภาคใต้ก็สอนพรรค พลังประชารัฐ ให้รู้จักคำว่า "พ่ายแพ้" เสียบ้าง แพ้อย่างไรนั้น เราลองมาดูเหตุผลง่ายๆ กันหน่อย 

1.) คราวนี้พรรคพลังประชารัฐ ไม่ชูพลเอก ประยุทธ์ ขึ้นมาหาเสียงเหมือนเดิม เพราะหลายคนในพลังประชารัฐไม่เชื่อว่า ในปัจจุบันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะยังมีคนชอบอยู่มากมายเหมือนเดิมอีก 

2.) การปรากฏตัวถี่ขึ้นของคุณทักษิณ และการเคลื่อนไหวของเด็ก 3 กีบ ที่นับวันจะเลยเถิดมากขึ้น ทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศ ต้องหันกลับมาพึ่งพา พล.อ.ประยุทธ์อีกครั้งหนึ่ง แม้จะเบื่อในความเฉื่อยชา ของลุงตู่ก็ตาม 

'อดีตหัวหน้าศรภ.' ย้อนอดีต คำพูด 'คอมมิวนิสต์โซเวียต' ถึงสถาบันมหากษัตริย์ไทย 'ความเมตตา-พัฒนา' ที่พระเจ้าซาร์ฯ ๒ ยากจะเทียบเคียง

พลโทนันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า...

รัสเซีย นั้นมองประเทศไทยในทางที่ดีตลอดมาแม้จะไม่มีผลประโยชน์ ที่จะได้จากไทยเลย

อนึ่งผมเขียนเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่ เดือนมกราคม 2555 แสดงว่า ...

แม้รัสเซียจะมีความเชื่อคนละอย่างกับ ไทย และ ไทย ยังอยู่ฝ่ายสหรัฐฯ มาตลอด แต่ทั้งรัสเซีย และ จีนแดง ก็ให้ความเคารพต่อองค์พระมหากษัตริย์ของไทยตลอดมา

พล.ท.นันทเดช เล่าว่า เมื่อเกิดความแตกแยกทางด้านความคิดกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ในขั้นรุนแรงขึ้น 'เทิดภูมิ ใจดี' และพรรคพวกกลุ่มหนึ่งก็หลบหนีจากฐานที่มั่นในไทย ไปพึ่งพาพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศลาว จนถูกส่งไปศึกษาเพิ่มเติมที่ ลาว, เวียดนาม, จีน และรัสเซีย ทำให้ เทิดภูมิฯ เห็นข้อผิดพลาดของ พคท. มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกรณีที่เกี่ยวกับ “สถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย” 

ที่รัสเซีย >> หลังจากฟังคำบรรยายของคณะกรรมการกลางบริหารพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียตถึงนโยบายพรรคและความเลวร้ายของพระเจ้าซาร์ฯ จบลงแล้ว ทางฝ่ายพรรคคอมมิวนิสต์ไทย จึงได้เสนออุปสรรคและปัญหาของการปฏิวัติในไทยให้ทางรัสเซียได้ทราบบ้าง ซึ่งสรุปถึงปัญหาหลักๆ ที่เป็นอุปสรรคสำคัญ ๒ ประการ คือ...

๑. ศาสนาพุทธครอบงำสังคมไทย มีพระ เณรอยู่ทุกหมู่บ้าน ทำให้ประชาชนไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง การปฏิวัติจึงพัฒนาไม่ได้

๒. สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นสถาบันที่มีอุปสรรคมากที่สุดต่อการปฏิวัติในประเทศไทย ประชาชนเชื่อถือและศรัทธามาก เสมือนหนึ่งว่า ประเทศไทยจะขาดสถาบันฯ ไม่ได้

'อดีตบิ๊ก ศรภ.' วิเคราะห์ศึกซักฟอกหนสุดท้าย ยก 3 ปัจจัย การันตี 'บิ๊กตู่ - 10 รมต.' ชนะฉลุย

‘อดีตบิ๊ก ศรภ.’ รู้ทันฝ่ายค้านเทหมดหน้าตักหวังชนะศึกซักฟอก ยก 3 ปัจจัย มั่นใจ ‘บิ๊กตู่’ กับ 10 รมต. ผ่านฉลุย ต่างกันแค่เสียงโหวตไว้วางใจ เย้ยดูวอลเล่ย์สนุกกว่าเยอะ

(20 มิ.ย.65) พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์­ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งนี้สำคัญมากกว่าทุกครั้ง จนถึงขั้นพรรคเพื่อไทย ออกมาลั่นว่า “ต้องตีให้ตายคาสภา” โดยมีความมั่นใจมาจากสาเหตุดังนี้

1. นายกฯลุงตู่ ไม่สามารถยุบสภาหนีได้ ดังนั้น ส.ส.พรรคเล็ก จึงเป็นอิสระมากขึ้น “ไม่ต้องกลัวถูกยุบสภา แล้วตกงาน” สามารถไปต่อรองโหวตให้ใครก็ได้ที่ตัวเองชอบ หรือได้รับผลประโยชน์

2. ฝ่ายค้านมีข้อมูลในการอภิปรายมากกว่าทุกครั้ง

3. เป็นการอภิปรายครั้งสุดท้าย ถ้าไม่ชนะ รัฐบาลจะอยู่ไปยาวอีกเกือบ 10 เดือน จึงจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ ซึ่งเป็นโอกาสให้รัฐบาลสามารถทำอะไรได้อีกมาก จนอาจกลับมาครองเสียงประชาชนได้อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น ฝ่ายค้านจึงจำเป็นต้องทุ่มเท “ทุกวิถีทาง” เพื่อเอาชนะให้ได้

'พลโทนันทเดช' ย้อนเกล็ด เหตุ 'ธนาธร' แค้นรัฐประหาร สรุปเป็นนักประชาธิปไตย หรือ ผู้ไม่เคารพกฎหมายกันแน่


(13 เม.ย.66) พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า...

▪️ฝ่ายประชาธิปไตย สนับสนุนการทุจริตหรือไง▪️ 

เมื่อมีการ “Debate“ กันระหว่าง นายสุชาติ รมว.แรงงาน กับ นายธนาธร บนเวที...นายธนาธร บอกว่าตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย...ฝ่ายของ นายสุชาติ เป็นเผด็จการ

นายสุชาติ จึงถามว่า เป็นเผด็จการตรงไหน นายธนาธร ขอให้ดูเรื่อง “วุฒิสมาชิก“

ผมขอตอบแทน คุณสุชาติ โดยขอถามกลับ นายธนาธร ว่า ...

1.วุฒิสมาชิก เกิดจากการแต่งตั้งของคณะรัฐประหาร ใช่หรือไม่?

แน่นอน นายธนาธรต้องตอบว่า ”ใช่“ และคงย้ำต่อไปอีกว่า เพราะรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์1 มาจากการทำรัฐประหาร 

2.ผมจะถามต่อว่า แล้วทำไมจึงเกิดการรัฐประหารขึ้น?

นายธนาธร อาจจะเงียบ ผมก็จะบอกต่อว่า มีหลายคนในรัฐบาลยิ่งลักษณ์  ทำการทุจริต และยังทำการที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญอีก ทหารก็ยังดูอยู่เฉยๆ (การทุจริตหลักฐานชัดเจน) 

3.ประชาชนออกมาต่อต้าน รัฐบาลที่ทุจริตมากขึ้น นับล้านคน 

ศาลรัฐธรรมนูญสั่งถอดถอนยิ่งลักษณ์ รัฐบาลไม่สามารถบริหารราชการต่อไปได้ บ้านเมืองเริ่มเข้าสู่กลียุค ทหารก็ยังอยู่เฉยๆ ฝ่ายสนับสนุน รัฐบาลก็ยังออกมาใช้ทั้งตำรวจ และ มือระเบิด จัดการกับประชาชน เพิ่มขึ้น ทำให้ประชาชน หลายกลุ่ม ต้องเริ่มจัดหาอาวุธมาสู้บ้าง 

 4.ประชาชน จึงออกมากดดันให้ทหารออกมา (ทำอะไรซะทีสิวะ) 

ทหารก็จำเป็นต้องทำก่อนบ้านเมืองพังทลาย เมื่อทำรัฐประหารแล้ว ประชาชนก็สนับสนุน รัฐบาลประยุทธ์ จนอยู่มาอีก 4 ปี แบบสบายๆ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญออกมา ประชาชนก็รับรองอีก...รัฐบาลประยุทธ์ 2 ก็มาจากรัฐธรรมนูญ ฉบับที่มุ่งปราบทุจริต มากกว่าทุกฉบับ  วุฒิสมาชิกก็ได้อำนาจมาจากการรับรองของประชาชน เหมือนๆกับที่พรรคก้าวไกล ที่ได้ ส.ส.มามากมาย ก็มาจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้เช่นกัน 

'พลโทนันทเดช' หยัน!! ซื้อบ้านเก่าของปรีดีที่ฝรั่งเศส แค่ละครฉากหนึ่ง ชี้!! เป็นการลงทุนแค่สลึงเดียว แต่คิดจะเอากลับคืนมาเป็นล้าน

(19 เม.ย. 67) พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า...

บ้านเก่าของอาจารย์ปรีดี ที่ฝรั่งเศส หรือจะเป็นร้านกาแฟอีกร้านหนึ่งแค่นั้น

การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เท่ากับเป็นการมองย้อนหลังไปหารากเหง้าของตัวเอง เพราะประวัติศาสตร์ คือ ต้นธารของสังคม และชีวิตผู้คนไม่ว่าจะเป็นไพร่ ผู้ดี หรือชนชั้นปกครอง โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการปฎิวัติ 24 มิถุนา 2475 ซึ่งในปัจจุบันมีผู้เขียนถึงกันมากมายหลายแง่มุม หลายทัศนะ แล้วแต่ความใกล้ชิดกับผู้คนในประวัติศาสตร์ หรือความเชื่อที่ได้รับมา หรือผลประโยชน์ที่ผูกพันกับตัวเอง จนกล่าวได้ว่า ไม่มีใครเป็นกลางได้จริงในเหตุการณ์ 24 มิถุนา 2475 แค่ดูหนังสือที่ขายในท้องตลาดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะเห็นได้ว่า มีแต่ผู้เขียนที่แข่งขันกันชื่นชมต่อคณะราษฎรเกือบ 80%

ดังนั้นเหตุการณ์ 24 มิถุนา 2475 จึงถูกนำมาผลิตเป็นหนังสือ ขายแล้วขายเล่า ไม่รู้จักจบสิ้น โดยไม่มีใครสนใจว่าข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์จะเป็นอย่างไร แค่ขอให้ตัวเองเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากชื่อ คณะราษฎร เท่านั้นก็พอ 

การซื้อบ้านเก่าของอาจารย์ ปรีดี ที่ฝรั่งเศส ก็คล้ายคลึงกัน มันเป็นแค่ละครฉากหนึ่งของพรรคการเมือง พรรคหนึ่ง ที่พิมพ์หนังสือออกมาขายเด็ก แล้วไม่มีคนอ่าน จึงลงทุนซื้อบ้านของ อาจารย์ปรีดี ซึ่งอุปมาเหมือนเป็นการลงทุนแค่สลึงเดียว แต่จะเอากลับคืนมาเป็นล้าน ยิ่งกว่าซื้อทองเก็งกำไร เห็นแล้วก็น่าสงสาร คณะราษฎร ที่วันเวลาผ่านมากว่า 90 ปีแล้ว ก็ยังถูกนำมาใช้เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มบุคคลเพียงบางกลุ่ม ..ก็แค่นั้นเอง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top