Tuesday, 21 May 2024
พรรคชาติพัฒนา

จับตา!! ความเคลื่อนไหว 'กรณ์-สุวัจน์' หลังเตรียมร่วมแถลง คาดเสริมทัพชูพรรคเศรษฐกิจ

จับตาความเคลื่อนไหวครั้งใหม่ 'พรรคกล้า & พรรคชาติพัฒนา' 2 หัวเรือใหญ่ เตรียมแถลงร่วมพรุ่งนี้ (2 ก.ย.65) 10.30 น.

(1 ก.ย.65) แสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า เผยว่า ในวันศุกร์ที่ 2 กันยายน 2565 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา และนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรรคกล้า จะร่วมกันแถลงข่าวทางการเมือง  ณ บ้านเลขที่ 333 ราชวิถี 20 ดุสิต กทม. เวลา 10.30 น.  

สำหรับนายกรณ์ จาติกวณิช และ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เคยร่วมทำงานแก้วิกฤตพลังงาน และวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ร่วมกันมาก่อน

‘สุวัจน์’ เปิดตัว ‘กรณ์’ ร่วมทีมศก.พรรคชาติพัฒนา อาสา ‘กู้-แก้’ วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ

(2 ก.ย. 65) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา แถลงเปิดตัวนายกรณ์ จาติกวนิช หัวหน้าพรรคกล้า เข้ามาร่วมทำงานเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคชาติพัฒนาเพื่ออาสาทำหน้าที่กอบกู้และแก้วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ 

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ หลังจากพิษโควิด-19 ระบาดหนักได้กระทบต่อภาคเศรษฐกิจของไทยหลายด้าน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ที่ส่งผลให้ผู้คนตกงาน ขาดรายได้ เข้าสู่การกู้หนี้ยืมสิน เป็นหนี้กันถ้วนหน้า ขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจโลก ที่ได้รับผลพวงจากสงครามรัสเซียยูเครน ทำให้ราคาพลังงาน และสินค้าอื่นสูงขึ้นตามไปด้วยนั้น ก็เป็นการตอกย้ำประชาชนอีกระลอก

“พรรคชาติพัฒนา มีความตั้งใจและหวังจะเป็นส่วนหนึ่งในการเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาของประเทศ และหวังได้ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมาทำงานร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาของประเทศ จึงเห็นควรที่จะเชิญชวน นายกรณ์ มาร่วมเป็นหนึ่งในทีมเศรษฐกิจของพรรค ด้วยดีกรีทางเศรษฐกิจที่ผ่านมา ซึ่งมั่นใจว่าจะเข้าถึงการแก้ปัญหาของประชาชนได้” สุวัจน์ กล่าวเสริม

ด้านนายกรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องทำงานด้วยความยืดหยุ่นเพื่อให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤติ สร้างความมั่นคงเศรษฐกิจ เกิดความหวังแก่คนรุ่นใหม่ นำมาสู่ความอยู่ดีกินดีของประชาชน โดยการติดสินใจในวันนี้ เป็นการตัดสินใจที่ได้พูดคุยกับคนในพรรคกล้าแล้ว และทุกคนก็ต่างเห็นดีเห็นงาม ถึงกระนั้นก็ยังไม่สามารถบอกได้ ว่าสมาชิกในพรรคกล้าจะตามมาอยู่ร่วมกับพรรคชาติพัฒนาหรือไม่ 

อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันว่าการแถลงข่าวครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการการรวมพรรคระหว่างพรรคกล้า กับพรรคชาติพัฒนา ขณะที่นายกรณ์ ได้ยืนยันด้วยว่า ‘พรรคกล้า’ ยังไม่ยุบ

ถอดรหัส ‘กรณ์-สุวัจน์’ สุญญากาศ ‘ควบรวมพรรค’ กับปัญหาทางกม.ที่สองฝ่ายยังพูดได้ไม่เต็มปาก!

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 ก.ย. 65 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา เปิดบ้านแถลงข่าว พร้อมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำในเป้าหมายและเหตุผลในการ “ทำงานร่วมกัน” ในฐานะมืออาชีพด้านเศรษฐกิจ 

มีการย้ำเรื่องเศรษฐกิจปากท้องอยู่แทบทุกคำพูด แต่แล้วก็ไม่วายนักข่าวสายดราม่าการเมือง ก็เน้นบี้ถามเอาคำตอบที่จะสร้างข่าวดราม่าได้ จนทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องอ้ำอึ้ง พูดได้ไม่เต็มปาก

เรามาถอดรหัสกันว่า เป็นเพราะเหตุใด!?

เรื่องมีอยู่ว่า กฎหมายของพรรคการเมืองในการจะทำงานร่วมกันไม่เหมือนกับกฎหมายธุรกิจเหมือน TRUE ควบรวมกับ DTAC เพราะ 2 มาตราหลักนี้คือ

มาตรา28 ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม

'เด็กพรรคกล้า' โต้!! กระแส 'กรณ์' ทิ้งพรรคซบสุวัจน์ ชี้!! รีเทิร์นทีมศก. ยุควิกฤติแฮมเบอร์เกอร์อีกครั้ง

สืบเนื่องจากวันที่ 2 ก.ย. 65 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ได้แถลงเปิดตัวนายกรณ์ จาติกวนิช หัวหน้าพรรคกล้า เข้ามาร่วมทำงานเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคชาติพัฒนาเพื่ออาสาทำหน้าที่กอบกู้และแก้วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศนั้น ก็เกิดกระแส 'ทิ้งกล้า' ของนายกรณ์แพร่สะพัดตามหน้าสื่อโดยทันที ทั้งที่เรื่องนี้ยังไม่มีการเอ่ยปากจากหัวเรือใหญ่จากทั้ง 2 พรรคแต่อย่างใด

ล่าสุดคนในพรรคกล้าได้ออกมาชี้แจงถึงความจริง อาทิ เทมส์ ไกรทัศน์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคกล้า จังหวัดภูเก็ต โพสต์ข้อความชี้แจงถึงกระแสการรวมพรรคกล้ากับพรรคชาติพัฒนาเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งแพร่สะพัดเป็นอย่างมากในเวลานี้ ว่า...

ผนึกกำลัง!! ไม่ได้ทิ้ง ไม่มีใครซบใคร

ด้วยอุดมการณ์ตั้งแต่เริ่มและใน DNA ของพวกเรา คือ การเข้ามา #ลงมือทำ เพื่อช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติ เรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง เราให้ความสำคัญ เราตั้งใจทำงานการเมืองเพื่อส่วนรวม ไม่ได้มาเพื่อที่จะรักษาอำนาจหรือผลประโยชน์อะไร

และด้วยกติกาและเหตุผลทางการเมืองหลายปัจจัย พวกเราก็ย่อมต้องมองถึงยุทธศาสตร์เพื่อให้ได้ไปอยู่ในจุดที่โอกาสจะอำนวย ช่วยให้เราได้ทำงานตามปณิธานที่ตั้งไว้ จึงเกิดการจับมือกันของ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” และ “กรณ์ จาติกวณิช” ในวันนี้

แน่นอน คุณกรณ์ ชื่อชั้นเป็นที่ยอมรับด้านเศรษฐกิจ สะท้อนปัญหาปากท้อง ความเดือดร้อนของประชาชนอยู่บ่อยๆ และ DNA ของการลงมือทำก็ชัดเจน ส่วน คุณสุวัจน์ เอง ก็เป็นนักการเมืองนักปฏิบัติตัวจริงมาเนิ่นนาน ไม่สนความขัดแย้งใดๆ ที่ทำให้เสียโอกาสการทำงาน 

จับมือกันเพื่อผสานพลังมากขึ้น เห็นภาพความชัดเจน “#ลงมือทำด้านเศรษฐกิจ” และ “#ปฏิบัตินิยม” เดินหน้าแก้ปัญหาชีวิตความเป็นอยู่เป็นหลักชัย มีเป้าหมายเพื่อนำพาความเจริญรุ่งเรืองมั่งคั่งสู่พี่น้องทั้งในชนบทและคนเมือง จากเหนือจรดใต้ จากกลุ่มชนชั้นกลางจนถึงพี่น้องที่ยังมีความยากไร้ ไม่เอาแล้ววังวนความขัดแย้งและการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายที่ฝังลึก การประท้วงที่ยืดเยื้อ สู่วงจรอุบาทว์ทางการเมือง รังแต่จะทำลายเศรษฐกิจ ทำร้ายครอบครัวและชีวิตชาวไทย

หากท่านเห็น #เศรษฐกิจปากท้อง เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง ไม่อยากเห็นรัฐบาลที่มุ่งแต่หาผลประโยชน์ให้ตนและพวกพ้องและละเลยประชาชนโดยสิ้นเชิง เบื่อลัทธิบูชาตัวบุคคลที่พรรคการเมืองต่างเอามาชูต่อสู้สร้างความขัดแย้งเป็นกว่าสิบๆ ปี เบื่อการจาบจ้วงและการไม่รับฟังคนเห็นต่างอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย และอยากได้ #การเมืองสร้างสรรค์ ความร่วมมือนี้ จะเป็นทางเลือกใหม่ที่ดีขึ้นแก่ท่านได้

คุณกรณ์ถามไถ่ผมแล้ว ผมเห็นด้วยกับยุทธศาสตร์ความร่วมมือนี้ว่าจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนและทำให้เรามีโอกาสทำงานมากขึ้น ส่วนเรื่องขั้นตอนทางกฎหมายมี และ #ไม่นานก็จะเป็นภาพที่ชัดเจน ครับ… ณ ตอนนี้ ไม่มีทิ้งใคร ไม่มีใครซบใคร ผสานพลังเดินหน้าและลงมือทำต่อไป

ขณะที่ด้านนาย พัสณช เหาตะวานิช เลขานุการส่วนตัวของนายกรณ์ จาติกวณิช ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงความมุ่งมั่นในเป้าหมายและ ยืดหยุ่นในเส้นทาง ไว้ว่า...

หากเราย้อนดูข่าวที่ออกจากปากคุณกรณ์ หรือคุณสุวัจน์ มันจะมีแต่คำว่า “เศรษฐกิจ” - “ปากท้อง” - “ค่าครองชีพ” และ “ประชาชน” 

คุณกรณ์ย้ำตอนแถลงว่า ถึงเวลาของมืออาชีพทางเศรษฐกิจ ที่เข้าใจทั้งมิติการเมือง และเศรษฐกิจเข้ามาทำงานบริหารประเทศ เลยทำให้เราต้องย้อนดูผลของงานที่ทั้งสองทีมทำมา ก็จะพบว่า ประจักษ์ในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจและพลังงาน 

การจับมือ หรือการร่วมมือกันทำงานในครั้งนี้ คุณกรณ์พูดไว้ตอนแถลงว่า.. ตัดสินใจง่ายมาก แกบอกว่า.. หลักคิดคือ จับมือแล้วเราสองคนช่วยประชาชนมากขึ้นหรือไม่ จับมือ ประชาชนได้ประโยชน์จากการกระทำครั้งนี้หรือไม่ คำตอบคือ แน่นอน!

ไม่มีอะไรสำคัญเท่าผลพิสูจน์จากการ #ลงมือทำ และคุณสุวัจน์เอง แกก็เป็นนักการเมืองสายนี้มานานแล้ว เป็นนักปฏิบัติตัวจริง ไม่สนความขัดแย้งใดๆ ที่ทำให้เสียโอกาสการทำงาน  

สำคัญที่สุดอีกอย่าง ทั้งสองคนทำงานเป็นนักการเมืองของประเทศไทย หลักที่ยึดไว้มั่นที่สุดคือการธำรงไว้ซึ้งสถาบันหลัก ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หนักแน่นดังเดิม

นายพัสณช ยังโพสต์ต่ออีกว่า ในช่วงปี 2551-2554 คุณกอร์ปศักดิ์ เป็นรองนายกฯ เศรษฐกิจ / คุณกรณ์ เป็นรัฐมนตรีคลัง ทีมคุณสุวัจน์ โดยคุณหมอวรรณรัตน์ เป็นรัฐมนตรีพลังงาน 

‘อรรถวิชช์’ ย้ำ ‘กรณ์’ ไม่ทิ้งเพื่อน ทำตรงไปตรงมา ลาออกจากพรรคกล้าไปสมัครชาติพัฒนา

‘อรรถวิชช์’ ย้ำ ‘กรณ์’  ไม่ทิ้งเพื่อน ทำตรงไปตรงมา ลาออกจากพรรคกล้าไปสมัครชาติพัฒนา โดยมีอดีตรองนายกกอปร์ศักดิ์ ประธานยุทธศาสตร์ตามไปด้วย กฎหมายปัจจุบันห้ามควบรวมพรรค จึงใช้วิธีตามกฎหมายปกติ 

ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า แถลงภายหลังมีข่าวว่านายกรณ์ จาติกวณิช ไปร่วมงานกับพรรคชาติพัฒนาว่า ผมกับพี่กรณ์รู้จักกันมานาน รู้จักกันดี พี่กรณ์เป็นคนมีความมุ่งมั่น มีความคิดอยากเห็นการเมืองที่ดีขึ้น พี่เขาก็ยังมุ่งมั่นทำสิ่งนั่นอยู่ ซึ่ง คุณกรณ์ และพี่ๆ น้องๆ ที่พรรคกล้ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน คุณกรณ์เลือกทำอย่างตรงไปตรงมาตามกฎหมาย คือลาออกจากพรรคและไปสมัครพรรคใหม่ โดยมีท่านอดีตรองนายกรัฐมนตรีและประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าท่านกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ตามไปด้วย

ดร.อรรถวิชช์ กล่าวถึง การจะรีแบรนด์ ปรับโครงสร้างต่างๆ ในส่วนของชาติพัฒนา เป็นส่วนของท่านเทวัญ และท่านสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และสมาชิกของพรรคเขา ส่วนเราเองยังสังกัดพรรคกล้า จะไปข้องเกี่ยวไม่ได้ กฎหมายพรรคการเมืองก็ระบุไว้ชัดเจน โดยในส่วนตัวผมก็ยังต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการพรรคกล้า เพื่อจัดประชุมใหญ่พรรคในเดือนนี้ให้แล้วเสร็จ

'อรรถวิชช์' ถอดรหัสขั้นตอน 'กรณ์' ร่วมงาน 'ชาติพัฒนา' วอน!! รอกระบวนการทางกฎหมาย แล้วจะรู้ว่าไม่มีใครทิ้งใคร

พลันที่ข่าว 'กรณ์ จาติกวณิช' เปิดตัวร่วมทัพทีมเศรษฐกิจกับพรรคชาติพัฒนา ของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ก็ทำให้เกิดกระแส 'กรณ์ทิ้งพรรค' กระฉ่อน ไปทั่วยุทธภพ แถมยังหอบหิ้วอดีตรองนายกกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานยุทธศาสตร์ตามไปด้วยให้กระแสสังคมพากันเดือดแบบตามน้ำ

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความสงสัยในท่าทีครั้งนี้ของนายกรณ์ที่คนในพรรคน่าจะรู้สึกเดือดปุดๆ ที่สุดนั้น ด้านเอ๋ - ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กลับออกมาย้ำชัดว่า ‘กรณ์’ ไม่ทิ้งเพื่อน ทำตรงไปตรงมา ลาออกจากพรรคกล้าไปสมัครชาติพัฒนา โดยมีอดีตรองนายกกอปร์ศักดิ์ ประธานยุทธศาสตร์ตามไปด้วย แต่กฎหมายปัจจุบันห้ามควบรวมพรรค จึงใช้วิธีตามกฎหมายปกติ 

ถอดถ้อยวลีของเอ๋แล้ว กำลังสะท้อนถึงความสัมพันธ์อย่างยาวนานแบบเชื่อมั่นในพี่ชายคนนี้ ซึ่งเจ้าตัวมักจะบอกกับคนรอบข้างเสมอว่า กรณ์เป็นคนมีความมุ่งมั่น มีความคิดอยากเห็นการเมืองที่ดีขึ้น ขณะที่คนในพรรคกล้าต่างก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน 

ยิ่งไปกว่านั้น ทุกครั้งที่กรณ์จะทำอะไร ก็จะทำอย่างตรงไปตรงมา อย่างกรณีนี้ก็ทำตามกฎหมาย ด้วยการลาออกจากพรรคกล้าและไปสมัครพรรคใหม่ โดยมีท่านอดีตรองนายกรัฐมนตรีและประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าท่านกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ตามไปด้วยนั้น ก็เป็นเพราะกฎหมายปัจจุบันห้ามควบรวมพรรค จึงใช้วิธีตามกฎหมายปกติ...ซึ่งบรรทัดนี้น่าสนใจ

เพราะขณะเดียวกัน เรื่องของการจะรีแบรนด์ ปรับโครงสร้างต่างๆ ในส่วนของชาติพัฒนา เอ๋ก็มองว่า เป็นส่วนของท่านเทวัญ และท่านสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และสมาชิกของพรรคเขา ส่วนตนเองยังสังกัดพรรคกล้า จะไปข้องเกี่ยวไม่ได้ กฎหมายพรรคการเมืองก็ระบุไว้ชัดเจน โดยในส่วนตัวพวกเขา ก็ยังต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการพรรคกล้า เพื่อจัดประชุมใหญ่พรรคในเดือนนี้ให้แล้วเสร็จ

“ที่ผ่านมา พรรคกล้า เรามุ่งเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาพลังงานน้ำมันแพง ค่าไฟแพง และการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชน 13 ล้านบัญชี รวมถึง การเข้าชื่อเสนอกฎหมายร่วมกับภาคประชาชนยกเลิกอำนาจ ส.ว. เลือกนายกฯ ซึ่งคาดว่าจะได้เข้าสู่การพิจารณาของสภาในสัปดาห์นี้แล้ว ต้องรอติดตาม” ดร.อรรถวิชช์ กล่าว

ส่วนที่คาดการณ์ว่านายอรรถวิชช์ และผู้บริหารคนอื่น จะทยอยลาออกและไปสังกัดพรรคชาติพัฒนา แล้วจึงมีการปรับโครงสร้าง ปรับแบรนด์ดิ้งในภายหลังนั้น ดร.อรรถวิชช์ กล่าวสั้นๆ ว่า "วันนี้ตนเองยังรักษาการในตำแหน่งเลขาธิการพรรคกล้า ผมไปแทรกแซงเรื่องพรรคเขาไม่ได้ ผมยังมีงานที่ยังค้างอยู่"


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top