Tuesday, 7 May 2024
ตม

'ตำรวจ' ปลอมตัวเป็น นทท. บุกข้าวสาร รวบแก๊งเมียนมา ลอบเข้าเมือง เปิดร้านขายโรตี-เคบับ แย่งอาชีพคนไทย

(8 ก.พ. 66) ว่าที่ พ.ต.อ.กาจภณ ปฐมัง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าภายในถนนข้าวสารและซอยรามบุตรี แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ว่ามีคนต่างด้าวจำนวนมาก มาเปิดร้านในลักษณะรถเข็น ขายโรตีและเคบับ ซึ่งเป็นอาชีพต้องห้าม แย่งอาชีพคนไทย

ต่อมาวันที่ 7 ก.พ. 66 จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 ตรวจสอบ และประชุมวางแผน เพื่อดำเนินการเข้าตรวจสอบจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน บก.ตม.1 อำพรางตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้าไปตรวจสอบตามที่ประชาชนให้เบาะแส พบว่าภายในซอยรามบุตรีมีคนต่างด้าวมาเปิดร้านขายโรตีและเคบับจำนวนหลายร้าน จึงแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พร้อมแสดงบัตรประจำตัวให้คนต่างด้าวดู

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบนั้น คนต่างด้าวหลายรายไหวตัวทันและวิ่งหลบหนีไป ทิ้งไว้เพียงรถเข็นขายของ จึงควบคุมตัวคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไว้ได้ 11 ราย ได้แก่

1.) นายทะอ่อง อายุ 21 ปี, 2.) นาย โมยัมเอ อายุ 20 ปี, 3.) นาย ฮงทาย อายุ 33 ปี, 4.) นายอู อายุ 25 ปี, 5.) นาย โทเร อายุ 19 ปี, 6.) นาย มีโส อายุ 30. ปี, 7.) นาย ออจุน อายุ 33 ปี, 8.) น.ส.เลเนวี อายุ 29 ปี, 9.) น.ส.สาเน ทุย อายุ 33 ปี, 10.) น.ส.แวว อายยุ 46 ปี และ 11.) น.ส.มูมู อายุ 28 ปี

ซึ่งระหว่างการตรวจสอบคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาทั้ง 11 ราย ไม่สามารถแสดงเอกสารหนังสือเดินทางและใบอนุญาตทำงานให้เจ้าหน้าที่ดูได้

ทั้งนี้ การเร่ขายสินค้านั้นเป็นงานต้องห้าม คนต่างด้าวไม่สามารถทำได้ อันเป็นความผิดตามมาตรา 8 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 ทั้งหมดยอมรับว่าได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทางพรมแดนที่ติดกับประเทศไทย และเข้ามาเปิดร้านขายโรตีและเคบับ รวมถึงสินค้าอื่น ๆ โดยมีลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีรายได้เฉลี่ยต่อวันยังไม่หักต้นทุนถึง 1,000-1,500 บาท สร้างความเดือดร้อนให้คนไทยที่ค้าขายอย่างถูกต้องในบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก

ไม่เข็ด!! ‘ตม.ปทุมฯ’ รวบ 3 คนไทย ช่วย ‘ชาวจีน’ ลักลอบเข้าเมือง 1 ใน 3 สารภาพ เพิ่งถูกจับข้อหาเดียวกันเมื่อเดือนที่แล้ว

(6 มี.ค. 66) ตามนโยบายของ ผบ.ตร., ผบช.สตม.และ ผบก.ตม.3 ในการกวาดล้างอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคนต่างด้าว โดยเฉพาะในความผิดและผู้ช่วยเหลือสนับสนุนการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2566 พ.ต.อ.เจริญพงษ์ ขันติโล ผกก.ตม.จังหวัดปทุมธานี สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนปราบปราม ตม.จังหวัดปทุมธานี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส.และ สภ.คลองหลวง ร่วมตรวจสอบคนต่างด้าวสัญชาติจีน 1 ราย พร้อมด้วยคนไทย ซึ่งให้การช่วยเหลือให้คนต่างด้าวดังกล่าว ซึ่งเข้าเมืองมาผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม

ผู้ถูกจับรับว่า ได้เดินทางมาจากพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อนำคนต่างด้าวไปส่งในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้รับค่าจ้าง 20,000 บาท โดยใช้รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์เป็นยานพาหนะ และรถยนต์เก๋งเป็นรถนำทาง ซึ่งมีการให้สัญญานระหว่างรถทั้งสองคันตลอดการเดินทาง เพื่อหลบเลี่ยงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับแจ้งพฤติการณ์ต้องสงสัยรถคันดังกล่าว จึงได้ติดตามอย่างกระชั้นชิด และเข้าตรวจค้นยานพาหนะทั้งสองคัน พบการกระทำความผิด จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

‘บิ๊กโจ๊ก’ แจง เป็นหน้าที่ ตม. คุมตัว ‘ทักษิณ’ ส่งศาลตามหมายจับ เผย ยังไร้ข่าวป่วนของกลุ่มการเมือง กำชับเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเข้ม

(27 ก.ค. 66) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เปิดเผย ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับไทยในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ในฐานะอดีต ผบช สตม. ว่า สำหรับกรณีผู้ที่มีหมายจับและคดียังอยู่ในอายุความ ตามหลักการแล้วหมายจับจะแสดงในระบบฐานข้อมูลของด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินอยู่แล้ว ซึ่งหมายความว่า เมื่อนายทักษิณเดินทางเข้ามาผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในสนามบิน ระบบจะปรากฏข้อมูลหมายจับของศาล ให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหน้าด่านตรวจนั้นๆ ทราบทันที หน้าที่ของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองคือ จะต้องแจ้งให้บุคคลนั้นทราบ และควบคุมตัวต้องหาส่งให้กับศาลตามหมายจับ

ซึ่งขั้นตอนหลังจากนั้น ก็ขึ้นอยู่กับคำสั่งศาล ว่า มีคำสั่งดำเนินการอย่างไรต่อผู้ต้องหาขณะเดียวกัน ในกรณีเดินทางเข้าเมืองโดยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว แล้วลงจอดในสนามบินอื่น เช่น บน.6 ของกองทัพอากาศ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับสนามบินดอนเมือง ก็จะต้องผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองเช่นเดียวกับการทางเข้าเมืองผ่านสนามบินทั่วไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยต่อว่า ส่วนด้านการข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ ขณะนี้ยังไม่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มใดและยังไม่พบการข่าวที่น่ากังวล แต่เจ้าหน้าที่จะเฝ้าระวังไปจนถึงช่วงเวลาที่นายทักษิณจะเดินทางกลับ ตลอดจนช่วงเวลาหลังเดินทางกลับไทยแล้ว

‘สาว’ แชร์ประสบการณ์แฟนติด ‘ตม.เกาหลีใต้’ ก่อนโดนส่งตัวกลับไทย เหตุภาษาไม่ได้-ไม่มีศักยภาพมาเที่ยว แนะ ใครจะมาต้องสื่อสารให้รู้เรื่อง

(30 ก.ย.66) เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นร้อนที่หลายคนพากันเข้าไปอ่านจำนวนมาก กับปัญหา ‘ตม.เกาหลี’ หรือ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของสาธารณรัฐเกาหลี กับนักท่องเที่ยวชาวไทยแลนด์แดนสยามประเทศ ที่ล่าสุดก็เกิดเหตุการณ์บินไปถึงสถานที่แล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องตีตั๋วกลับโดยพลันชนิดฟ้าผ่า คล้ายทำนองเดียวกับที่ บิว วราภรณ์ ยูทูบเบอร์ อินฟลูเอนเซอร์ ไปติด ตม.เกาหลี ส่งตัวเข้าห้องเย็น ให้นอนหนาวทั้งคืน สุดท้ายถูกส่งกลับประเทศด้วยสภาพน้ำตานอง

โดยประสบการณ์ติด ตม.เกาหลีใต้ ที่กำลังเป็นไวรัลวิพากษ์วิจารณ์สนั่น เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (28 ก.ย.) หลังจากมีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมารีวิวประสบการณ์ที่เธอกับคนรักได้โอกาสเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศดังกล่าว แต่ก็ต้องมาเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น

ซึ่งโพสต์ดังกล่าวได้ลงเนื้อหาทั้งหมดไว้ผ่านกลุ่มเฟซบุ๊กกลุ่ม คนชอบตะลอนเที่ยวเกาหลี ซึ่งมีสมาชิกกว่า 200,000 ราย ข้อความว่า รีวิวการเดินทางเข้าประเทศเกาหลีรีวิวตมเกาหลีกันค่ะ เราแต่งตัวแบบนี้ไปนะคะ แล้วก็มีกระเป๋าน้องเหลืองแบบนี้แหละไปเลย โหลดใต้เครื่อง ตม.ถามแป้งแค่ 2 ประโยคนะคะแล้วแป้งก็ผ่านเลย…

How long you stay here? ตอบ 4 days

This is your hotel, right? พร้อมกับหันแผ่น Arrival card มาที่เรา ตรงช่องที่อยู่ที่เราเขียน

ตอบ Yes…For the 2 first night and the second one is ibis ambassador Myeongdong.

จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ติดแสตมป์ให้แล้วยื่น พาสปอร์ต ผ่านไปได้เลยค่า (เจ้าหน้าที่ผู้หญิงค่ะ)

แต่ของแฟนเราไม่ผ่าน เพราะตอบคำถามตม.ได้ไม่เคลียร์ โดนส่งกลับไทย ด้วยความที่เดินทางครั้งแรก นางเลยตื่นเต้น รู้ทั้งรู้ว่าจะตอบอะไร แต่ปากดันไปตอบไม่รู้ แฟนก็บ่นว่า งงตัวเองโมโหตัวเอง แต่ถือว่าได้เรียนรู้ ไว้มาแก้ตัวใหม่

เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า ‘ไม่มีศักยภาพมากพอที่จะเที่ยวประเทศเขาค่ะ’ และ ‘ไม่สามารถระบุรายละเอียดแจกแจงได้อย่างชัดเจน’ เลยส่งกลับไทย

Additional** จน.บอกแฟนอีกว่า แฟนดูไม่มีความพร้อมที่จะเข้ามาท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลี การสื่อสารไม่สามารถเอาตัวรอดได้** ประมาณนี้เลย ที่จำ ๆ ได้

ย้ำว่ามันเป็น Case แล้วแต่บุคคล ไม่อยากให้คนอ่าน อ่านแล้วคิดว่าตัวเองจะเจอแบบนี้ แค่อยากเป็นอีกนึงประสบการณ์บอกเล่า ไม่ต้องเชื่อ 100% นะคะว่าทุกคนจะเจอเหมือนกัน เพราะคนละคน คนละกรณี

ส่วนตัวเราเข้าใจทั้งตัวแฟนแล้วก็เข้าใจทางเจ้าหน้าที่นะคะ ว่าทำไมเขาถึงส่งกลับแล้วก็เข้าใจแฟนมาก ๆ เพราะว่ามันเป็นครั้งแรกของเขา แล้วก็เขาเป็นคนที่ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษขนาดนั้นแบบฟิลเหมือนว่าเราตื่นเต้นมาก ๆ แล้วพอเราทำอะไรผิดไปครั้งแรกปุ๊บทุกอย่างมันก็จะล้ม ๆ ไปหมดเลย

ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นเราก็ซ้อมก็คุยกันมาค่อนข้างเยอะ เขาโอเคเขาเข้าใจหมดว่าเราจะไปไหนทำอะไรแต่พอไปอยู่หน้าตม.จริงๆ อ่ะ คือเหมือนเขาตื่นเต้นด้วยความที่แบบเพิ่งลงจากเครื่อง

อะไร ๆ ก็แล้วแต่มันเลยทำให้แบบพอได้ทำพลาดไป 1 ครั้ง มันก็คือแตกตื่นไปหมดเลย … ก็เลยคุยกันว่า ถือว่าเป็นบทเรียนอย่างน้อย เขาก็ไม่ได้ห้ามเราเข้าประเทศตลอดไป เขาก็บอกว่าเออเราไม่มีประสิทธิภาพพอเฉยๆ ก็ไว้ครั้งหน้าเราก็อุดรอยรั่วทำทุกอย่างใหม่ก็แค่นั้น ปลอบใจกันไป

ดังนั้นนะคะใครที่จะเข้าเกาหลีเนี่ย แต่งตัวดีอาจจะมีส่วนก็ได้แต่ว่าที่แน่ ๆ คือต้องสื่อสารให้รู้เรื่องค่ะให้ชัดเจนว่า จะไปไหน ทำอะไร มายังไงแบบไหน ซึ่งข้อมูลพวกนี้มันเป็นข้อมูลพื้นฐานเลยเพราะว่าเราไม่ได้อยู่ประเทศตัวเองอ่ะ

เพราะฉะนั้นเวลาเราไปเที่ยวต่างประเทศเราต้องรู้ว่าเราจะไปไหนทำอะไรเพื่อที่เราจะได้มีชีวิตรอดในเกาหลีค่ะ แล้วก็สกิลภาษาก็สำคัญ เพราะว่าภาษาอังกฤษของเราถ้ามันอ่อนมากๆ สื่อสารไม่รู้เรื่องเนี่ย มันก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เจ้าหน้าที่เริ่มคิดแล้วว่าเออควรส่งเขากลับไม่ควรให้เข้ามาในเกาหลี เพราะกลัวว่านักท่องเที่ยวคนนี้จะเอาตัวรอดไม่ได้

2. เนี่ยจำนวนเงินก็สำคัญค่ะ มากไปก็ไม่ดีน้อยไปก็ไม่ได้นะคะ ก็ต้องแบบพอดีพอกัน แจกแจงให้ชัดเจนว่า มีทั้งเงินสดมีทั้งเงินในการ์ดอะไรยังไง…

แต่ทั้งนี้สุดท้ายมันก็อาจจะขึ้นกับดวงก็ได้นะคะ เพราะว่าทุกอย่างที่เขียนมาเนี่ยมันก็เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัว จากประสบการณ์ของแป้งเองนะ ไม่ได้แบบรู้ลึกรู้จริงอะไร เล่าจากประสบการณ์ที่เจอมาแล้ว ก็เล่าจากความคิดเห็นของตัวเองนะคะ ขอย้ำว่าเป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของเรา เพราะว่ามันก็มีรีวิวว่าแบบบางคนเขาทำทุกอย่างถูกต้องหมดเลยมีทุกอย่างแจกแจงได้หมดแต่ก็ยังโดนส่งกลับเราก็ไปเจอรีวิวนี้มาเหมือนกันเพราะฉะนั้นดวงก็อาจจะมีส่วนก็ได้ค่ะ #สู้ๆนะคะ”

นอกจากนี้ หญิงสาวเจ้าของเรื่องก็ยังเข้ามาอธิบายเพิ่มเติม ถึงกรณีถูกส่งตัวกลับนั้นมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วย โดยเธอให้คำตอบไว้ว่า “เคสส่งกลับ เจ้าหน้าที่ฯ จะไปหาตั๋วที่กลับไทยด่วนที่สุดให้เรา และดีลกับสายการบินราคาที่ถูกที่สุดให้ค่ะ และคนที่โดนส่งกลับจะอยู่ในสนามบินตลอด ออกไปไหนไม่ได้ ขากลับก็จะพาไปส่งโซนรอขึ้นเครื่องเลยค่ะ

ส่วนกระเป๋าเขาก็จะส่งกลับไปให้ด้วย และค่าตั๋วจ่ายเงินสด เงินไทยหรือเงินวอนเท่านั้น ไม่รับโอน รูด หรือเครดิตการ์ดใดๆ เงิน us, aud ก็ไม่รับค่ะ ค่าตั๋วที่จ่ายล่าสุดคือ 90,000 วอน”

เปิดมุมมอง ‘คนไทยเที่ยวเกาหลี’ กับเสี้ยววินาทีปะทะ ตม.แล้วรอดผ่าน ขอแค่มั่นใจ ตอบไปตรงๆ เพราะเขารอชมทักษะเอาตัวรอดของเรา

(26 ก.พ.67) จากเพจ ‘Korea visa : วีซ่าเกาหลี’ ได้โพสต์ประสบการณ์ในการไปเที่ยวเกาหลี แล้วต้องเจอกับด่านหินอย่างตรวจคนเข้าเมืองของที่นั่น แต่ก็สามารถเอาตัวรอดผ่านไปได้ด้วยวิธีนี้ ว่า…

ใครๆ ก็กลัว ตม.เกาหลี 🤣🤣🤣 นี่ขนาดพี่ๆ VIP ด้วยกันยังกลัว โอ๊ยยยยยไม่ต้องกลัววววว จริงๆ ใครว่าดวงแล้วแต่ดวง ขอเถียง นี่ว่าเค้าดูปฏิกิริยาการตอบคำถามของเราอ่ะ 

PS. เล่าที่เจอเป็นประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ อาจจะไม่ตรงใจใครหลายๆ คน หรือบางคนอาจจะไม่เจอแบบนี้ หากผิดพลาดตรงไหนโปรดขออภัยค่ะ ถือว่าแชร์ประสบการณ์

ทุกคนที่ไปเกาหลีเวลาผ่าน ตม. อาจจะคิดว่า เออดวง แล้วแต่ดวง จริงๆ อาจจะดวงส่วนหนึ่งค่ะ แต่นี่คิดว่า ตม. เขาดูปฏิกิริยา ตอนเดินผ่านช่อง และการตอบคำถามของเรามากกว่า ตอบคำถามชัดเจนไหม เบสิกของคำถามที่เจอ…

- มาทำไม?
- มากับใคร?
- มากี่วัน?
- พักที่ไหน?
- มีตั๋วไปกลับไหม?
- อาชีพอะไร?

บางท่านอาจจะได้เข้าห้อง นี่ก็มี ตม. ที่นั่งในห้อง 3 ท่านคอยสังเกตปฏิกิริยาเราเลยค่ะ อยู่มุมๆ ลองสังเกตดูค่ะ ใครว่าดวงนี่เถียงสุด

#ห้ามคุยกับคนไม่รู้จักเด็ดขาด เพราะเขาจะเข้าใจว่ามาด้วยกัน ณ จุดนั้นเราเชื่อใจใครไม่ได้นะคะ เราไม่รู้หรอกใครจะมาเที่ยว ใครจะโดด ข้อห้ามคือห้ามคุยกับคนไม่รู้จักเด็ดขาดค่ะ 

บางท่านอาจจะเจอคำถามแปลกๆ เป็นต้นว่าหน้าโรงแรมที่พักมีต้นไม้กี่ต้น 5555555 ใครจะไปรู้ 

จากคำถาม รู้แล้วใช่ไหมคะ ว่าเขาไม่ให้เราผ่านไปแล้วแน่ๆ เขาใช้เซนส์แบบ 1st meet เลยค่ะ ว่าคนนี้ไม่กลับแน่ๆ เราต้องใจเย็นดึงสติ ถามไปเลย “Excuse me?, Whatd wrong with me?, Please let me know and prove myself.” ถามตรงๆ ไปเลยค่ะ ว่าฉันติดปัญหาตรงไหน ไม่ต้องไปพยายามอธิบายหรือตอบคำถามค่ะ 

นี่ส่วนตัวเคยโดนถามเรื่องแพลน เราก็ตอบไปตรงๆ เลย “No plan is my plan. I just want to ralax and spend my holiday in Seoul.” ก็ผ่านปกตินะคะ 555555 ใครจะไปจำแพลนได้ขนาดนั้น จริงๆ เขาไม่ได้ต้องการคำตอบแบบเป๊ะๆ หรอกค่ะ เขาดูปฏิกิริยา Action and Reaction สกิลการเอาตัวรอดมากกว่าค่ะ  

โดนอีกคำถาม บอกเหตุผลที่คิดว่าทำไมคุณถึงจะกลับไทย? นี่ตอบไปเลย “I can’t stay aways from Thaifood longtime.” 🤣🤣🤣🤣 ตม. หัวเราะเลยค่ะ 55555 จะมี ตม. หญิงท่านนึง หน้าดุมากกก ก่อนหน้าคือได้เข้าห้องเท่าที่สายตามองเห็น 4-5 คน อยากลองของ 5555 เดินเข้าไปเลยค่ะ สบตา ยิ้มหวาน ฮันยอง คุณ ตม. ก็ถามมากี่วัน ปั๊มพาสจบ “Have a good trip.” จำไว้ว่าเรามาเที่ยวค่ะ ติด ตม. ก็ติดสิ ตั้งสติตอบคำถามดีดี 🙂 วันนี้นึกออกแค่นี้ค่ะ วันหลังจะมาเล่าใหม่


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top