Tuesday, 1 July 2025
ปฏิรูปเกษตรกรรม

‘กรณ์’ โพสต์เฟซ เผย!! มีความฝันในการปฏิรูปเกษตรกรรม ตั้งเป้าหมาย 3 เพิ่ม ‘เพิ่มรายได้ - เพิ่มความมั่นคง - เพิ่มมูลค่า’

(10 พ.ค. 68) นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า …

ชั้น 14/แพทยสภา กับ วันพืชมงคล

ความฝันหนึ่งของผมคือการปฏิรูปเกษตรกรรมประเทศไทยจริงจัง (เสียที) เป้าหมายคือ ‘3 เพิ่ม’
1. เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรอย่างยั่งยืนด้วยการเพิ่มอำนาจต่อรอง 
2. เพิ่มความมั่นคงราคาสินค้าเกษตร
3. เพิ่มมูลค่าระยะยาวผ่านนวัตกรรม

Model ในการปฏิรูปของผมคือบริษัท Fonterra ของนิวซีแลนด์ที่เกิดจากการควบรวมสหกรณ์โคนมวัวทั้งหมดของประเทศมาเป็นหนึ่งเดียว โดยมีเกษตรกรเป็นผู้ถือหุ้น และมีผู้บริหารบริษัทมืออาชีพ ตอนนี้เป็นบริษัทชั้นนำในตลาดหุ้นนิวซีแลนด์

Fonterra มีสถานะผูกขาดการผลิตนมและผลิตภัณฑ์จากนม (เนื่องจาก 90% ของเกษตรกรเป็นผู้ถือหุ้นและขายนมให้เขา) เขาสร้างแบรนด์มากมายและวิ่งหาตลาดทั่วโลก เมื่อมีกำไร เขาเจียด 2-3% ทุกปีเพื่อ R&D เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ส่วนที่เหลือปันผลให้เกษตรกร

ลองจินตนาการว่าเรามีบริษัทเดียว เป็นของชาวนา/โรงสี/ผู้ส่งออก ถือร่วมกัน ข้าวหอมมะลิจาก 5 จังหวัดทุ่งกุลาร้องไห้ทั้งหมดเป็นของบริษัทนี้ อำนาจการตลาดอยู่ที่บริษัทนี้เต็มที่ จะมีโอกาสนำไปสู่ ‘3 เพิ่ม’ ได้ทันที

ผมจั่วหัวไว้โยงกับชั้น14 เกี่ยวกันอย่างไร? จริงๆไม่เกี่ยวเลย แต่รู้ว่าคนกำลังสนใจเรื่องชั้น 14 (ผมด้วย!) แต่ยากมากที่จะทำให้คนใส่ใจกับเรื่องเกษตร เลยพ่วงไว้ล่อให้อ่านเกี่ยวกับเกษตรในวันพืชมงคลนิดนึง กราบขออภัยครับ 

‘กรณ์’ ใช้ AI เทียบ ‘ยิ่งลักษณ์ จำนำข้าว vs. อภิสิทธิ์ ประกันรายได้’ เผย!! รัฐบาลคสช. ก็ใช้ประกันรายได้ เพราะมีประสิทธิภาพมากกว่า

(24 พ.ค. 68) นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ยิ่งลักษณ์ จำนำข้าว vs. อภิสิทธิ์ ประกันรายได้” มีเนื้อหาดังนี้

จากคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ผมเห็นมีการตั้งคำถามเปรียบเทียบนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์กับนโยบายประกันรายได้ของคุณอภิสิทธิ์ ผมเลยขอลงข้อสรุปความต่างสองนโยบายนี้เพื่อคนรุ่นใหม่ที่อาจไม่ทราบ หรือคนรุ่นเก่าที่อาจจะลืม ส่วนใครที่ไม่อยากรับรู้  ขอให้ข้ามโพสต์นี้ไปเลยครับ

**นโยบายประกันรายได้เกษตรกร** ของ **อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ** (รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์, 2551–2554) เป็นนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรที่แตกต่างจาก **นโยบายจำนำข้าว** ของยิ่งลักษณ์ โดยเน้นการอุดหนุนเงินตรงให้ชาวนาแทนการแทรกแซงราคาตลาด

**รายละเอียดนโยบายประกันรายได้ของอภิสิทธิ์**

1. **แนวคิดหลัก**
   - ไม่รับซื้อผลผลิตโดยตรง แต่จ่ายเงินชดเชยส่วนต่างเมื่อราคาตลาดต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
   - ครอบคลุมพืชหลายชนิด เช่น ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน
   - เกษตรกรต้องขึ้นทะเบียนและผ่านระบบตรวจสอบ

2. **ข้อดีของนโยบาย**
   - **ลดภาระการเก็บสต็อก** – รัฐไม่ต้องกักตุนสินค้าเหมือนโครงการจำนำข้าว
 - **ลดการทุจริต** – ระบบโอนเงินตรงถึงเกษตรกรผ่านบัญชีธนาคาร ทำให้ตรวจสอบได้ง่าย
   - **ไม่บิดเบือนกลไกตลาด** – ราคาขายยังเป็นไปตามอุปสงค์-อุปทาน

3. **ข้อจำกัด**
   - **เกษตรกรบางส่วนไม่ได้รับ
ประโยชน์** – เฉพาะผู้ที่ขึ้นทะเบียนและมีเอกสารถูกต้อง
   - **งบประมาณสูงแต่ไม่สร้างมูลค่าเพิ่ม** – เป็นการช่วยเหลือระยะสั้น ไม่ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพผลผลิต

**เปรียบเทียบกับนโยบายจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์**

1. รูปแบบช่วยเหลือ: (อภิสิทธิ์) จ่ายเงินชดเชยส่วนต่างราคา(ยิ่งลักษณ์) รัฐรับซื้อข้าวในราคาแพง        

2. ผลกระทบการคลัง: (อภิสิทธิ์) ใช้งบประมาณแต่ควบคุมได้ (ยิ่งลักษณ์) ขาดทุนมหาศาลจากสต็อกและทุจริต    

3. ผลต่อตลาด: (อภิสิทธิ์) ไม่บิดเบือนกลไกราคา (ยิ่งลักษณ์) กดราคาตลาดโลก ทำไทยเสียส่วนแบ่ง   

4. การทุจริต: (อภิสิทธิ์) มีน้อยกว่าเนื่องจากโอนเงินตรง (ยิ่งลักษณ์) มีการโกงจำนวนมาก

**บทสรุป**

นโยบายประกันรายได้ของอภิสิทธิ์ถูกออกแบบมาเพื่อแก้จุดอ่อนของระบบประกันราคาแบบเดิม โดยลดความเสี่ยงการทุจริตและไม่สร้างภาระการเก็บสต็อกสินค้าให้รัฐ อย่างไรก็ตาม มันยังเป็นเพียง**มาตรการบรรเทาปัญหา**มากกว่าการปฏิรูปเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน

หลังรัฐประหาร 2557 รัฐบาลคสช. นำแนวคิดนี้มาปรับใช้ต่อในรูปแบบ "ประกันรายได้เกษตรกร" แทนโครงการจำนำข้าว ซึ่งได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า

อ่านเสร็จแล้วน่าจะมีบางคนไม่พอใจ ขอบอกว่า ทั้งหมดนี้ผมไม่ได้เขียนเองแม้แต่คำเดียว ผมเพียงกดตั้งประเด็นกับ Deep Seek ว่า  “ยิ่งลักษณ์ จำนำข้าว อภิสิทธิ์ ประกันรายได้” หากไม่ถูกใจในประเด็นไหนขอให้ไปเถียงกับ AI เอง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top