Monday, 20 May 2024
บวช

'โตโน่' ขอบคุณทุกธารน้ำใจที่ช่วยบริจาค ขอตอบแทนด้วยการบวชช่วงต้นปีหน้า

'โตโน่ - ภาคิน คำวิลัยศักดิ์' ขอบคุณทุกธารน้ำใจที่บริจาคร่วมโครงการ 'One Man and The River หนึ่งคนว่ายหลายคนให้' ประกาศลาบวชช่วงต้นปีหน้า

หลังจากที่นักร้องและนักแสดงหนุ่ม 'โตโน่ - ภาคิน คำวิลัยศักดิ์' ว่ายน้ำข้ามโขงเพื่อระดมทุนซื้อเครื่องมือทางการแพทย์สนับสนุน 2 โรงพยาบาลฝั่งไทยและฝั่งลาว ได้แก่ โรงพยาบาลนครพนม และ โรงพยาบาลแขวงคำม่วน ซึ่งยอดบริจาคทะลุเกินเป้าที่ตั้งไว้ค่อนข้างมาก

ล่าสุด 'โตโน่' ได้โพสต์ขอบคุณทุกธารน้ำใจและประกาศลาบวชช่วงต้นปีหน้า โดยระบุว่า

"การตัดสินใจนี้ขอมอบให้ทุกความรักที่พวกเรามีต่อกันระหว่าง ไทย ลาวนะครับ"

"ผมไม่รู้จะหาคำไหนมาบรรยาย หาคำไหนมาขอบคุณ หรือตอบแทนความรัก ความสามัคคี ความมีน้ำใจที่ทุกคนมาร่วมไม้ร่วมมือกัน เพื่อ แม่น้ำโขงของเรา เพื่อคุณหมอ คุณพยาบาล จากโรงพยาบาลของทั้ง 2 ฝั่งโขง ในครั้งนี้"

‘พี่ดี้’ ชวนชายไทยร่วมโครงการบวชถวายพระพร ‘สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ’

(26 ธ.ค. 65) นิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงชาวไทยชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Nitipong Honark’ ระบุว่า…

ในนามคนไทยรักสถาบัน

ขอเชิญชายไทยอายุ 25 ปีขึ้นไป จำนวน 45 คนเข้าร่วมโครงการบวชถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ระหว่างวันที่ 19 มกราคม ถึง 2 กุมภาพันธ์ 2566 ณ วัดบวรนิเวศวิหาร บางลำพู โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ติดต่อแจ้งความประสงค์ที่ Line 0896667055 ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป

อนึ่ง คณะเจ้าภาพประกอบด้วยบุคคลทั่วไป ดังนี้คือ...
คุณนิติพงษ์ ห่อนาคและครอบครัว
คุณอรนภา กฤษฎี และผองเพื่อน
คุณสินจัย ฉัตรชัย เปล่งพานิช
คุณทยา - ณัฐพล ทีปสุวรรณและครอบครัว
คุณอัญชะลี ไพรีรักและทีมท้อปนิวส์
มล รจนาธร ณ สงขลาและครอบครัว
คุณเมนาท นันทขว้างและครอบครัว
คุณปวันรัตน์ นาคสุริยะและผองเพื่อน
คุณคำรณ ปราโมช ณ อยุธยา และผองเพื่อน

‘บอย ปกรณ์’ เผยสาเหตุบวชเงียบ ยัน!! ไม่ได้เตรียมเบียด พร้อมบอก อยากบวชมานานแล้วแต่ยังไม่มีจังหวะเฉยๆ

แฟนคลับร่วมอนุโมทนาบุญใหญ่กับพระเอกหนุ่ม ‘บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์’ ที่เข้าอุปสมบททดแทนบุญคุณพ่อแม่ไปก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังมีเรื่องที่ทำให้หลายคนสงสัยว่า จู่ๆ ทำไมเจ้าตัวถึงได้บวชเงียบๆ เรียบง่าย หรือมีสาเหตุอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจจนต้องไปพึ่งผ้าเหลืองหรือเปล่า

ล่าสุดวันนี้ (25 ส.ค. 66) ได้เจอกับพระเอกหนุ่มที่สึกออกมาได้สักพักใหญ่ ในงานประกาศรางวัล ‘ContentAsia Awards 2023’ เพื่อคัดเลือกผลงานคุณภาพมาตรฐานระดับเอเชียเผยแพร่สู่ตลาดโลก ที่โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทลแบงค็อก (แกรนด์ฮอลล์)

ไปบวชมาเงียบมากๆ?

บอย : “ความจริงแล้วต้องบอกพี่ๆ สื่อว่าเราเกรงใจพี่ๆ ด้วยครับ ที่ไม่ได้ชวนไปเพราะเกรงใจ ผมชวนคนน้อยมากชวนเฉพาะคนใกล้ๆ ตัว ไม่กล้าเชิญใครเลย อันนี้พูดจริงๆ เราเกรงใจทุกๆ คนเลย ไม่ใช่แค่เฉพาะพี่ๆ สื่อ แต่คนที่รู้จักก็จะเชิญเฉพาะคนที่ใกล้ตัวจริงๆ เพราะงานมันเช้าด้วย และเราเป็นคนไม่ค่อยกล้าบอกเรื่องอะไรพวกนี้ เกรงใจ ก็ดีครับ ได้ไปบวชอยู่ 3 อาทิตย์ ก็ใช้คำว่าดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลยครับ”

ความตั้งใจคือยังไง?

บอย : “ความตั้งใจสำหรับผมเอง เราเกิดมาเป็นลูกผู้ชาย เป็นคนไทย ครั้งหนึ่งเราก็ต้องบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ก็เรียกว่าเป็นจุดประสงค์หลักเลยที่ตั้งใจบวช ซึ่งผมตั้งใจมากสำหรับผมและครอบครัว แต่ความจริงก็คือต้องบวชมานานแล้ว แต่ยังหาจังหวะไม่ได้ ก็เพิ่งจะมีจังหวะนี้ที่ละครจบ จริงๆ ต้องบวชตั้งแต่ช่วงโควิดแล้ว เพราะตอนนั้นรอเรื่องสายลับลิปกลอสปิดนี่แหละ

ผมก็บอกกับทางช่องแล้วว่าหลังจากเรื่องนี้ผมขออนุญาตไปบวชก่อน แล้วก็มาเจอเรื่องโควิด ละครหยุดถ่าย มันก็ดีเลย์ไปอีก 1-2 ปี ก็เลยมาเป็นช่วงนี้ที่จังหวะพอดี ซึ่งก็ยากเหมือนกัน เพราะการเคลียร์งานนู่นนี่ ช่วง 3 อาทิตย์ที่หายไปมันไม่ยากหรอก แต่หลังจากที่ต้องรอผมยาวก็ยากตรงนี้ เพราะมันมีทั้งงานละครด้วย งานถ่ายโฆษณาอะไรก็ตามที่มันต้องใช้ทรงผม ก็ต้องวางแผนให้ดีครับ”

บอย ปกรณ์ ยังกล่าวต่ออีกว่า “ความจริงผมรู้อยู่แล้วว่าอยากจะบวชให้แม่ เป็นสิ่งที่เราอยากทำอยู่แล้ว แต่หาจังหวะไม่ได้เลย เวลาถามเพื่อน เห็นหมาก (ปริญ) บวช เห็นเกรท (วรินทร) บวช ก็ยังถามว่าเคลียร์ยังไงเนี่ย เขาบอกก็เคลียร์ยากกว่าจะลงตัว จนถึงจุดที่เราพยายามจะเคลียร์ ความจริงผมบอกแม่ตั้งแต่ช่วงถ่ายเรื่องลิปกลอสจบประมาณสัก 2-3 ปีที่แล้ว

แม่ก็บอกว่า เออดีๆ บวชสักที เพราะตอนนั้นภัทรบวชไปแล้ว แต่หน่องยัง แต่ความจริงไม่ได้เกี่ยวกับที่หน่องบวชนะเพราะผมเองก็อยากบวชอยู่แล้ว ก็พยายามหาช่วงที่สามารถทำได้ ก็มาได้จังหวะตรงนี้ แม่เขาก็ดีใจอยู่แล้วครับ ก็เรียกว่าอิ่มบุญอิ่มใจ”

แม่บอกยังไงบ้าง หลังจากได้เห็นผ้าเหลืองของเรา?

บอย : “ผมก็สัมผัสได้ว่าแม่เขาดีใจแหละ มันคงเป็นความรู้สึกอิ่มเอมใจ ปลื้มปลิ่ม ก็ไม่ได้มีอะไรมาก อาจจะแค่โมเมนต์ที่ผมขอขมาแม่ บอกว่าถ้าผมเคยทำอะไรให้แม่ไม่สบายใจ แม่ก็บอกว่าเหมือนกัน คุณแม่ก็มีน้ำตาไหล แต่ผมเข้มแข็ง(ยิ้ม) ผมไม่เหมือนหน่องกับภัทรที่ไม่เข้มแข็ง(หัวเราะ) จริงๆ ก็ตั้งใจทำให้แม่กับคุณพ่อนั่นแหละ รู้สึกว่าเป็นหน้าที่ของลูกชายครับ”

บอกว่าดีกว่าที่คิด?

บอย : “ใช่ๆ คือถ้าพูดตรงๆ ก่อนที่จะมาบวชเราก็เป็นคนที่มีคำถามในหัวตลอด ว่าปกติแล้วทำไมคนเราที่มีชีวิตอยู่ทางโลกถึงมาบวช แล้วไปอยู่ทางธรรมนานๆ เป็นปี ที่ไม่ใช่มาบวชเหมือนผมช่วง 1 เดือน หรือคนที่เป็นพระวันๆ หนึ่งทำอะไรบ้าง นอกจากสวดมนต์ แต่พอได้มาอยู่ตรงนี้ก็ได้มาเจอพระพี่เลี้ยงที่เขาเป็นสายเคร่งมากๆ ดีมากๆ เลย

ผมก็ได้ซึมซับอะไรจากหลวงพี่ท่านนี้เยอะเลย ได้เห็นเลยว่าวันนึงพระมีอะไรทำเยอะเลยนะ มากกว่าแค่ทำวัตร สวดมนต์เช้า-เย็น มีงานเอกสารที่ผมเห็นว่าหลวงพี่ยุ่งมาก ต้องทำโน่นทำนี่หลายอย่าง มีเอกสารทางวัดที่ต้องไปติดต่อโน่นนี่ งานทางวัดมีเยอะมาก”

“และอีกมุมหนึ่งก็ได้มาตอบคำถามของตัวเอง ว่าทำไมเขาถึงละทางโลกแล้วมาอยู่ทางธรรม ก็ได้คำตอบว่าคนเรามีความชอบที่ไม่เหมือนกัน อย่างเราอาจจะชื่นชอบศิลปินเกาหลี เพราะผมนั่งสนทนากับหลวงพี่เลยครับ ว่าทำไมหลวงพี่มาเป็นพระ สำหรับเราไอดอลคือวงเกาหลี แต่สำหรับหลวงพี่ไอดอลคือพระพุทธเจ้าครับ ท่านชอบตั้งแต่เด็กๆ ท่านศึกษานู่นนี่ ท่านบอกว่าตอนที่ท่านไปอินเดียครั้งแรก ได้ไปยืนอยู่ที่ประสูตรพระพุทธเจ้าครั้งแรก ท่านปลื้มปลิ่มน้ำตาไหล เราก็เลยคิดได้ว่าคนเรามีความชอบ มีความมุ่งมั่นแต่ละทางไม่เหมือนกัน

ผมโชคดีที่ได้เจอพระพี่เลี้ยงที่ดีมากๆ ท่านให้ความรู้เราหลายอย่าง ทำให้ผมรู้สึกที่ผมบอกว่าดีกว่าที่คิด อย่างตอนแรกสิ่งที่ผมคิดว่าผมบวชทดแทนบุญคุณให้คุณพ่อคุณแม่ ผมก็ทำวัตรสวดมนต์เช้า-เย็น นั่งปฏิบัติธรรม สงบนิ่ง ครบ21 วันผมก็สึก

แต่ปรากฎว่าพอผมได้มาเป็นพระจริงๆ ผมได้มาเรียนรู้หลายอย่าง ได้มาทำในสิ่งที่ผมไม่เคยใกล้เลย ผมได้เห็นประโยชน์ของการสวดมนต์ จากที่ตอนแรกคิดว่าคนเราทำไมต้องสวดมนต์ สวดมนต์ทำไม(หัวเราะ) ผมไม่ได้ลบหลู่นะแต่มันเกิดคำถามว่าทำไมคนเราถึงชอบสวดมนต์

แต่พอมาเป็นพระถึงรู้ว่าสวดมนต์มันดีอย่างนี้นี่เอง ทำให้เราจิตใจจดจ่อมุ่งมั่นอยู่กับบทสวด ทำให้จิตใจโล่ง พอสวดเสร็จทำให้เราจิตใจสบายด้วย ยิ่งเราทำงานตรงนี้ งานเราเป็นงานที่ค่อนข้างมีสิ่งเร้าต่างๆ มากมาย เราก็ได้ไปอยู่ในอีกทางหนึ่งที่สุดโต่งคือเงียบสงบไปเลย ก็ดี”

หลังจากสึกมาที่เปลี่ยนเลยคืออะไร?

บอย :  “ที่ผมรู้สึกเลยคือผมใกล้วัดมากขึ้นแน่นอน ตั้งแต่ที่ผมสึกมา ทุกๆ วันพระผมก็ไปที่วัด เมื่อเช้าผมก็ไป คือพระพี่เลี้ยงของผมทุกๆ วันท่านปกติจะบิณฑบาตรอยู่ตรงประตูน้ำ แต่ทุกวันพระท่านจะต้องเดินไปบิณฑบาตรอีกที่หนึ่งแถวๆเพลินจิต ซึ่งตอนที่ผมเป็นพระผมเคยตามหลวงพี่ไป โหไกล ผมก็เลยตั้งใจว่าหลังจากนี้ทุกๆ วันพระ ถ้าไม่ใช่ผมหรือหน่องหรือคนที่บ้าน เพราะตอนหน่องบวชก็เป็นหลวงพี่รูปนี้ที่ดูแลเหมือนกัน ก็จะมาขับรถให้หลวงพี่ไปที่เพลินจิต ไปบิณฑบาตรตรงนู้น ท่านจะได้ไม่ต้องเดินไกล เหนื่อยมาก”

มีความรู้สึกว่าอยากอยู่ต่อไหม ตอนที่จะสึก?

บอย : “คือผมพูดด้วยความสัจจริง ผมอาจจะยังไม่มีความคิดถึงขั้นว่าอยากจะต่ออีกสักหน่อย เพราะว่าตอนนั้นผมรู้แค่ว่าผมมีภารกิจที่จะต้องทำต่อ คือมันมีเวลาที่ผมล็อกมาพอดีแล้ว สึกเสร็จต้องทำเลย แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันว่าผมรู้สึกดีกับการบวชครั้งนี้มากๆ ก็คือวันที่ใกล้สึก 2-3 วันผมรู้สึกใจหาย ว่าเดี๋ยวอีก 3 วันเราจะไม่ได้อยู่ในสถานภาพแบบนี้แล้วแต่โดยรวมก็ดีครับ เพราะฉะนั้นแล้วใครที่กำลังลังเลหรือหาเวลาที่จะบวชอยู่ ผมแนะนำเลยครับ บวชเลย ดีครับ”

บวชใกล้ๆ กับเจมส์ บังเอิญหรือตั้งใจ?

บอย : “บังเอิญครับ แต่ตอนที่ผมเป็นพระและไปร่วมงานอุปสมบทเจมส์ อันนั้นผมตั้งใจ คือพอคุยกับเจมส์ว่าเดี๋ยวผมจะบวช เจมส์ก็บอกว่าจะบวชเหมือนกัน ก็บอกว่าดีเลย งั้นเดี๋ยววันที่มึงเป็นพระ กูจะไปทั้งที่เป็นพระนี่แหละ (ยิ้ม) ไปขลิบผมให้ เป็นสิริมงคล (ยิ้ม) คุยกันตั้งแต่ก่อนบวชครับ”

พอบวชแล้ว คนถามเยอะจะเบียดเลยหรือเปล่า?

บอย : “ไม่ได้บวชเพื่อเบียดครับ บวชเพราะอยากบวชเฉยๆ ความจริงก็มีคนถามเยอะแหละ บวชแล้วเบียดเลยหรือเปล่าเนี่ย ก็คือบวชเฉยๆ ครับ ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน (ยิ้ม) คือถ้าเรื่องนั้น (แต่งงาน) ผมว่ามันต้องเป็นความพร้อมของทุกๆฝ่าย ลองถามน้องดูครับ (หัวเราะ) แต่ถ้าพูดถึงตัวผม ถ้าเรื่องหน้าที่การงาน ครอบครัว วัย มันก็เกินมานานแล้วแหละที่เหลือผมว่ามันเป็นเรื่องของการสั่งสมเวลาเกี่ยวกับการคบกัน การเรียนรู้กัน และความพร้อมทั้งหมดของทุกๆ ฝ่ายครับ”

ไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่ๆ?

บอย : “ก็ไม่สามารถบอกได้ (ยิ้ม) ซึ่งถ้าน้องพร้อม แล้วเราพร้อมเลยไหม อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องคุยกัน คือก็อย่างที่บอกว่าเรื่องอายุ เรื่องอะไรต่างๆ เอาง่ายๆ ถ้าผมไม่ได้มาทำงานเป็นดารา ผมคงแต่งงานมีลูกไปนานแล้ว ตั้งแต่เรียนจบเลย เพราะโดยส่วนตัวผมมีความคิดอยากมีครอบครัวมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย อยากมีลูก และส่วนใหญ่เพื่อนๆ ที่ทำงานเภสัชฯ เขาก็แต่งงาน ทยอยแต่ง มีลูกกันไปหมดแล้ว แต่เพื่อนๆ รอบตัวอย่างคนในวงการ เกรท วรินทร หนักกว่าผมอีก ยังไม่เปิดตัว หมายถึงยังไม่มีไง ก็เลยยังไม่เปิดตัว (ยิ้ม)”

อ้าวเขามีแฟนแล้วเหรอ?

บอย : “คือเขายังไม่มีให้เปิดตัว ผมใช้คำว่าผมไม่รู้ดีกว่า ไม่รู้ว่าเขามีหรือไม่มี แต่ที่รู้ๆ คือผมไม่เห็นเขาเปิดตัวครับ(ยิ้ม) เพราะฉะนั้นผมก็ขอความกรุณาพี่ๆ ทุกคนอย่าไปบอกคุณเกรทว่าผมบอกว่าเขามี แต่เขาไม่เปิดตัว อ้าว! ไลฟ์สดเหรอ คุณเกรท ผมบอกพี่ๆ ทุกคนว่าผมไม่รู้ว่าคุณมีหรือไม่มี คุณก็เลยไม่ได้เปิดตัว คือหลังๆ ก็ไม่ค่อยคุยกันเรื่องนี้ ผมว่ามันคงกลัวผมโป๊ะแหละ คงกลัวผมหลุดมั้ง เปล่าหรอก ไม่ๆ ที่ผมรู้คือตอนนี้ไม่มี เอาที่ผมรู้แล้วกัน คือก็คุยกันว่าเป็นยังไงบ้าง แต่เขาก็บอกว่าตอนนี้ยังไม่มีครับ”

วันเกิดที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง?

บอย : “วันเกิดที่ผ่านมาก็ปกติเหมือนทุกปี สำหรับผมแล้ววันเกิดก็ไม่ได้มีอะไรมาก ผมต้องการแค่ครอบครัว หรือพอมีแฟนก็คือเฟย์ ก็วันนึงกินข้าวกับที่บ้าน อีกวันนึงก็กินข้าวกับแฟนแค่นั้นครับ เฟย์ก็ให้เสื้อแจ็คเก็ตครับ น่ารักเชียว(ยิ้ม) เขาก็ไปสรรหามาเอง เขาบอกว่าซื้อให้ผมยากมาก ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เหมือนกับเขาไม่รู้ว่าผมอยากได้อะไร แต่พอได้มาก็ชอบ ถูกใจ (ยิ้ม) แต่ยังไม่ได้ใส่เลย แต่ลองแล้วพอดี (ยิ้ม) ยังไม่มีโอกาสได้ใส่ครับ ดีครับ ก็เป็นวันเกิดที่แฮปปี้ครับ”

ตอนนี้งานเยอะขนาดไหน สึกออกมา?

บอย : “พอสึกมาก็ยุ่งๆ อยู่นะครับ แต่ละครยังไม่มี เพราะคงรอเรื่องให้ผมยาวด้วย แต่สตูดิโอผมก็ใกล้เปิดแล้ว คือที่ผมเคยเปิดเป็นสตูดิโอคุณแม่ เป็นบ้านสำหรับถ่ายทำละคร และตอนนี้เปิดอีกสตูฯ อีกแห่งหนึ่งใกล้ๆ กัน เป็นสตูฯสำหรับคนที่จะมาใช้ถ่ายภาพนิ่ง อยู่ใกล้ๆ กันครับ เร็วๆ นี้จะเปิดใช้บริการแล้วครับ (ยิ้ม)”

‘หมอทวีศิลป์’ เข้ารับประทานผ้าไตรจาก ‘สมเด็จพระสังฆราชฯ’ เพื่อเตรียมออกบวชที่พุทธคยา ประเทศอินเดียเป็นเวลา 10 วัน

เมื่อวานนี้ (4 พ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘More ทวีศิลป์’ ขอขมาลาบวช 10 วัน เพื่อเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์นั้น

ล่าสุด นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า “ขออนุญาตใช้พื้นที่ทางเฟซบุ๊กนี้อีกครั้ง เพื่อกราบลาอุปสมบทที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 -15 พฤศจิกายนนี้ ที่พุทธคยาครับ

ข้าพเจ้านายทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ขอลาอุปสมบทและขอขมา หากมีสิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินท่าน ด้วยทางกายก็ดี ทางวาจาก็ดี ทางใจก็ดี ทั้งตั้งใจก็ดี มิได้ตั้งใจก็ดี ทั้งต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่ด้วยเจตนาก็ดี ขอให้ท่านอโหสิกรรมให้ข้าพเจ้าด้วย เพื่อให้การอุปสมบทเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ด้วยการประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อให้รู้แจ้งมรรคผลนิพพาน และอนุโมทนาบุญในการอุปสมบทของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเทอญ”

ก่อนที่จะโพสต์ภาพการเข้าพิธีขลิบผม และโกนผมเพื่อเดินทางไปอุปสมบท พร้อมเล่าว่า “วันนี้ได้เข้าพิธีขลิบผมและโกนผม เพื่อพร้อมเดินทางไปอุปสมบทที่พุทธคยาครับ ครั้งแรกในชีวิตที่ได้บวช….ภูมิใจที่ได้เกิดมาภายใต้พระพุทธศาสนา เกิดมาในแผ่นดินไทยที่มีศาสนาพุทธ เป็นศาสนาหลักของชาติ และที่สำคัญที่สุดวันนี้มีโอกาสได้กราบพระบาทสมเด็จพระสังฆราชฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อรับประทานผ้าไตร เพื่อใช้ในการบวชครั้งนี้ เป็นพระกรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ขอทำหน้าที่ธำรงพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนตลอดไปครับ”

'น้องใบบุญ' เด็ก 5 ขวบ ขอบวชจนนิพพาน เผยสาเหตุ ทำเอาแม่ช็อก ฟากชาวเน็ตชื่นชม

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.66 น.ส.นิคม (ขอสงวนนามสกุล) และ ด.ช.รัชพล (ขอสงวนนามสกุล) หรือ น้องใบบุญ เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ หลังจากที่เรื่องราวของน้องใบบุญโด่งดังในโลกโซเชียล เด็กน้อยอายุเพียง 5 ขวบ แต่ขอบวชจนนิพพาน ทำให้ชาวเน็ตแห่ชื่นชม

น.ส.นิคม กล่าวว่า ตอนที่น้องใบบุญอายุประมาณ 5 ขวบ น้องได้เดินมาบอกว่าอยากจะขอบวชจนนิพพาน ยอมรับว่าตอนแรกรู้สึกเฉย ๆ เพราะคิดว่าลูกน่าจะพูดเล่น แต่พอเวลาผ่านไป น้องใบบุญกลับพูดบ่อยมากขึ้น จนทำให้เราต้องมาตั้งข้อสังเกตว่าเกิดจากอะไรกันแน่

น.ส.นิคม กล่าวต่อว่า โดยครอบครัวของเรามีลูกชายทั้งหมด 3 คน น้องใบบุญเป็นคนเล็กสุด และพี่เณรฟอร์ดเป็นพี่ชายคนที่ 2 ก็กำลังบวชอยู่ แม่ไม่รู้ว่าเวลาที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันแล้วพูดอะไรกันบ้าง ตนคิดว่าน้องใบบุญอาจจะเห็นว่าพี่ชายบวช ก็เลยอยากจะบวชด้วย

น.ส.นิคม กล่าวอีกว่า เวลาที่ไปเยี่ยมพี่เณรฟอร์ดและกลับมาที่บ้าน ลูกชายพูดตลอดว่า “แม่จ๋า หนูอยากไปบวช ไม่อยากอยู่ทางโลก เพราะทางโลกมันเป็นทุกข์” ซึ่งครอบครัวก็พยายามถามน้องตลอดว่าทำไมถึงอยากบวช เขาก็เล่าขึ้นมาว่า “การที่หนูเกิดมาครั้งหนึ่งหนูก็เป็นทุกข์ เพราะหนูต้องกลับมานั่งเป็นเด็กอีก เกิดทุกครั้งก็ทุกข์ทุกครั้ง ใบบุญอยากไปนิพพาน” เราเป็นแม่ก็ตกใจที่ได้ยินลูกพูดแบบนี้

น.ส.นิคม กล่าวด้วยว่า โดยที่ผ่านมาครอบครัวของเราก็ไม่เคยพูดปลูกฝังลูกให้บวชเลย เพียงแต่เป็นครอบครัวที่เดินทางสายธรรมะ มักจะนั่งสมาธิ สวดมนต์ และสอนธรรมะให้กับลูก ๆ เสมอตลอด ซึ่งนั่นก็อาจจะทำให้ลูกซึมซับ และโตมากับสิ่ง ๆ นี้ ที่รู้จักการให้และรู้จักบาปบุญคุณโทษ

น.ส.นิคม กล่าวต่อว่า ตนพยายามสังเกตพฤติกรรมของลูกชาย พบว่าไม่ค่อยอยากได้ของเล่นอะไร อยากจะไปบวชอย่างเดียว ซึ่งทุกวันนี้ลูกก็ขอบวชอย่างเดียว ตนคิดว่าถ้าหากปิดเทอมใหญ่จะให้ลูกไปบวชอีก แต่ต้องตั้งข้อตกลงกันว่าบวชเพียงแค่ 9 วันเท่านั้น เพราะตนมองว่าตอนนี้ลูกยังเด็ก อยากให้เรียนรู้ทางโลกไปก่อนว่ามันเป็นอย่างไร ถ้าหากว่าลูกโตขึ้นอีก ได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นแล้ว และอยากจะบวชเหมือนเดิมตนก็ไม่ห้าม

“หลายคนมองว่าน้องใบบุญเหมือนคนกลับชาติมาเกิด ส่วนตัวแม่ไม่ได้ลบหลู่หรือเชื่ออย่าง 100% แต่แม่เชื่อว่าอาจจะเป็นเพราะผลบุญเก่าที่สะสมมา และมาชาตินี้เขาก็อยากจะทำต่อ ซึ่งที่ผ่านมาเวลาที่มีใครไม่สบายใจก็มักจะขอให้น้องใบบุญช่วยเหลือ แม่ดีใจและภูมิใจมาก ๆ ที่อย่างน้อย ๆ อายุแค่นี้เขาใช้ความคิดของเขาในการช่วยเหลือคนอื่นด้วย” น.ส.นิคม กล่าว

ด้าน น้องใบบุญ กล่าวว่า สาเหตุที่อยากบวชเพราะว่า อยากแบ่งบุญให้ผู้ใหญ่ใจดีและแบ่งบุญให้พ่อกับแม่ และอยากบวชจนนิพพาน ซึ่งก็อยากขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่มาชื่นชอบ ก็ขอให้ทุกท่านสุขภาพร่างกายแข็งแรง

'ศรีสุวรรณ' ลาบวช ถวายในหลวง ได้รับฉายา 'สิริภทฺโท กำหนดบวช 15 วัน พร้อมเข้าร่วมกิจกรรมสวดมนต์ 9 วัน 9 คืน

(22 ธ.ค. 66) ที่วัดป่ามะไฟ จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่ผ่านมา เวลา 12.59 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เข้าพิธีอุปสมบท ตามที่ได้ปวารณากับญาติ ๆ ไว้ว่าจะบวชเพื่อถวายในหลวง และบูรพมหากษัตริย์ไทยในอดีตทุกพระองค์ บิดา มารดา บรรพชนและผู้มีพระคุณ และจะถือศีลปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรมเพิ่มเติม

โดยได้รับฉายาเดิมเมื่อครั้งบวชครั้งแรกเมื่ออายุครบบวชว่า ‘สิริภทฺโท’ แปลว่า ‘ผู้มีสิริอันเจริญ’ โดยมีพระครูภาวนาธรรมธารี (สัมพันธ์ ปญฺญาปทีโป) เจ้าคณะอำเภอเมืองปราจีนบุรีเป็นอุปัชฌาย์

ในการลาอุปสมบทครั้งนี้ มิได้บอกใคร มีเพียงครอบครัว เพื่อนสนิท และผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ มาร่วมอนุโมทนาบุญ และร่วมพิธีอุปสมบท ที่เป็นไปแบบเรียบง่าย โดยมีกำหนดบวชเป็นเวลา 15 วัน โดยจะเข้าร่วมกิจกรรมสวดมนต์ 9 วัน 9 คืน ที่วัดป่ามะไฟ (25 ธ.ค.66 - 5 ม.ค.67) ตลอดทุกวันคืนด้วย

‘น้องภูมิ’ วัย 7 ขวบ ขอลาบวชทดแทนคุณ ‘หนุ่ม กรรชัย’ หลังเคยช่วยเหลือตน-ครอบครัว จนทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้น

(25 เม.ย. 67) กลายเป็นเรื่องดี ๆ ที่ถูกพูดถึงกันโลกโซเชียล เมื่อ ‘น้องภูมิ’ เด็กชายวัย 7 ขวบ เด็กน้อยที่พิธีกรคนดัง ‘หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย’ เคยให้การช่วยเหลือจากอาการปากแหว่งเพดานโหว่ พร้อมทั้งดูแลในเรื่องของค่ารักษาพยาบาล ตลอดจนได้ให้การช่วยเหลือครอบครัว จนวันนี้ทั้งน้องภูมิและครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น ทำให้น้องภูมิและครอบครัวเดินหน้าในการต่อสู้ชีวิต และมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยน้องภูมิเคยลั่นวาจาจะบวชให้พี่หนุ่มเพื่อทดแทนบุญคุณ

ล่าสุดเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ ‘อรวรรณ ชาญเชิดศักดิ์’

ซึ่งเป็นคุณแม่ของน้องภูมิ ได้โพสต์เฟซบุ๊กภาพลูกชายถือพานขอขมาลาบวชเณร ต่อหน้ารูปที่เคยถ่ายร่วมเฟรมกับ หนุ่ม กรรชัย พร้อมข้อความบอกว่า “ผมไม่มีโอกาสไปกราบลาบวชขออนุญาตกราบที่นี้นะคับพี่หนุ่ม” และมีป้ายบอกว่า “ขออนุโมทนาลาบวชเณร เพื่อทดแทนพระคุณพี่หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ที่ช่วยผมกับแม่จนได้ชีวิตใหม่ ผมขอบคุณครับ”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top