Saturday, 18 May 2024
พลายศักดิ์สุรินทร์

‘กัญจนา ศิลปอาชา’ ช่วยปันทุนทรัพย์ พา ‘พลายศักดิ์สุรินทร์’ กลับบ้าน

(3 ก.ค.66) จากเฟซบุ๊ก 'เรารักสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ สยามบรมราชกุมารี' ได้โพสต์ข้อความเชิดชู คุณหนูนา-กัญจนา ศิลปอาชา ระบุว่า...

ผู้หญิงคนนี้หัวใจเธอคือที่สุดในเรื่องสัตว์จริงๆ ค่ะ 

สละทรัพย์สินส่วนตัวเยอะมากกกกกก มากกกกก มากกกกกกก เพื่อนำ #พลายศักดิ์สุรินทร์ กลับมาติภูมิ 

แม้จะมีหลากหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือร่วมกัน แต่คีย์แมนคนสำคัญของเรื่องนี้คือ คุณหนูนา กาญจนา ศิลปอาชา จริๆ ค่ะ 

'พลายศักดิ์สุรินทร์' หรือ 'บิลลี่' คืนสู่มาตุภูมิหลังทุกข์ทรมานนานกว่าสองทศวรรษในศรีลังกาจนขาแข้งงอไม่ได้ การขนย้ายใช้เครื่องบินชนิดพิเศษ ใส่กรงพิเศษ ส่งควาญช้างที่เก่งระดับประเทศไปปรับสภาพจิตใจกับช้างที่ศรีลังกา ก่อนนำมาเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจที่ลำปาง

คุณหนูนาออกเงินและทองคำหลายกิโล แลกมาเป็นพุทธบูชา

เธอรักสัตว์มากเหลือเกินค่ะ มีหลายร้อย หลายพันเคสมาก ๆ ที่คุณหนูนาเข้าไปช่วยเหลือ ทั้งเป็นข่าวและไม่เป็นข่าว อย่างกรณีเสือโคร่งของกลาง ที่รวมๆ กันอยู่ที่ สวนสัตว์บึงฉวาก จังหวัดสุพรรณบุรี หลายสิบตัวไปแล้ว 

กินอาหารแต่ละมื้อ แต่ละวันค่าดูแลโหดมาก แต่สวนสัตว์เก็บค่าเข้าคนละ 20 หรือ 50 บาทนี่แหละ -“- ไปเที่ยวกันเยอะๆ นะคะ 😅🙏 

พวกหมาพิการจรจัด ช้างป่า หลายๆ ตัวคุณหนูนาก็อุปถัมภ์ 

ขอบพระคุณนางฟ้าคนสวยนะคะ

‘ทีมแพทย์’ อัปเดตอาการ ‘พลายศักดิ์สุรินทร์’ พบ ‘ตาขวาเป็นต้อ-ขาหน้าซ้ายงอไม่ได้’ แต่กินได้ดี

(4 ก.ค. 66) หลังจากที่พลายศักดิ์สุรินทร์ได้เดินทางมาถึงประเทศไทย และเข้ากักตัวที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง เรียบร้อยแล้วนั้น

ล่าสุด โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อัปเดตสถานการณ์อาการของพลายศักดิ์สุรินทร์หลังจากที่ทีมแพทย์ได้เข้าไปตรวจสอบเบื้องต้น โดยเพจเฟซบุ๊กของโรงพยาบาลช้าง ระบุว่า

หลังจากเดินทางไกลกว่า 2,400 กิโลเมตร จากประเทศศรีลังกาสู่ประเทศไทย ใช้เวลาเดินทางรวมทั้งสิ้นกว่า 16 ชั่วโมง พลายศักดิ์สุรินทร์ก็ถึงที่หมายเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ เมื่อมาถึงคุณหมอได้ทำการตรวจสุขภาพเบื้องต้นพบว่าช้างอ่อนเพลียจากการเดินทางเล็กน้อย กินน้ำและอาหารที่จัดเตรียมไว้ได้ดี การขับถ่ายปกติ สามารถล้มตัวลงนอนและลุกขึ้นเองได้ พบปัญหาสุขภาพเบื้องต้นคือขาหน้าซ้ายงอไม่ได้ ปัญหาเล็บและฝ่าเท้า พบแผลฝีที่สะโพกทั้งสองข้างและตาขวาเป็นต้อกระจก

หลังจากทำการตรวจสุขภาพแล้ว คุณหมอก็ได้เก็บตัวอย่างเพื่อส่งตรวจโรคติดต่อต่าง ๆ โดยถ้าหากพ้นระยะกักโรคตามกฎหมายแล้วจึงจะทำการย้ายช้างเข้าสู่กระบวนการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ เพื่อวางแผนการรักษาต่อไป

กิจวัตรประจำวันของสุดหล่อในช่วงกักตัวจะเป็นการทำความคุ้นเคยกับพี่ควาญ ฝึกเรียนรู้คำสั่งภาษาไทยและฝึกการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมใหม่ โดยในช่วงแรกเพื่อความปลอดภัยของตัวช้างซึ่งยังไม่คุ้นเคยกับสถานที่และการป้องกันโรคติดต่อไปสู่ช้างเชือกอื่น จึงต้องมีการจำกัดบริเวณกันซักเล็กน้อย เมื่อเกิดความคุ้นเคยดีแล้วทางทีมงานก็จะได้ปรับกิจกรรมประจำวันให้เหมาะสมกับช้างต่อไปค่ะ

แฟนคลับดีใจ!! หลังเปิดให้เยี่ยม ‘พลายศักดิ์สุรินทร์’ ได้ทุกวัน ชวนชมความน่ารักของพ่อพลายได้ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง

(7 ก.ย. 66) แฟนคลับพ่อพลายศักดิ์สุรินทร์ดีใจ หลังทางศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จังหวัดลำปาง แจ้งข่าวให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าเยี่ยมชมพ่อพลายได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 14.00 น. - 16.00 น.

เฟซบุ๊กเพจ ‘ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง The Thai Elephant Conservation Center’ Lampang โพสต์ข้อความว่า…

“FC ที่ต้องการเยี่ยมชม #พลายศักดิ์สุรินทร์ เราเปิดให้ชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 14.00 น. - 16.00 น. นะจ๊ะ” 🙏❤️🐘

กิจกรรมการท่องเที่ยว ก็ยังเปิดให้บริการเหมือนเดิมจ้า
🐘 ช้างอาบน้ำ
เวลา 10.45 น. และ 13.15 น.
🐘 ห้องเรียนของช้าง (การแสดงความสามารถของนักเรียนช้าง)
เวลา 11.00 น. และ 13.30 น.

นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามรับชม Live ตามติดชีวิตพ่อพลายศักดิ์สุรินทร์ได้ทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี เวลา 16.00 - 16.30 น. ทางเพจศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง The Thai Elephant Conservation Center Lampang

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ [email protected] หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline

‘รพ.ช้าง’ อัปเดตอาการ ‘พลายศักดิ์สุรินทร์’ พบข้อเสื่อม-ศอกอักเสบ ทำให้งอขาไม่ได้-กล้ามเนื้อหัวไหล่ฝ่อลีบ ล่าสุดเตรียมวางแผนรักษาแล้ว

(8 ก.ย.66) โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง เปิดเผยความคืบหน้าการรักษาพลายศักดิ์สุรินทร์ ว่า ทีมงานได้มีการตรวจวินิจฉัยความผิดปกติของขาหน้าซ้ายพลายศักดิ์สุรินทร์โดยละเอียด พบว่า การวัดและวิเคราะห์การก้าวย่าง ใช้ระบบวิเคราะห์การเดินของช้างเอเชีย

โดยวิธีการใช้หน่วยวัดแรงเฉื่อย (Inertial Measurement Unit : IMU) ซึ่งจะมีการติดเซนเซอร์ที่ตำแหน่งต่างๆ บนร่างกายช้าง ให้ช้างเดินบนทางราบเป็นระยะทางประมาณ 25 เมตร แล้วจึงนำข้อมูลที่ได้ไปประมวลผล

พบว่าขาหน้าซ้ายมีจังหวะการก้าวย่างสั้นกว่าขาข้างอื่น และพบการเหยียดของขาหน้าซ้ายท่อนบนมากกว่าส่วนอื่น นอกจากนี้ยังพบว่า มีการใช้ขาหน้าขวา เพื่อชดเชยการทำงานของขาหน้าซ้าย ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดโครงสร้างผิดรูปได้ในอนาคต

จากการถ่ายภาพรังสี (x-ray) ขาหน้าซ้าย เพื่อดูความผิดปกติของกระดูก โดยเฉพาะในส่วนของข้อต่อ พบว่า บริเวณข้อศอกผิวกระดูกมีความขรุขระ และมีช่องว่างระหว่างข้อแคบกว่าปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณของข้อเสื่อม (Osteoarthritis ; OA)

การตรวจกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasonography) พบว่า เอ็นบริเวณข้อศอกด้านซ้ายมีการอักเสบเรื้อรัง เกิดเป็นพังผืด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ช้างไม่สามารถงอขาได้ และพบว่ากล้ามเนื้อหัวไหล่ด้านซ้ายมีการฝ่อลีบเนื่องมาจากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน

เมื่อทำการวินิจฉัยจนพบสาเหตุของความเจ็บป่วยแล้ว ทีมงานจึงได้วางแผนการรักษา ดังนี้

1. กำหนดให้ช้างเดินออกกำลังกายในทางราบโดยให้เดินข้ามสิ่งกีดขวางเพื่อกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อขาหน้าซ้าย วันละ 30 นาที

2. ทำการนวดบริเวณข้อศอกซ้ายด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound therapy) เพื่อรักษาพังผืดในบริเวณดังกล่าว

3. กระตุ้น/เสริมสร้างกล้ามเนื้อบริเวณหัวไหล่ด้านซ้ายด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Peripheral Magnetic Stimulation ; PMS)

โดยจะมีการติดตามและประเมินผลการรักษาทุกๆ 30 วัน ทั้งนี้ขอขอบคุณคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ Ams Cmu คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ร่วมตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาร่วมกันในครั้งนี้ และขอขอบคุณ BTL Medical Thailand (บริษัท บีทีแอล เมดิคอล เทคโนโลจีส์ จำกัด) สำหรับอุปกรณ์เครื่อง PMS


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top