Friday, 17 May 2024
บริจาคอวัยวะ

โรงพยาบาลสุรินทร์ แสดงความขอบคุณและมอบประกาศเชิดชูเกียรติ ให้แก่ครอบครัวของ น.ส.กนกกาญจน์ บุญเจริญ หรือครูปุ้ม หลังบริจาคอวัยวะ ช่วยผู้ป่วย 5 ชีวิต เพื่อทำประโยชน์ครั้งสุดท้ายในชีวิต

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. เพจเฟซบุ๊ก "ศูนย์ประสานงานรับบริจาคอวัยวะ โรงพยาบาลสุรินทร์" ได้โพสต์เรื่องราวของคุณครูปุ้ม ครูผู้ให้ตลอดชีวิต โดยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสุรินทร์ แสดงความขอบคุณและมอบประกาศเชิดชูเกียรติ ให้แก่ครอบครัวของ นางสาวกนกกาญจน์ บุญเจริญ อายุ 29 ปี ครูโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ที่อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งประสบอุบัติเหตุทางจราจร ครอบครัวส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา แพทย์พยายามรักษาอย่างสุดความสามารถ แต่ครูปุ้มบาดเจ็บรุนแรง ร่างกายไม่ตอบสนองต่อการรักษา ทีมแพทย์ลงความเห็นว่า ครูปุ้มเสียชีวิตด้วยภาวะสมองตาย ก่อนหน้านี้ ครูปุ้มเคยแจ้งไว้กับคุณพ่อคุณแม่ว่า ได้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะให้กับสภากาชาดไทย หากเสียชีวิตก็ขอให้นำอวัยวะที่ยังใช้งานได้ ไปให้กับผู้ป่วยที่ต้องการ เพื่อทำประโยชน์ครั้งสุดท้ายในชีวิต ทางคุณพ่อได้ปรึกษากับครอบครัว และแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อทำตามเจตนารมณ์ของครูปุ้ม

น่ายกย่อง!! หนุ่มวัย 24 ปีเสียชีวิต บริจาคอวัยวะมอบ 15 ชีวิตใหม่

ยกย่องคนจนผู้ยิ่งใหญ่ หนุ่มวัย 24 ปี รับจ้างตัดมะพร้าวอ่อน ชาวสมุทรสงคราม เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต บริจาคอวัยวะมอบ 15 ชีวิตใหม่ พ่อแม่เผย ลูกเป็นคนชอบช่วยเหลือผู้อื่นแม้ครอบครัวจะมีฐานะยากจน 

14 พฤศจิกายน 2565 เพจมูลนิธิโรงพยาบาลราชบุรี โพสต์ข้อความ “บริจาคอวัยวะ สร้างกุศลผู้ให้ สร้างชีวิตใหม่ผู้รับ 1 ผู้ให้ ช่วยได้ 8 ชีวิต” เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 ณ โรงพยาบาลราชบุรี นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี ได้มอบหมายให้ คณะกรรมการ Service plan สาขาการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะโรงพยาบาลราชบุรี เป็นตัวแทนมอบเกียรติบัตร ให้แด่ญาตินายอชิระ กัญญา ผู้บริจาคดวงตาให้ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย

โดยสภากาชาดไทยได้นำไปช่วยเหลือผู้ป่วยตามเจตนารมณ์แล้ว ส่วนกระดูกให้ศูนย์เนื้อเยื่อชีวภาพกรุงเทพฯ ในพระอุปถัมภ์ฯ ขอกุศลกรรมที่ได้บำเพ็ญเพื่อประโยชน์แก่ผู้ป่วย จงเป็นอานิสงส์ดลบันดาลให้ผู้อุทิศประสบความเกษมสุขในสัมปรายภพชั่วนิรันดร์ พร้อมกันนี้ ได้มอบพวงหรีดเคารพศพผู้วายชนม์ จากศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย และศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย

ผู้ป่วยชายอายุ 24 ปี ประสบอุบัติเหตุจราจร ผู้ป่วยอยู่ในอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรง ถูกนำส่งตัวจากโรงพยาบาลดำเนินสะดวก ส่งมายังโรงพยาบาลราชบุรีเพื่อเข้ารับการรักษา เมื่อมาถึงโรงพยาบาลราชบุรีพบว่าผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บรุนแรงหลายระบบจึงได้เข้ารับการรักษาอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากอาการที่รุนแรง แพทย์ได้วินิจฉัยว่าผู้ป่วยอยู่ในภาวะสมองตาย 

ทั้งนี้ บิดามารดาและยายผู้เลี้ยงดูผู้ป่วยมาตลอดรับทราบอาการและเข้าใจถึงความรุนแรงที่ผู้ป่วยได้รับ โดย พว.ชุลีพร ทองแพรว พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ประจำหอผู้ป่วยศัลยกรรมระบบประสาท 1 โรงพยาบาลราชบุรี จึงได้เจรจาเพื่อขอรับบริจาคอวัยวะ ดวงตามอบสู่สภากาชาดไทยเพื่อนำไปให้ผู้ที่รอคอยการปลูกถ่ายอวัยวะ โดยญาติตัดสินใจบริจาคเพื่อเป็นการสร้างบุญใหญ่ให้กับผู้ป่วยโดยในการนี้ได้จัดเก็บดวงตามอบสู่สภากาชาดไทย และกระดูกมอบสู่ศูนย์เนื้อเยื่อชีวภาพกรุงเทพฯ ในพระอุปถัมภ์ฯ

ขอเชิดชูเกียรติ แด่นายอชิระ กัญญา และครอบครัวที่ได้ร่วมสร้างบุญใหญ่ มอบอวัยวะเพื่อส่งต่อไปยังผู้รอคอยอวัยวะอย่างทุกข์ทรมาน ซึ่งในการนี้ยังได้เป็นอาจารย์ใหญ่ในการเรียนการสอนของนักศึกษาแพทย์ ความดีที่ไม่สิ้นสุด คือการบริจาคร่างกายและอวัยวะเมื่อยามสิ้นสูญ

ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลราชบุรี ได้จัดแถลงข่าวและยกย่องครอบครัวของ นายอชิระ กัญญา ผู้วายชนม์ โดยมีนายรณภพ เหลืองไพรโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และนายกเหล่ากาชาดราชบุรี พร้อมด้วยนายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี แพทย์หญิงปาจรีย์ อารีย์รบ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี และคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งกระดูก พร้อมด้วย นางสมพร แสงสี อายุ 60 ปี และ นายเฉลิม กัญญา อายุ 65 ปี ชาวบ้าน ต.นางตะเคียน อ.เมือง สมุทรสงคราม พ่อและแม่ของนายอชิระ กัญญา ผู้วายชนม์ ร่วมกันแถลงข่าว ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลราชบุรี โดยมีสื่อมวลชนจากหลายสำนักร่วมทำข่าว

นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนายอชิระ กัญญา ผู้วายชนม์ อายุ 24 ปี อาชีพรับจ้างตัดมะพร้าวอ่อนในพื้นที่ วัดหลักห้า ต.ประสาทสิทธิ์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี มีภูมิลำเนาอยู่ ม.6 ต.นางตะเคียน อ.เมือง สมุทรสงคราม ได้รับอุบัติเหตุทางจราจร ญาติได้นำตัวส่งมาทำการรักษาที่ รพ.ดำเนินสะดวก

โดยผู้ป่วยอยู่ในอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรงถูกนำส่งตัวจากโรงพยาบาลดำเนินสะดวก ส่งมายังโรงพยาบาลราชบุรีเพื่อเข้ารับการรักษา เมื่อมาถึงโรงพยาบาลราชบุรีพบว่าผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บรุนแรงหลายระบบ แพทย์ได้ทำการรักษาอย่างสุดความสามารถ แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่รุนแรง ร่างกายของนายอชิระ ไม่ตอบสนองต่อการรักษาใด ๆ ทีมแพทย์ได้ลงความเห็นว่านายอชิระ เสียชีวิตแล้วด้วยภาวะสมองตาย สร้างความเศร้าเสียใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก

ก่อนหน้านี้นายอชิระ เคยแจ้งไว้กับคุณพ่อและคุณแม่ ว่าตนได้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะให้กับทางโรงพยาบาล หากตนเสียชีวิตก็ขอบริจาคอวัยวะที่ยังใช้งานได้ให้กับผู้อื่นนำไปใช้ต่อ เพื่อเป็นการทำคุณประโยชน์และสร้างบุญกุศลครั้งสุดท้ายในชีวิต หลังแพทย์ทางโรงพยาบาลราชบุรี ได้แจ้งให้กับทางญาติได้ทราบ คุณพ่อคุณแม่จึงตัดสินใจแจ้งต่อแพทย์ ขอบริจาคอวัยวะของนายอชิระทั้งหมด เพื่อทำตามเจตนารมณ์ของลูกชาย

โรงพยาบาลราชบุรีได้ร่วมประสานงานกับสภากาชาดไทย และศูนย์เนื้อเยื่อชีวภาพกรุงเทพฯ ในพระอุปถัมภ์ฯ ทำการผ่าตัดส่งมอบอวัยวะ ที่ยังใช้งานได้ คือดวงตาทั้ง 2 ข้าง เนื้อเยื่อ ผิวหนัง และกระดูกอีกจำนวน 12 ชิ้น เพื่อนำไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยมะเร็งกระดูก ได้จำนวน 15 ราย

ผู้บริหารโรงพยาบาลราชบุรี ศูนย์ประสานงานรับบริจาคอวัยวะโรงพยาบาลราชบุรี และเจ้าหน้าที่ทุกคนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว และขออนุโมทนาบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ของนายอชิระ กัญญา ที่ท่านมีจิตเมตตาเสียสละบริจาคอวัยวะเป็นทานในครั้งนี้

พร้อมกันนี้ นายรณภพ เหลืองไพรโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และนายกเหล่ากาชาดราชบุรี ได้มอบเงินสดส่วนตัวจำนวน 4 พันบาท ให้กับพ่อและแม่ของนายอชิระ กัญญา ผู้วายชนม์ เพื่อเป็นค่าเช่าที่บ้านที่ทางครอบครัวต้องจ่ายให้กับทางเจ้าของที่ที่ให้เช่าที่สำหรับปลูกบ้าน พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณยกย่อง นายอชิระ กัญญา ในการบริจาคอวัยวะเพื่อช่วยเหลือเพื่อมนุษย์ในครั้งนี้

ส่วนทางด้าน นายเฉลิม กัญญา และนางสมพร แสงสี พ่อและแม่ของ นายอชิระ กล่าวว่า ครอบครัวรู้สึกดีใจที่ การบริจาคร่างกายของลูกชาย เพื่อนำอวัยวะที่สามารถใช้ได้นำไปช่วยเหลือผู้อื่นได้อีก 15 คน เป็นไปตามความประสงค์ของลูกชายที่ได้พูดไว้เมื่อครั้งยังชีวิต แต่ก็ยังรู้สึกเศร้าโศกเสียใจที่สูญเสียลูกชายซึ่งเป็นที่รักของครอบครัว ลูกชายของตนเป็นคนดี คนขยันทำมาหากิน และชอบช่วยเหลือผู้อื่น ตั้งแต่เล็กลูกชายจะอยู่กับพ่อและแม่ตลอด จนเขาทำงานก็ยังขี่รถจักรยานยนต์ไปที่ทำงานในอำเภอดำเนินสะดวก ราชบุรี กลับมาที่บ้านพักในจังหวัดสมุทรสงครามทุกวัน

ก่อนหน้าที่ลูกจะตาย ทางแม่ได้มีรางสังหรณ์นอนฝันถึงลูกชายว่ามีเลือดเต็มใบหน้าและนอนคว่ำลงกับพื้นมีเลือดไหลนอง แต่ก็ไม่กล้าที่จะมาเล่าให้ลูกฟังเพราะลูกบอกว่าแม่ชอบคิดมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะกลายมาเป็นเรื่องจริง และยังบอกอีกว่า “ร่างกายไม่ใช่ของเรา ให้โรงพยาบาลเขาไป เอาไปช่วยเหลือคนอื่นได้”
 

ญาติหนุ่ม 28 สมองตาย สร้างบุญครั้งใหญ่ บริจาคอวัยวะ ต่อลมหายใจอีก 6 ชีวิต

(16 ธ.ค. 65) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Jaroensook Limbanchongkit Pone' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า..

ที่ #ประจวบคีรีขันธ์

หนึ่งชีวิตต่อ❤️ลมหายใจ มอบอวัยวะ ให้กับอีก 6 ชีวิต 🙏เป็นบุญอันประเสริฐ

ผู้ป่วยชายอายุ 28 ปี ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ได้รับบาดเจ็บทางสมอง อย่างรุนแรง ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ทีมศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง ได้พยายามดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ รักษาโดยการผ่าตัดสมอง ดูแลในหอผู้ป่วยวิกฤติ แต่ไม่อาจรักษาให้สมองกลับฟื้นคืนมาได้ อยู่ในภาวะสมองตาย  

ทีมพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วย ได้ปรึกษาหารือ กับบิดา มารดา และญาติผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ถึงแนวทางการรักษา และโอกาสที่สมองจะกลับฟื้นคืนมามีน้อยมาก จึงได้ขอรับบริจาคอวัยวะให้กับศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย เพื่อนำไปให้ผู้ป่วย ที่รอคอยการปลูกถ่ายอวัยวะ

รพ.ราชบุรี ประกาศเชิดชู ‘นายซิน’ หนุ่มเมียนมา บริจาคอวัยวะช่วยชีวิตผู้ป่วยชาวไทยได้ 13 คน

(6 ม.ค. 66) นายซิน หรือ THANT ZIN TUN สัญชาติเมียนมา วัย 29 ปี ประสบอุบัติเหตุทางถนน จนต้องเข้ารักษาตัวที่ รพ.ปากท่อ เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา และถูกส่งตัวมารักษาต่อที่ รพ.ราชบุรี แพทย์ได้ตรวจอาการอย่างละเอียด พบว่า กระดูกต้นคอส่วนบนเคลื่อน จึงทำให้ผู้ป่วยมีอาการแย่ลงอย่างรวดเร็ว ทางแพทย์และทีมพยาบาล จึงแจ้งให้ทางญาติทราบ พร้อมประสานขอรับบริจาคอวัยวะ⁣

ซึ่งทางภรรยาและครอบครัวจึงได้ประสานกับทางพ่อแม่ผู้ป่วย จนทราบว่า ผู้ป่วยได้เคยสั่งไว้ หากมีโอกาสให้บริจาคอวัยวะ เพื่อช่วยเหลือชีวิตคนอื่น จึงนำไปสู่การบริจาคอวัยวะในครั้งนี้⁣

โดยอวัยวะของนายซิน สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยชาวไทยที่สิ้นหวังได้ 13 ชีวิต ทำให้ผู้ป่วยที่ได้รับบริจาคอวัยวะสามารถมีชีวิตต่อไป และกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ⁣

การให้ที่ยิ่งใหญ่!! หนุ่มวัย 24 บริจาคอวัยวะสร้างกุศลก่อนลาโลก ชาวเน็ตแห่ชื่นชม หลังญาติเปิดข้อความสั่งเสียสุดท้าย

วันที่ 7 มี.ค.66 สมาชิก TikTok@namtipsanguanwongwijit โพสต์คลิปขณะทีมแพทย์กำลังนำร่างของหลานชายเข้าผ่าตัดเพื่อนำอวัยวะไปบริจาค พร้อมระบุข้อความว่า "ผมชื่อตองคับ อายุ 24 ปี ผมประสบอุบัติเหตุเลือดออกในสมอง ไม่สามารถผ่าตัดได้เนื้อสมองตาย ผมเลยบริจาคอวัยวะของผม หัวใจ ไต ม่านตา 3 อย่างนี้ยังใช้งานได้ดี ถึงผมจะไม่ได้อยู่ใช้มันแล้ว ผมขอส่งต่อให้ผู้ที่ต้องการ ฝากผู้รับดูแลหัวใจหล่อๆของผมด้วยนะคับ #ผมขอออกเดินทางไปก่อนนะคับ บายบายคับ"
 

เรื่องเล่าจากพ่อ ปาฏิหาริย์ที่ลูกชายสร้างหลังเสียชีวิต ประสงค์ ‘บริจาคอวัยวะ’ ครอบครัวตัดสินใจทำตาม ส่งต่อชีวิตใหม่ให้ผู้อื่น

เรื่องเล่าจากพ่อ…ลูกเผยความประสงค์ ‘บริจาคอวัยวะ’ จนไร้ปาฏิหาริย์ ครอบครัวตัดสินใจทำตาม

(27 มี.ค. 66) เรื่องราวของ บิดานายสุริยา ลาปราบ หรือ คิม ที่ถ่ายทอดในเพจเฟซบุ๊ก Thai Red Cross Society หรือสภากาชาดไทย ถึงความประสงค์บริจาคอวัยวะของนายสุริยาได้รับการกล่าวถึงอย่างมากมาย

สภากาชาดไทยเผยเรื่องราวดังกล่าวว่า “ป๊า ถ้าหนูตาย อะไรให้ใครได้ ป๊าให้เขาหมดเลยนะ

หลังจากประสบอุบัติเหตุ น้องเขา (คิม) ออกมาจากห้องฉุกเฉินตอนสองทุ่ม เขาคลุมผ้าไว้หมด เหลือแต่หน้า ใจมันสลายนะ ผมจับมือลูกไว้ ผมพูดกับลูกว่า ไหนปีใหม่จะกลับบ้านกับป๊าไง ลุกมาคุยกับป๊า กลับบ้านกับป๊านะ เดี๋ยวป๊าพาไปกินอาหารทะเลที่เราชอบไง

ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนนิ้วเขามาเขี่ยมือเรา แม่เขาบอกว่าเห็นน้ำตาลูกไหล

หมอแจ้งว่าลูกเลือดออกในสมองมาก มันไปกดทับเส้นประสาทต่างๆ ทำให้ไม่รู้สึกตัว ร่างกายไม่ตอบสนอง

‘จีน’ พบยอดอาสา ‘บริจาคอวัยวะ’ สูงกว่า 6 ล้านคน เผย กลุ่มผู้บริจาคส่วนใหญ่ วัยหนุ่มสาว-วัยกลางคน

(3 เม.ย.66) สำนักงานข่าวซินหัวรายงานว่า หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี รายงานจำนวนผู้บริจาคอวัยวะที่ลงทะเบียนในจีนอยู่ที่เกือบ 6.2 ล้านคน ขณะจำนวนการปลูกถ่ายอวัยวะต่อปียังคงสูงติดอันดับสองของโลก

โหวเฟิงจง ผู้อำนวยการศูนย์บริหารการบริจาคอวัยวะแห่งประเทศจีน สังกัดสภากาชาดจีน (RCSC) ระบุว่าผู้บริจาคที่ลงทะเบียนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มหนุ่มสาวและกลุ่มวัยกลางคนอายุ 45 ปีและต่ำกว่า

ชื่นชมครอบครัว นร.ชาย ม.5 ถูกคู่อริยิงเสียชีวิต บริจาคลิ้นหัวใจ-ไต-กระจกตา ช่วยคนหลายชีวิต

โลกโซเชียลแห่แสดงความเสียใจ พร้อมชื่นชมอนุโมทนาบุญกับครอบครัวนักเรียนชาย ม.5 ที่บริจาคอวัยวะหนึ่งชีวิตต่อลมหายใจอีกหลายชีวิต หลังถูกกลุ่มวัยรุ่นคู่อริดักซุ่มยิง ขณะที่ตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ร่วมทีมสหวิชาชีพสอบปาก 4 โจ๋ร่วมกันก่อเหตุ พร้อมแจ้ง 3 ข้อหาหนัก

จากกรณีนักเรียนชายชั้นม.5 วัย 16 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ถูกกลุ่มวัยรุ่นต่างหมู่บ้านดักซุ่มยิงจนเสียชีวิต ที่บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านคุย ต.สามขา อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยกล้องวงจรปิดจับภาพขณะถูกยิงตกจากรถจักรยานยนต์ กระทั่งตำรวจสภ.กุฉินารายณ์ตามจับตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุได้รวม 4 คน อายุ 16-18 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืน 4 กระบอก

ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียล โดยเฉพาะในเฟซบุ๊กข่าวประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายคน รวมทั้งประชาชนชาวกาฬสินธุ์ ต่างพากันแสดงความเสียใจ และแสดงความชื่นชมอนุโมทนาบุญกับครอบครัวนายปาริวรรธน์ พลเยี่ยม นักเรียนชั้น ม.5 อายุ 16 ปี ชาว ต.สามขา อ. กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นคู่อริยิงเสียชีวิต ซึ่งจากข้อมูลของโรงพยาบาลระบุว่า นายปาริวรรธน์ ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์ ด้วยสาเหตุมีภาวะเลือดออกในสมอง โดยแพทย์รักษาอาการเบื้องต้น และส่งต่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ทีมแพทย์ได้ทำการรักษาอย่างสุดความสามารถ ก่อนอาการผู้ป่วยทรุดลงอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยมีภาวะสมองตาย ซึ่งครอบครัวจึงได้แจ้งเจตนารมณ์สร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ให้ผู้เสียชีวิต

โดยการบริจาคอวัยวะทุกส่วนที่ใช้ประโยชน์ได้ คือ ลิ้นหัวใจ ไต 2 ข้าง ตับ และกระจกตา 2 ข้าง ให้กับสภากาชาดไทย ผ่านศูนย์รับบริจาคอวัยวะโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เพื่อนำไปปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วยที่รอรับการปลูกถ่ายอวัยวะ ซึ่งถือเป็นผู้บริจาคอวัยวะรายที่ 7 และบริจาคดวงตา รายที่ 8 ประจำปีของโรงพยาบาลกาฬสินธุ์

ทั้งนี้นายแพทย์ สุรสิทธิ์ จิตรพิทักษ์เลิศ ผู้อำนวยโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายแพทย์ถนอมศิลป์ ก้านมะลิ รองผู้อำนวยการฝ่ายตรวจสอบภายใน นายแพทย์ศุภชัย ศรีจันทะ ประธาน Service Plan สาขารับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ คุณจิรารัตน์ ทรัพย์เกิด ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านลูกค้าสัมพันธ์ นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายกอบจ.กาฬสินธุ์ คณะเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ร่วมมอบพวงหรีด และใบประกาศเกียรติคุณ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 เพื่อแสดงความขอบคุณครอบครัวนายปาริวรรธน์ ที่มีเมตตาและเสียสละบริจาคอวัยวะ เพื่อต่อลมหายใจให้อีกหลายชีวิต พร้อมขออนุโมทนาในกุศลที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลยังประชาสัมพันธ์สำหรับท่านที่สนใจบริจาคอวัยวะ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์รับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะสภากาชาดไทย โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ โทรศัพท์ 043-812714

‘รพ.ราชพิพัฒน์’ เชิดชูเกียรติ ‘พว.นลินทิพย์ แซ่ลี้’  บริจาคอวัยวะ ช่วยต่อลมหายใจผู้ป่วยได้ 5 ชีวิต

(17 เม.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แฟนเพจเฟซบุ๊กของ ‘โรงพยาบาลราชพิพัฒน์’ โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟชบุ๊ก ‘โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ สำนักการแพทย์ กทม.’ ระบุข้อความว่า…

“โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ขอไว้อาลัยและเชิดชูเกียรติ แด่ พว.นลินทิพย์ แซ่ลี้ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลห้องตรวจโรคเฉพาะทาง โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ตลอดระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ พว.นลินทิพย์ แซ่ลี้ ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีเยี่ยม ด้วยความเสียสละและความรับผิดชอบ จนได้รับคำชื่นชมจากผู้รับบริการมาโดยตลอด”

นอกจากนี้ยังระบุเพิ่มว่า “การจากลาอย่างไม่มีวันกลับ แต่เจตนารมณ์เพื่อช่วยเหลือผู้คนยังคงอยู่ กุศลจากผู้ให้ สร้างชีวิตใหม่ให้แก่ผู้รับ โดยได้บริจาคหัวใจ, ไต 2 ข้าง, ม้าม และหลอดเลือดดำอุ้งเชิงกราน ต่อลมหายใจอีก 5 ชีวิต ในวันนี้ (15 เมษายน 2567) คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ บุคลากรโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ร่วมไว้อาลัยและเชิดชูเกียรติ ขอกุศลแห่งบุญในครั้งนี้ ส่งดวงวิญญาณสู่สัมปรายภพ พวกเราระลึกถึงความดีงามและความเสียสละตลอดไป”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top