Monday, 6 May 2024
ปกรณ์วุฒิ

‘ปกรณ์วุฒิ’ จ่อยื่นป.ป.ช.ตรวจสอบ ‘ศักดิ์สยาม’ ปมโอนหุ้นเป็นนิติกรรมอำพรางหรือไม่

"ปกรณ์วุฒิ"  ชี้ "ศักดิ์สยาม" แจงไม่เคลียร์ แสดงหลักฐานขายหุ้น 120 ล้าน แต่ หจก. ยังเป็นหนี้ 69 ล้านเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ทั้งที่หุ้นส่วนผู้จัดการเปลี่ยนมือ - เชื่อไม่มีการซื้อขาย เป็นธุรกรรมอำพรางชัดเจน

ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวตอบโต้ภายหลังศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงกรณีถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องส่อทุจริตซุกหุ้น โดยให้นอมินีถือหุ้นกิจการแทน ว่า ท่านรัฐมนตรีได้แสดงหลักฐานว่ามีการจ่ายเงิน โอนหุ้นของห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) จริงๆ ในราคา 120 ล้านบาทโดยประมาณ เรื่องนี้ตนได้อภิปรายไปว่า หจก.ที่มีสินทรัพย์ มีรายได้มากขนาดนี้ การซื้อขายที่ 120 ล้านบาท หรือเป็นราคาทุนนั้น ดูไม่สมเหตุสมผล เพราะหลังจากที่ขายไปแล้วก็พบว่า หจก.นี้ก็กลับมาได้งานของกระทรวงคมนาคมที่ท่านดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี มูลค่าเป็น 1,000 ล้านบาท หากจะบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่จะขายกิจการเท่าไหร่ ตรงนี้ก็เคารพ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ แต่ส่วนที่ว่าจะสมเหตุสมผลหรือไม่ ประชาชนคงจะตัดสินได้เอง ว่าการกระทำธุรกรรมครั้งนี้เป็นนิติกรรมอำพรางหรือไม่

ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า อีกประเด็นที่ตนเองได้ทิ้งไว้ในการอภิปรายคือ ถ้ามีการโอนเงิน 120 ล้านบาท แล้วมันหายไปไหนจากบัญชีทรัพย์สินของท่าน เพราะการซื้อขายนั้น เกิดขึ้นประมาณ 16 เดือนก่อนที่จะมีการยื่นบัญชีทรัพย์สินเท่านั้น และอีกประเด็นที่น่าสนใจคือ มีการโอนเงินค่าหุ้นงวดแรกก่อนที่จะโอนหุ้นจริงๆ ถึง 5 เดือน ซึ่งเป็นการซื้อขายที่แปลกมาก คือ จ่ายเงินก่อน แต่ยังไม่มีการโอนหุ้นให้กัน ต้องเชื่อใจกันมากแน่ 

และอีกประเด็นที่น่าสนใจคือ หจก.แห่งนี้ ท่านรัฐมนตรีขายหรือโอนออกไปต้นปี 2561 ซึ่งถ้าย้อนไปดูปลายปี 2560 หจก.แห่งนี้เป็นเจ้าหนี้หุ้นส่วนผู้จัดการ 69 ล้านบาท คือหมายความว่าก่อนที่จะโอนหุ้นออก คุณศักดิ์สยามเป็นหนี้ห้างหุ้นส่วนแห่งนี้ 69 ล้านบาท แต่พอถึงสิ้นปี 2561 จำนวนหนี้ยังเขียนเหมือนเดิมว่า เป็นเจ้าหนี้หุ้นส่วนผู้จัดการอยู่ 69 ล้านบาท ทั้งที่หุ้นส่วนผู้จัดการเปลี่ยนชื่อไปแล้ว ก็เลยสงสัยว่ามีการโอนหนี้ออกไปหรือเปล่าตอนที่มีการขายหุ้นกัน

"ผมแบ่งเป็น 3 กรณี คือ 1.ถ้าขาย 120 ล้านบาท ถ้าโอนหนี้ให้กับผู้จัดการคนใหม่ แปลว่าท่านได้กำไรจากการขายกิจการ 69 ล้าน ต้องยื่นภาษี แต่ท่านไม่ได่ยื่น 2. ถ้าท่านไม่ได้โอนหนี้ออกไป แปลว่าหนี้นี้ เป็นหนี้สินส่วนตัวของท่าน ก็ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งท่านก็ไม่ได้ยื่น 3.ถ้ามีการบอกว่าเอาเงินที่ขายหุ้นไปใช้หนี้ ตัวเลขมันแปลกมากที่สิ้นปี 2560 กับสิ้นปี 2561  ตัวเลขในงบการเงินแสดงฐานะของกิจการ ยังเป็น 69 ล้านบาทเท่าเดิม ซึ่งสุดท้ายแล้วผมเข้าใจว่าตัวเลขตัวนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และไม่มีการจ่ายหนี้อะไรกันเลย ไม่มีการโอนหนี้เลย และหนี้นี้ต้องเป็นของท่านที่ติดหนี้ หจก.อยู่ และท่านก็ไม่ได้แสดงในบัญชีทรัพย์สินด้วย ผมว่าเรื่องนี้ท่านไม่มีทางออกแล้ว สิ่งที่พูดมา หลักฐานที่อภิปรายไป หลักฐานงบการเงินทั้งหมด ค่อนข้างมัดตัวได้แน่น จากนี้ผมคิดว่าเตรียมพูดคุยกับฝ่ายกฎหมายของพรรค และพรรคร่วมฝ่ายค้านที่อภิปรายเรื่องนี้ ยื่นเรื่องไปยัง ป.ป.ช. เพื่อทำการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน การถือครองธุรกิจที่ใช้นิติกรรมอำพรางเพื่อเอาผิดต่อไป" ปกรณ์วุฒิ กล่าว

‘ปกรณ์วุฒิ’ เตรียมยื่น ศร.ฟัน ‘ศักดิ์สยาม’ 17 มี.ค.นี้ ฐานผิด ม.144 ยัน!! ไม่ได้ฉวยโอกาสทางการเมือง

(16 มี.ค. 66) นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (17 มี.ค. 66) เวลา 09.00 น. ตน และพรรคประชาชาติ โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ในฐานะผู้ร้องที่ 1 และผู้ร้องที่ 2 จะร่วมกันยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ สืบเนื่องจากกรณีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณีการคงไว้ซึ่งหุ้นส่วน และยังคงเป็นผู้ถือหุ้น และเจ้าของ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น โดยวันพรุ่งนี้ จะเป็นการยื่นคำร้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144

ซึ่งก่อนหน้านี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านเคยยื่นต่อประธานสภาฯ มาแล้ว พร้อมกับคำร้องมาตรา 170 และมาตรา 82 ที่มีผลให้นายศักดิ์สยามถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่เนื่องจากฝ่ายกฎหมายของสภาฯ ตีความว่าความผิดตามมาตรา 144 นั้น ไม่อยู่ในอำนาจของประธานสภาฯ ที่จะยื่น ทางพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชาติ จึงร่วมกันร่างคำร้องและรวบรวมรายชื่อ ส.ส. จำนวน 1 ใน 10 ของ ส.ส. ทั้งหมด เพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top