Sunday, 5 May 2024
ช่อพรรณิการ์

'ช่อ พรรณิการ์' โวยลั่น ทำพาสปอร์ตใหม่ไม่ได้ ถูก สน.พญาไท สั่งเพิกถอนพร้อม 'ธนาธร-ปิยบุตร'

20 เม.ย. 65 - น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เดินทางไปทำพาสปอร์ตที่สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปทุมวัน ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง ปรากฏว่าไม่สามารถทำพาสปอร์ตได้ โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้สอบถามไปยังฝ่ายตรวจสอบประวัติ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ทำให้พรรณิการ์เดินทางไปยังกรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ เพื่อหาสาเหตุ

หลังการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ สรุปได้ว่า สน.พญาไท มีหนังสือ ที่ ตช 0015 (บก.น.1) 4/478 ลงวันที่ 19 เม.ย. 2564 เรื่องขอให้เพิกถอนหนังสือเดินทางของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และน.ส.พรรณิการ์ ลงนามโดย พ.ต.ท.บารมี วงษ์อินตา รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สน.พญาไท โดยระบุว่าทั้งสามเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 จึงขอให้เพิกถอนหนังสือเดินทาง

‘ช่อ พรรณิการ์’ เชื่อ ส.ส. - ส.ว. จะโหวตเห็นชอบ ร่างแก้ไข รธน. ปลดล็อกท้องถิ่น เข้าสภา 29-30 พ.ย.นี้

‘ช่อ พรรณิการ์’ ชวนจับตา ร่างแก้ไข รธน.ปลดล็อกท้องถิ่น จ่อเข้าสภา 29-30 พ.ย. นี้ เชื่อ ส.ส. และ ส.ว.โหวตเห็นชอบ ด้าน ‘ศิริกัญญา’ ชี้ การแบ่งรายได้ให้ท้องถิ่นเพิ่มขึ้น ต้องมีรัฐบาลที่มีเจตจำนงทางการเมืองเข้าไปผลักดัน

พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า, ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล, วราภรณ์ แสงชา วิทยากรอิสระและข้าราชการส่วนท้องถิ่น และชัชฎา กำลังแพทย์ นักศึกษาปริญญาเอก ประเทศญี่ปุ่น ที่ผลักดันด้านการกระจายอำนาจ ดำเนินรายการโดย สันติสุข กาญจนประกร ร่วมเสวนาภายใต้หัวข้อ 'หลากมิติผู้หญิงกับการกระจายอำนาจ'

พรรณิการ์ กล่าวช่วงหนึ่งว่า การคืนอำนาจบริหารท้องถิ่น กลับสู่มือประชาชนจะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ผู้หญิงเข้าสู่การเมืองมากขึ้น ยิ่งการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งทำให้ผู้หญิงมีโอกาสได้เข้าไปบริหารราชการมากขึ้น และไม่เพียงแต่ผู้หญิงจะสามารถเข้าสู่พื้นที่การเมืองได้มากขึ้น การกระจาย อำนาจ คืนอำนาจที่แท้จริงสู่ประชาชน จะทำให้ตัวแทน ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มชาติพันธุ์ หรือ กลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ เข้าไปมีบทบาทในพื้นที่การเมืองได้มากขึ้นด้วย

นอกจากนี้ พรรณิการ์ ยังระบุด้วยว่า วันที่ 29-30 พฤศจิกายนนี้คาดว่า ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม หมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือที่เรียกกันว่าร่างปลดล็อกท้องถิ่นจะเข้าสู่การพิจารณาอภิปรายกันในสภา ทั้งนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นต้องผ่านความเห็นชอบของทั้ง ส.ส. และ ส.ว. แต่ก็เชื่อว่ามีความเป็นไปได้จะผ่านความเห็นชอบ ซึ่งขนาดร่างสุราก้าวหน้า เพื่อปลดล็อกสุราพื้นบ้าน ยังขาดอีกแค่เพียง 2 เสียงเท่านั้นในวาระที่ 2 ขนาดเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทุนใหญ่ด้วย แต่รอบนี้ ประเด็นเรื่องการกระจายอำนาจ หากไปดูสมาชิกรัฐสภา ทั้ง ส.ส. ส.ว. จำนวนมากมีความผูกพันกับการเมืองท้องถิ่น หลายคนก็เคยเป็นนายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกันมาก่อนอีกทั้ง ส.ว. หลายคน พรรคการเมืองหลายพรรคก็เคยประกาศว่าเอาด้วยกับการกระจายอำนาจ มีนโยบายที่เคยใช้หาเสียง และหลายคนก็เข้าใจความเจ็บปวดของการเป็นรัฐรวมศูนย์ รวมอำนาจเอาไว้ที่ส่วนกลาง ที่สร้างปัญหาอุปสรรคไม่ใช่แค่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังสร้างปัญหาและอุปสรรคในวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากไฟถนนเสีย ถนนผุพัง ประชาชนไม่รู้เลยว่าเขาต้องไปติดต่อใคร จะเป็น อบต. หรือเทศบาล ซึ่งโดยมากก็ไปหา อบต. เทศบาล แต่พบว่าถนนหลายเส้นอยู่ในอำนาจของกระทรวงคมนาคม กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท ที่อยู่ส่วนกลาง กลายเป็นว่าปัญหาไม่ถูกแก้หรือแก้ล่าช้า 

“เราหวังว่า ส.ส. และ ส.ว. จะโหวตเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่น วางอคติทางการเมืองและเห็นแก่ผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ และที่สำคัญจะเป็นข้อพิสูจน์ว่า สิ่งที่พูดกับสิ่งที่ทำสอดรับกันหรือไม่ ไม่ใช่พูดอย่าง แต่พอถึงเวลาต้องแก้ไขกฎหมายที่ทำให้เกิดการกระจายอำนาจมากขึ้น คืนอำนาจกลับสู่ประชาชนในพื้นที่ กลับไม่ยอมลงมติเห็นชอบ ถ้าเป็นเช่นนั้นประชาชนต้องช่วยกันติดตามและจดจำเอาไว้ว่าใครเป็นเช่นใด การกระทำกับคำพูดไปด้วยกันหรือไม่” พรรณิการ์ ระบุ

ด้าน วราภรณ์ แสงชา ข้าราชการท้องถิ่น กล่าวว่า สนับสนุนให้เรื่องนี้ถูกผลักดันให้สำเร็จ เพราะปัจจุบันท้องถิ่นถูกขี่คอ จากส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ท้องถิ่นมีงบประมาณและบุคลากรไม่พอ ภารกิจที่ทำได้ก็ถูกจำกัดอำนาจ ดังนั้นถึงเวลาแล้วเรื่องการกระจายอำนาจจะถูกผลักดันให้สำเร็จ กระจายอำนาจจริงๆ ตามหลักการ อยากให้สมาชิกรัฐสภาและผู้มีอำนาจเห็นแก่ประโยชน์ของประชาชนและประเทศ

‘ช่อ พรรณิการ์’ ลุยหาเสียงสระบุรี-โคราช พร้อมผู้สมัครส.ส. มี ปชช.มอบหวย เลขท้าย 931 เผย เป็นเลขมงคลและยังสื่อถึงพรรค

(10 เม.ย.66) พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดผึ้งรวง จ.สระบุรี พร้อมด้วย สรพัช ศรีปราชญ์ ผู้สมัคร ส.ส.สระบุรี เขต 1 (อำเภอเมืองสระบุรี ยกเว้นตำบลหนองโน, อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และอำเภอแก่งคอย เฉพาะตำบลห้วยแห้ง) พรรคก้าวไกล เบอร์ 5 โดยมีประชาชนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น มอบปลาจ่อม ของดีเมืองสระบุรีให้ชิม และให้กลับบ้านด้วย

ขณะที่พรรณิการ์เดินหาเสียงในตลาด ได้มีประชาชนมามอบสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ 1 ใบ บอกว่าเป็นหวยพรรคก้าวไกล พร้อมบอกให้ลองดูเลขท้ายสามตัว ซึ่งปรากฏว่าสลากใบดังกล่าว มีเลขท้าย 3 ตัวคือ 931 ซึ่งเบอร์ 31 เป็นเบอร์ของพรรคก้าวไกล ส่วนเลข 9 เป็นทั้งเลขมงคลตามความเชื่อของคนไทย และยังหมายถึงพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้าอีกด้วย

‘ช่อ พรรณิการ์’ ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์ กับชาวหนองคาย ปชช. แห่ถ่ายรูป-ให้กำลังใจ พร้อมรับฟังปัญหาคนในพื้นที่

‘ช่อ พรรณิการ์’ เล่นสงกรานต์ริมโขง ประชาชนรุมกรี๊ด-ถ่ายรูปแน่น 

(14 เม.ย. 66) พรรณิการ์ วานิช กรรมการมูลนิธิคณะก้าวหน้า ร่วมฉลองสงกรานต์กับพี่น้องประชาชนริมฝั่งโขง จังหวัดหนองคาย โดยได้ร่วมรดน้ำดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่ พร้อมร่วมรำวงกับผู้สูงอายุฉลองสงกรานต์ ที่อำเภอท่าบ่อ ต่อด้วยการร่วมฉลองสงกรานต์ที่อำเภอท่าบ่อ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการเฉลิมฉลองเล่นน้ำคึกคักที่สุดแห่งหนึ่งในหนองคาย

‘ช่อ พรรณิการ์’ เล่นน้ำปิดท้าย ถ.ข้าวเหนียว ชื่นชม ปชช. เล่นกันสุภาพ ชี้ เป็นการจัดงานที่ดี ความปลอดภัยเข้มงวด-คนไม่แออัด

(16 เม.ย.66) ช่อ พรรณิการ์ วานิช กรรมการมูลนิธิคณะก้าวหน้า ร่วมเล่นสงกรานต์ที่ถนนข้าวเหนียว จังหวัดจอนแก่น ปิดท้ายเทศกาลสงกรานต์ โดยถนนข้าวเหนียวถือเป็นจุดเล่นน้ำสงกรานต์ที่ใหญ่ที่สุดของอีสาน ประเมินว่ามีผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่ต่ำกว่าวันละ 100,000 คน ซึ่งตลอดทางมีผู้ร่วมขอถ่ายรูป และสาดน้ำ ปะแป้งช่อ พรรณิการ์ อย่างสนุกสนาน 

ในระหว่างการเดินเล่นน้ำสงกรานต์ พิธีกรในเวที สสส. ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมรณรงค์สงกรานต์ปลอดภัยที่ถนนข้าวเหนียว ได้เชิญพรรณิการ์มาให้สัมภาษณ์ ความเห็นเกี่ยวกับการรณรงค์เล่นน้ำอย่างปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งพรรณิการ์กล่าวว่า ต้องชื่นชมพี่น้องชาวอีสาน ที่เล่นสงกรานต์อย่างสุภาพ ตนไปเล่นน้ำมา 3 จังหวัด ตั้งแต่หนองคาย สกลนคร และจบที่ขอนแก่น พบว่าส่วนใหญ่ประชาชนเล่นแป้งน้อยลง วัดหลายแห่งไม่ให้นำแป้งเข้ามาเล่นเด็ดขาด ส่วนการเล่นน้ำบนถนนทั่วไป หากจะมีการปะแป้งก็จะขออนุญาตก่อนอย่างสุภาพ โดยเฉพาะที่ถนนข้าวเหนียวแห่งนี้ มีการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ตรวจนับจำนวนคนเข้างานไม่ให้แออัดเกินไป และยังขอความร่วมมือประชนให้เล่นน้ำอย่างสุภาพ ทำให้พบว่าที่นี่มีครอบครัว นำเด็กเล็ก คนแก่คนเฒ่ามาร่วมงานอย่างคึกคัก ถือเป็นตัวอย่างของการจัดงานที่ดี และทำให้ผู้เข้าร่วมงานสบายใจ

‘ช่อ พรรณิการ์’ ปลื้ม!! คะแนนนิยม ‘ก้าวไกล’ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขอบคุณ ‘หัวคะแนนธรรมชาติ’ ที่ลงติ๊กต๊อกโพสต์คลิป เพิ่มกระแสให้พรรค

(22 เม.ย.66) บนเวทีปราศรัยใหญ่พรรคก้าวไกล ‘รัฐบาลก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม’ ณ สามย่านมิตรทาวน์ กทม. ช่อ พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกลขึ้นปราศรัยคนแรกขึ้นปราศรัยถึงคะแนนนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดของพรรคก้าวไกลว่าเกิดจากหัวคะแนนธรรมชาติ คือประชาชนผู้สนับสนุนพรรคทุกคน อ้อนขอช่วยดันคะแนนพรรคก้าวไกลให้สูงกว่าวันพรรคอนาคตใหม่ที่โดนยุบให้ได้ภายใน 22 วัน

พรรณิการ์ เริ่มต้นด้วยการกล่าวว่า ย้อนกลับไป 3-4 เดือนก่อน ทุกคนยังเป็นห่วงพรรคก้าวไกลว่าไม่มีป้ายหาเสียง ไม่ค่อยเห็นการรณรงค์หาเสียงของผู้สมัคร นั่นเพราะพรรคก้าวไกลทุนน้อย ทำให้ต้องทุ่มทรัพยากรหาเสียงกันในช่วงสุดท้ายของการเลือกตั้ง และเงินทุนในการหาเสียงเลือกตั้งทั้งหมดของพรรคก้าวไกลมาจากการทอดผ้าป่าของประชาชน

“ถ้าพรรคก้าวไกลไม่ขอเงินจากประชาชน จะให้ไปขอเงินจากทุนผูกขาด พ่อค้ายาเสพติด หรือนายพลคนไหน” พรรณิการ์กล่าว

พรรณิการ์กล่าวต่อว่า พรรคก้าวไกลได้รับเงินบริจาคจากประชาชนกว่า 12.5 ล้านบาท ในเวลาเพียงแค่ 1 เดือน พรรคก้าวไกลกำลังทำให้เห็นว่าการเมืองของประชาชน ออกเงินโดยประชาชน ไม่เกรงใจใครนอกจากประชาชนเป็นไปได้จริง

ส่วนเรื่องคะแนนนิยมพรรคก้าวไกลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น พรรณิการ์บอกว่า 3 เดือนที่แล้ว มีแต่คนบอกว่าภายใต้ระบบเลือกตั้งนี้พรรคก้าวไกลเป็นไปไม่ได้ แต่ในวันนี้โพลสำนักต่างๆ คะแนนนิยมของพรรคก้าวไกลเพิ่มสูงขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นเนชั่นโพลพรรคก้าวไกลมีคะแนนนิยม 23.5%, มติชน-เดลินิวส์โพลจัดอันดับให้นายกอันดับหนึ่งในใจประชาชนคือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

พรรณิการ์กล่าวว่า เฉลี่ยแล้วทุกโพลพรรคก้าวไกลมีคะแนนเฉลี่ย 21% ในวันนี้พรรคก้าวไกลมาไกลกว่าพรรคอนาคตใหม่ เพราะวันที่พรรคอนาคตใหม่ชนะการเลือกตั้งมีคะแนนนิยมในโพล 17%

“พวกเขายุบพรรคเรา พวกเขาตัดสิทธิ์ธนาธร ปิยบุตร พรรณิการ์ เพื่อที่จะได้พรรคก้าวไกลที่เติบโตทะลุเพดานยิ่งกว่าสมัยอนาคตใหม่ พวกเรายิ่งทุบยิ่งหวาน ยิ่งทุบยิ่งโต ยิ่งกระทืบจมดิน ยิ่งเติบโต เป็นต้นไม้ที่เราปลูกร่วมกันคือพรรคก้าวไกล” พรรณิการ์กล่าว

จับผิด ‘ช่อ พรรณิการ์’ โต้ปมไหน… ‘ก้าวไกล’ กุมขมับ (เสมอต้นเสมอปลาย)

>> ประเด็นแรก ช่อบอกว่าเด็กไปทำโพลเรื่องงบประมาณสถาบันฯ เป็นเรื่อง รบ. ไม่ใช่เรื่องสถาบันฯ

-ข้อเท็จจริง การทำโพลของม็อบ 3 นิ้วในหลายประเด็น ทั้งเรื่องขบวนเสด็จฯ เรื่องบประมาณ ล้วนใช้คำจาบจ้วงสถาบันฯ ไม่ได้ตั้งคำถามถึง รบ.แต่อย่างใด

-ตัวอย่าง กรณีของ ‘ตะวัน’ ทานตะวัน ถูกดำเนินคดี 112 เตรียมป่วนขบวนเสด็จฯ และไลฟ์ใช้คำพูดจาบจ้วงสถาบันฯ

>>ประเด็นที่ 2 ช่อบอกว่าประเทศไทย อยู่มาจนถึงวันนี้ เพราะทหารล้มตาย ไม่ใช่เจ้า

-ข้อเท็จจริง ประวัติศาสตร์ของไทย ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา การทำศึกสงคราม พระมหากษัตริย์ ก็เป็นผู้นำทัพรบกับข้าศึก ไม่ได้เพียงแค่ชี้นิ้วสั่งการ

-ตัวอย่าง สมเด็จพระนเรศวรฯ ผู้ทรงกอบกู้อิสรภาพจากพม่า หลังเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 1

‘ช่อ พรรณิการ์’ โต้กลับเสียงคัดค้าน ปม ‘ก้าวไกล’ แตะ ม.112 ชี้!! แค่ข้ออ้างในการไม่หนุนพรรคอันดับ 1 เพราะถูกตัดวงจรคอร์รัปชัน

(16 ก.ค. 66) ผู้ใช้ TikTok บัญชี ‘@canac_nat’ ได้โพสต์คลิปวิดีโอของ ‘ช่อ พรรณิการ์ วานิช’ ผู้ก่อตั้งคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ได้ออกมาพูดถึงประเด็นการแก้ไข ม.112 และความจงรักภักดี ในหัวข้อ ‘ต่อให้คุณได้เสียงเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่จงรักภักดี เท่ากับ ไม่มีสิทธิ์’  โดยในคลิปได้ระบุว่า…

“คุณกำลังสร้างตรรกะนี้ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยหรือคะ? คุณกำลังจะบอกว่า ต่อให้เป็นพรรคที่มีความชอบธรรมจากประชาชน มีนโยบายมากมายกว่า 300 นโยบาย ที่แม้แต่พวกคุณเองก็ยอมรับว่าเห็นด้วยในหลาย ๆ นโยบาย แต่เมื่อถูกตราหน้าว่า ‘ไม่จงรักภักดี’ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นรัฐบาล ในขณะที่คนที่กล้าพูดว่าตัวเองเป็นโจร หรือกล้าที่จะบอกว่าสามารถยิงคนที่ไม่จงรักภักดีได้โดยไม่ผิดกฎหมาย… ‘เป็นโจร แต่จงรักภักดี’ กลับมีที่อยู่ที่ยืนในประเทศนี้ ในขณะที่คนที่มีคุณสมบัติเป็นผู้นำครบทุกอย่างกลับโดนตราหน้าว่า หากคุณไม่จงรักภักดี คุณจะไม่มีที่ยืน คุณกำลังเอาพรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนความนิยมเป็นอันดับ 1 ของประเทศ มาชนกับสถาบันฯ หรือคะ คุณทำไปเพื่ออะไร?”

“ข้ออ้างมีหลากหลาย คุณกลัวว่าจะทุจริตคอร์รัปชันไม่ได้ บ้านใหญ่ของคุณอาจถูกทำลาย หรือคุณไม่พอใจในเรื่องของสัมปทานที่อาจจะถูกยกเลิกภายใต้ ‘รัฐบาลก้าวไกล’ ที่ทำงานอย่างโปร่งใส คุณมีหลากหลายเหตุผลที่ไม่อยากจะเลือก ‘คุณพิธา’ และพรรคก้าวไกล แต่คุณไม่กล้าพูดออกมาตรง ๆ เพราะคุณรู้ว่ามันเป็นเหตุผลที่ใช้ไม่ได้ เมื่อถึงเวลาคุณจึงมาอ้างเหตุผลว่า เพราะพรรคก้าวไกลไม่มีความจงรักภักดี หากคุณทำแบบนี้ ขอถามว่า แล้วใครได้ประโยชน์ ใครกันที่เสียประโยชน์? ใครกันแน่ที่กำลังทำลายสถาบันฯ อยู่” 

ช่อ พรรณิการ์ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า “เรื่องนี้น่ากลัวและน่าตกใจมาก และยังเป็นเกมที่เสี่ยงมาก ที่พวกคุณเอามาเล่นกันเอง ไม่ใช่พรรคก้าวไกลนะคะ”

‘ช่อ พรรณิการ์’ เผย ทิศทางจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ชี้ โหวตนายกฯ รอบต่อไป ‘เพื่อไทย’ รับแรงกดดันเต็มๆ

(22 ก.ค. 66) ผู้ใช้ TikTok บัญชี ‘missyoumt1368’ ได้โพสต์คลิปวิดีโอของ ‘ช่อ พรรณิการ์ วานิช’ ผู้ก่อตั้งคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ได้ออกมาพูดถึงแนวโน้มทิศทางของการโหวตนายกฯ ครั้งต่อไป โดยในคลิประบุว่า…

“ถ้าก้าวไกลถอย เรื่อง ม.112 โดนด่านะคะ แต่จะรักษาพันธมิตร 8 พรรค และอาจจะมีบวกเพิ่มอีกสักพรรคสองพรรคเพื่อให้ได้คะแนนเสียงมากพอ แต่มันก็อาจจะเป็นรัฐบาลที่ไม่ได้ตรงกับความต้องการของประชาชนขนาดนั้น หากก้าวไกลไม่ยอมถอยเรื่อง ม.112 ยืนยันเดินหน้าต่อ ก็จะเข้าเกม ‘เขี่ยก้าวไกลพ้นจากสมการตั้งรัฐบาล’ พรรคเพื่อไทยจำเป็นที่จะต้องไปหาพรรคอื่นมาเติมให้เสียงครบ จะเป็นพรรคพลังประชารัฐหรือเปล่า? หรือพรรคภูมิใจไทย? ซึ่งทางนั้นก็คงแต่งตัวรออยู่แล้วอย่างแน่นอน นั่นคือภารกิจในการจัดตั้งรัฐบาลที่พลิกขั้วเปลี่ยนข้าง ซึ่งก็จะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะการที่จะบอกว่า ตราบใดที่ไม่มีประยุทธ์ก็ถือว่าพลิกขั้วเปลี่ยนข้างสำเร็จแล้ว… เราอยู่กันมาขนาดนี้แล้ว เราจะไม่คิดแบบนั้นใช่ไหมคะทุกคน?

เพราะถึงอย่างไร ‘ประยุทธ์’ กับ ‘ประวิตร’ นั้น ไม่ได้มีความแตกต่างกันในระบอบปรสิตที่เกาะกินประเทศนี้อยู่ เพราะฉะนั้น ในช่วงสัปดาห์หน้าก่อนหน้าที่จะถึงวันโหวตนายกฯ ครั้งต่อไป คือในวันที่ 27 ก.ค. ทางพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวในการแถลงว่า เขาจะปิดจ็อบให้ได้ในวันที่ 27 ก.ค. ประเทศรอช้ากว่านี้อีกไม่ได้แล้ว ซึ่งตรงนี้ทางเราก็เห็นด้วย หากต้องลากต่อไปเรื่อย ๆ มันก็คงจะยากอยู่ ตอนนี้ประเทศต้องมีรัฐบาลเข้ามาบริหาร แต่ถ้าจะปิดจ็อบเร็วขนาดนี้ หมายความว่า พรรคเพื่อไทยเองก็มีแรงกดดันสูงมากที่จะต้องตัดสินใจ ในการเลือกว่าตกลงจะเอาพรรคไหน ไม่เอาพรรคไหน ในการร่วมรัฐบาลและจัดตั้งรัฐบาลให้ประสบความสําเร็จภายในวันที่ 27 ก.ค.นี้ 

การตัดสินใจครั้งนี้ ใครจะเป็นผู้ออกปากในเรื่อง ม.112 ก้าวไกลจะถอยหรือจะไม่ถอยอย่างไร การถอยหรือไม่ถอยของก้าวไกลจะมีผลอย่างมีนัยสําคัญ ต่อการได้กลับมาหรือไม่ได้กลับมาเป็นรัฐบาลของพลเอกประวิตร และพรรคพลังประชารัฐ ทั้งหมดนี้เป็นสถานการณ์ที่ประชาชนจําเป็นต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด และอย่าลืมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ‘เสียงของประชาชน’ ต้องมีความหมาย สิ่งที่ถูกประกาศออกไปแล้วผ่านบัตรเลือกตั้ง คือ ประชาชนในประเทศนี้ต้องการ ‘การเปลี่ยนแปลง’ ต้องการพลิกขั้วเปลี่ยนข้างรัฐบาล และมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศให้ได้ เราจะยังยืนยันคําเดิมว่า พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล คือสิ่งที่ดีที่สุด คือส่วนผสมที่ดีที่สุดที่จะพาประเทศนี้เดินไปข้างหน้าต่อ แต่ส่วนผสมนี้ ในวันนี้ จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่? และต้องเสียอะไรไปเพื่อให้ได้มันมา ต้องจ่ายอะไรไปเพื่อจะได้สิ่งนี้มา รอดู อีกไม่นานจะรู้ ว่าวันที่ 27 กรกฎาคม จะเกิดอะไรขึ้นที่รัฐสภา 

เปิดแรงบันดาลใจ ‘บุ้ง เนติพร’ แห่งกลุ่มทะลุวัง ‘ช่อ พรรณิการ์ วานิช’ คือคนที่ทำให้ตาสว่าง

(8 ส.ค. 66) จากเพจ ‘เชเนเวอร์ดาย สบ๊ายสบาย’ ได้โพสต์เรื่องราวของ ‘บุ้ง เนติพร’ นักกิจกรรมและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง สมาชิกกลุ่มทะลุวัง ถึงจุดเริ่มต้นในการต่อสู้ทางการเมืองผ่านการสัมภาษณ์ของบุ้งในรายการ ‘Friends Talk’ ว่าคนที่ทำให้เธอตาสว่างคือ ‘ช่อ พรรณิการ์ วานิช’ ไว้ว่า…

บุ้งทะลุวัง มีพี่น้อง 3 คน เธอเป็นคนกลาง

พี่สาวเป็นทนายความ ส่วนบิดาเป็นผู้พิพากษา เคยถูกทหารยิง กระสุนเข้าท้องและทะลุออกหลังในเดือนพฤษภาคม 35

บุ้งเคยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการนักเรียนในระหว่างศึกษาที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า

โบพี่สาวบุ้งเคยให้สัมภาษณ์ว่า “บุ้งเรียนก็เก่ง กิจกรรมก็ไม่แพ้ใคร” พร้อมกับบอกว่า สิ่งหนึ่งที่พ่อกับแม่เห็นตรงกันเกี่ยวกับบุ้งคือ การเลี้ยงดูให้น้องเป็นคนมีความมั่นใจและกล้าแสดงออก

บุ้งสอบเข้าโรงเรียนเตรียมน้อมฯ ได้เอง และผลการเรียนก็อยู่ในเกณฑ์ดีมาก 3.8, 3.9 และ 4.0 สลับกันไป กิจกรรมในโรงเรียนก็ไม่ขาด ถ้าเธอตัดสินใจทำอะไรก็จะต้องทำให้สำเร็จไม่ยอมละทิ้งความพยายามไว้กลางทาง

ทั้งนี้ นัยของ ‘ตาสว่าง’ ที่บุ้งกล่าวถึงนั้น มาจากแรงทวิตเตอร์กับการอภิปรายของ ‘ช่อ พรรณิการ์’ โดยอ้างอิงได้จากคลิปเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2022 >> เริ่มนาทีที่ 12:30 >> คลิปสัมภาษณ์เต็ม : https://www.youtube.com/live/1M3LFDKbxZc?feature=share


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top