Monday, 20 May 2024
น้ำตก

U Forests Cafe ร้านกาแฟสุดชิล กลางฟีลธรรมชาติ พิกัดเช็กอินใหม่แห่งระยอง ที่ครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องลอง

สุดสัปดาห์นี้ หลายคนอาจจะกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยว ที่จะขับรถไปพักผ่อนในช่วงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ THE STATES TIMES ขอแนะนำ 

U Forests Cafe ร้านกาแฟสุดชิล ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 40 ไร่ เป็นอาคารออกแบบผสมผสานชั้นเดียว มีดาดฟ้าภายในโอ่โถง พร้อมกับที่นั่งด้านนอก ที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ สุดอลังการ กับ หินลีลาขนาดใหญ่ ที่ถูกจัดวางท่ามกลาง ต้นไม้หายากขนาดใหญ่ โดยมีต้นมะขาม 5 คนโอบ มีอายุมากกว่า 200 ปี รวมถึง ต้นกันเกรา อายุกว่าร้อยปี และ ต้นไม้หายากอีกหลากหลายกว่าร้อยต้น พร้อมสัมผัสบรรยากาศร่มรื่น กับน้ำตกจำลองขนาดใหญ่ เสียงน้ำที่ตกกระทบหิน เสมือนกับได้ไปนั่งอยู่ริมน้ำตกธรรมชาติจริง ๆ ด้านหลังน้ำตกยังมีถ้ำม่านหมอกให้เข้าไปสัมผัส นอกจากนี้ ยังมีสะพานไม้ให้เดินชมความงดงามได้ทั่วพื้นที่

ร้าน U Forests Cafe แห่งนี้เกิดจากแรงบันดาลใจภายใต้ความสมบูรณ์แบบของธรรมชาติ ที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีความสมบูรณ์ของพื้นที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง โดยดึงเอา Elements ของความเป็นพื้นที่สีเขียวที่รายล้อมไปด้วยทิวเขา ต้นไม้ น้ำตก ป่าชายเลน รวมถึง Movement ที่พลิ้วไหวของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่รวมกันอย่างเป็น ‘วัฏจักร’ ประกอบกับสัญลักษณ์ของความเป็นเมืองท่าอย่างเรือรบหลวง ประแส ที่จอดอยู่ไม่ไกลจากร้านกาแฟแห่งนี้ ร้าน U Forests Cafe เปิดให้บริการคอกาแฟ และนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติ สามารถเดินทางมาจิบกาแฟและอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในบรรยากาศที่ผ่อนคลายได้แล้ว

กางเต็นท์นอน ที่ 'สวนลุงพร คลองมะเดื่อ' แช่น้ำชุ่มฉ่ำ ดึ่มด่ำธรรมชาติสุดแสนชิล

'น้ำตกคลองมะเดื่อ' จังหวัดนครนายก หนึ่งในพิกัดแห่งน้ำใสไหลเย็น ที่นอกจากจะมีไว้รอรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย ได้ลงไปแช่น้ำเล่นผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการทำงานแล้ว ยังเหมาะแก่การไปพักผ่อนกางเต็นท์เป็นอย่างมาก ว่าแล้ว THE STATES TIMES ก็ขอพาทุกท่าน ไปหาจุดเที่ยวและพักที่ ลานกางเต็นท์ สวนลุงพร คลองมะเดื่อ จังหวัดนครนายก ซึ่งดีงามมากๆ สำหรับสายลุย

ลานกางเต็นท์ สวนลุงพร คลองมะเดื่อ เปิดให้บริการลานกางเต็นท์ โดยคิดค่าบริการแค่เพียง 50 บาทต่อคน หรือจะเช่าเต็นท์ ก็คิดค่าบริการ 800 บาท (นอนได้ 4 คน) และ 300 บาท (นอนได้ 2 คน) ซึ่งถือว่าราคานี้ถูกมาก เมื่อเทียบกับธรรมชาติที่จะได้เข้าไปสัมผัสดื่มด่ำ 

อ้อ!! สามารถนำอาหารเข้าไปได้ ประกอบอาหารเองได้ แต่ก็มีร้านค้า ร้านอาหารไว้คอยบริการสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวก ส่วนที่จอดรถก็มีมากมายสะดวกสบายแน่นอน

ในช่วงสุดสัปดาห์นี้หากใครกำลังมองหาลานกางเต็นท์และสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพฯ ก็ลองแวะไปกันได้

‘หมู่บ้านอีต่อง-เหมืองปิล๊อก’ ดินแดนสวรรค์กลางหุบเขา สัมผัสธรรมชาติ วัฒนธรรมท้องถิ่น ที่ควรค่าแก่การมาพักผ่อน

‘หมู่บ้านอีต่อง’ ที่แห่งนี้ในยามหลังฝนพรำ จะถูกโอบล้อมไปด้วยไอหมอก งดงามมาก ราวกับดินแดนในฝัน

หมู่บ้านอีต่องเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ติดกับชายแดนไทยพม่า ทางฝั่งจังหวัดกาญจนบุรี เป็นหมู่บ้านโบราณที่มีการทำเหมืองแร่มาแต่สมัยก่อน โดยมีผู้ประกอบการทำเหมืองแร่หลายแห่งในหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันเหมืองแร่ก็ได้ปิดตัวลงไป เหลือไว้เพียงสถานที่ท่องเที่ยวภายในหมู่บ้านอีต่องเท่านั้น ซึ่งที่นี่ถือเป็นอันซีนไทยแลนด์ที่ซุกซ่อนอยู่หลังม่านหมอกของจังหวัดกาญจนบุรี

การเดินทางขึ้นสู่หมู่บ้านอีต่องจากตัวเมืองกาญจนบุรีใช้เส้นทาง ถนนทางหลวงชนบทสาย กจ.4088 อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี (กาญจนบุรี-ทองผาภูมิ) เริ่มจากตัวเมืองกาญจนบุรี ไปยังอำเภอทองผาภูมิ ระยะทางประมาณ 212 กิโลเมตร ใช้เส้นทาง ทล.323 และมุ่งเข้าสู่ตัวอำเภอทองผาภูมิผ่าน ทล.3272 และเข้าสู่ทางหลวงชนบทสาย กจ.4088 โดยจะมีป้ายแนะนำเส้นทางเป็นระยะ ซึ่งจะผ่านสถานที่ท่องเที่ยว อย่างอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เนินช้างศึก และไปสุดที่หมู่บ้านอีต่อง โดยตลอดเส้นทางจะเป็นทางลาดยางอย่างดี แต่เมื่อมาถึงช่วงที่เป็นทางขึ้นเขาสู่หมู่บ้านอีต่อง ประมาณ 30 กิโลเมตร ทางจะค่อนข้างอันตรายมีความแคบและถนนขรุขระเป็นบางช่วง ผู้ขับขี่รถขึ้นไปเองควรใช้ความระมัดระวังในการขับขี่อย่างสูง และต้องมีความชำนาญในการขับขี่ แต่ก็ถือว่าไม่ยากจนเกินไป ในการขึ้นสู่หมู่บ้านอีต่อง

จุดไฮไลท์ที่อยากจะแนะนำให้กับทุกคน โดยเฉพาะคนที่ชอบถ่ายรูปก็คือบริเวณเหมืองปิล๊อก ซึ่งเป็นพื้นที่ทำเหมืองเก่า ปัจจุบันยังคงหลงเหลือ เครื่องมือทำเหมืองโบราณ และยานพาหนะที่ใช้ทำเหมืองไว้อยู่ สามารถใช้เป็นพร๊อบในการถ่ายรูปชิลๆ รับรองว่าทุกคนจะได้รูปภาพสวยๆ เก็บความประทับใจกลับไปอย่างแน่นอน 

และอีกจุดนอกจากเครื่องมือทำเหมืองแล้วภายในเหมืองปิล๊อกแล้ว ก็ยังมีน้ำตกเล็กๆ ที่ไหลลงในบ่อน้ำกลางป่า ซึ่งเป็นภาพบรรยากาศที่สวยงามสุดจะบรรยายจริงๆ ป่าไม้และต้นหญ้าสีเขียวขจีมีไอหมอกลอยละล่องอยู่เต็มพื้นที่ป่า ไปจนถึงน้ำตก ซึ่งในบ่อน้ำที่น้ำตกไหลลงมานั้น มีความใสสะอาดและมีปลาคราฟอาศัยอยู่ด้วย ที่ตรงนี้เปรียบดั่งดินแดนในฝัน เหมือนหลุดเข้าไปอยู่อีกโลกหนึ่งเลยก็ว่าได้ ต้นไม้ในบริเวณนี้ดูสวยงามและแปลกตา ผสมกับสายหมอกหนา ยิ่งทำให้ดูน่าค้นหาและสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเราเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้บนถนนทางหลวงชนบทสาย กจ.4088 ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างน้ำตกจ๊อกกระดิ่น ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ มีลักษณะเป็นน้ำตกที่ไหลลงสู่หน้าผาสูงประมาณ 34 เมตร และยังมีเขาช้างเผือก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิมีความสูงจากระดับน้ำทะเลอยู่ที่ 1,249 เมตร เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัย ก็มีจุดไฮไลต์อยู่ตรงที่ “สันคมมีด” ซึ่งเป็นเส้นทางเดินบนสันเขาแคบ ๆ นอกจากนี้ใกล้กับหมู่บ้านอีต่องยังมีจุดชมวิวเนินช้างศึก เป็นภูเขาสูงที่สามารถมองเห็นวิวโดยรอบได้ 360 องศา เหมาะแก่การขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าและอาทิตย์ตกดินในยามเย็นอีกด้วย

หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบทกาญจนบุรี โทร 0-3460-0567

เรื่อง : กันย์ ฉันทภิญญา Content Manager


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top