Monday, 13 May 2024
ธนกร_วังบุญคงชนะ

โฆษกรัฐบาล มั่นใจสถานการณ์น้ำ ไม่ซ้ำรอยปี 54 โว เทียบอดีตสถิติความเสียหาย 'ภัยแล้ง-อุทกภัย' ลดลงชัดเจน เผย บิ๊กตู่ สั่งเฝ้าระวังตั้งแต่ต้นปี

วันที่ 7 ต.ค. 64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม สั่งการทุกหน่วยเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตั้งแต่ต้นปี และวางแผนบริหารจัดการน้ำทั้งประเทศอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันภัยพิบัติจากสถานการณ์อุทกภัย และปัญหาน้ำแล้งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ส่งผลให้สถิติความเสียหายจากน้ำลดลงอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับปี 2554 ที่มีการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินถึง 65 จังหวัด เสียหาย 69 ล้านไร่

นายธนกร กล่าวต่อว่า ขณะที่ในปี 2564 ครบรอบ 10 ปี ข้อมูลจากจิสด้าพบว่า ปีนี้น้ำท่วมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง 21 จังหวัด มีพื้นที่เสียหาย 1.33 ล้านไร่ ส่วนสถานการณ์อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของไทย ปี 2564 น้ำมีระดับน้ำน้อยและมีพื้นที่เพียงพอรองรับปริมาณน้ำฝนอีกมาก รวมทั้งได้พัฒนารูปแบบการจัดการน้ำโดยใช้พื้นที่ลุ่มต่ำ รับน้ำนอง บรรเทาความเสียหาย ขณะที่ปริมาณฝนที่ตกในกทม.ยังไม่มาก ทำให้สามารถบริหารจัดการระบายน้ำได้ และประเมินได้ว่ากทม.น้ำจะไม่ท่วมหรือรุนแรงเท่ากับปี 2554

'ธนกร' รายงานตัวรับตำแหน่ง ส.ส.พปชร. พร้อมดันหลากโครงการเพื่อประโยชน์ชาวใต้

(23 ส.ค. 65) ที่รัฐสภา นายธนกร วังบุญคงชนะ กล่าวภายหลังการรายงานตัวรับตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ตนมารัฐสภาวันนี้เพื่อมารายงานตัวเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ แม้สภาจะมีช่วงเวลาเหลืออยู่ 6-7 เดือน ก็จะตั้งจะใจทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน 

ทั้งนี้ต้องขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรอง นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. ที่สนับสนุนตนมาโดยตลอด จึงจะขอตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด ในฐานะที่ตนเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช จะนำปัญหาของประชาชนในพื้นที่ภาคใต้เข้าสู่กลไกของสภา ทั้งนี้การทำงานในพรรค พปชร. ไม่มีการแบ่งกลุ่ม พร้อมกันนี้ตนจะทำหน้าที่ประสาน ส.ส. ในพื้นที่ภาคใต้ เพราะจากการเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และการลงพื้นที่ทราบดีว่าประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ชื่นชมในตัวนายกฯ

เมื่อถามว่า หากมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีการผลักดัน ส.ส.สัดส่วนภาคใต้ให้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ไม่ได้คิดถึงตรงนั้น แต่จะผลักดันหลายโครงการที่รัฐบาลได้ดำเนินการที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนภาคใต้ให้สำเร็จ

'ธนกร' แนะ 'จตุพร' หากรักประเทศ-ปชช. ควรยุติชุมนุม ชี้!! อีกไม่นานจะมีเลือกตั้ง อย่าสร้างความวุ่นวายให้สังคม

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชนระบุว่า ประเทศนี้จะไม่มีการเลือกตั้งก็เพราะ 3 ป. ออกแบบไม่ให้มีการเลือกตั้ง ไม่ใช่ว่าเราออกไปชุมนุมว่า เป็นการชิงออกตัวแบบปัดความรับผิดชอบอย่างชัดเจน เมื่อคิดที่จะปลุกปั่นให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุม ก็ควรแสดงภาวะผู้นำด้วยการรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองด้วย ไม่ใช่คิดจะทำอะไรก็ทำ แต่พอเกิดความผิดพลาดขึ้นก็โยนความผิดให้คนอื่น พฤติกรรมแบบนี้ใช้ไม่ได้สำหรับคนที่คิดจะเป็นแกนนำ 

ดังนั้น เมื่อประชาชนทราบเช่นนี้แล้ว ก็อยากจะขอร้องให้ทุกคนรู้เท่าทัน และอย่าหลงออกไปร่วมชุมนุมด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การเมืองเดินไปตามขั้นตอนอย่างที่ควรจะเป็นอยู่แล้ว อีกไม่นานก็จะถึงการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศ ดังนั้น นายจตุพรควรสงบจิตสงบใจ กลับไปทบทวนบทเรียนที่ผ่านมาว่าตัวเองได้ทำอะไรกับประเทศไทยไว้บ้างให้ตกผลึกเสียก่อน เผื่อจะตาสว่างและเลิกจัดการชุมนุมที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ต้องสัญจรไปมา วันนี้วิกฤตเศรษฐกิจโลกก็แย่พอแล้ว อย่าซ้ำเติมสถานการณ์อีกเลย

'ธนกร' ป้อง 'บิ๊กตู่' ปมจัดการงบ 2,000 ล้านบาท อัด!! ฝ่ายค้านไม่ฟังตอนชี้แจง แต่มาโวยวายทีหลัง

'ธนกร' ป้อง'บิ๊กตู่' ยันบริหารงบกลางโปร่งใส อัดฝ่ายค้าน ตอนเขาชี้แจงไม่เคยฟัง พอไม่รู้เรื่องก็โวยวายหาว่าปล่อยปละละเลย แนะเปิดใจรับฟังคนอื่นสักนิด แล้วมุมมองในโลกของความเป็นจริงจะได้กว้างขึ้น

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรณีอนุมัติงบกลางและเงินสำรองจ่ายฉุกเฉินผิดวัตถุประสงค์และหลักเกณฑ์ รวมทั้งปล่อยปละละเลยไม่ติดตามดำเนินการอายัดเงินจำนวน 2,000 ล้านบาท กรณีการจัดซื้อถุงมือยางของ อคส.ว่า เป็นแค่การยื่นแก้เกี้ยวไม่ให้เสียหน้า เพื่อแสดงให้เห็นว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ฝ่ายค้านมีหลักฐานมากมาย ทั้งๆ ที่ผลลัพธ์ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า มีแต่ข้อมูลเก่า และเมื่อรัฐบาลชี้แจงก็ยังไม่ยอมรับฟัง จนท้ายที่สุดที่ประชุมสภาฯ จึงโหวตไว้วางใจท่านนายกฯ และรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายทุกคน ดังนั้น เชื่อว่าเมื่อ ป.ป.ช.ได้รับฟังคำชี้แจงและได้เห็นเอกสารที่ถูกต้องทั้งหมดแล้ว จะให้ความยุติธรรมกับผู้ที่ถูกกล่าวหาทุกคนอย่างแน่นอน ยืนยันว่าทุกนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ การอนุมัติงบกลางทุกอย่างโปร่งใส

“การกล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยติดตามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องถุงมือยาง 2,000 ล้านบาท ที่สามารถติดตามเส้นทางการเงินได้ แต่กลับไม่ได้สั่งการใด ๆ เพื่อระงับยับยั้งจนเกิดความเสียหายนั้น ฝ่ายค้านควรตื่นจากความฝันได้แล้ว เรื่องนี้ท่านนายกฯ และรมว.พาณิชย์ได้ชี้แจงไปหมดแล้วอย่างชัดเจนต่อที่ประชุมสภาฯ ว่ามีการดำเนินการติดตามเป็นขั้นเป็นตอนอย่างไรบ้าง แต่เพราะฝ่ายค้านไม่เคยฟังในสิ่งที่คนอื่นพูดนอกจากพวกตัวเอง จึงออกมาพูดด้วยชุดข้อมูลที่ผิด ๆ ว่ารัฐบาลปล่อยปละละเลย ไม่อยากให้ฝ่ายค้านทำตัวเหมือนเด็กนักเรียนที่เข้าห้องเรียนไปวัน ๆ แต่ไม่เคยฟังในสิ่งที่อาจารย์สอน แล้วก็ไปพูดต่อจนข้อมูลผิดเพี้ยน หัดเปิดใจรับฟังคนอื่นสักนิด แล้วมุมมองในโลกของความเป็นจริงจะได้กว้างขึ้น” นายธนกร กล่าว

'ส.ส.ธนกร' ซัด 'หน.เพื่อไทย' ถนัดแต่เรื่องเสี้ยม หวังให้แตกคอ แต่สุดท้าย 'ตู่-ป้อม' ก็ยังเหนียวแน่น

'ธนกร' โว ผลงาน พปชร.ประชาชนตอบรับเพียบ ลั่น 'บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม' เน้นลุยงานช่วยเหลือประชาชนเต็มที่ในเวลาที่เหลือ ชี้ ส.ส.ไหลเข้า-ไหลออกเรื่องปกติ แจงใครจะเป็นตัวเลือกของประชาชน สุดท้ายประชาชนจะเป็นคนตัดสินเอง ย้อนถ้าฝ่ายค้านแพ้ภัยตัวเองก็อย่าโยนบาปให้รัฐบาล

(6 ต.ค. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนมั่นใจในผลงานของพรรคพลังประชารัฐ เพราะจากการลงพื้นที่หลายครั้งพบว่า ได้รับการตอบรับและฝากขอบคุณไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหมอย่างล้นหลาม ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของท่านนายกฯ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการให้รัฐบาลลุยแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาที่เหลือโดยไม่ต้องไปสนใจเกมการเมืองของฝ่ายค้านและคนบางกลุ่ม จึงทำให้ฝ่ายค้านย่ามใจจนวันนี้ คิดว่าการกระทำที่ผ่านมาของตัวเองประชาชนให้การยอมรับ อย่างไรก็ตาม เรื่อง ส.ส.ไหลออกและไหลเข้านั้นเป็นเรื่องปกติของการเมืองใกล้เลือกตั้ง และเป็นกันทุกพรรคอยู่แล้ว ดังนั้น เชื่อว่าประชาชนรอให้บทเรียนฝ่ายค้านในการเลือกตั้งสมัยหน้าอย่างแน่นอน และเมื่อถึงเวลาที่ฝ่ายค้านแพ้ภัยตัวเองก็อย่าโยนบาปให้รัฐบาลก็แล้วกัน

ส่วนกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่น่าใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรคก็เป็นตัวเลือกได้ อย่างน้อยก็ดีกว่า พล.อ.ประยุทธ์นั้น นายธนกร กล่าวว่า เข้าใจว่าเรื่องเสี้ยมอาจจะเป็นงานถนัดของฝ่ายค้าน แต่แค่แตกคอกันเองในพรรคยังทำให้สงบไม่ได้ ก็ไม่ควรมาเสี้ยมพรรคอื่นให้เขาแตกคอกันเอง 

อย่างไรก็ตาม ทั้งพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตรต่างเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของประชาชนในขณะนี้ แต่อาจจะเป็นหนามทิ่มแทงใจ นพ.ชลน่านก็เท่านั้นเอง ที่สำคัญพล.อ.ประยุทธ์กับพล.อ.ประวิตรไม่มีวันแตกคอกัน เพราะเป็นความรักความผูกพันธ์ที่มั่นคงยั่งยืน มุ่งทำงานรับใช้ประชาชน ไม่เหมือนความรักของฝ่ายค้านที่ฉาบฉวย หลงใหลชั่วครู่ชั่วคราวแล้วก็ทิ้งกันไป

"สุดท้ายประชาชนจะเป็นคนตัดสินเอง คงไม่ต้องลำบากรบกวน นพ.ชลน่านให้มาทำตัวเป็นหมอเดาทำนายให้" ธนกร กล่าวทิ้งท้าย

'ธนกร' ยัน!! รัฐทลายกระบวนการยาเสพติดต่อเนื่อง ไม่ใช่เพิ่งทำ อย่างที่บางฝ่ายพยายามบิดเบือน

'ธนกร' ยัน รัฐบาลทลายกระบวนการยาเสพติดต่อเนื่อง อัดไม่ใช่เพิ่งทำอย่างที่บางฝ่ายพยายามบิดเบือน ชี้!! ปี 65 ยึดอายัดทรัพย์แล้วกว่า 10,820 ล้านบาท เผยนายกฯ ย้ำชัด ยาเสพติดเป็นวาระสำคัญเร่งด่วน! 

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า รัฐบาลซึ่งนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม กำหนดให้การกวาดล้างยาเสพติดเป็นวาระสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมามีความก้าวหน้าในกระบวนการทางกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามยาเสพติด โดยกระทรวงยุติธรรมได้แก้กฎหมายยาเสพติดกว่า 24 ฉบับมาเป็นฉบับเดียว คือ พ.ร.บ. ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564  ซึ่งมีความทันสมัยและเท่าทันขบวนการค้ายาเสพติด เน้นยึดอายัดทรัพย์ผู้ค้า บำบัดผู้เสพ เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด 

ทั้งนี้ ในปี 2565 สามารถยึดอายัดทรัพย์ได้ 10,820 ล้านบาท ซึ่งต่างจากในอดีต เช่น เมื่อปี 2557 ที่สามารถอายัดได้ 1,360 ล้านบาท แต่กลับยึดทรัพย์จริงได้เพียง 14 ล้านบาท นอกจากนี้ ในปี 2566 กระทรวงยุติธรรมยังตั้งเป้าอายัดทรัพย์มากกว่าปีนี้ 10 เท่า หรือประมาณ 1 แสนล้านบาท เพราะข้อมูลเส้นทางการเงินของพวกบัญชีม้ามีถึง 250 บัญชี รวมทั้งยังเพิ่มช่องทางการแจ้งเบาะแสยาเสพติดเพื่อรับรางวัลนำจับ 5% โดยไม่เปิดเผยตัวตน ซึ่งคล้ายกับการเก็บข้อมูลในระบบ Blockchain ด้วย ช่วยทำให้ประชาชนกล้าแจ้งเบาะแสมากขึ้น จากเดิมที่มีการแจ้งเบาะแสมาเพียง 16,000 หมู่บ้าน จาก 80,000 หมู่บ้านทั่วประเทศ

‘ธนกร’ จวก ‘ธนาธร’ เสนอนิรโทษกรรม ม.112 ซัด แค่หาทางลงให้ตนเอง อย่าอ้างคนส่วนใหญ่

‘ธนกร’ จวก ‘ธนาธร’ เสนอนิรโทษกรรมคดี ม.112 อย่าเอาความต้องการของตัวเองมาอ้างว่าเป็นความเห็นคนส่วนใหญ่ ลั่นคนติดคุกเพราะจงใจจาบจ้วงสถาบัน อัดถ้าไม่อยากอยู่ก็ออกไป ไม่ใช่ชักศึกเข้าบ้าน ชี้นิสัยคนไทย กล้าทำก็ต้องกล้ารับ ไม่ใช่กล้าทำแล้วค่อยหนีไปต่างประเทศ

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เสนอนิรโทษกรรมคดี มาตรา 112 พร้อมทั้งระบุว่า การพูดถึงประเด็นปฏิรูปสถาบันเป็นเสรีภาพที่ทำได้ ไม่ใช่อาชญากรรมว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่จำเป็นต้องนิรโทษกรรมคดี มาตรา 112 เพราะไม่มีใครต้องมาติดคุกเพราะจาบจ้วงสถาบัน แต่ปัจจุบันที่มีก็เพราะคนบางกลุ่มมักไปปลุกปั่นเยาวชนด้วยชุดข้อมูลผิด ๆ ดังนั้น การที่มีคนติดคุกตามมาตรา 112 อยู่ในขณะนี้ เป็นเพราะคนเหล่านั้นจงใจจาบจ้วงสถาบัน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปเลย แยกแยะให้ออก

‘ธนกร’ มั่นใจ!! รัฐบาลเศรษฐาเดินหน้า ‘แลนด์บริดจ์’ ต่อจากลุงตู่ ชี้!! ช่วยดึงเงินลงทุนมหาศาล ดันไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์โลก

(20 ต.ค. 66) นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่นายกรัฐมนตรีและครม. เดินหน้าศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน หรือ โครงการแลนด์บริดจ์ ถือเป็นเมกะโปรเจกต์ตั้งแต่สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการวางรากฐานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งของไทย ให้เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของโลก เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านการขนส่งสินค้าและบริการ การท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทุกกลุ่ม และยังกระจายความเจริญไปสู่ภาคใต้และภาพรวมของประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามว่า แลนด์บริดจ์หากเปิดใช้ระยะแรกในปี 73 จะแก้ปัญหาความแออัดของการขนถ่ายสินค้าได้มากน้อยแค่ไหน นายธนกร กล่าวว่า คาดการณ์ไว้ว่าโครงการแลนด์บริดจ์ ทั้ง 2 ระยะ (เฟส) โดยระยะที่ 1 ประมาณมูลค่าการลงทุน รวมทั้งสิ้นกว่า 1 ล้านล้านบาท รองรับสินค้า 20 ล้านทีอียู จะส่งเสริมประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่ง ทั้งท่าเรือ รถไฟ และมอเตอร์เวย์ กระจายสินค้าในภูมิภาค เปิดเส้นทางเดินเรือแห่งใหม่ ของมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก เพิ่มความสะดวกปลอดภัยในการเดินเรือและการขนส่งสินค้าทางน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะลดระยะทางและเวลาขนส่งลงได้ 4 วัน เมื่อเทียบจากช่องแคบมะละกา จึงมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง โดยเน้นรับเรือฟีดเดอร์ ขนาด 8,000-9,000 ทีอียู สินค้าประเภทถ่ายลำ เพื่อเป็นเกตเวย์ เชื่อมการขนส่งสินค้า จากยุโรป-แลนด์บริดจ์-จีน กลายเป็นสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ รวมทั้งส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ สามารถดึงการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา สร้างรายได้ให้กับพื้นที่และประเทศอย่างมหาศาล

ทั้งนี้ โครงการแลนด์บริดจ์ มีทั้งโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกระนอง โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกชุมพร โครงการระบบรถไฟทางคู่ ช่วงชุมพร-ระนอง และโครงการพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ช่วงชุมพร-ระนอง รวมถึงการพัฒนาพื้นที่โดยรอบให้เป็นไปตามอุตสาหกรรมเป้าหมาย 

“พล.อ.ประยุทธ์ ได้วางโครงการแลนด์บริดจ์ไว้ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง ต้องการให้ไทย เป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านการขนส่งและการค้าของเอเชีย มั่นใจว่า แลนด์บริดจ์ จะพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ SEC ให้ เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพและยกระดับรายได้พัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างมาก หากรัฐบาลสานต่อจนสำเร็จ จะเป็นการเปลี่ยนทิศทางการขนส่งของโลก พุ่งเป้ามาที่ไทยให้กลายเป็นฮับทางเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ เชื่อมโยงกับที่รัฐบาลชุดก่อนที่ได้ทำโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC จนสำเร็จมาแล้ว” นายธนกร กล่าว

'ธนกร' ชี้!! ไม่ถึง 2 เดือน 4 รมต.รทสช. 'ทำงานหนัก-ผลงานเพียบ' หลัง 'พักหนี้เกษตรกร-ลดค่าไฟ-น้ำมัน' ช่วยบรรเทาทุกข์คนไทยต่อเนื่อง

(28 ต.ค.66) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า กว่า 1 เดือนในการทำงานของรัฐบาล หลังได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 นั้น รัฐมนตรีทั้ง 4 ท่านของพรรครวมไทยสร้างชาติ นำโดยนายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรมว.พลังงาน ก็ได้เร่งเครื่องทุ่มเททำงานหนัก ผลักดันนโยบายต่าง ๆ ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลได้หาเสียงไว้ออกมาเป็นรูปธรรมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ทันที ทั้งนโยบายการพักหนี้เกษตรกรเพื่อแก้ปัญหาหนี้สินที่สะสมมาต่อเนื่องในช่วงโควิด รวมถึงการลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน ทั้งดีเซลและเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91 และเตรียมลดราคาน้ำมันชนิดอื่นเพิ่มเติมอีก และมีอีกหลายนโยบายที่จะออกมาต่อเนื่อง 

เมื่อถามว่า บางมาตรการที่ออกมา เป็นการช่วยแค่ในระยะสั้น 3 เดือน จะแก้ปัญหาทำให้ยั่งยืนได้อย่างไร โดยเฉพาะเรื่องราคาพลังงาน นายธนกร กล่าวว่า เรื่องราคาน้ำมันและพลังงานนั้นต้องมีทั้งระยะสั้นระยะกลางและระยะยาวซึ่งผลที่จะเกิดความยั่งยืนต้องแก้ในระยะยาวที่โครงสร้าง ซึ่งรองนายกฯ และรัฐมนตรีพลังงาน ได้ศึกษาและหาแนวทางแก้ไขอย่างต่อเนื่องให้ตรงจุด ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่มีองค์ประกอบหลายปัจจัย จึงต้องใช้เวลาในการแก้ รวมถึง อาจจะต้องออกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เข้ามาบังคับใช้ด้วย  

“ถือเป็นการทำงานที่แข่งกับเวลา แข่งกับปัญหา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน รัฐบาลและรัฐมนตรี เพิ่งปฏิบัติหน้าที่หลังแถลงนโยบายต่อสภา ผ่านมาแค่เดือนกว่าๆ เท่านั้น แต่เห็นมาตรการและการทำงานอย่างเป็นรูปธรรมหลายอย่าง ส่วนในระยะยาวการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน ต้องใช้เวลา ประกอบกับการแก้กฎหมายควบคู่ไปด้วย แต่ยืนยันว่า รัฐมนตรีของรวมไทยสร้างชาติ ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ได้หาเสียงอะไรไว้ เราพร้อมเร่งเครื่องเต็มสูบทำงานหนักอย่างเต็มที่ เพื่อจะขับเคลื่อนมาตรการออกมาช่วยประชาชนให้เร็วที่สุด” นายธนกร กล่าว

‘ธนกร’ ค้าน ‘ยุบ กอ.รมน.’ ชี้ ส่งผลต่อความมั่นคงประเทศ ถาม!! ที่เสนอยุบ เพราะต้องการกำจัดศัตรูคู่แค้นหรือไม่?

(1 พ.ย. 66) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล เชิญชวนประชาชนแสดงความเห็นต่อร่าง พ.ร.บ. ยกเลิก พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 หรือร่างกฎหมาย ยุบ กอ.รมน. ว่า เรื่องนี้ตนขอคัดค้าน ไม่เห็นด้วย เนื่องจาก กอ.รมน. เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการปกป้องรักษาความมั่นคงภายในประเทศ จากภัยคุกคามต่าง ๆ เช่น การก่อความไม่สงบ อาชญากรรมข้ามชาติ ภัยพิบัติธรรมชาติ เป็นต้น หากยุบกอ.รมน. ไป อาจทำให้ประเทศไทยสูญเสียความสามารถในการรับมือกับภัยคุกคามเหล่านี้ได้

นายธนกร กล่าวว่า การทำงานของ กอ.รมน.ที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2551 ได้บูรณาการการทำงาน ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งตอบสนองนโยบายรัฐบาล กระทรวงกลาโหม และแก้ปัญหาให้ประชาชนในสถานการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญ กอ.รมน. คือหน่วยงานประสานการทำงานในลักษณะองค์กรผสม 3 ฝ่าย คือ พลเรือน-ตำรวจ-ทหาร มี 6 ศูนย์ประสานการปฏิบัติ มีศูนย์ 1 รับผิดชอบด้านยาเสพติด, ศูนย์ 2 แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง, ศูนย์ 3 การก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ, ศูนย์ 4 ด้านความมั่นคงพิเศษ อาทิ ชาวม้งลาว, การค้ามนุษย์, การฟอกเงิน, บุกรุกป่าไม้, ภัยพิบัติระดับชาติ ฯลฯ, ศูนย์ 5 ด้านความมั่นคงเฉพาะพื้นที่ คือจังหวัดชายแดนภาคใต้ และศูนย์ 6 โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและการส่งเสริมสถาบัน

“หากยุบกอ.รมน. ไปอาจทำให้หน่วยงานต่าง ๆ ทำงานแยกส่วนกัน ประสิทธิภาพการบูรณาการ การประสานงานด้านต่าง ๆ ลดลง ตนเห็นด้วยกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ที่ไม่มีแนวคิดจะยุบ กอ.รมน. แต่จะปรับแนวทางการทำงานให้มีประสิทธิภาพให้มีการทำงานด้านการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อช่วยพี่น้องประชาชนได้มากขึ้น” นายธนกรกล่าว

เมื่อถามว่า การล่ารายชื่อของพรรคก้าวไกลจะมีผลต่อการยื่นร่างกฎหมายนี้ต่อสภาหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า การเสนอกฎหมายเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อยื่นวาระเข้าสภาแล้ว ก็ถือเป็นสิทธิ์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะพิจารณาถึงประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและประชาชน ตนเชื่อว่าทุกคนจะยึดหลักประโยชน์ส่วนรวม มากกว่าส่วนตน มากกว่าพวกพ้อง หรือ พรรคใดพรรคหนึ่ง   

“ผู้ที่สนับสนุนให้ยุบ กอ.รมน. เขาอาจมองว่า กอ.รมน. มีอำนาจมากเกินไปอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชน และถูกมองว่าเป็นหน่วยงานที่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่นที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้น ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า การให้เหตุผลเหล่านี้ อาจมีเรื่องอื่นแฝงอยู่หรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาตัวผู้ที่เสนอร่างพ.ร.บ.ยุบ กอ.รมน.เอง รวมถึงพรรคดังกล่าวนั้น ถูก กอ.รมน. แจ้งความเอาผิดในคดีความมั่นคง มาวันนี้ จึงเสนอกฎหมายเพื่อให้ยุบหน่วยงานที่เป็นคู่กรณีของตนเองหรือไม่ จึงขอฝากประชาชนติดตามข่าวสารอย่างมีข้อมูลที่รอบด้าน เพื่อจะได้ทราบถึงที่มาที่ไปและเหตุผลของการขับเคลื่อนล่ารายชื่อในการยื่นกฎหมายดังกล่าวในครั้งนี้” นายธนกรกล่าว และว่า “การตัดสินใจว่าจะยุบ กอ.รมน. หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งควรพิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ และการทำงานเพื่อประชาชนเป็นสำคัญ”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top