Friday, 3 May 2024
พรรคไทยภักดี

‘ไทยภักดี’ หนุนบังคับใช้ ม.112 อย่างเต็มที่ ยืนหนักแน่น ยึดหลักนิติธรรม - นิติรัฐแท้จริง

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี เผยแพร่แถลงการณ์ของพรรค กรณีพรรคการเมืองฝ่ายค้านมีการพูดเรื่องการเสนอพิจารณาแก้ไขมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา โดยระบุว่า พรรคไทยภักดี ตระหนักว่าในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันเป็นช่วงเวลาที่สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกคุกคาม และด้อยค่าอย่างหนักจากกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดี 

โดยมีการเคลื่อนไหวกระทำความผิดกฎหมายอย่างเป็นขบวนการเพื่อละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยการใส่ร้ายป้ายสี ใช้ข้อมูลอันเป็นเท็จ มีพฤติกรรมแสดงออกถึงความอาฆาตมาดร้าย เช่น การเผาพระบรมฉายาลักษณ์ในที่สาธารณะ การพ่นสีตามท้องถนน การชูถือป้ายถ้อยคำหยาบคายหมิ่นสถาบันฯ เป็นที่ประจักษ์ชัดต่อสายตาคนไทยทั้งประเทศ พฤติกรรมดังกล่าว ไม่ใช่ข้อเสนอแนะทางวิชาการโดยสุจริตแต่อย่างใด แต่กลับมีเป้าประสงค์ที่จะล้มล้างสถาบันฯ ถือว่าเป็นภัยความมั่นคงร้ายแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นในยุคสมัยใดในประเทศไทยมาก่อน

เมื่อกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีเหล่านี้กระทำความผิดและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย กลับออกมารณรงค์ต่อต้าน และยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ มาตรา 116 ตลอดจนผลักดันให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้ง ๆ ที่ตนเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเหล่านี้อย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำแล้วซ้ำอีก นับว่าเป็นพฤติกรรมที่ย้อนแย้ง และกระทำไปเพื่อให้สามารถนำมาใช้ยกอ้างให้ตนพ้นจากความผิดที่ได้กระทำไปแล้ว นับว่าเป็นการกระทำที่ขาดความชอบธรรมเป็นอย่างยิ่ง

'หมอวรงค์' ท้า 'พท.' ฟื้นจำนำข้าว! เตือน!! ระวังเจอคุก-เผ่นนอกซ้ำแน่

‘หมอวรงค์’ ย้อนคดีจำนำข้าว แดงโร่โกงทั้งแผ่นดิน ท้า พท. กล้าฟื้นโครงการจริงมั้ย เตือนระวังติดคุก หรือได้เผ่นนอกประเทศซ้ำอีกแน่

8 พ.ย. 64 - นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ “จำนำข้าวยิ่งลักษณ์” โดยระบุว่า

ช่วงนี้พรรคเพื่อไทย ออกมาพูดเรื่องข้าวกันมาก เลยเถิดไปถึงโครงการรับจำนำข้าว สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ออกมาเบี่ยงประเด็นเรื่องการขาดทุน

สิ่งที่ต้องย้ำให้พรรคเพื่อไทยให้ตาสว่าง ต้องแยกระหว่าง “ขาดทุน” กับ “โกง” การช่วยประชาชน ลำพังขาดทุนนั้นพอรับได้ แต่ไม่ควรให้ถึงชาติล่มจม

แต่ปัญหาใหญ่ของโครงการรับจำนำข้าวคือ “โกง” โกงกันทุกขั้นตอน ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ จนทำให้เงินที่ควรจะถึงชาวนา เกวียนละ 15,000 บาท ถ้าหักความชื้นถูกต้อง น่าจะเหลือ 14,000 บาท แต่เอาเข้าจริง ๆ เหลือ 10,000 - 12,000 บาทต่อเกวียนเท่านั้น

'หมอวรงค์' จับตาคดีชี้ชะตา 3 แกนนำม็อบสามนิ้ว ชี้! จะเป็นบรรทัดฐานล้มล้างการปกครองหรือไม่

'หมอวรงค์' ฟันธง คดีนี้ใหญ่มาก! จับตาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ จะเป็นบรรทัดฐานว่าการที่ม็อบเรียกร้องเรื่อง ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์จะเข้าข่ายเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่

10 พ.ย. 64 - นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ระบุว่า #คดีนี้ใหญ่มาก

การที่ม็อบราษฎร มีการเคลื่อนไหวเรียกร้อง "ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์" ซึ่งมีสาระใหญ่ ๆ เช่นยกเลิกมาตรา 112 ยกเลิกมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ (ผู้ใดจะกล่าวฟ้องร้องพระมหากษัตริย์มิได้) รวมทั้งข้อเรียกร้องอื่น ๆ รวม 10 ข้อ

ต่อมา อ.ณฐพร โตประยูร ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ตามกระแสข่าว มีหลักฐานการรับเงินจาก NGO ต่างประเทศด้วย ไปยื่นร้องแกนนำม็อบ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดว่า

"บุคคลจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้"

‘หมอวรงค์’ เตือน ‘ชลน่าน’ ระวังได้นอนคุก หากยังคิดปลุกผี ‘จำนำข้าว’ ขึ้นมาอีก

วันที่ 7 ธ.ค. 64 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ระบุว่า

‘เตือนคุณหมอชลน่าน

คุณหมอชลน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พูดว่าโครงการรับจำนำข้าว เป็นการเข้าไปจัดการกลไกราคาตลาด ทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น ต้องการปลุกผีจำนำข้าวขึ้นมา

รู้ไหมว่าโครงการนี้ เอาภาษีประชาชนมาผลาญ สองปีเศษใช้ไปร่วม 940,000 ล้านบาท จนป่านนี้ยังชดใช้ไม่หมด โกงกันทุกขั้นตอน ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ

'พันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์' ผู้สมัคร ส.ส. พรรคไทยภักดี เขตหลักสี่-จตุจักร เบอร์ 1 ลงพื้นที่ตลาดศรีเสนา

นายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชน์ ผู้สมัคร ส.ส. พรรคไทยภักดี เขตหลักสี่-จตุจักร เบอร์ 1 พร้อมด้วยทีมงานพรรคไทยภักดี ลงพื้นที่หาเสียง ณ ตลาดศรีเสนา เพื่อขอกำลังใจและการสนับสนุนจากประชาชนในพื้นที่ 

โดยบรรยากาศเช้านี้ที่ตลาดศรีเสนา ก็มีประชาชนมาจับจ่ายซื้อของกันอย่างคึกคัก และได้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดซึ่งตลาดศรีเสนานี้ก็ไม่ได้อยู่ไกลกันมากกับตลาดบางเขน มาได้ง่ายมากๆ 

นายพันธุ์เทพกล่าวว่า วันนี้ก็มาขอกำลังใจและแรงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนทุกๆคน และวันนี้ก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีมากๆ ขอบคุณที่ติดตามและให้กำลังใจกัน รู้สึกสนุกมากครับ ที่ทุกคนทักทายกัน ให้กำลังใจกันตลอดเส้นทางที่ลงพื้นที่ ฝากถึงพี่น้องประชาชนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง โปรดเลือกเบอร์ 1 พรรคไทยภักดี พันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ครับ 
 

'ไทยภักดี' ร่อน 'จดหมายหมอวรงค์' ขอโอกาสเข้าสภาฯ ปราบโกง-ปกป้องสถาบัน

27 ม.ค. 65 - นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ร่อน “จดหมายจากคุณหมอวรงค์” จำนวน 20,000 ฉบับ ถึงประชาชนเขตจตุจักร หลักสี่ ให้โอกาสนายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หมายเลข 1 พรรคไทยภักดี เข้าสภาเป็นโซ่ข้อกลาง ประกาศจุดยืนปราบโกงและปกป้องสถาบัน

โดยจดหมายเปิดผนึกฉบับดังกล่าว สะท้อนปัญหาบ้านเมืองว่า ประเทศชาติกำลังเผชิญปัญหาของขบวนการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และปัญหาที่หมักหมมจากการทุจริต จึงขอให้ประชาชนชาวจตุจักร หลักสี่ เชื่อมั่นในพลังอันแรงกล้าของพรรคไทยภักดี และนายพันธุ์เทพที่มีประสบการณ์ในการทำงาน มีความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อเข้าไปทำหน้าที่ในสภา สะท้อนอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดของพี่น้องทุกท่าน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการเปลี่ยนแปลง และเป็นโซ่ข้อกลางเชื่อมโยงพรรคไทยภักดีกับสภา พรรคไทยภักดีมีจุดยืนที่ชัดเจน พร้อมประกาศนโยบายปราบโกงและปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักของพวกเรา ความหวังในการเปลี่ยนแปลงการเมือง เพื่ออนาคตที่ดีของลูกหลานเรา

'หมอวรงค์' รู้ทัน!! เหตุ ‘โทนี่’ ป้วนเปี้ยนใกล้ไทย หวังปลุกกระแสดันลูกสาวนั่งนายกฯ พาตนกลับบ้าน

นพ.วรงค์ เดชวิกรม หัวหน้าไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร เคลื่อนไหวป้วนเปี้ยนแถวสิงคโปร์ ระบุว่า…

#สิ่งที่นายทักษิณต้องตระหนัก

นายทักษิณต้องรู้ตัวว่า ตนเองคือนักโทษที่หลบหนีคดีอาญา ที่ศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งนักการเมือง เคยมีคำพิพากษา ตัดสินจำคุกแต่หนีคดีไม่ยอมรับโทษ

ในอดีตมีคำพิพากษาที่จำคุกไปแล้ว 4 คดี รวมทั้งหมด 12 ปี มีเพียงคดีที่ดินรัชดา ที่ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี และคดีหมดอายุความ จึงเหลือคดี ที่ต้องจำคุก 3 คดี รวมเวลา 10 ปี ยังไม่นับคดีที่รอ ป.ป.ช. ชี้มูล

การที่นายทักษิณ มาป้วนเปี้ยนแถวสิงคโปร์ พยายามปลุกระดม ผ่านคลับเฮาส์ ว่าจะกลับบ้าน พ.ศ.นี้ ก็เป็นส่วนของการหวังผล สร้างกระแสให้ลูกสาวมาชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อพาตนเองกลับบ้าน

ตกผลึกการเมืองไทยสไตล์ 'ทัพหน้า' แห่ง​ ‘ไทยภักดี’! | Click on Clear THE TOPIC EP.179

📌เกาะความคิด​ ทิศทางการเมืองไทย​ และสไตล์การเดินเกมที่แตกต่างในช่วงจังหวะอุณหภูมืการเมืองไทยกำลังเข้มข้นและมีชั้นเชิง ไปกับ ‘นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม’ หัวหน้าพรรคไทยภักดี!
📌 ใน Topic : ตกผลึกการเมืองไทยสไตล์ 'ทัพหน้า' แห่ง​ ‘ไทยภักดี’!

ในรายการ Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

'หมอวรงค์' เปิดแผง สาวไส้พวกทำลายชาติ ชี้!! รับเงินต่างชาติ มีวิธีการบ่อนเซาะแยบยล

เมื่อวานนี้ (4 มิ.ย. 65) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้ อุดมการณ์ชาติ ผมเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว ของกลุ่มการเมืองกลุ่มหนึ่ง ที่พยายามปลุกระดมคนไทยด้วยกัน ให้เกลียดชัง ด้อยค่า อุดมการณ์ชาติ ซึ่งเป็นอุดมการณ์ ของความเป็นชาติไทย

คนกลุ่มนี้นับวัน มีการขยายตัว ทั้งจากกลุ่มการเมือง กลุ่มอาจารย์ เยาวชนคนรุ่นใหม่ สื่อมวลชน NGO ศิลปินดารา และ influencer แน่นอนว่า การขับเคลื่อนกิจกรรมทำลายอุดมการณ์ชาติ ย่อมหนีไม่พ้นการสนับสนุนจากต่างชาติ แต่แฝงมาในรูปแบบต่างๆ

เพื่อให้เกิดความเข้าใจ อุดมการณ์ชาติ เป็นเรื่องของความคิด ความเชื่อ ความศรัทธาของคนในชาติที่ยอมรับร่วมกัน ขณะเดียวกันยังสามารถยึดเหนี่ยว สมาชิกของคนในชาติ ไว้ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว และเป็นแบบแผนปฏิบัติ ในทางดำเนินชีวิตที่ดีของคนในชาติ นำมาซึ่งจุดร่วมของความรักและสามัคคีร่วมกัน

อุดมการณ์ชาติ ในแต่ละชาติ จะไม่เหมือนกัน แต่อุดมการณ์ชาติ ของไทยเรา ที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวของคนไทยทั้งชาติ และปลูกฝังมาอย่างยาวนาน ก็คือสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ในวันนี้มีความชัดเจนขึ้นมาก ของแผนการจ้องทำลายอุดมการณ์ชาติของคนไทย

เราไม่ต้องพูดถึง สถาบันพระมหากษัตริย์ ที่คนกลุ่มนี้พุ่งเป้าทำลาย ผ่านการกระทำที่หยาบคาย ให้ร้าย ปล่อยเฟกนิวส์ ต้องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ยกเลิกมาตรา ๑๑๒ รวมทั้งการนำเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวดพระมหากษัตริย์ เพื่อด้อยค่าสถาบัน และทำลายล้างในที่สุด

ในส่วนสถาบันศาสนา ซึ่งเป็นเรื่องของศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ภารกิจที่เห็นกันชัดเจน ก็คือขบวนการจ้องทำลายสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า ทั้งเรื่องหลวงปู่แสง พระกาโตะ ตามข่าวที่คนไทยรับทราบ เพื่อให้ศาสนาของชาติเสื่อมลง

ที่เลวร้ายที่สุดของขบวนการเหล่านี้ กำลังค่อยๆ บ่อนเซาะทำลายชาติ ซึ่งคำว่าชาติ ไม่เพียงหมายถึงแผ่นดินที่เป็นประเทศ แต่หมายถึงประชาชน รวมถึงรากเหง้า วัฒนธรรม ประเพณี ภาษาไทย อักษรไทย เลขไทย

ขบวนการเหล่านี้มีความแยบยลที่เสนอ เช่นอ้างการกระจายอำนาจ แต่กำลังแบ่งแยกชาติ ให้เลือกผู้ว่าราชการจังหวัด เหมือนเลือกผู้ว่าการรัฐ ซึ่งต้องเข้าใจว่า ผู้ว่ากทม. ไม่ใช่ผู้ว่าราชการจังหวัด เพียงแต่การเรียกชื่อให้คนเข้าใจผิด เพราะตำแหน่งนี้ไม่ต่างจากนายกมหานครกรุงเทพฯ

‘ถาวร’ ปักธง ‘3ป.’ ยุทธศาสตร์พิทักษ์ชาติ ‘ปกป้องสถาบันฯ-ปราบโกง-ปฏิรูปประเทศ’

 (23 เม.ย.66) จากรายการ ‘ถลกข่าว ถลกคน’ รายการเกาะติด-เจาะลึกการเลือกตั้ง 2566 โดยสำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES ร่วมกับ TV Direct ช่อง 76 (จานดาวเทียม PSI) ได้เชิญ นายถาวร เสนเนียม ประธานพรรคไทยภักดี มาฉายภาพสถานการณ์การเมืองไทยในปัจจุบัน จุดยืนของพรรคไทยภักดี พรรคการเมืองที่ภักดีต่อประเทศไทยและสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งล้วงไปถึงนโยบายการเลือกตั้งของพรรค ผ่านยุทธศาสตร์ 3 ป. ดังนี้ว่า...

ในการเลือกตั้ง 2566 พรรคไทยภักดี มุ่งมั่นที่จะทำการเมืองภายใต้ยุทธศาสตร์ 3 ป. ซึ่งมีความชัดเจนต่อการนำพาประเทศไทยไปสู่การเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จทั้งเสถียรภาพการเมือง เศรษฐกิจ และความสามัคคีของคนในชาติ โดย…

>> ป. ที่ 1 ได้แก่ ‘ปกป้องสถาบัน’
ไทยภักดี ต้องการให้คนไทยกลับมาสู่โลกของความเป็นจริง ซึ่งก่อนอื่น ผมอยากจะพูดถึงนิยามคำว่าที่ตอนนี้นำมาล้างสมองเด็กไทยกันมาก นั่นก็คือคำว่า ‘ล้าสมัย’ ที่หลุดมาจากบางพรรคและบางบุคคล ผมมองว่านี่เป็นเรื่อง ‘เส็งเคร็ง’ เพราะนักการเมือง นักวิชาการพวกนี้ กำลังใช้เด็กเป็นเครื่องมือ เพื่อนำไปสู่การล้มล้างการปกครอง ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 

โดยกรรมวิธีที่คนเหล่านี้ทำ คือ เลือกที่จะรับเอาประวัติศาสตร์โง่ๆ ของคนยุโรปในบางประเทศมาทั้งดุ้น แล้วมาถอดแบบสอดใส่ให้กับประเทศไทย แล้วบอกว่าประเทศไทยล้าสมัย ใส่ลงไปในหัวเด็กๆ เยาวชนรุ่นใหม่ ซึ่งพวกคุณนั่นแหละล้าสมัย เพราะคุณไม่รู้จัก Apply สิ่งที่ดีในเมืองไทยให้ไปกับยุคสมัย แต่เลือกที่จะกระทำที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติแทน

เพราะฉะนั้น จึงเป็นที่มาของพรรคไทยภักดีในส่วนของ ป.แรก ที่ต้องการจะเข้ามาชัดเจนในการปกป้องสถาบัน ซึ่งอันที่จริงก็ถือเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน มายึดโยงเป็นนโยบายสำคัญของไทยภักดี อันจะเกี่ยวเนื่องกับการต่อต้านการล้มมาตรา 112 ซึ่งไม่ได้สร้างความเดือดร้อนแก่ใคร แต่กลับเป็นเครื่องมือชิ้นใหญ่ที่กำลังพาเด็กไทยเดินหลงทางบ้าง เดินไปเข้าคุกบ้าง เป็นการมุ่งร้ายต่อเด็ก โดยผู้ใหญ่ที่คุมเกมอยู่ข้างหลังทั้งสิ้น 

>> ป. ที่ 2. ได้แก่ ‘ปราบโกง’
ถ้าหากเราดูย้อนหลังไปสัก 10 ปี ช่วงปี 2557 อันดับการทุจริตของประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 98 ของโลก จาก 180 ประเทศไทย แต่เราก็ตกลงไปอันดับที่ 110 และก็มีกระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อย จากการที่คอร์รัปชันทุจริตงอกเงย ในทุกๆ งบประมาณจะถูกเจียดเปอร์เซ็นต์ไปจากนักการเมืองโกง จาก 3 ล้านล้านเศษ ก็กินไปประมาณ 3 แสนล้านบาทบ้าง จี้ไปตรงไหนก็มีแต่โกงทุกหย่อมหญ้าบ้าง ในโครงการของรัฐบาล มีการโกงกินกันตั้งแต่ 10-20% ซึ่งเงินพวกนี้ เป็นส่วนแบ่งที่นักการเมืองกับพ่อค้าจับมือกันไปจ้างข้าราชการให้ทุจริต นักการเมืองได้ไปเต็มๆ ส่วนคนติดคุกคือ ข้าราชการประจำ นี่คือวิกฤต

สาเหตุหลักๆ ที่เกิดเหตุนี้ เพราะไม่เคยปฏิรูปประเทศไทยอย่างจริงจัง การบังคับใช้กฎหมายต่ำ และระบบอุปถัมภ์ยังไม่มีวันถูกปฏิรูป เราจึงต้องเข้ามาจัดการจุดนี้ ต้องแก้ความผิดคดีทุจริตให้ไม่มีอายุความในทุกๆ เรื่อง / นักการเมือง ต้องยื่นรายได้ โดยมีการตรวจสอบอาชีพ กำไร ขาดทุน เพื่อเช็กถึงความสุจริต ถ้าเจอว่าโกง ก็ยึดทรัพย์สินเข้ารัฐให้หมด / ต้องบังคับใช้สัญญาคุณธรรม รัฐมนตรีห้ามนิ่งเฉย นายกรัฐมนตรีห้ามนิ่งเฉย ห้วงเวลาของการพิจารณาคดีที่ยืดเยื้อต้องไม่มี ผิดต้องเอาความได้เร็วและฉับไว เพื่อให้ประชาชนไม่มองเห็นการโกงเป็นเรื่องปกติ โดยสิ่งเหล่านี้ทำได้ด้วยการแก้กฎหมายให้เป็นรูปธรรม และไทยภักดีจะผลักดันการปราบโกงในลักษณะนี้ให้ถึงที่สุด รวมถึงผลักดันทางสังคม เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนทัศนคติให้หยุดโกงตั้งแต่เด็ก แบบที่ประเทศจีนทำได้มาแล้ว

>> สุดท้ายกับ ป ที่ 3. ได้แก่ ‘ปฏิรูป-ปฏิวัติ’
เดิมทีแนวทางการปฏิรูปประเทศ ภายหลัง คสช.ยึดอำนาจแล้วเสร็จนั้น เต็มไปด้วยแนวคิด แต่เป็นแนวคิดที่ถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์บ้าง เอกสารบ้าง รัฐธรรมนูญบ้าง แต่ยังไม่เกิดการนำมาใช้จริง ซึ่งหลายเรื่องเป็นกุศโลบายที่เหล่ามวลมหาประชาชนต้องนำเลือดเนื้อไปเสียสละ เพื่อหวังได้เห็นการเปลี่ยนแปลง 

ยกตัวอย่างเรื่องความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน เราจะต้องผลักดันให้เกษตรกรยืนตระหง่านโดยไม่พึ่งพาทุนผูกขาด เช่น การพึ่งพาเรื่องพลังงาน สนับสนุนให้เกษตรกรปลูก ‘หญ้าเนเปียร์’ เพื่อนำมาผลิตแก๊ส หรือแม้แต่นำมาพัฒนาเป็นพลังงานไปปั่นเป็นกระแสไฟฟ้าได้ ซึ่งเป็นแนวคิดในการใช้สินค้าการเกษตร พัฒนาพลังงานสะอาด ก้าวข้ามฟอสซิล


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top