Sunday, 19 May 2024
ตรวจคนเข้าเมือง

‘ผบก.ตม.3’ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ‘ตม.จว.ชลบุรี’ กำชับเข้ม 7 ข้อปฏิบัติ พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

วันนี้ 4 พ.ย.64 เวลา 9.30 น. พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา ผบก.ตม.3 ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติราชการและพื้นที่การให้บริการการตรวจลงตราของแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติและการตรวจลงตราทั่วไป ของ ตม.จว.ชลบุรี โดยมีพ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก  ผกก.ตม.จว.ชลบุรี พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจในสังกัด ร่วมให้การต้อนรับและได้นำตรวจบริเวณพื้นที่ต่าง ๆ พร้อมรายงานผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดย พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษาผบก.ตม.3  ได้มอบนโยบาย และกำชับการปฏิบัติราชการให้แก่หน่วย ดังนี้

1. ให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดทุกนายถือปฏิบัติตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. 

2. ด้านกำลังพลกำชับความมีระเบียบวินัยความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ มีความรู้ด้านการปฎิบัติหน้าที่

3. ด้านอาคารสถานที่ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยความสะอาดของหน่วยงานจัดเป็นสัดส่วนพร้อมให้บริการประชาชน

4.ด้านวัสดุครุภัณฑ์ดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานซ่อมแซมพัฒนาปรับปรุงให้มีความพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา

5.การแต่งกายให้เป็นระเบียบทรงผมเครื่องแบบรองเท้าขัดเงา

6. กำชับข้าราชการตำรวจห้ามีพฤติกรรมข่มขู่รีดไถกรรโชกซับข่มเหงรังแกประชาชนห้ามเข้าไปเกี่ยวข้อง มีผลประโยชน์กับการกระทำผิดกฏหมาย

7.กำชับการปฏิบัติตามนโยบาย บก.ตม.3 ( 3's : Service  Smart Smile)

ทางด้าน พ.ต.อ.นเรนทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเดินทางมาตรวจเยี่ยมของ ผบก.ตม.3 ในครั้งนี้ได้มาชี้แจงการปฏิบัติหน้าที่และกำชับให้ปฏิบัติตามนโยบายของ  พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.,พล.ต.ท. ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. อย่างเคร่งครัด ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงานอย่างเข็มแข็งมีประสิทธิภาพ รวมถึงให้ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมาย ข้อบังคับต่าง ๆ พร้อมทั้งได้สอบถามปัญหาและอุปสรรค ข้อขัดข้องต่าง ๆ ตลอดจนให้ปฏิบัติตามาตรการสาธารณสุข พร้อมให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน 

สตม.ชี้แจงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองตามข่าวที่ปรากฎ คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงและเป็นการเข้าใจผิด

ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์กรณี “แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวย่านดอนเมือง แจ้งดำเนินคดี  6 ตำรวจ ตม. ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หมิ่นประมาท ข่มขู่ หลังเข้าขอตรวจใบอนุญาตทำงานของลูกจ้าง แต่ไม่แสดงบัตรประจำตัวและปรับเกินกว่าความเป็นจริง” สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขอชี้แจงว่า กรณีดังกล่าว เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจริง โดยเป็นการปฏิบัติไปตามอำนาจหน้าที่ทุกประการ มิได้มีการกลั่นแกล้งหรือกระทำการใดๆ ที่นอกเหนือกฎหมาย ทั้งนี้ ขอชี้แจงให้ทราบตามประเด็นที่ปรากฎในข่าว ดังนี้

1. ประเด็น การไม่แสดงบัตรประจำตัวและการดำเนินการจับกุม 
กรณีการไม่แสดงบัตรประจำตัวของเจ้าหน้าที่นั้น ในข้อเท็จจริง เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงร้านดังกล่าว พบบุคคลคล้ายคนต่างด้าวอยู่ภายในบริเวณร้าน จึงเข้าทำการตรวจสอบโดยมีชายไทยแสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน เจ้าหน้าที่ได้แสดงตนพร้อมบัตรประจำตัวเพื่อขอเข้าตรวจสอบภายในร้าน ต่อมาได้มีหญิงไทยซึ่งเป็นผู้ร้องและอ้างตัวเป็นเจ้าของร้าน ได้เดินเข้ามาภายในร้านและหยิบบัตรประจำตัวที่ห้อยอยู่ที่คอของเจ้าหน้าที่ไปดูแล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลดอนเมืองมาถึง เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองแสดงตนพร้อมบัตรประจำตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าว 

ส่วนการดำเนินการจับกุมคนต่างด้าวทั้ง 3 ราย ในวันที่เกิดเหตุนั้น เป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองตรวจพบคนต่างด้าวซึ่งไม่ปฏิบัติตาม มาตรา 37 (2) , (3) แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จากนั้น ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน. ดอนเมือง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และต่อมาพนักงานสอบสวนได้ทำการเปรียบเทียบปรับคนต่างด้าวรายละ 4,000 บาท รวม 3 ราย เป็นเงินค่าปรับตามกฎหมายทั้งสิ้น 12,000 บาท โดยมีใบเสร็จค่าปรับที่ทางราชการ (สน.ดอนเมือง) ออกให้ ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบปรับโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 76 (อัตราโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท) ประกอบมาตรา 84 แห่งพ.ร.บ คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และบันทึกคณะกรรมการเปรียบเทียบ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2541 ข้อ 13 ที่กำหนดไว้ว่า “...ถ้าผู้กระทำผิดถูกจับกุมตัวมาไม่ว่ากรณีใดๆ ให้พนักงานสอบสวนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการเปรียบเทียบปรับไม่ต่ำกว่า 4,000 บาทและปรับอีกวันละ 200 บาท จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง” ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เปรียบเทียบปรับในอัตราที่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด 

2. ประเด็น ปรับเกินกว่าความเป็นจริง 
กรณีกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ปรับคนต่างด้าวในอัตราที่สูงถึงรายละ 4,000 บาท ทั้งที่สามารถเปรียบเทียบปรับในระดับที่ต่ำกว่าโดยสามารถเปรียบเทียบปรับได้ในอัตรารายละ 800 บาท นั้น  สตม.ขอเรียนว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เนื่องจากการเปรียบเทียบปรับกรณีนี้เป็นการดำเนินคดีกับ ตัวคนต่างด้าวที่กระทำผิดตามมาตรา 37 (2) , (3) โดยกำหนดโทษไว้ในมาตรา 76 แห่ง พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 (ตามรายละเอียดในข้อที่ 1.) แต่กรณีการเปรียบเทียบปรับในอัตรา 800 บาท เป็นกรณีการดำเนินคดีกับเจ้าของสถานที่ที่รับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยโดยไม่ได้แจ้งการรับคนต่างด้าวเข้าพักต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 38 กำหนดโทษไว้ในมาตรา 77 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522  ประกอบบันทึกคณะกรรมการเปรียบเทียบ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2541 ข้อ 14 ซึ่งเป็นคนละกรณีและเป็นความผิดคนละมาตรา จึงอาจจะทำให้ผู้ร้องเข้าใจผิดหรือเข้าใจข้อกฎหมายคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง

ตม.ยืนยัน ภาพต่างชาติแน่นสุวรรณภูมิ ของจริง!! แต่มั่นใจ 'ตรวจสอบ-อำนวยความสะดวก' อยู่หมัด

จากกรณีมีการเผยแพร่ภาพ ผู้โดยสารปริมาณหนาแน่นมากบริเวณจุดรอเข้ารับการตรวจหนังสือเดินทางขาเข้า ด่าน ตม.สนามบินสุวรรณภูมิ โดยขึ้นหัวว่า "สุวรรณภูมิแตก นักท่องเที่ยวแห่เข้าไทย" และวิจารณ์ว่า เป็นภาพสถานการณ์ที่ไม่เคยปรากฏมานานนับตั้งแต่สถานการณ์โควิดระบาดรุนแรงเกือบ 3 ปีนั้น

เมื่อวานนี้ (1 พ.ย. 65) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ศท.ตม. ในฐานะโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้เปิดเผยว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพผู้โดยสารที่กำลังรอรับการตรวจหนังสือเดินทางที่ ขาเข้า ด่าน ตม.สนามบินสุวรรณภูมิ 'จริง'

โดยได้รับข้อมูลจาก ตม.ขาเข้า ว่า เหตุดังกล่าว เป็นสถานการณ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 ต.ค. 2565 ช่วงเวลา 13.00 – 17.00 น. ซึ่งมีเที่ยวบินลงถึง 76 เที่ยวบิน หรือ ชั่วโมงละประมาณ 20 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารเฉลี่ยชั่วโมงละ 3,000 ถึง 4,000 คน หนาแน่นสุดคือช่วง 14.00 - 16.00 น. 

จากสถานการณ์ดังกล่าว ทาง พล.ต.ต.มนตรี ปานเจริญ ผบก.ตม.2 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.หญิง รุ่งทิพย์ เข็มทอง ผกก.ฝ่าย ตม.ขาเข้าฯ จัดกำลังพลรองรับสถานการณ์ดังกล่าวเต็มกำลังทุกช่องตรวจ จนสามารถระบายผู้โดยสารให้เข้ารับการตรวจเฉลี่ยอย่างช้าไม่เกิน 1 ชม. 

โดยทาง จนท.ตม.ใช้เวลาในการตรวจข้อมูลหนังสือเดินทาง ตรวจวีซ่า เก็บข้อมูลบุคคลด้วย Biometric และ เปรียบเทียบข้อมูล Blacklist ใช้เวลาเฉลี่ยไม่เกิน 45 วินาทีต่อคน ซึ่ง จนท.ตม.ต้องระมัดระวังบุคคลต่างชาติแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้ามากระทำผิด โดยเฉพาะกลุ่มคอลเซนเตอร์ หรือ ก่อเหตุความวุ่นวายในช่วง APEC ที่จะถึงนี้ 

ทั้งนี้ พล.ต.ต.เชิงรณฯ ยืนยันว่า ทาง พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.ได้ให้ความสำคัญ กับการอำนวยความสะดวกในการตรวจหนังสือเดินทางภายใต้หลักความมั่นคง นับตั้งแต่รัฐบาลเปิดประเทศ เมื่อ 1 พ.ย. 2564 ซึ่งทาง บก.ตม.2 ในฐานะที่รับผิดชอบ ด่าน ตม.สนามบินหลัก ได้มีมาตรการรับสถานการณ์ที่สำคัญ ได้แก่...

PCT ร่วมกับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว และ บช.สอท. เปิดปฏิบัติการทลายแก๊งเว็บพนันจีน ลักลอบใช้เมืองไทยเป็นฐานการพนัน จับกุมพนักงานเว็บจีนกว่า 56 คน

ด้วยเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร.ร่วมกับ สตม., บช.ทท.และ บช.สอท.สืบทราบว่า มีกลุ่มชาวต่างชาติชาวจีนได้ลักลอบใช้เมืองไทยเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ชื่อ เห่อชิง (HengXin) และ คายยุน (Kaiyun) มีพนักงานกว่า 50 คน อยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ สวนหลวง และหัวหมาก กทม.จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานทำการขออนุมัติหมายค้นหอพักดังกล่าว และศาลอาญาพระโขนงอนุมัติหมายค้นให้เข้าทำการตรวจค้นในวันที่ 28 ต.ค. 2565

ต่อมาวันที่ 28 ต.ค.2565 เวลา 12.00 น.เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. ร่วมกับ สตม., บช.ทท.,บช.สอท.
ได้ร่วมกันนำกำลังเข้าตรวจค้นอาคารเป้าหมายตามหมายค้น ปรากฏว่าพบคนจีนและคนมาเลเซียจำนวนหนึ่งกำลังทำงานเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ โดยทำหน้าที่ควบคุมดูแลความเรียบร้อยและดูแลระบบเซิร์ฟเวอร์ ต่อมาได้ขยายผลและพบว่ากลุ่มคนร้ายอีกจำนวนหนึ่งไปทำงานที่หอพักอีกแห่งหนึ่งบริเวณ แขวง หัวหมาก เขต บางกะปิ กทม. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาบางส่วนเข้าขยายผล ซึ่งจากการเข้าตรวจค้นพบกลุ่มคนจีนอีกกว่า 56 คน ทำงานเป็นแอดมินเว็บไซต์พนันออนไลน์ทำหน้าที่ชักชวนลูกค้าชาวต่างชาติให้เข้าเล่นผ่านแอพพลิเคชั่นโซเชียล Let’s Talk และ Telegram

‘บิ๊กโจ๊ก’ แจง เป็นหน้าที่ ตม. คุมตัว ‘ทักษิณ’ ส่งศาลตามหมายจับ เผย ยังไร้ข่าวป่วนของกลุ่มการเมือง กำชับเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเข้ม

(27 ก.ค. 66) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เปิดเผย ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับไทยในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ในฐานะอดีต ผบช สตม. ว่า สำหรับกรณีผู้ที่มีหมายจับและคดียังอยู่ในอายุความ ตามหลักการแล้วหมายจับจะแสดงในระบบฐานข้อมูลของด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินอยู่แล้ว ซึ่งหมายความว่า เมื่อนายทักษิณเดินทางเข้ามาผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในสนามบิน ระบบจะปรากฏข้อมูลหมายจับของศาล ให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหน้าด่านตรวจนั้นๆ ทราบทันที หน้าที่ของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองคือ จะต้องแจ้งให้บุคคลนั้นทราบ และควบคุมตัวต้องหาส่งให้กับศาลตามหมายจับ

ซึ่งขั้นตอนหลังจากนั้น ก็ขึ้นอยู่กับคำสั่งศาล ว่า มีคำสั่งดำเนินการอย่างไรต่อผู้ต้องหาขณะเดียวกัน ในกรณีเดินทางเข้าเมืองโดยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว แล้วลงจอดในสนามบินอื่น เช่น บน.6 ของกองทัพอากาศ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับสนามบินดอนเมือง ก็จะต้องผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองเช่นเดียวกับการทางเข้าเมืองผ่านสนามบินทั่วไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยต่อว่า ส่วนด้านการข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ ขณะนี้ยังไม่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มใดและยังไม่พบการข่าวที่น่ากังวล แต่เจ้าหน้าที่จะเฝ้าระวังไปจนถึงช่วงเวลาที่นายทักษิณจะเดินทางกลับ ตลอดจนช่วงเวลาหลังเดินทางกลับไทยแล้ว

'สตม.' จัดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ให้บริการ Mobile Service ตรวจคนเข้าเมืองเคลื่อนที่แก่นักท่องเที่ยว บริเวณถนนข้าวสาร

ตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ สตม. จัดกิจกรรมตามโครงการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. 

เมื่อวานนี้ศุกร์ ที่ 22 ธันวาคม 2566 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล  อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. พล.ต.ต.ภานุมาศ บุญญลักษณ์ รอง ผบช. สตม. , พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช. สตม. , พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบช. สทส.ปรก.รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช. สตม. , พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา รองผบช. สตม. , พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ รอง ผบช. สอท. ปรก.รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ รอง ผบช.สตม. มอบหมายให้ พล.ต.ต.ประสาธน์  เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 , นำข้าราชการตำรวจจิตอาสาในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จำนวน 70 คน มาร่วมทำกิจกรรมจิตอาสา พระราชทาน 904 วปร. “เราทำความดี   ด้วยหัวใจ” โดย กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ได้เปิดให้บริการ Mobile service เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว บริเวณถนนข้าวสาร และพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีการให้บริการ ดังนี้

1.บริการขออยู่ต่อเพื่อการท่องเที่ยวประเภท ผ.30 , ผผ.30 และ TR.

2.บริการ Re-entry permit งานอนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก

3.บริการการรับแจ้งอยู่เกิน 90 วัน

4.บริการรับแจ้งที่พักอาศัย ตาม ม.38

ผบช.สตม. ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์หลักของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับประชาชนในทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิดในทุกมิติ บริเวณถนนข้าวสารเป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยว นอกจากมาให้บริการประชาชนแล้ว ยังเป็นการสอดส่องดูแลความปลอดภัย ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อป้องกันอาชญากรข้ามชาติ ซึ่งอาจจะแฝงตัวเข้ามาในประเทศไทยของเราอีกทางหนึ่งด้วย 

กิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้ยังถือเป็นโอกาสที่ดีในการประชาสัมพันธ์โครงการต่างๆของ สตม. อาทิเช่น การขออนุญาตเพื่ออยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ “e-Extension” คนต่างด้าวสามารถดำเนินการกรอกข้อมูลได้ด้วยตนเองตลอดเวลา ผ่านระบบออนไลน์บนอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บไซต์ และเข้ามาพบเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันตัวบุคคล และรับสติ๊กเกอร์วีซ่าโดยใช้เวลาไม่เกิน 3 นาทีเท่านั้น

หลังจากกิจกรรมเสร็จสิ้นก็มีการทำความสะอาด บริเวณการให้บริการ และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ แก่ส่วนรวม

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิม พระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

'สุริยะ' สั่ง 'ทอท.' เร่งแก้ระบบ ตม.สุวรรณภูมิ หลังระบบตรวจคนเข้าเมืองติดขัด แนะ!! ดึงระบบ Manual ช่วย พร้อมดูแล 'อาหาร-เครื่องดื่ม' แก่ผู้โดยสาร

(24 ม.ค. 67) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีระบบตรวจคนเข้าเมือง (Biometrics) ท่าอากาศยานสุวรรณูมิเกิดขัดข้อง วันนี้ (24 ม.ค. 67) ว่า ได้สั่งการไปยังบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3 เรื่องเร่งด่วนต่อกรณีดังกล่าว ประกอบด้วย 

1.ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขระบบตรวจคนเข้าเมืองเกิดขัดข้องโดยด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางของผู้โดยสาร 

2.มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินการตรวจคนเข้าเมืองด้วยระบบ Manual 

และ 3.มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมอาหาร และเครื่องดื่ม คอยให้บริการผู้โดยสารอย่างเต็มที่

ด้านนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวถึงกรณีที่ระบบตรวจคนเข้าเมือง (Biometrics) เกิดขัดข้อง และอยู่ระหว่างการแก้ไข ขณะนี้ตนได้ลงพื้นที่พบว่าเป็นผลกระทบในส่วนของช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ หรือ Automatic Channel ไม่สามารถตรวจได้ ทำให้เกิดคิวสะสมบริเวณจุดตรวจคนเข้าเมือง

อย่างไรก็ตาม ทอท.ได้สั่งการให้บุคลากรของ ทอท.อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร อีกทั้งได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบข้อมูลตรวจคนเข้าเมืองด้วยระบบ Manual และใช้ระบบ APPS ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คัดกรองบุคคลที่อาจมีหมายจับ และ Overstay เพื่อเร่งระบายผู้โดยสารโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อการขึ้นเครื่อง

“ตอนนี้พบว่ามีความแออัดอยู่หน้าด่านบ้าง มีคิวสะสม แต่ก็พบว่าขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองใช้เวลาไม่นาน เพราะ ทอท.ได้เพิ่มบุคลากรเข้ามาอำนวยความสะดวก และทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่มาให้บริการด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกช่องบริการ ซึ่งสามารถลดความแออัดไปได้มาก และพบว่าขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินใด” นายกีรติ กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top