Thursday, 16 May 2024
ตำรวจภูธร

ชุมพร - จัดโครงการ “สวมหมวกนิรภัย 100 % ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร” เคารพต่อกฎหมาย- เคารพกฎจราจร ด้วยการสวมหมวก!!

วันที่ 16 ธันวาคม 2564 เวลา 09.30 น.นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรให้เกียรติมาเป็นประธานในกิจกรรมโครงการสวมหมวกนิรภัย 100 % ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ร่วมกับพลตำรวจตรี วิรุฬ สุวรรณวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร / พันตำรวจเอกประสิทธิศักดิ์ ศรีสุข รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร / พันตำรวจเอกเทเวศร์ ปลื้มสุทธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพร / นายประมูล อุ่นเรือน ท้องถิ่นจังหวัดชุมพร / นางสาวสุนารี บุญชุบ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชุมพร / นายนักรบ ณ ถลางนายอำเภอเมืองชุมพร / นายภาสกร ชาญกสิกร เลขานุการ อบจ. และ นายศรีชัย วีรนรพานิช นายกเทศมนตรีเมืองชุมพร

โดย พันตำรวจโทสมชาย มากอำไพ กล่าวว่า ท่านพลตำรวจโทอำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่งเห็นความสำคัญว่าปัจจุบันอุบัติเหตุทางถนน ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต ต่อทรัพย์สินและความสูญเสียต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก อุบัติเหตุทางถนนจะเกิดขึ้นกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นส่วนมาก ท่านจึงดำริให้จัดทำโครงการสวมหมวกนิรภัย 100 % ขึ้นทุกสถานีตำรวจในสังกัด ตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตระหนักถึงความสำคัญในการสวมหมวกนิรภัย ซึ่งจะช่วยป้องกันให้ลดการบาดเจ็บ ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางถนน เป็นการปลูกจิตสำนึกของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ให้เคารพต่อกฎหมาย เคารพกฎจราจร ด้วยการสวมหมวก

จากนั้น พันตำรวจเอกเทเวศร์ ปลื้มสุทธิ์ กล่าวว่า โครงการสวมหมวกนิรภัย 100 %เพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร การปลูกจิตสำนึกของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ให้เคารพต่อกฎหมาย เคารพกฎจราจร ด้วยการสวมหมวก นิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ขั้นตอนการปฏิบัติ มี 3 ช่วงด้วยกัน ช่วงเริ่มต้นรณรงค์ คือตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2564 ถึง 31 มกราคม2565  ช่วงกวดขันเข้มข้น มีด้วยกัน 3 ระยะ สำหรับผู้กระทำผิดข้อหา "ไม่สวมหมวกนิรภัยในขณะขับขี่รถจักรยานยนต์" และข้อหา "เป็นผู้ขับขี่ยินยอมให้ผู้โดยสารไม่สวม หมวกนิรภัยในขณะโดยสารรถจักรยานยนต์ จะมีอัตราเปรียบเทียบปรับต่างกัน ผู้กระทำผิดระยะที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 จะเปรียบเทียบปรับในอัตรา 200 บาท ผู้กระทำผิดระยะที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 จะเปรียบเทียบปรับในอัตรา 300 บาท ผู้กระทำผิดระยะที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป จะเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมมอบหมวกนิรภัยให้แก่ผู้กระทำผิด

 

ผบช.สทส. และ ผบก.สส. พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน191 ตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน

วันนี้ (19 ม.ค.67) เวลา15.30น.พล.ต.ท.ศิริพงษ์ ติมุลา ผบช.สทส., พล.ต.ต.อธิศวิส กมลรัตน์ ผบก.สส. พร้อมคณะ ได้เดินทางมาร่วมตรวจเยี่ยมศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน191ตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน

โดยมี พ.ต.อ.สุณัฐพล นิรมิตศุภเชษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน, พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี รอง ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน, พ.ต.อ.สมศักดิ์ ขันชัยทิศ ผกก.กก.สส.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน / ผช.ผอ.ศูนย์191และข้าราชการตำรวจในสังกัด จำนวน 11 นาย ให้การต้อนรับ พร้อมกับเข้ารายงานผลปฎิบัติ หน้าที่ ปัญหา ขัดข้อง อุปสรรคในการปฎิบัติงานให้ทราบ 

พร้อมได้สั่งการดังนี้
1. มีระเบียบวินัยในการปฎิบัติหน้าที่ ผลัดเปลี่ยนกันเข้าเวร ควรจัดให้เป็นระบบและมีระเบียบ มีความพร้อมให้บริการกับประชาชน
2.เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุควรมีความชำนาญในพื้นที่ที่รับผิดชอบ รู้จักสถานที่เกิดเหตุว่าอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบใด  มีทักษะในการสื่อสารที่ดี มีมนุษยสัมพันธ์ดี และมีใจรักในงานบริการ และมีความรู้ทางคอมพิวเตอร์
3.หมั่นตรวจเช็คระบบและอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารทั้งหมดภายในศูนย์รับแจ้งเหตุ ให้มีความพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา
4.กำชับการรับสายเรียกเข้าทุกสายด้วยความรวดเร็ว และสอบถามรายละเอียดข้อมูลจากผู้แจ้งเหตุให้ครบถ้วน
5.กำกับดูแลสายตรวจให้ ไประงับเหตุและให้บริการประชาชนด้วยความรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ 
6.นำข้อมูลและสถิติการรับแจ้งเหตุ มาวิเคราะห์วางแผนในการป้องกันอาชญากรรม และปรับปรุงการปฏิบัติงานของศูนย์รับแจ้งเหตุให้ดียิ่งขึ้น


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top