Saturday, 4 May 2024
ตำรวจปราบปรามยาเสพติด

ตำรวจ ปส.(NSB) รุกหนักทลาย 4 เครือข่ายใหญ่ จับผู้ต้องหา 14 คน ยึดของกลางไอซ์กว่า 1.2 ตัน ยาบ้า 5.7 ล้านเม็ด และ คีตามีน 300 กิโลกรัม

วันนี้ (7 มี.ค. 66) เวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม)/ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์  ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส., เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ 4 คดี    

หลังขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. อย่างต่อเนื่องโดยให้ทุกหน่วยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด จากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ชั้นในและพื้นที่ชุมชน รวมไปถึงการสืบสวนหาข่าว เพื่อจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดในทุกระดับ และตัดวงจรการลักลอบลำเลียง ยาเสพติด ที่จะส่งออกไปยังประเทศที่สาม รวมทั้งขยายผลยึดทรัพย์เครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3, บก.ปส.4 และ บก.สกส. สามารถจับกุมผู้ต้องหาและยาเสพติดได้จำนวนมาก
คดีแรก

ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 ได้รับแจ้งว่ามีเครือข่ายค้ายาเสพติดจะลำเลียงยาเสพติด จำนวนมากจากพื้นที่ จว.ตาก มาส่งให้กับกลุ่มเครือข่ายใน จว.สุพรรณบุรี และวันเดียวกันพบรถกระบะต้องสงสัย 2 คัน จอดอยู่ข้างกันภายในปั๊มเชลล์ สาขาพยุหะคีรี และขับตามกันออกมาไปบน ถ.พหลโยธิน อ.มโนรมย์ จว.ชัยนาท มุ่งหน้า อ.เมือง จว.ชัยนาท ก่อนจะขับมาจอดภายในปั๊มน้ำมันบางจาก สาขาศรีประจันต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจค้นตัวและรถ เบื้องต้นทราบชื่อคือ นายธงชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี และนายเฉลิมชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี  เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง หมู่บ้านรวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จว.ตาก  ค้นรถหมายเลขทะเบียน บต-99XX ตาก พบไอซ์ บรรจุในถุงสุญญากาศห่อด้วยถุงบรรจุชาสีเขียว รวม 1,000 กิโลกรัม,ยาบ้ารวม 1.4 ล้านเม็ด และ คีตามีน  300 กิโลกรัม ถูกซุกซ่อนอยู่บริเวณท้ายกระบะ โดยมี มะเขือ แตงกวา ผักกาดขาว ปกปิดอำพรางมาด้วย ทั้งนี้ ตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ 2 คัน, ทองรูปพรรณมูลค่า 100,000 บาท และเงินสด  844,000 บาท  

คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.  และ บก.ปส.4  ได้ร่วมกันจับ 5 ผู้ต้องหา คือ นายพรเชษฐ์หรือหมู อายุ 38 ปี, นายกิตติภพหรือกอล์ฟ อายุ 21 ปี, นายภานุมาศ หรือตั้ม อายุ 31 ปี, น.ส.ปรียาภัทร หรือฟ้า ชู อายุ 20 ปี และ นายจิรเมธหรือกว้า อายุ 23 ปี หลังสืบสวนทราบว่ามีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ จว.สงขลา จะลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ เข้าสู่พื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันตก และทางภาคใต้ เป็นประจำ กระทั่งพบ นายพรเชษฐ์ กับพวก เตรียมนำยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ อ.เชียงแสน จว.เชียงราย ไปส่งให้ลูกค้าใน จว.พระนครศรีอยุธยา อีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังติดตามบนถนนหมายเลข 1 พหลโยธิน ตั้งแต่พื้นที่ อ.เมืองพะเยา-อ.เมืองลำปาง - อ.เถิน - อ.แม่พริก จว.ลำปาง ต่อเนื่อง พื้นที่ อ.เมืองตาก จว.ตาก จนรถยนต์หมายเลขทะเบียน ผน 99xx สงขลา (ซึ่งเป็นรถนำทาง) ขับมาถึงด่านตรวจยาเสพติด สภ.แม่พริก ขณะที่รถหมายเลขทะเบียน งร 71xx เชียงใหม่ (รถลำเลียงยาเสพติด) ได้ขับหลบเข้าไปในรีสอร์ต ริมถนน หมายเลข 1 พหลโยธิน ก่อนเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมเครือข่ายได้ทั้งหมด ตรวจค้นรถพบยาบ้า ห่อหุ้มด้วยพลาสติกใสมีตัวอักษร “Superdry” และบนหีบห่อประทับตัวเลข '999' จำนวน 600 มัด รวมยาบ้า 1,200,000 เม็ด ถูกซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์หมายเลขทะเบียน งร 71xx เชียงใหม่ นอกจากนี้ ยังตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุรวม 2 คัน, โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง, เงินสด 35,000 บาท, สร้อยคอทองคำ 2 เส้น, แหวนทอง 4 วงและ สร้อยข้อมือ 2 เส้น 

คดีที่ 3 ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ ตำรวจ บก.สกส., บก.ขส.ฯ และ กก.1 บก.ทล. (สิงห์บุรี) สืบทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหา มักลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือ เพื่อนำไปส่งลูกค้าทางพื้นที่ภาคกลาง และพื้นที่ใกล้เคียงที่บริเวณริมทางถนนหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) ระหว่าง กม. 31 – 32 ต.ขวัญเมือง อ.บางปะหัน จว.พระนครศรีอยุธยา กระทั่งวันที่ 3 มี.ค.66 สามารถจับนายณัฐวุฒิ หรือแฉะ อายุ 33 ปี พบมีคดียาเสพติด 2 คดี, นายสุรัต หรือขาว อายุ 46 ปี และ นายรังสี หรือตัน อายุ 44 ปี พร้อมยาบ้า 3,000,000 เม็ด และ ไอซ์ 200 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องกระดาษสีน้ำตาลวางอยู่ภายในห้องโดยสารของรถตู้ นอกจากนี้ยังยึดรถ จำนวน 1 คัน ใช้ในการนำทาง/ สำรวจด่านตรวจ และ โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย 

ตำรวจปราบปรามยาเสพติด สกัดจับเครือข่ายยานรก

ตำรวจปราบปรามยาเสพติด สกัดจับเครือข่ายยานรก พบการลำเลียงลงภาคใต้จำนวนมาก  
คาดมาทดแทนยาเสพติดที่ถูกจับได้ก่อนหน้านี้ เบื้องต้นยึดยาบ้า ล้านเม็ด, ไอซ์ 150 กก., เฮโรอีน  
157 กก. และ คีตามีน 250 กก.  

ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ประกอบกับนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา, พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. มุ่งเน้นให้เดินหน้าเชิงรุกปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่และขยายผลการเครือข่ายที่จับกุมได้ทุกระดับ รวมทั้งสืบสวนขยายผลเพื่อยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ทั้งของผู้ค้ายาเสพติด รวมทั้งผู้ช่วยเหลือและสนับสนุนเครือข่ายทั้งหมดมาตรวจสอบ  

วันนี้ 14 มี.ค.67 เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล, พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ฯ, พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร  
ผบก.ขส. และพล.ต.ต.วิทัศน์ บริรักษ์ ผบก.สกส. ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่าย 9 เครือข่าย ผู้ต้องหารวม 19 คน ตรวจยึดยาบ้ารวม 22 ล้านเม็ด, ไอซ์ 150 กก., เฮโรอีน 157 กก. และ คีตามีน 250 กก. พร้อมของกลางรถที่ใช้ก่อเหตุ 18 คัน  
  
คดีที่ 1 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ก.พ.67 ตำรวจ กก.3 ปส.2 ร่วมกับ บก.ขส. บช.ปส. จับกุมนายสมพงษ์ พร้อมยาบ้า 12 กระสอบ จำนวน 5 ล้านเม็ด จึงร่วมกันขยายผลและวิเคราะห์ข้อมูล พบเครือข่ายนี้มี นายสมพงษ์ และนายสุรพล ยังคงลอบนำยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนใน อย่างต่อเนื่อง จนวันที่ 4 มี.ค.67 สายลับแจ้งว่า นายสุรพล  
กับพวก จะนำยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดน ด้าน จว.บึงกาฬ ไปส่งให้ลูกค้าในเขต กทม. โดยใช้รถยนต์กระทั่งช่วงค่ำของวันเดียวกัน พบรถยนต์เป้าหมาย วิ่งเกาะกันเป็นขบวน บนถนนหมายเลข 212 (ถนนชยางกูร) ในพื้นที่ อ.บุ่งคล้า-อ.บึงโขงหลง จว.บึงกาฬ ต่อเนื่อง จว.นครพนม - จว.สกลนคร -จว.กาฬสินธุ์และ จว.มหาสารคาม เมื่อถึงสี่แยกไฟแดงบายพาสกาฬสินธุ์ (ชุมชนทุ่งศรีเมืองกลาง) ต.เหนือ อ.เมือง จว.กาฬสินธุ์ ชุดจับกุมจึงสกัดจับ พร้อมแสดงตัวขอตรวจสอบรถยนต์ ทั้ง 3  
คัน คือ รถยนต์HONDA ACCORD หมายเลขทะเบียน กย 67xx กาญจนบุรี พบนายสุนัน เป็นผู้ขับขี่ ตรวจสอบไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย ส่วนรถยนต์ HONDA CITY หมายเลขทะเบียน 4กล57xx กทม. และรถยนต์ TOYOTA VIOS หมายเลขทะเบียนกธ 26xx สระแก้ว ผู้ขับขี่พยายามขับหลบหนีมุ่งหน้า จว.มหาสารคาม ก่อนที่ทะเบียน สระแก้ว ถูกนำไปจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคาม ส่วนคนขับ วิ่งขึ้นรถอีกคันเพื่อหลบหนีเมื่อขับมาได้ระยะหนึ่งจึงจอดรถทิ้ง และวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง ทั้งนี้ ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนขับรถทั้ง 2 คัน คือ นายขจรเกียรติ์ ได้บริเวณสถานีขนส่งจังหวัดมหาสารคาม ส่วน นายสุรพล ถูกควบคุมตัวได้บริเวณริมถนนวรบุตร ใน อ.เมือง จว.มหาสารคาม ก่อนจะนำทั้งสองมาที่จุดทิ้งรถเพื่อตรวจค้น เบื้องต้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จากนั้นคุมตัวทั้ง 3 คน มาตรวจค้นรถที่ถูกจอดบริเวณลานจอดโรงพยาบาล จังหวัดมหาสารคาม พบกระสอบต้องสงสัยวางอยู่เบาะหลังภายในห้องโดยสาร 2 กระสอบ และท้ายกระโปรงรถ 2 กระสอบ ตรวจสอบเป็นยาบ้าประมาณ 1,500,000 เม็ด นอกจากนี้ยังพบเฮโรอีน 20 แท่ง น้ำหนัก 7 กิโลกรัม  

คดีที่ 2 จากการสืบสวนและวิเคราะห์ข้อมูลของ ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 พบเครือข่ายยาเสพติดมีพฤติการณ์ลักลอบ ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน เพื่อส่งต่อในพื้นที่ตอนในของ จว.เชียงใหม่ โดยใช้รถกระบะสีเทาลำเลียง และมักนำยาเสพติดอำพรางมากับพืชผลทางการเกษตรอยู่อย่างต่อเนื่อง กระทั่งช่วงสายของวันที่ 5 มี.ค.2567 ชุดจับกุม ตรวจสอบพบรถเป้าหมายเป็นรถกระบะติดคอกเหล็ก หมายเลขทะเบียน ยน-79xx เชียงใหม่ ขับมุ่งหน้าไปยัง อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่ จึงติดตามและสกัดจับไว้ได้บริเวณโรงเรียนสบเปิงวิทยา ต.สบเปิง อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่ มี นายอรรถพล เป็นคนขับรถ ภายในห้องโดยสารและท้ายกระบะมีกระสอบต้องสงสัยถูกวางอยู่จำนวน 30 กระสอบ ตรวจสอบเป็นยาบ้า รวม 6,000,000 เม็ด เบื้องต้น จับกุม นายอรรถพล พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย.  
คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 1 มี.ค.67 เวลา 15.00 น. ตำรวจ บก.ปส.4 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร สนธิกำลังตั้งด่านตรวจบริเวณริมถนนเพชรเกษม หน้าด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ขณะปฏิบัติหน้าที่ พบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลข ทะเบียน 3 ฒน 1xxx กทม. เป็นรถยนต์ที่อยู่ในบัญชีเฝ้าระวังขับผ่านมา ชุดจับกุมจึงเรียกให้หยุด เพื่อตรวจสอบ พบ นายปราการ เป็นผู้ขับขี่ จากนั้นตำรวจจึงนำรถเข้าเครื่องเอกซเรย์พบวัตถุมีลักษณะเป็นก้อน ๆ บริเวณกระบะท้าย จึงตรวจค้น อย่างละเอียดพบยาบ้า 6 แสนเม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณหลังกระบะท้ายโดยมีผ้าใบสีดำคลุมปิดทับไว้สอบสวน นายปราการ สารภาพว่าถูกว่าจ้างจาก นายเป้ ให้ลำเลียงยาบ้าจำนวนนี้มาจาก อ.ลาดหลุมแก้ว จว.ปทุมธานีไปส่งลูกค้าใน อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา  

คดีที่ 4 สืบเนื่องจากการจับกุมไอซ์ 1,000 กก. ที่ผ่านมา ตำรวจ บก.ปส.4 ได้สืบสวนขยายผล จนพบเส้นทางการเงินของกลุ่มเครือข่ายนี้ มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลที่ใช้รถกระบะ ISZUSU สีเทา หมายเลขทะเบียน ผพ – 2xx สงขลา และรถกระบะ หมายเลขทะเบียน ผค-6xxx สงขลา ตำรวจจึงได้เฝ้าระวัง กระทั่งวันที่ 9 มี.ค.67 เวลา 17.30 น .  พบความเคลื่อนไหวของรถทั้ง 2 คัน เคลื่อนตัวจากภาคใต้ไปยังพื้นที่ภาคกลาง และขับกลับเข้ามาในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมรถยนต์ อีก 1 คัน ในลักษณะขับนำหน้าและขับตามกัน ชุดจับกุมจึงประสานตำรวจทางหลวงพัทลุง ตั้งจุดตรวจบริเวณหน่วยบริการ ประชาชน เมื่อรถต้องสงสัยขับผ่านมา จึงเรียกเพื่อทำการตรวจค้น พบ น.ส.ปรียานุช เป็นผู้ขับขี่ เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ต่อมารถกระบะลักษณะตีคอกสูง หมายเลขทะเบียน ผค-6xxx สงขลา ขับมาถึงจุดตรวจ พบนายธวัชชัย เป็นผู้ขับขี่ ตรวจค้นพบเฮโรอีน น้ำหนัก 150 กก. และ คีตามีน น้ำหนัก 250 กก. ถูกซุกซ่อนอำพรางมากับพืชผลทางการเกษตร สอบสวนสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างให้ลำเลียงยาเสพติดทั้งหมดนี้มาจาก จว.อ่างทอง ไปส่งยังจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วน น.ส.ปรียานุช รับว่า ได้ขับรถนำทางมาเพื่อสำรวจเส้นทางล่วงหน้า

คดีที่ 5 ก่อนการจับกุม ตำรวจ บก.สกส. ได้รับแจ้งมีเครือข่ายจะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลาง ไปส่งลูกค้าในภาคใต้ โดยจะใช้รถยนต์ 2 คัน กระทั่งวันที่ 29 ก.พ.67 ช่วงเที่ยงต่อเนื่องถึงเย็น พบความเคลื่อนไหวของรถยนต์เป้าหมาย จึงจัดกำลังสะกดรอยติดตาม จนสามารถจับกุม นายมนตรีพร้อมรถยนต์หมายเลขทะเบียน กน 50xx ประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบ พบยาบ้าจำนวน 100 แพ็ค รวม 1,000,000 เม็ด ได้ที่บริเวณถนนเอเชีย หมายเลข 41 กม. ต.นาขา อ.หลังสวน จว.ชุมพร ส่วน นายปฐม และ นายสุวรรณ ได้ที่บ้านเลขที่ 245 หมู่ที่ 5 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จว.ประจวบคีรีขันธ์  
พร้อมรถยนต์หมายเลขทะเบียน กค 18xx ประจวบคีรีขันธ์ที่ทำหน้าที่สำรวจด่านตรวจ 

คดีที่ 6 เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 67 ตำรวจ บก.สกส. ร่วมกับ บก.ปส.4, บก.ขส.บช.ปส., ภ.จว.สุพรรณบุรี และ บก.ทล. จับกุม 2 ผู้ต้องหา สืบเนื่องจากตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. รับแจ้งจากสายลับว่ากลุ่มบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อนำมาส่งลูกค้าที่ จว.สุพรรณบุรีจะใช้รถกระบะ และ รถยนต์ ลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากผ่าน จว.สกลนคร - อ.ภูพาน - จว.กาฬสินธุ์ - จว.มหาสารคราม - จว.ขอนแก่น - วิ่งเส้นถนนมิตรภาพเจ้าหน้าที่จึงเฝ้าระวังและติดตามรถเป้าหมายทั้ง 2 คัน กระทั่งวันที่ 2 มี.ค.67 พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มรถยนต์จึงจัดกำลัง 
สะกดรอยติดตาม แต่ผู้ต้องหารู้ตัวจึงทิ้งรถและแยกย้ายกันหลบหนี พบรถกระบะติดหลังคาแครี่บอย หมายเลขทะเบียน 2 ฒช  16xx กทม. ได้หน้าบ้าน เลขที่ 99/9 หมู่ 2 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จว.สุพรรณบุรีพบกระสอบต้องสงสัย 6 กระสอบ ตรวจสอบภายในเป็นยาบ้ารวม 2,400,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่หลังกระบะ ต่อมาจับกุม นายเกรียงศักดิ์ได้บริเวณ 4 แยกกำนันดิเรก ตำบล 
บ้านใหม่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมรถยนต์ Honda หมายเลขทะเบียน ฆบ 69xx กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสำรวจเส้นทาง ก่อนจะจับ    กุม นายพชร ได้ริมถนนพหลโยธิน (ขาเข้า) หน้าค่ายอดิศร ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จว.สระบุรี  

คดีที่ 7 วันที่ 2 มี.ค. 67 ตำรวจ บก.สกส., ภ.จว.ตาก , ภ.จว.ลำปาง และเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันจับกุม 2 ผู้ต้องหาสาว สืบเนื่องจากตำรวจ บก.สกส. รับแจ้งว่ากลุ่มบุคคลมีพฤติการณ์ลักลอบนำยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือ มาส่งให้ลูกค้า ในพื้นที่ จว.ตาก โดยใช้รถยนต์ กท 14xx พะเยา กระทั่งวันเกิดเหตุพบรถเป้าหมายขับมุ่งหน้า จว.ตาก ชุดจับกุมจึง ประสานงานกับตำรวจ สภ.วังประจบ ภ.จว.ตาก เพื่อเรียกตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าวบริเวณด่านตรวจ พบ น.ส.ทักษอร เป็นผู้ขับขี่ และ น.ส.สุมาลี ผาด่าน เป็นผู้โดยสาร สอบถามพบพฤติการณ์น่าสงสัย จึงเชิญตัวและนำรถยนต์ไปที่ด่านตรวจ  
ยาเสพติดแม่พริก เพื่อ X-Ray พบวัตถุต้องสงสัย เมื่อเปิดตรวจสอบดูพบเป็นยาบ้า 211 มัด รวม 422,000 เม็ด ซุกซ่อนในช่องลับที่ถูกดัดแปลงใต้ช่องเก็บของท้ายรถยนต์  
คดีที่ 8 สืบเนื่องจาก บก.สกส. ได้รับแจ้งว่ามี นายนพดล เครือข่ายยาเสพติดยังมีพฤติการณ์เคลื่อนไหวรับจ้างขนลำเลียงยาเสพติดอยู่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ทราบว่าจะลักลอบนำยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จว.เชียงรายไปส่งให้กับลูกค้า ในเขตพื้นที่ กทม. และปริมณฑล กระทั่งวันที่ 6 มี.ค.67 ได้รับแจ้งว่า นายนพดล จะใช้รถตู้และ รถยนต์ในการลำเลียง จึงสะกดรอยติดตาม พบรถตู้หมายเลขทะเบียน นจ 41xx กทม เข้าเติมน้ำมันที่ปั๊มในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี ชุดจับกุม 
จึงเข้าควบคุมตัว นายนพดล คนขับรถ และมี น.ส.สิรีธร โดยสารมาด้วย หลังจากซักถามทั้ง 2 คน ให้การไม่ตรงกับเส้นทางที่เดินทางมา จึงเชิญตัวและนำรถยนต์เข้าเครื่องเอกซเรย์ ที่ด่านตรวจยาเสพติดพยุหะคีรี ผลการตรวจสอบ พบไอซ์ จำนวน150 ห่อ ถูกซุกซ่อนอยู่ในรถตู้ รวม 150 กก. จากนั้นได้ขยายผลจับกุม นายวัชรพล ซึ่งทำหน้าที่รับช่วงต่อจากนายนพดลฯ เพื่อนำยาเสพติดไปส่ง ได้ที่ลานจอดรถห้างโลตัส สาขาศรีนครินทร์อ.เมือง จว.สมุทรปราการ 

คดีที่ 9 ตำรวจ บก.สกส., บก.ปส.3, บก.ขส.บช.ปส., ป.ป.ส.และ บก.ทล. ร่วมจับกุม 2 สามีภรรยาลำเลียงยาเสพติด หลัง บก.สกส. ได้รับแจ้งว่ามี นายอดิสรณ์, นางกันยา 2 สามีภรรยา พร้อมพวก จะใช้รถบรรทุกเสริมข้าง พร้อมลูกพ่วง, รถยนต์ 3 คัน และ รถกระบะ 1 คัน เพื่อลักลอบลำเลียงยาเสพติดจาก อ.ภูซาง จว.พะเยา จึงจัดกำลังเฝ้าติดตาม กระทั่งวันที่ 11 มี.ค.67 ระหว่างที่รถยนต์ หมายเลขทะเบียน กต 41xx พะเยา ซึ่งเป็นรถนำเส้นทาง มีนางกันยา เป็นคนขับ มาถึงด่านตรวจยาเสพ
ติดพยุหะคีรีขณะเดียวกันรถบรรทุก หมายเลขทะเบียน 71 24xx เชียงใหม่ มีนายอดิศรณ์ เป็นคนขับก็ได้แวะจอดที่ปั๊มน้ำมัน อย่างมีนัยยะ ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบและนำรถเข้าเครื่องเอกซเรย์ที่ด่านตรวจยาเสพติดพยุหะคีรี พบยาบ้า 50 กระสอบ รวม 10,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในกระบะของลูกพ่วง ของรถบรรทุกดังกล่าว  
  
ทั้งนี้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 – 12 มีนาคม 2567 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)  
สามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด รายสำคัญได้ 126 คดี ผู้ต้องหา 219 คน ของกลางเป็นยาบ้า 166,697,573 เม็ด, ไอซ์ 4,296 กก. เฮโรอีน 250 กก. คีตามีน 1,451 กก. และ ยาอี 498 เม็ด ยึดอายัดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจสอบมูลค่าประมาณ 709

ตำรวจปราบปรามยาเสพติด จัดกิจกรรม “ต่อลมหายใจเพื่อนมนุษย์” บริจาคโลหิต เพื่อเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ 72 พรรษา

วันนี้ 3 เม.ย.67 ช่วงเช้าที่ผ่านมา - เวลา 12.00 น. นำโดย พล.ต.ต.พลัฏฐ์  วิเศษสิงห์ รอง ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผู้บังคับการปราบปรามยาเสพติด 2 ร่วมกับข้าราชการตำรวจ ครอบครัว และลูกจ้างในสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จัดกิจกรรมจิตอาสาบริจาคโลหิต เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ 72 พรรษา ที่จะมาถึงนี้ ณ ห้องประชุมห้องพรหมนอก ชั้น 2 บช.ปส. โดยได้รับความอนุเคราะห์จากหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จัดเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ต่าง ๆ มาให้บริการ ณ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 

เพื่อนำโลหิตที่ได้ไปช่วยเหลือผู้ป่วย หรือส่งต่อให้กับผู้ที่ต้องการโลหิต ทั่วประเทศได้มีโลหิตใช้ในการผ่าตัดและการรักษาพยาบาลอย่างเพียงพอต่อไป ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้  มีเหล่าข้าราชการตำรวจ ครอบครัว และลูกจ้างในสังกัด เข้าร่วมบริจาคโลหิต จำนวน 58 คน ได้จำนวนโลหิต 51 ยูนิต จำนวน 22,950 ซีซี ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุก ๆ 4 เดือน เพื่อรณรงค์ปลูกจิตสำนึกให้กับข้าราชการตำรวจ ครอบครัว ได้บำเพ็ญตนให้เป็นผู้มีจิตอาสา รู้จักการเสียสละมีเมตตา ต่อเพื่อนมนุษย์ และปฏิบัติตนเพื่อสาธารณประโยชน์ และเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการทำความดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน อีกทั้งยังเป็นการสำรองโลหิตให้มีปริมาณเพียงพอ และทันต่อการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยทั่วประเทศอีกด้วย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top