Wednesday, 26 June 2024
พริษฐ์_วัชรสินธุ

‘ไอติม’ ชำแหละงบปี 66 ยังไม่ตอบโจทย์ ชี้ชัด กระจุกตัวแค่บางจังหวัดที่เป็นรัฐมนตรี

กมธ. งบฯ สัดส่วนก้าวไกล อภิปรายขอตัดลดงบปี 66 ชี้ไม่ตอบโจทย์ความต้องการทั้งระยะสั้นและระยะยาวของประเทศ ด้าน “ไอติม” ตั้งข้อสังเกต งบถนนและปรับปรุงแหล่งน้ำ กระจายให้จังหวัดของรัฐมนตรีคมนาคม และรัฐมนตรีเกษตรฯ มากกว่าจังหวัดอื่น สะท้อนการจัดสรรงบเพื่อประโยชน์การเมือง

พริษฐ์ วัชรสินธุ ในฐานะสมาชิกกรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ในสัดส่วนของพรรคก้าวไกล ได้อภิปรายสงวนคำแปรญัตติ ในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ในมาตรา 4 ภาพรวม โดยเสนอให้พิจารณาปรับลดงบประมาณของประเทศลง 5%

โดยพริษฐ์ ได้ตั้งข้อสังเกต ว่างบประมาณปี 2566 จำนวน 3.1 ล้านล้านบาท มีลักษณะของการใช้เงินผิดจุด ยังไม่ตอบโจทย์ ไม่จำเป็น และ ไม่เป็นธรรม โดยยกตัวอย่าง โครงการซ่อมแซมถนน และ โครงการปรับปรุงแหล่งน้ำ ซึ่งรวมกันทั้งประเทศแล้วมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของงบประมาณลงทุนทั้งหมด ว่ามีความกระจุกตัวในบางจังหวัดอย่างชัดเจน โดยในส่วนของโครงการซ่อมแซมถนนของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท พบว่า 7 จังหวัดที่ได้งบประมาณสูงสุด ได้รับงบประมาณรวมกันเป็นสัดส่วนถึง 25% ของงบประมาณซ่อมแซมถนนทั้งประเทศ ขณะที่โครงการปรับปรุงแหล่งน้ำของกรมชลประทาน 7 จังหวัดที่ได้งบประมาณสูงสุด ได้รับงบประมาณรวมกันถึง 36% ของงบประมาณปรับปรุงแหล่งน้ำของทั้งประเทศ

‘ไอติม’ อัด!! ศธ.ยกเลิกระเบียบทรงผม ยิ่งเปิดช่องโรงเรียนออกกฎไร้ขอบเขต

‘พริษฐ์-ก้าวไกล’ ชี้ ศึกษาธิการ ยกเลิกระเบียบทรงผม ไม่ได้แก้ปัญหา ยิ่งเปิดช่องโรงเรียนออกกฎไร้ขอบเขต แนะ ต้องมีมาตรฐานให้ชัด ห้ามโรงเรียนบังคับทรงผมเด็ก พร้อมสะท้อน ศธ. บทบาทกลับหัวกลับหาง เรื่องที่ควรให้อิสระโรงเรียนกลับไม่ให้ เรื่องที่ควรต้องคุ้มครองสิทธิเด็กในทุกโรงเรียน กลับไม่ทำ

(25 ม.ค. 66) พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ลงนามยกเลิกระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ. 2563 เปลี่ยนเป็นการกำหนดแนวปฏิบัติกว้าง ๆ เกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนหรือนักศึกษา ให้สถานศึกษาแต่ละแห่งนำหลักเกณฑ์ไปกำหนดเป็นระเบียบหรือข้อบังคับเอง

พริษฐ์ กล่าวว่า ถ้าพูดเฉพาะประเด็นการกำหนดทรงผม สิ่งที่รัฐมนตรีทำ ไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องทรงผมของนักเรียน และอาจทำให้เป้าหมาย 'เสรีทรงผม' ห่างไกลกว่าเดิม เพราะการยกเลิกกฎระเบียบส่วนกลางเกี่ยวกับทรงผม และโอนความรับผิดชอบและการตัดสินใจทั้งหมดไปที่โรงเรียน จะยิ่งเปิดช่องให้โรงเรียนแต่ละแห่งออกกฎเกณฑ์เรื่องทรงผมที่ละเมิดสิทธิผู้เรียนอย่างไรก็ได้แบบไร้ขอบเขต เช่น โรงเรียนแห่งหนึ่งสามารถออกกฎให้เด็กทุกคนต้องโกนหัวก็ได้ ดังนั้น ถ้าอยากแก้ปัญหาจริง ๆ กระทรวงควรออกระเบียบหรือมาตรฐานขั้นต่ำจากส่วนกลางให้ชัด ห้ามไม่ให้โรงเรียนออกกฎระเบียบตนเองที่บังคับเด็กเรื่องทรงผม

‘ไอติม ก้าวไกล’ ติงแถลงนโยบายวันเดียวน้อยและรวบรัดเกินไป เกรงได้รายละเอียดไม่ครบถ้วน

เมื่อวานนี้ (6 ก.ย. 66) ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา ว่า ส่วนตัวยังมีข้อกังวล 2 ส่วน คือ กรอบเวลาในการอภิปราย ขณะนี้มีข่าวออกมากว่าอาจจะเหลือการอภิปรายนโยบายเพียง 1 วัน โดยยังต้องรอการยืนยัน โดยมองว่า เป็นเวลาที่สั้นมาก หากย้อนดูในอดีตของการอภิปรายก็มักจะมากกว่า 1 วัน โดยจากรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีกรอบอภิปราย 2 วัน ทั้งนี้ หากเหลือแค่เพียงวันเดียวจริง ก็ถือว่าเป็นวิธีการที่รวบรัดจนเกินไปกับกระบวนการที่มีความสำคัญ

ส่วนข้อกังวลที่สอง ก็คือ เนื้อหาสาระของนโยบาย โดยต้องรอการยืนยันว่าเอกสารคำแถลงนโยบายที่หลุดออกมากเป็นเอกสารทางการหรือไม่ หากเอกสารที่ออกมาตรงกับเอกสารหลุดออกมาผ่านสื่อก็ยอมรับว่ายังขาดรายละเอียดนโยบายที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้สื่อสารกับประชาชนก่อนหน้าการเลือกตั้ง โดยยังไม่พบนโยบายค่าแรง สภาร่างรัฐธรรมนูญที่ยังมีความคลุมเครือว่าจะจัดตั้งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งหรือไม่

รวมถึงนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะออกมาบอกว่าจะมีการทบทวนดำเนินการภายใน 2 ปี แต่เมื่อไม่มีในเอกสารนโยบายก็ไม่มีหลักประกันกับประชาชนว่ารัฐบาลจะดำเนินการจริง โดยต้องให้ความสำคัญเพราะเป็นสัญญาประชาคม และยิ่งเป็นรัฐบาลผสม ประชาชนก็จับตาว่านโยบายของแต่ละพรรคที่แตกต่าง ขัดแย้งกันบ้างจะตกผลึกขับเคลื่อนออกมาเป็นนโยบายส่วนใด

ขณะที่การอภิปรายในส่วนของพรรคฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกล ยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีการพูดคุยภายในของพรรคก้าวไกล เป็นหลักถึงปัญหาของประชาชนและแบ่งหน้าที่วิเคราะห์นโยบาย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top