Tuesday, 30 April 2024
ตำรวจสอบสวนกลาง

‘ตร.สอบสวนกลาง’ รวบหัวโจก ตุ๋นเงิน ‘หลอก’ ไปทำงานมัลดีฟส์ มีผู้เสียหายกว่า 30 คน วอน!! ปชช. ศึกษาข้อมูลให้ดี

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.จ พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. และ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ปันไชย ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.ชัยชนะ  สุริยวงค์ รอง ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ต.ธนกร จาวรุ่งวณิชสกุล พ.ต.ต.หญิง รัชฎาวรรณ สีไพสน สว.กก.1 บก.ปคม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม.ร่วมกันจับกุม นายชลปดิธ หรือ ตั้ม (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 612/2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้และโดยการหลอกลวงดังว่านั้น ได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง”

สถานที่จับกุมคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ใน อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย​พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายน 2565 กลุ่มผู้ต้องหาที่แบ่งหน้าที่กันหลอกลวงผู้เสียหายไปทำงานต่างประเทศ โดยมีหญิงไทย จำนวน 3 คน ทำหน้าที่เป็นนายหน้าในการติดต่อหลอกลวงผู้เสียหาย และรับโอนเงินจากผู้เสียหาย ซึ่งต่อมาในวันที่ 5 มี.ค. 66 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 3 รายคือ น.ส.สมฤดี น.ส.รุ่งทิพย์ และ น.ส.ภัทราวรรณ ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผลทราบว่า นายชลปดิธ  เป็นหัวหน้าเครือข่ายหลอกลวงคนไทยไปทำงานที่ประเทศมัลดีฟส์ โดยนายชลปดิธฯ จะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าเครือข่ายในการสั่งการให้กลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวไปก่อนหน้านี้ ทำหน้าที่เป็นนายหน้า ติดต่อหลอกลวงผู้เสียหาย และเมื่อถึงกำหนดในการเดินทางจะให้นายหน้าทำทีแจ้งผู้เสียหายว่า ขอเลื่อนการเดินทางเพื่อไปทำงานออกไปก่อน เนื่องจากมีผู้เสียหายบางรายเอกสารในการเดินทางยังไม่เรียบร้อย ซึ่งหลังจากมีการเลื่อนการเดินทางออกไปหลายๆ ครั้ง ทำให้กลุ่มผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดีกับนายชลปดิธฯ กับพวก จนกว่าคดีถึงที่สุด ซึ่งจากการตรวจสอบมีผู้เสียหายกว่า 30 ราย และมีมูลค่าความเสียหายเป็นเงินมากกว่า 3 ล้านบาท

‘CIB’ บุกค้น 4 จุด ทลายเว็บหนังเถื่อน เปิดนานเกือบ 20 ปี เช็กเส้นทางการเงิน พบมูลค่าความเสียหายกว่าพันล้าน!!

เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 67 พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับบัญชา กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) สั่งการ พ.ต.อ.วีระพงษ์ หอมหวล ผกก.1 บก.ปอศ. นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าทำการตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 4 จุด แบ่งเป็นในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร 2 จุด จังหวัดสุรินทร์ 1 จุด และ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 1 จุด เพื่อกวาดล้างจับกุมเครือข่ายลักลอบเผยแพร่หนังเถื่อน ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์รายใหญ่

เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้รับเรื่องร้องเรียนจากบริษัทเอกชนที่ทำธุรกิจเกี่ยวอุตสาหกรรมด้านภาพยนตร์ จากหลายบริษัทว่ามีการลักลอบเผยแพร่หนังเถื่อนเครือข่ายผ่านเว็บไซต์ siambit.com ซึ่งเป็นเว็บดูหนังเถื่อนออนไลน์ จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส จนทราบว่ามีการทำกันเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่การทำงานกันอย่างชัดเจน

โดยช่วงแรกจะเปิดให้ชมฟรี ต่อมาเริ่มเก็บค่าบริการสมาชิกจากประชาชนทั่วไป มีการเปลี่ยนชื่อเว็บไซต์เพื่อปกปิดและหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ลักลอบเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2549 หรือราวๆ 18 ปี ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่าแสนราย เผยแพร่ภาพยนตร์ที่เป็นลิขสิทธิ์ของผู้อื่นกว่า 50,000 เรื่อง รวมถึงมีเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 60 ล้านบาท ซึ่งจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายให้กับผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่า เป็นเครือข่ายเว็บหนังเถื่อนเดียวกันกับที่เคยถูกตำรวจ บช.สอท.จับกุมไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ในขณะนั้นเป็นการจับกุมตามความผิดฐาน ‘เผยแพร่สื่อลามกอนาจารและแฝงการโฆษณาเว็บไซต์การพนันออนไลน์’ เจ้าหน้าที่จึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นจนนำมาสู่การเปิดปฏิบัติการดังกล่าว

ทั้งนี้ จากการเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจสอบครั้งนี้พบสมุดบัญชีธนาคาร 9 เล่ม, บัตร ATM จำนวน 2 ใบ, ฮาร์ดดิสก์ จำนวน 29 ตัว, คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและโน้ตบุ๊ก 3 เครื่อง, แท็บเล็ต 1 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง, เมมโมรี่การ์ดและแฟลชไดรฟ์ จำนวน 33 อัน เบื้องต้นจึงตรวจอายัดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง ก่อนเตรียมขยายผลเอาผิดผู้อยู่เบื้องหลัง มาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ตำรวจสอบสวนกลาง CIB โดยกองบังคับการตำรวจน้ำ เปิดยุทธการ 'ฟ้าสางที่ฝั่งโขง' 957 กม. 85 คดี จับคนร้าย 104 ราย ยาบ้า 913,723 เม็ด

ตำรวจสอบสวนกลาง CIB โดยกองบังคับการตำรวจน้ำ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก, พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ, พ.ต.อ.อดิศักดิ์ มีศิลป์ ผกก.10 บก.รน., พ.ต.อ.ศษณวรรศ รัตนเสวตรวงศ์ ผกก.11 บก.รน., พ.ต.อ.อนรรฆ ประสงค์สุข ผกก. 12 บก.รน. ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ภูมินทร์ ทุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน., พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.รน., พ.ต.อ.ราม รสหอม รอง ผบก.รน., พ.ต.อ.อดิศักดิ์ มีศิลปั ผกก.10 บก.รน., พ.ต.อ.ศษณวรรฐ รัตนเศวตรวงศ์ ผกก.11 บก.รน., พ.ต.อ.อนรรฆ ประสงค์สุข ผกก.12 บก.รน. 

ด้วยการแพร่ระบาดของยาเสพติดในประเทศ ส่งผลกระทบทำให้เกิดเหตุอาชญากรรมต่างๆ ในประเทศเป็นอย่างมาก กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลางเล็งเห็นปัญหาที่เกิดจากยาเสพติดมากมาย ทั้งในครอบครัวและเยาวชนอันเกิดจากยาเสพติด การลักลอบขนสินค้าหนีภาษี, การหลบหนีเข้าเมือง ในด้านของยาเสพติดหรือการกระทำความผิดต่างๆ คนร้ายมักจะใช้ช่องทางจากประเทศเพื่อนบ้านนำเข้าสู่ประเทศไทย และอาจนำส่งประเทศที่สาม 

พล.ต.ต. พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ธรากร เลิศพรเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจน้ำ พันตำรวจเอก ราม รสหอม รองผู้บังคับการตำรวจน้ำ พันตำรวจเอก อดิศักดิ์ มีศิลป์ ผู้กำกับการ 10 กองบังคับการตำรวจน้ำ พ.ต.ต.พงษ์พิพัฒน์ บูรณะบัญญัติ สว.ส.รน.3กก.10 บก.รน.(ตำรวจน้ำมุกดาหาร) ร่วมแถลงผลการปฏิบัติงาน ณ ห้องประชุมกองกำกับการ 10 กองบังคับการตำรวจน้ำ ตามแผนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ กองกำกับการ 10-12 กองบังคับการตำรวจน้ำ 

ตั้งแต่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ตามแนวแม่น้ำโขง รวมระยะทางประมาณ 957 กิโลเมตร ภายใต้ชื่อ "ยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง" ตั้งแต่วันที่ 13-20 กุมภาพันธ์ 2567 ประมาณ 1 สัปดาห์ เป้าหมายทางบก 76 เป้าหมาย ทางน้ำ 23 เป้าหมาย สามารถจับกุม ยาเสพติด จำนวน 43 ราย จำนวน 913,723 เม็ด อาวุธปืน จำนวน 6 ราย ต่างด้าว 30 ราย จับตามหมายจับ 22 ราย และจับกุมตามความผิดอื่น 3 ราย รวมผู้ต้องหา 104 ราย

พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ กล่าวว่า ภูมิประเทศพื้นที่ตามลำน้ำโขงในเขตรับผิดชอบล้วนเอื้อต่อการลักลอบกระทำสิ่งของผิดกฎหมายโดยเฉพาะการลักลอบนำเข้ายาเสพติด เพราะมีเกาะแก่งดินดอนตามลำน้ำโขงให้พักคอยมากมาย ทำให้มีปัญหาการลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากนักค้ายาทั้งในและนอกพื้นที่ ในการลักลอบนำเข้าแต่ละครั้งมักจะเพิ่มมากขึ้นตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นยาบ้า ยาไอซ์ และกัญชา ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศชาติ การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นภารกิจสำคัญ ที่จะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็วตามนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดไว้ เพื่อลดระดับความรุนแรงให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยการบูรณาการหน่วยงานความมั่นคงทั้ง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานข้างเคียงที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติการระดมกวาดล้างยาเสพติด รวมถึงอาชญากรรม ตามแผน “ยุทธการฟ้าสางที่ฝังโขง” เพราะปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนมายาวนาน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top