(26 ส.ค.66) ที่รร.มอริซี เขาหลัก พังงา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ พร้อมด้วย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานด้านนโยบายพรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพท. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ จ.พังงา เพื่อพูดคุยกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว มีนายเอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.พังงา และ นายกฤษ สีฟ้า อดีตผู้สมัครสส.พังงาพรรคพท.โดยผู้ประกอบการได้เสนอให้มีการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ให้สามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ จัดระบบขนส่งมวลชนให้มีคุณภาพ เพื่อรับนักท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้จ.พังงาและจังหวัดใกล้เคียง และขอให้รัฐบาลช่วยจัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในช่วงโลซีซัน
จากนั้นนายเศรษฐา กล่าวว่า แปลกใจไม่มีนายกฯ มาถึงจ.พังงาถึง 10 ปี เพราะทราบกันดีว่าพื้นที่โซนนี้เป็นแหล่งรายได้ที่มีอนาคต ทำรายได้ให้ประเทศ พรรคพท.ไม่มีสส.ในพื้นที่ ต้องขอบคุณนายกฤษ รวมถึงนายพร้อมพงษ์ที่ดูแลพื้นที่ไม่เหน็ดเหนื่อยแม้เพื่อไทยไม่มีสส. แต่ตนก็จะมาพื้นที่อีก แม้เราไม่มีสส.แต่เพื่อไทย ไม่ยึดเรื่องการเมืองแต่ยึดคนไทยทั้งประเทศ เราดูองค์รวมการพัฒนาประเทศเป็นหลัก วันนี้เศรษฐกิจตกต่ำมาก เราต้องเพิ่มรายได้ซึ่งการเพิ่มรายได้ที่ชัดเจน คือเรื่องของการท่องเที่ยว เรารับฟังการสร้างสนามบินใหม่ ขอให้มั่นใจสนามบินใหม่รับเที่ยวบินขนาดใหญ่ได้แน่นอน และโครงการต่างๆ ที่มีการพูดถึงแม้หากดูรายโครงการอาจคุ้มทุนช้า แต่ถ้าดูองค์รวมผลตอบแทนน่าจะคุ้ม หากรัฐบาลพท.ผ่านการถวายสัตย์แล้วจะไม่ดูแยกโปรเจกต์ แต่จะดูองค์รวมทั้งหมด ไม่ใช่แค่พังงา ภูเก็ต จะไปดูถึงระนอง รวมถึงจะไปดูเรื่องหลังบ้านเรื่องสิ่งแวดล้อมต้องทำควบคู่ไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจ การดึงดูดนักท่องเที่ยวใหม่ก็สำคัญเช่นกัน สำหรับการท่องเที่ยวด้านสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะมีการพักอาศัยระยะยาวและมีค่าใช้จ่ายที่ดี แต่ถ้าหลายจังหวัดเปิดพร้อมกันอาจขาดแคลนบุคลากร รัฐบาลก็จะให้ความสำคัญในส่วนนี้ด้วย สำหรับเรื่องของอีวีบัส ผู้ว่าการท่าฯ ระบุติดต่อได้เลยพร้อมทำได้เลย เรื่องครม.สัญจร อาจแยกเป็นครม.เศรษฐกิจ หรือครม.มั่นคงเป็นกลุ่มเล็กสะดวกมากกว่า ยืนยันว่าจะกลับมาอีก
จากนั้นนายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์หลังพูดคุยกับผู้ประกอบการว่า มีข้อเสนอที่คล้ายคลึงกับจ.ภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน สนามบิน เมื่อถามว่าโอกาสสร้างสนามบินพังงา เป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญของพรรคพท.ที่จะต้องผลักดันให้เกิดขึ้น เมื่อถามว่าในระยะสั้นเราจะนำสนามบินเดิมมาปรับปรุงหรือจัดสร้างสนามบินใหม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องรับฟังความคิดเห็นทั้งหมดก่อน แต่หากจะทำก็อยากให้ดีเลย และเข้าใจว่ามีแผนอยู่แล้ว และมีการกำหนดที่ไว้แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กจะส่งต่องานให้ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอบคุณ แต่ตนยังไม่ได้อ่านเฟซบุ๊กของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งตนจะรับไปพิจารณา และมีหลายท่านที่อยู่ในรัฐบาลเดิม ก็จะไปพูดคุยและไปรับฟังงานที่ทำค้างไว้ โดยเฉพาะการลงทุนที่ทำจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นอะไรที่น่าจะสามารถต่อยอดไปได้
เมื่อถามว่าแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่พล.อ.ประยุทธ์จะฝากไว้กับรัฐบาลใหม่ พรรคพท.จะสานต่ออย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องมาดูกันว่าในส่วนไหนที่สามารถทำได้หรือไม่ได้อย่างไร เพราะโลกปัจจุบันก็เปลี่ยนแปลงไปโดยเร็วพอสมควร ซึ่งต้องดูให้ดีก่อน ไม่อยากบอกว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ย้ำว่าขอศึกษาก่อน
เมื่อถามว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ลงตัวขึ้นพร้อมที่จะเสนอชื่อเลยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ใกล้เคียงมาก พยายามเต็มที่ โดยชื่อที่มีการนำเสนอในข่าวถือว่าใกล้เคียง เรามีคณะเจรจาและการเจรจาก็เป็นไปในทิศทางที่ดี โดยลงรายละเอียดไปถึงรัฐมนตรีช่วยฯ ว่าควบคุมกรมอะไร อยู่ในช่วงการต่อรอง สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดคือเรื่องของความถนัดของบุคคลที่จะมาดูแลในเรื่องของกรมนั้นๆ ด้วย เพราะเราต้องเอาเรื่องของความเจริญบ้านเมืองเป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องของการแบ่งสรรอะไรอย่างเดียว อีกนิดเดียว ขอให้ใจเย็น เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยรอบนี้ ได้กระทรวงมหาดไทยไปคุมภูมิภาคท้องถิ่นทั่วประเทศ พรรคเพื่อไทยจะเสียเปรียบหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องดูไปก่อน ขอดูก่อนว่าจะมีการแบ่งงานกันอย่างไร เพราะต้องมีรัฐมนตรีช่วยด้วย ขอให้ใจเย็นๆ
เมื่อถามว่าผู้แทนการค้าไทยที่ในรัฐบาลเดิมเหมือนจะมีบทบาทน้อย รัฐบาลใหม่จะนำมามีบทบาทอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ปัจจุบันการค้าโลกเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องเอฟทีเอ เรื่องการเปิดตลาดเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องการเชื้อเชิญนักลงทุนของต่างประเทศเข้ามา เป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งตามความเข้าใจของตน ผู้แทนการค้าไทยมี 5 คน และสามารถตั้งประธานได้อีก 1 คน จะเป็นหัวหอกสำคัญในการพัฒนาประเทศ ส่วนจะเป็นของพรรคพท.ทั้งหมดเลยหรือไม่นั้น ตรงนี้เราต้องให้เกียรติกันนิดนึง เราต้องดูความเหมาะสมและความสามารถของบุคลากร เมื่อถามว่าที่บอกว่าครม.สัดส่วนของพรรคพท.ลงตัวร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วหรือยัง นายเศรษฐา กล่าวว่า “นิดๆ หน่อยๆ 2-3 ตำแหน่ง” เมื่อถามว่าทีมเศรษฐกิจของพรรคพท.จะเป็นทีมที่แข็งแกร่งหรือไม่เพราะนายกฯ จะควบตำแหน่งรมว.คลังด้วยตัวเอง นายเศรษฐา กล่าวว่า อยากให้ผลงานเป็นตัวพิสูจน์ ไม่อยากพูด แต่เราพยายามเต็มที่ ในสภาวะที่ค่อนข้างจะลำบากเศรษฐกิจที่มีปัญหา คาดว่ามีความคาดหวังสูง แต่ตนเชื่อว่าคนที่ถูกคัดเลือกตัวมาก็พร้อมที่จะทำงานบนความเหน็ดเหนื่อย
เมื่อถามว่า รมช.คลังต้องทำงานรู้ใจรัฐมนตรีเลยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นธรรมดาที่ต้องทำงานร่วมกันได้ แต่เชื่อว่าทั้ง 11 พรรคที่มาทำงานร่วมกัน เข้าใจถ่องแท้ถึงความต้องการและปัญหาของพี่น้องประชาชน เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่กระทรวงมหาดไทยที่เดิมมีชื่อของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่ล่าสุดมีชื่อเป็นรองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ท่านจะเสียใจหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกคนเข้าใจ และกระทรวงใหญ่ๆ ตนก็คิดว่ามีการพูดคุยกันแล้ว หลายคนที่เป็นผู้ใหญ่และไม่ใช่แค่พรรคเดียวก็มีความเข้าใจ และชำนาญไม่ใช่แค่กระทรวงเดียว หลายคนผ่านการทำงานมาเยอะ เชื่อว่าเหมาะสมและพร้อม เมื่อถามว่าวันที่ 28 ส.ค.นี้รายชื่อ ครม.จะเรียบร้อยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “หวังว่า”
เมื่อถามว่ากระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะใช้ได้เมื่อไหร่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เราเดินหน้าเต็มตัวแน่นอน ขอดูรายละเอียดอีกเล็กน้อย ซึ่งในวันที่ 28-29 ส.ค. นี้จะมีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาพบปะพูดคุยกัน เพื่อจะรวบรวมข้อมูลแล้วจะขอเขียนไทม์ไลน์อีกครั้ง หวังว่าในไตรมาส 1 ปีหน้าจะทำได้ เมื่อถามว่ามีผลสำรวจของศรีปทุมโพลระบุว่าพรรคพท.มีความนิยมลดลงจะเร่งฟื้นความเชื่อมั่นอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่าผลงานอย่างเดียว วันนี้เราทำงานตลอดทุกวัน ทุกคนไม่มีความเหน็ดเหนื่อย ส่วนเรื่องของความคาดหวังของบุคคลอื่นนั้น เราควบคุมไม่ได้ และเชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจถึงความบอบบางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ที่เราจะต้องเดินหน้าไปด้วยกันให้ได้