Wednesday, 2 July 2025
ท่องเที่ยวจีน

'ด่านโม่ฮานจีน' รับชาวไทยกว่า 16,000 คนใน 6 เดือน อานิสงส์รถไฟความเร็วสูง 'ลาว-จีน' ช่วยกระตุ้น

เมื่อวานนี้ (5 ก.ย. 67) สำนักข่าวซีซีทีวี รายงานว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ข้อตกลงการยกเว้นวีซ่าระหว่างประเทศไทยและจีนมีผลบังคับใช้ ด่านโม่ฮานที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของมณฑลยูนนานในจีนตอนใต้ ได้รองรับผู้โดยสารชาวไทยมากกว่า 16,000 คน ภายในระยะเวลา 6 เดือน

สถานีตรวจคนเข้าเมืองที่ด่านโม่ฮาน ซึ่งเป็นด่านพรมแดนทางบกที่ใหญ่ที่สุดระหว่างจีนและลาวระบุว่า ผู้โดยสารชาวไทยที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าคิดเป็น 54 เปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวชาวไทยทั้งหมด

ในบรรดาผู้โดยสารจากประเทศที่สามที่ผ่านเข้าออกด่านแห่งนี้ นักท่องเที่ยวชาวไทยมีสัดส่วนมากกว่า 74 เปอร์เซ็นต์

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา รถไฟโดยสารข้ามพรมแดนระหว่างลาวและไทยได้เริ่มเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าจีนสามารถโดยสารรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปยังเวียงจันทน์ในลาว และต่อรถไฟสายจีน-ลาว จากเวียงจันทน์เข้าสู่จีนได้ ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางออกจากจีนสามารถเดินทางไปยังลาว ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ความสะดวกสบายดังกล่าวส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวที่ผ่านเข้าออกที่ด่านรถไฟโม่ฮานอย่างมีนัยสำคัญ

จากสถิติของสถานีตรวจคนเข้าเมืองที่ด่านโม่ฮาน ในช่วงวันที่ 19 ก.ค. 67 ถึง 31 ส.ค. 67 ด่านรถไฟโม่ฮานได้รองรับผู้โดยสารชาวไทยขาเข้าและขาออกมากกว่า 1,400 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และในจำนวนนี้ ผู้โดยสารชาวไทยที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าคิดเป็น 56 เปอร์เซ็นต์

ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระบุว่า นโยบายการยกเว้นวีซ่าที่ได้รับจากจีนและประเทศเพื่อนบ้านจะช่วยส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวอย่างมีนัยสำคัญ

"ในขณะที่ตลาดการท่องเที่ยวของจีนมีความน่าสนใจมากขึ้น ประกอบกับนโยบายต่างๆ เช่น การยกเว้นวีซ่าระหว่างจีนกับไทย และนโยบายยกเว้นวีซ่าสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนในลาว ผมเชื่อว่าการท่องเที่ยวตามเส้นทางคุนหมิง-กรุงเทพฯ และเส้นทางอื่นๆ จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ" 

‘นายอวี๋ หนาน’ ไกด์นำเที่ยวของ China International Travel Service กล่าว

ฟรีวีซ่าดึงดูดต่างชาตินิยมเที่ยวโซนปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ สนามบินปักกิ่งทุบสถิติรับนทท.ทะลุ 1 ล้านคน

(9 ธ.ค. 67) ซินหัวรายงานว่า สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งในกรุงปักกิ่งทางตอนเหนือและนครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน คร่าคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากเกาหลีใต้ สเปน โปแลนด์ ไทย ฮังการี สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และเยอรมนี  

สืบเนื่องจากขยายนโยบายฟรีวีซ่าเป็นหมุดหมายสำคัญในการก้าวเดินสู่การเปิดกว้างยิ่งขึ้นของจีนและแสดงความเชื่อมั่นของจีนบนเวทีโลก โดยปัจจุบันมี 38 ประเทศ ที่สามารถเดินทางเข้าจีนแบบฟรีวีซ่า และนักเดินทางสามารถพำนักได้นานสูงสุด 30 วัน เมื่อนับถึงวันที่ 30 พ.ย. 2024

สื่อจีนระบุว่า จำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่จีนในไตรมาสสาม (กรกฎาคม-กันยายน) ของปี 2024 สูงถึง 8.18 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 48.8 เมื่อเทียบปีต่อปี โดยส่วนหนึ่งเดินทางเข้าสู่จีนแบบฟรีวีซ่า 4.88 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 78.6 เมื่อเทียบปีต่อปี

รายงานดังกล่าวสอดคล้องกับ ข้อมูลจากท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง ต้าซิง ที่เผยว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในปีนี้ทะลุ 1 ล้านคน สร้างสถิติใหม่ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรายปีที่เข้า-ออกสนามบิน

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติข้างต้นได้รับการยืนยันเมื่อ6 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยถือเป็นสถิติครั้งใหม่หลังมีการปรับใช้ชุดนโยบายเพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวต่างชาติในการเข้าประเทศจีน อันรวมถึงการเพิ่มจำนวนประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าเข้าจีน ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือนจีน

สนามบินปักกิ่ง ต้าซิง ยังขยายเครือข่ายเที่ยวบินระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีบริการเที่ยวบินสู่จุดหมายปลายทางระหว่างประเทศและจุดหมายปลายทางระดับภูมิภาครวม 43 แห่ง ครอบคลุม 25 ประเทศและภูมิภาค ทั่วยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง

ช่วงฤดูหนาว-ฤดูใบไม้ผลินี้สนามบินปักกิ่ง ต้าซิงมีแผนเปิดเส้นทางบินใหม่ๆ ไปยังหลายเมือง เช่น ซิดนีย์ เมลเบิร์น เวียงจันทน์ และคาซาบลังกา (โมร็อกโก) นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดเที่ยวบินสู่แอฟริกาและอเมริกาเหนือ ตลอดจนเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินที่บินไปตะวันออกกลางและรัสเซีย เพื่อเพิ่มทางเลือกเที่ยวบินระหว่างประเทศแก่ผู้โดยสาร

สนามบินแห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในท่าด่านจำนวน 9 แห่ง ที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติ ให้ชาวต่างชาติสามารถแวะพักเครื่องระหว่างทาง (direct transit) ได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง

‘เยาวภา แสงจันทร์’ บล็อกเกอร์สาวไทย เยือน!! 'ฉงชิ่ง' เมืองภูเขา ชี้!! ทีเด็ด ‘หม้อไฟหมาล่า – ผู้ชายหน้าตาดี – บินตรงแค่สามชั่วโมง’

(28 ธ.ค. 67) แม้อากาศจะเย็นยิ่งขึ้นตามการลดลงของอุณหภูมิในฤดูหนาว แต่พื้นที่ชมวิวริมแม่น้ำเจียหลิงในมหานครฉงชิ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ยังคงมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเดินเล่นกันอย่างคึกคัก เพื่อรอชมภาพขบวนรถไฟทะลุตึกสูงด้วยตาตัวเอง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ‘เยาวภา แสงจันทร์’ หรือ ‘หลี่เพ่ยอิง’ บล็อกเกอร์สาวสายท่องเที่ยวจากไทย

ช่วงไม่กี่ปีมานี้ สถานีหลีจื่อป้าของทางรถไฟรางเบาในฉงชิ่งกลายเป็นแลนด์มาร์กชื่อดังบนโลกโซเชียล ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติมาเช็กอินจุด ‘รถไฟทะลุตึก’ กันเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับ ‘ประวิตร’ ชาวไทยที่เผยว่าการมาเที่ยวฉงชิ่งเหมือนแกะกล่องสุ่ม ที่นี่มีภูมิประเทศแบบภูเขาและตึกสูงเรียงรายซับซ้อนชวนให้ประหลาดใจได้เสมอยามเดินสำรวจ

จีนได้ปรับปรุงนโยบายวีซ่าอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ปี 2024 พร้อมยกระดับความสะดวกสบายด้านการชำระเงิน ภาษา การเดินทาง ฯลฯ เพื่อผลักดันให้ ‘ไชน่า ทราเวล’ (China Travel) หรือ ‘ท่องเที่ยวจีน’ กลายเป็นคำศัพท์ฮิตในตลาดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

เมื่อไม่นานนี้ จีนประกาศการผ่อนปรนนโยบายเดินทางผ่าน (transit) แบบฟรีวีซ่า ขยายระยะเวลาพำนักที่ได้รับอนุญาตของนักเดินทางชาวต่างชาติที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์จากเดิม 72 และ 144 ชั่วโมง เป็น 240 ชั่วโมง หรือ 10 วัน และสามารถเดินทางข้ามมณฑลได้ทั่ว 24 มณฑล เขตปกครอง และเทศบาลนคร

กระแส ‘ไชน่า ทราเวล’ หรือ ‘ท่องเที่ยวจีน’ ที่ติดลมบนได้เปิดประตูบานใหม่ในการทำความเข้าใจจีน ทำให้ชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยหลงรักการเดินทางท่องเที่ยวจีน ดังเช่น ‘ใจดี’ และเพื่อนๆ ของเธอ ซึ่งเดินทางเยี่ยมชมผาหินแกะสลักต้าจู๋ แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมในฉงชิ่ง เล่าว่าพระพุทธรูปแกะสลักที่นี่แตกต่างกับที่ไทย ทำให้ถ่ายรูปออกมาสวยงามมาก

ข้อมูลจากเอเจนซีการเดินทางท่องเที่ยวท้องถิ่นฉงชิ่งพบว่านอกจากย่านใจกลางเมืองแล้ว นักท่องเที่ยวชาวไทยยังชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมนอกตัวเมือง เช่น ผาหินแกะสลักต้าจู๋ และระบบชลประทานตูเจียงเยี่ยนของซื่อชวน (เสฉวน) ที่ซึ่งพรั่งพร้อมด้วยมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิทัศน์ธรรมชาติเป็นเอกลักษณ์ มอบประสบการณ์แปลกใหม่แก่นักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ ฉงชิ่งยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยแม้ล่วงเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว โดยข้อมูลสถิติจากซีทริป (Ctrip) พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางเยือนฉงชิ่ง ช่วงเดือนมีนาคม-พฤศจิกายนของปี 2024 เพิ่มขึ้นราวสามเท่าเมื่อเทียบปีต่อปี เนื่องด้วยอานิสงส์จากข้อตกลงยกเว้นวีซ่าระหว่างจีนกับไทย ซึ่งมีผลบังคับใช้ร่วมกันตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2024

เยาวภา แสงจันทร์ หรือหลี่เพ่ยอิง บล็อกเกอร์สาวไทย เสริมว่าเหตุผลที่ฉงชิ่งเป็นจุดหมายยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยคือการเป็นบ้านเกิดของ ‘เซียวจ้าน’ ผู้ชายที่หล่อที่สุดของจีนตามความเห็นของชาวเน็ตจีน โดยเซียวจ้านเป็นดาราจีนที่มีแฟนคลับชาวไทยอยู่มาก และอีกเหตุผลคือ ‘หม้อไฟหมาล่า’ รสชาติเผ็ดร้อนถูกปากชาวไทยสายแซ่บ

ปัจจุบันที่เข้าใกล้ช่วงหยุดยาวปีใหม่สากลและเทศกาลตรุษจีนของจีน สายการบินบางส่วนในฉงชิ่งได้เริ่มเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินโดยสารแบบไปกลับไทย ซึ่งเยาวภาเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางฉงชิ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะแค่มี ‘พาสปอร์ตหนึ่งเล่ม’ บวกกับ ‘บินตรงสามชั่วโมง’ ก็สามารถมาสำรวจ ‘เมืองภูเขา’ แห่งนี้ได้แล้ว

จีนเปิดตัว ‘รถไฟแพนด้า เฉิงตู’ ใช้เวลาเดินทาง 16 วัน ชมวิวหลักล้าน ราคาเฉียดสามแสน แต่นักท่องเที่ยวแห่จอง

(27 พ.ค. 68) จีนเดินหน้าผสานการท่องเที่ยวกับระบบราง เปิดตัว “รถไฟแพนด้า·เฉิงตู” สายหรูรุ่นล่าสุด พร้อมออกจากเมืองเฉิงตูสู่เมืองคัชการ์ เขตซินเจียง ครอบคลุมเส้นทางยาว 8,000 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 16 วันเต็ม ชมวิวธรรมชาติของซินเจียงแบบจุใจ ผ่านภูเขาหิมะ ทะเลทราย และทุ่งหญ้า

สำหรับค่าบริการต่อคนอยู่ที่ 55,900 หยวน (ราว 280,000 บาท) รวมค่าที่พักโรงแรมระดับ 4-5 ดาวจำนวน 8 คืน ค่าอาหาร และค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ตั๋วรถไฟช่วงพฤษภาคมถึงตุลาคม รวม 10 เที่ยว ถูกจองหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลระบุว่า ผู้โดยสารกว่า 70% เป็นนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ แสดงให้เห็นว่าตลาดท่องเที่ยวระดับพรีเมียมยังคงร้อนแรง

“แพนด้า·เฉิงตู” มีทั้งหมด 18 โบกี้ แบ่งเป็นรถห้องพัก รถรับรอง รถครัว และรถบันเทิง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น บาร์ดนตรี โรงหนัง คาเฟ่ และพื้นที่แสดงวัฒนธรรม ทุกรายละเอียดออกแบบเพื่อประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ และเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งระยะสั้นและระยะไกล

ขณะเดียวกัน “New Orient Express” รถไฟท่องเที่ยวสุดหรูของการรถไฟอุรุมชี ยังคงเปิดให้บริการเส้นทางสายไหม โดยมีการเดินทางยาวสูงสุด 14 วัน ผ่านเมืองสำคัญอย่างตุนหวงและเจียยี่กวน เส้นทางดังกล่าวเคยให้บริการเฉพาะแขกต่างประเทศ และเคยต้อนรับบิล เกตส์ในทริปชมเส้นทางสายไหมจีน มาแล้ว

ทั้งนี้ รถไฟเฉิงตูจุผู้โดยสารได้ 108 คน ส่วน New Orient Express รับได้ 112 คน รถไฟเฉิงตูมีเตียงคู่ปรับเป็นโซฟาได้ ขณะที่ New Orient ใช้เตียงขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย เส้นทางเดินรถก็แตกต่าง โดยเฉิงตูเริ่มต้นจากเฉิงตู ลานโจว หรืออุรุมชี ส่วน New Orient เริ่มและสิ้นสุดที่อุรุมชี ราคาทั้งสองแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นกับช่วงเวลาเดินทาง 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top