Monday, 29 April 2024
ชาติไทยพัฒนา

'หนูนา' เดือด!! รทสช. ตีท้ายครัว ไล่ดูด ส.ส.พรรค ประกาศกร้าว!! 'ชาติไทยพัฒนา' ขอสู้ยิบตา!!

เมื่อวันที่ (26 ก.พ.66) น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการอำนวยการพรรค ได้กล่าวถึงพฤติกรรมไร้มารยาททางการเมืองของพรรคใหม่บางพรรค ที่โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 3 อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ในช่วงหนึ่งบนเวทีปราศรัย ครั้งที่ 9 ใน จ.สุพรรณบุรี โดยมีแกนนำ กรรมการบริหารพรรค ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และสมาชิกพรรค มาร่วมจำนวนมาก

‘ชทพ.’ เปิดตัว ‘สมเกียรติ’ อดีต ส.ส.ก้าวไกล ลงเขตบางนา เจ้าตัวเผย เวลาบอกว่าอยู่พรรคของ ‘วราวุธ’ มีแต่คนยิ้มรับ

(15 มี.ค.66) ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรค ชทพ. พร้อมด้วยนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการอำนวยการพรรค ร่วมกันแถลงเปิดตัวนายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางนา ของพรรค ชทพ. โดยนายวราวุธ กล่าวว่า นายสมเกียรติทำงานในพื้นที่บางนามาโดยตลอด ทำงานหนัก ลงพื้นที่ รวมทั้งนำเรื่องมาหารือกับกระทวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ตนได้ลาออกจาก ส.ส. กับคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา ตนรู้สึกโล่งใจ ขณะนี้คนในพื้นที่บางนารับทราบแล้วว่าตนจะลงสมัครในนามพรรค ชทพ. เขารู้ว่าพรรคเดิมของตนเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ในเขตเดิมของตนแล้ว ซึ่งเป็นหัวหน้าการ์ดผู้ชุมนุม ทั้งนี้ ชทพ.เป็นพรรคที่เหมาะกับตน เชื่อมต่อกับผู้ที่อายุเยอะกว่าได้เป็นอย่างดี

‘กกต.’ เปิดยอดเงิน-รายชื่อผู้บริจาค หนุนพรรคการเมือง ม.ค. 66 เผย ‘รทสช.’ รับเยอะสุด!! 26 ล้านบาท รองลงมา ‘พท.-ชพท.’

(16 เม.ย.66) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่ข้อมูลบัญชีรายชื่อผู้บริจาค และจำนวนเงินที่บริจาคให้แก่พรรคการเมือง ประจำเดือน ม.ค.66 โดยพบว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มียอดได้รับการบริจาคสูงสุดถึง 26 ล้านบาท รองลงมา เป็นพรรคเพื่อไทย (พท.) ยอดได้รับบริจาค 12 ล้านบาท และอันดับสาม พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ยอดได้รับบริจาค 9.8 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในรายละเอียดพบว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มียอดบริจาค 19 รายการ รวมวงเงิน 26,004,500 บาท ผู้บริจาคที่น่าสนใจ เช่น นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ และอดีตรองอธิการบดี ม.กรุงเทพธนบุรี (เคยเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น) บริจาค 5 ล้านบาท, น.ส.สุทธาพัฒน์ อมรเรืองตระกูล บริจาค 5 ล้านบาท, น.ส.เสาวณี อนุกูล บริจาค 5 ล้านบาท

'วราวุธ' เผยชาวบ้านถาม 'พิธา' เป็นสุพรรณบุรีแล้วเสียหายตรงไหน?  ยัน!! ยุค 'บรรหาร' เป็นรัฐบาล ก็บริหารประเทศให้พัฒนาทั่วถึง

(9 พ.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวพาดพิงว่ากังวลประเทศไทยจะเป็นสุพรรณบุรีว่า มีชาว จ.สุพรรณบุรีบางส่วนส่งข้อความมาหาตนว่าเป็นสุพรรณบุรีแล้วมันเสียหายตรงไหน แต่อย่างไรก็ตาม จากการที่เคยทำงานร่วมกับนายพิธาและพรรคก้าวไกลในสภาผู้แทนราษฎร ได้เห็นว่าพวกเขาเชื่อมั่นในเรื่องความเสมอภาคและความเท่าเทียม ตนคิดว่าเขาคงไม่ได้หมายความไปตามสิ่งที่พูด และจากการที่ตนและนายพิธาได้ร่วมเวทีดีเบตกันมาแล้วหลายครั้ง เห็นว่านายพิธาคงไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ จึงคิดว่าอย่าเอาเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องมาทำให้เป็นเรื่องดีกว่า เพราะอีกไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้งอยู่แล้ว ขอให้มุ่งเน้นกันที่นโยบาย เพราะบางครั้งอาจจะมีเรื่องที่ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจและพลาดพลั้ง จึงอยากให้ปล่อยไปดีกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะดูแลความรู้สึกของชาวสุพรรณบุรีอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราได้ทำงานอย่างต่อเนื่องใน จ.สุพรรณบุรี ซึ่งอาจมีหลายคนที่เกิดข้อกังขาว่า จ.สุพรรณบุรีมีการพัฒนา โดยเฉพาะในช่วงรัฐบาลของนายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี ขอชี้แจงว่าตอนที่นายบรรหารดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ จนถึงตอนดำรงตำแหน่งนายกฯ ทุกคนสามารถไปตรวจสอบได้ว่าการทำงานของนายบรรหารในช่วงเวลาเหล่านั้นได้ทำงานให้กับคนไทยทั้งประเทศ แม้กระทั่งตอนได้รับตำแหน่งนายกฯ จุดแรกที่ท่านเริ่มไปลงพื้นที่คือ ภาคใต้ ไม่ได้มาที่ จ.สุพรรณบุรีก่อน 

นอกจากนี้ ในยามที่นายบรรหารเป็นเพียง ส.ส. ท่านก็ยังทำงานให้ จ.สุพรรณบุรี ถือเป็นเรื่องปกติของการเป็น ส.ส. ส่วน ส.ส.แต่ละคนจะทำงานได้แค่ไหน ขึ้นอยู่กับศักยภาพแต่ละคน อย่างไรก็ตาม อยากทำความเข้าใจกับชาวสุพรรณบุรีว่าเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนเข้าใจคลาดเคลื่อน แต่ใน จ.สุพรรณบุรี พวกเรายังทำงานเหนียวแน่นกันดี

เมื่อถามว่า ดูเหมือนการปราศรัยในระยะหลังของพรรคก้าวไกล จะพูดแซะตระกูลหรือบ้านใหญ่ในจังหวัดต่าง ๆ นายวราวุธ กล่าวว่า ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ต้องขอบคุณที่มองเราเป็นบ้านใหญ่ เพราะสำหรับบ้านศิลปอาชาและพรรค ชทพ. ถือว่าสุพรรณบุรีเป็นบ้านใหญ่ของเรา ขณะเดียวกัน เราเข้าใจดีว่าการพูดบนเวทีบางครั้งอาจจะมีกลอนพาไป จึงอย่าเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาเป็นเรื่องดีกว่า และอย่าเอามาเป็นประเด็นทางสังคมเลย เราควรไปโฟกัสนโยบายของแต่ละพรรคดีกว่า และอีก 3-4 วัน จะได้เวลาไปลงคะแนนเลือกตั้งกัน

'อริย์ธัช' ชูจุดแข็ง 'ชาติไทยพัฒนา' พรรคเพื่อคนทุกวัย วอนคนไทยกาสีชมพู 'สร้างสรรค์-ไม่โจมตี-ไม่ขัดแย้ง'

(10 พ.ค.66) นายอริย์ธัช ชาติอาริยะพงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตประเวศ สะพานสูง พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนาจัดปราศรัยที่ใจกลางเมือง กรุงเทพมหานคร สามย่านมิตรทาวน์ หลายคนมองว่าพรรคของเราเป็นพรรคท้องถิ่น มีโอกาสยาก แต่มันเกิดขึ้นแล้วที่เวทีสามย่านเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะภายใต้การนำของพี่ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค คือการ “เปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนวิธีทำ ให้คนเก่งนำประเทศไปสู่อนาคต” พรรคของเราคือพรรคที่รวมคนหลายรุ่นรวมคนที่มีวิธีคิด แบบคนรุ่นใหม่ มีความสามารถมาช่วยกันขับเคลื่อนประเทศ

เราจึงมีความมั่นใจอย่างยิ่งว่าเราพร้อมแล้วสำหรับการบริหารประเทศ รวมถึงเป็นปากเป็นเสียงให้กับชาวกรุงเทพฯ กราบขอบพระคุณทุกท่านทุกเสียงที่มาให้สนับสนุนและให้กำลังใจพวกเราในวันนั้นอย่างล้นหลามมากกว่า 3.000 คน หากได้รับโอกาส เราจะไม่ทำให้พี่น้องชาวกรุงเทพฯผิดหวังอย่างแน่นอน “เราชาติไทยพัฒนาคือพรรคของบ้านและเมือง” ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ท่านกัญจนา ศิลปอาชา ได้กล่าวบนเวที

นายอริย์ธัช กล่าวต่อว่า พวกเราต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์เป็นรูปธรรมโดยไม่โจมตีใครเลย ไม่สร้างความขัดแย้งวุ่นวาย เรารวมพลังของคนทุกรุ่นทุก Gen ที่มีวิธีคิด มาผสานกำลังทวีคูณกัน วัยรุ่นมีพลังแห่งความสร้างสรรค์ วัยทำงานเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น วัยเกษียณเต็มไปด้วยประสบการณ์ นี่คือจุดแข็งของสีชมพูเรา

"ผมขอเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนชุมชนคนกรุงเทพฯ เป็นปากเป็นเสียง เป็นมือ ที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของการเป็นผู้แทนราษฏรไปทำงานเพื่อให้ประเทศชาติไทยของเราพัฒนา วัฒนธรรมการทำงานสีชมพูของเราพร้อมเปิดโอกาสให้คนทุกรุ่น ไม่ใช่คนรุ่นใหม่เข้ามาต้องกดทับเขาไว้ อย่างคอยชงกาแฟถ่ายเอกสารรอไต่เต้า ไม่มีแน่นอน นั่นไม่ใช่วัฒนธรรมของพรรคเรา เราจะดูตามศักยภาพ พร้อมการเปิดโอกาส ทุกๆคนทุกๆท่านเท่ากันในการทำงานแบบทีมชาติไทยพัฒนา นี่คือหลักคิดในการเปลี่ยนแปลงประเทศของเราที่อยากให้ทุกคนมาเป็นทีมสีชมพูที่เดินมุ่งสู่เป้าหมายด้วยกัน เราจะทำให้พี่น้องชุมชนกรุงเทพชมพูสดใส เหมือนพี่น้องชุมชนสีชมพูชาวสุพรรณบุรี พวกเราการันตี"

'บอส อริย์ธัช' ชี้ แก้ ม.112 ต้องทำประชามติ ถามคนทั้งประเทศ ลั่น!! ใช้สภาฯ แก้ไขคงไม่เหมาะ เพราะกระทบต่อจิตใจคนไทย

(13 พ.ค. 66) นายอริย์ธัช ชาติอาริยะพงศ์ (บอส) ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เบอร์ 14 เขตประเวศ และ เขตสะพานสูง พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า หนึ่งในประเด็นคำถามแห่งยุคสมัยของสังคมไทยเวลานี้คือ 'ม.112' ซึ่งมีคนบางกลุ่มหยิบยกมาใช้เป็นเครื่องมือจนนำมาสู่ความขัดแย้งในหลายระดับของสังคม 

ขณะที่จุดยืนเรื่องนี้ของเราคือเพิกเฉยต่อกระแส เพราะกระแสแบบนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้โซเชียลอย่างไม่สร้างสรรค์ เช่นเดียวกับกระแสไม่เลือกเราเขามาแน่ ลักษณะนี้คือลักษณะเดียวกัน ที่มีอัตลักษณ์เหมือนกัน แต่เลือกจะปั่นให้สังคมแตกแยกจากคนละมุมคนละขั้ว ให้ฝ่ายขวา และ ฝ่ายซ้าย เป็นเหมือนน้ำและน้ำมัน 

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าเมื่อปัญหาเกิดขึ้น ในฐานะพรรคการเมืองมีหน้าที่แนะนำแนวทางทางเหมาะสมแก่สังคม ซึ่ง ม.112 เป็นกฎหมายที่มีความสำคัญยิ่ง เราจึงไม่เห็นด้วยที่พรรคการเมืองบางพรรคเสนอให้ใช้สภาแก้ไข เนื่องจากเรื่องนี้กระทบต่อความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศ และพรรคของเราเชื่อในประชาชน ทางออกในการแก้ปัญหานี้ก็ต้องกลับไปฟังเสียงประชาชน

ดังนั้น ข้อเสนอของเราคือเสนอให้มีการสร้าง ‘ประชามติ’ ถามประชาชนทั้งประเทศว่า ถ้าเขาอยากจะแก้ จะแก้อะไร ต้องไปฟังคนทั้งประเทศมา เพื่อให้ปัญหาที่มีความอ่อนไหวนี้มีฉันทามติเป็นกติการ่วมกันได้จริงในสังคม กติกา คือ สิ่งสำคัญของการอยู่ร่วมกัน แต่กติกาจะไร้คุณค่าเมื่อมีคนโกง ดังนั้นในฐานะคนรุ่นใหม่ ผมต้องการให้ประเทศไฉไลกว่าเดิม คนซื้อสิทธิ์ขายเสียงโดยเฉพาะในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 21 กรุงเทพมหานคร และ กลุ่มคนที่ตีมึนกระหายการเข้าสู่อำนาจ ที่รู้ตัวว่าไม่มีความสามารถเพียงพอ ไม่มีหัวใจของการเป็นผู้แทนราษฎร ผมขออนุญาตพูดตรงนี้ว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นเรื่องของโอกาส 

โอกาสครั้งนี้ 1 สิทธิ์ 1 เสียง เรามีเท่ากันครับ ตัวตนคนเราต่างหากที่ไม่เท่ากัน โอกาสนี้โอกาสเดียวที่จะทำความเป็น พหุวัฒนธรรม นำพาประเทศชาติพ้นจากวิกฤติความขัดแย้ง โอกาสนี้ขอท่านมองให้ชัดถึงตัวตนของผู้สมัครรับเลือกตั้ง มองและพิจารณา ถึงคุณสมบัติ 'พร้อมใช้ ตั้งใจจริง' เป็นอันดับแรก และตัดสินใจที่ความเป็นคนรุ่นใหม่ รุ่นใหม่ที่วิธีคิด มีหัวหน้าพรรคที่เปี่ยมไปด้วยวิสัยทัศน์ อีกทั้งความรู้ความสามารถ เช่น พี่ท๊อป วราวุธ ศิลปอาชา ลูกชายของ คุณพ่อบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ของประเทศไทย ผู้สำเร็จรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน 2540 ก้าวข้ามทุกข้อขัดแย้ง ผู้สร้างเมืองตัวอย่าง เมืองที่สดใส เมืองสุพรรณบุรีสีชมพู 

14 พฤษภาคม 2566 นี้ ผมกราบขอเชิญชวนทุกท่าน เลือก ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 21 14 พฤษภาเข้าคูหากาเบอร์ 14 บัตรสีม่วงเลือก บอส อริย์ธัช ชาติอาริยะพงศ์ คนรุ่นใหม่ พร้อมใช้ ตั้งใจจริง และ เลือกพรรคสีชมพู พรรคชาติไทยพัฒนา นำความสดใสนำนโยบายที่ไม่ขายฝัน นโยบายที่ทำได้จริง คอนเซปต์ ว๊าวไทยแลนด์ WOW Wealth Opportunity and Welfare for all 

ใช้โอกาสเพียงหนึ่งเดียวนี้ชี้ชะตาชีวิตของตัวท่าน เลือกชาติไทยพัฒนา เลือกพรรคสีชมพูทั้งแผ่นดิน เพื่อมุ่งสู่ประเทศไทยที่ทุกประเทศทั่วโลกรอคอย ทางออกที่ดีที่สุดคือต้องมีทางเลือกให้ประชาชน บริหารงานด้วยวิสัยทัศน์ที่เป็นสากล คือ พรรคชาติไทยพัฒนา ที่มีความเชี่ยวชาญในประเด็นท้องถิ่น วิถีชีวิต และสิ่งแวดล้อม สอดประสานทำงานอย่างคล้องจองแนบแน่น และราบรื่น (Glow with the flow) สามารถทำงานร่วมกับทุกฝ่าย เป็นพื้นที่ตรงกลางให้ทุกขั้วสามารถนำนโยบายที่ดีมาขยับไปร่วมกันได้

'ประวิทย์' ชาติไทยพัฒนา ลุยหาเสียง เขต 5 พระนครศรีอยุธยา ชู!! พัฒนากรุงเก่าเจริญเทียบสุพรรณฯ - แก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก

(13 พ.ค. 66) นายประวิทย์ สุวรรณสัญญา ผู้สมัคร ส.ส. เขต 5 พระนครศรีอยุธยา เบอร์ 12 พรรคชาติไทยพัฒนา ลงพื้นที่ อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.บางซ้าย อ.ลาดบัวหลวง ชูนโยบาย บ้านพี่เมืองน้องเราไม่ทิ้งกัน พัฒนาบ้านเรา ให้เหมือนสุพรรณบุรี เพราะพื้นที่คลองสองจังหวัดนี้ติดกัน มีความตั้งใจที่อยากจะเป็นสะพานนำความเจริญจากสุพรรณเข้าสู่อยุธยา เพื่อพี่น้องเกษตรกร เพื่อปากท้องชาวบ้าน เลือกคนใหม่ และเลือกพรรคชาติไทยพัฒนา เบอร์ 18

นอกจากนี้ ยังพร้อมรับฟังปัญหาน้ำท่วมจากพ่อแม่พี่น้องในพื้นที่ โดยมีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่อยากจะเข้ามาเป็นปากเป็นเสียงและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้พี่น้องพระนครศรีอยุธยาเขต 5 เพื่อที่พี่น้องเขต 5 จะได้ไม่เดือดร้อนทุกปี

'วราวุธ' ยัน!! พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาฯ ย้ำจุดยืนพรรค 'เทิดทูลสถาบันพระมหากษัตริย์'

(16 พ.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคก้าวไกลเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งถือเป็นการพลิกขั้วทางการเมือง ว่า วันนี้ ชทพ.ยังเป็นรัฐบาลและมีงานที่ต้องทำไปจนถึงนาทีสุดท้ายก่อนจะมีรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นมา เพราะปัญหาของประชาชนไม่ได้ถูกแบ่งแยกว่ามีรัฐบาลหรือไม่มีรัฐบาล เรายังเป็นรัฐมนตรีจึงต้องทำงานให้ประชาชนจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามารับไม้ต่อ

เมื่อถามถึงกรณีที่มีเสียงเรียกร้องให้พรรคการเมืองเคารพมติประชาชน ร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีที่มาจากเสียงของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย นายวราวุธ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่มีความละเอียดอ่อนและมีความอ่อนไหวพอสมควร ตนจึงยังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้หากยังไม่มีการพูดคุยกันในพรรค ชทพ. เสียก่อน ต้องคุยกันภายในพรรคให้ตกผลึก จึงจะเป็นแนวทางของพรรค อย่างไรก็ตาม จากนี้ยังมีเวลา เพราะขั้นตอนในการยกมือโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้นต้องผ่านกระบวนการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกประธานสภาฯ เสียก่อน จึงยังมีเวลาให้คิด ซึ่งตนเองคิดคนเดียวไม่ได้ ต้องหารือในพรรคก่อน

ถามว่า จนถึงขณะนี้ทางพรรคก้าวไกลมีการติดต่อให้เข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า “ชาติไทยพัฒนาเราพร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เพราะเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลได้ประกาศชัดเจนว่า จะเอาพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยเองตอบรับ ดังนั้น ไม่มีปัญหา ชาติไทยพัฒนาพร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน และจุดยืนของเรายังเหมือนเดิม คือ นโยบายยั่งยืนและเทิดทูนสถาบัน”

เมื่อถามว่า ถ้าพรรคก้าวไกลติดต่อมาเพื่อจะรวมเสียงให้ชนะโหวต ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ชทพ. พร้อมหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า “เราบอกแล้วว่าเราไม่ได้เดือดร้อนในการที่จะต้องเป็นรัฐบาล และเราพร้อมที่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ดังนั้น ถ้าเป็นอะไรที่ขัดหลักการของชาติไทยพัฒนา เราก็ไม่เห็นด้วย ส่วนการยกมือสนับสนุนโหวตให้หรือไม่นั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องไปหารือกันในพรรคก่อน แต่จุดยืนของเราชัดเจนมาตลอดตั้งแต่หาเสียงแล้ว”

'ศิริกัญญา' ฟันธงโหวตนายกฯ รอบ 2 พิธาได้เสียงเพิ่มจาก ส.ว. ถาม!! ใครคือผู้ที่ให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปเชิญ 'ชทพ.-ปชป.'

(17 ก.ค. 66) ที่อาคารไทยซัมมิท น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาล คาดว่าการประชุมวันนี้จะผ่านไปได้ด้วยดี และมีการหารือเรื่อง เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งที่สอง รวมถึงเรื่องการยกเลิกม.272 ที่พรรคก้าวไกลได้ยื่นไปก่อนหน้านี้ โดยขอเสียงสนับสนุนจาก 8 พรรคร่วม พร้อมทั้งไม่กังวลกับการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2

"เราได้ทำตามสิ่งที่ได้ให้สัญญากับประชาชนไว้ หากประชาชนยังไม่ถอยเราก็ยังไม่ถอย และคิดว่าจะมีการเสนอชื่อคุณพิธาอีกรอบนึงตามสมรภูมิที่เราได้แจ้งกับประชาชนไว้"

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้เจรจาการดึงพรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมรัฐบาล มีการระบุว่าได้รับการทาบทามจากพรรคก้าวไกล น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบเรื่องว่าใครคือ ผู้ที่ให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปเชิญ ซึ่งหากได้เสียงจากพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคชาติไทยพัฒนาก็จะได้จำนวนเสียงที่มากขึ้น
.
ส่วนเงื่อนไขที่พรรคประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนาระบุว่าไม่สนับสนุนพรรคการเมืองที่แก้ไขมาตรา 112 เป็นเงื่อนไขที่เป็นการเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยได้นายกรัฐมนตรีหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า หากเป็นเงื่อนไขมาตรา 112 ก็คงไม่ได้ร่วมรัฐบาลกัน ที่มีก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้ง
.
เมื่อถามว่าการหารือระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยในวันนี้จะราบรื่นหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า จะต้องราบรื่นและเป็นไปตามที่เราได้คาดหวังไว้
.
ซักว่ายังยืนยันในจำนวนเสียงส.ว.หรือไม่เพราะพรรคเพื่อไทยต้องการทราบจำนวน ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เรื่องนี้เรามีการสื่อสารด้วยกันมาโดยตลอด ว่าทางพรรคก้าวไกลจะติดต่อท่านไหนและพรรคเพื่อไทยจะช่วยติดต่อคือส.ว.ท่านไหน รวมถึงมีการพูดคุยกันมาโดยตลอด ซึ่งการโหวตในรอบนี้จากที่มีการทำงานกันมาได้คะแนนเสียงเพิ่มเติมจากจำนวนส.ว.ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมในวันนั้น

น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า จริง ๆ แล้วเราไม่มีความกังวลใด ๆ เราสัญญากับประชาชนไว้ว่าจะสู้กับ 2 สมรภูมิ ซึ่งเราจะสู้อย่างเต็มที่เพื่อเสนอนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมคาดหวังว่าจากสิ่งที่เราได้ทำแคมเปญ จะทำให้ส.ว.เปลี่ยนใจมายืนเคียงข้างประชาชนก็คิดว่าเราจะได้คะแนนเสียงเพิ่ม ส่วนเรื่อง 2 สมรภูมิหากส.ว.ที่ต้องการปิดสวิตตัวเอง ในม.272 ซึ่งเป็นไปตามที่เราได้แจ้งกับประชาชนและสื่อมวลชนไว้ หากการต่อสู้ทั้ง 2 สมรภูมิไม่เป็นผลเราก็จะเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ถามว่าได้มีการกำหนดระยะเวลาในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ไทม์ไลน์ต่าง ๆ จริง ๆ แล้วต้องขึ้นอยู่กับประธานสภา ที่จะบรรจุวาระม.272 ซึ่งคาดว่าจะเป็นสัปดาห์หน้า ซึ่งตามระเบียบแล้วต้องเอาเข้าภายใน 15 วันอยู่แล้ว จึงคาดว่าจะจบภายในสัปดาห์และทราบทิศทางต่อไปอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยไม่พอใจกับการแก้ไขม.272 เหมือนเป็นการมัดมือชกพรรคเพื่อไทย จะมีการหารือในวันนี้ด้วยหรือไม่ ศิริกัญญากล่าวว่า ประเด็นม.272 จะเป็นประเด็นที่หารือกันในวันนี้เป็นการพูดคุยทำความเข้าใจ พร้อมยืนยันว่าการแก้ไขม.272 ไม่ได้เป็นการมัดมือชกใด ๆ และคิดว่าเราน่าจะทำภารกิจนี้ร่วมกันทั้ง 8 พรรค โดยยืนยันว่าหาแก้ไขม.272 ไม่สำเร็จพร้อมเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลตามที่ได้แถลงไว้กับประชาชน

เมื่อถามต่อว่าจะไม่เป็นการยืดเวลาในการจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญายืนยันว่า ไม่ได้เป็นการยืดเวลาอย่างแน่นอนซึ่งจะทราบผลในอาทิตย์หน้า หากผ่านสามารถดำเนินการวาระที่ 2 วาระที่ 3 แล้วเสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์ และไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นการยืดระยะเวลาไปไกล ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จัดตั้งรัฐบาลและนำคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณตน จากวันที่มีการเลือกตั้งใช้เวลาทั้งสิ้น 7 สัปดาห์ หากเราต้องการใช้เวลาแก้ไขม.272… 2-3 สัปดาห์ไม่ใช่การยืดเวลาอะไรอย่างใด

ซักว่ามีความมั่นใจ หรือไม่ว่าการแก้ไขม.272 จะเป็นทางออกของพรรคก้าวไกล ศิริกัญยากล่าวว่า เราเห็นใจส.ว.หลายท่านและเราก็ทราบว่า มีกระบวนการที่จะไม่ให้บุคคลเหล่านั้นมาโหวตให้กับนายพิธา ถูกขู่เอาชีวิตและเราเห็นใจและคิดว่านี่คือทางออกที่หลายฝ่ายสบายใจ รวมถึงส.ว.ด้วยที่อยากจะปิดสวิตช์ตัวเอง

ถามอีกว่ามีความเข้าใจในเรื่องสัดส่วนในการแก้ไขม. 272 ต้องใช้เสียงจากฝ่ายค้าน น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการโหวตที่อยู่ในขั้นที่ 3 ที่จะต้องใช้คะแนนเสียงจากฝ่ายค้าน ซึ่งเราได้มีการคำนวณแล้ว คิดว่าน่าจะผ่าน ถึงวาระที่สาม

เมื่อถามว่าเหตุใดพรรคก้าวไกลจึงไม่ถอยการแก้ไขมาตรา 112 แทนที่จะมาเดินหน้าแก้ไขม. 272 น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เป็นสิ่งที่เราได้สัญญากับประชาชน ผ่านการหาเสียงเลือกตั้ง และแล้วเราก็คิดว่าการแก้ไขม.112 เป็นเพียงข้ออ้าง ที่จะไม่โหวตให้กับพรรคก้าวไกล ถึงแม้ว่าเราจะยอมถอย และเสียสัจจะที่ได้สัญญาไว้กับประชาชน ก็ไม่ได้เป็นข้ออ้างที่ทำให้ส.ว. จะไม่โหวตให้กับเราเพราะเรื่องการแก้ไขม.112 อย่างแน่นอน ดังนั้นเราขอเลือกที่จะไม่เสียสัจจะที่ให้ไว้กับประชาชน

ถามว่าไม่กังวลเรื่องการที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่ยาวใช่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่าไม่ถึงขั้นนั้นและไม่ได้ใช้ระยะเวลาเป็นปีอย่างมากแค่ 3 สัปดาห์และอยู่ในวิสัยที่เราสามารถจัดการได้อย่างแน่นอนซึ่งนิด้าโพลได้มีการเผยแพร่อย่างชัดเจนว่าประชาชนอยากให้ทำการโหวตให้กับนายพิธาไปเรื่อยๆ

‘ชาติไทยพัฒนา’ รุดลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วย 2 ยายหลาน บ้านพังทรุดโทรมจากฝน-พายุหนัก

เมื่อไม่นานมานี้ นายประวิทย์ สุวรรณสัญญา กรรมการประชาสัมพันธ์ และเทคโนโลยีสาระสนเทศพรรคชาติไทยพัฒนา ผู้ประสานงานพรรคจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และทีมงาน ลงพื้นที่ เข้าเยี่ยม นางศิริ อัมวัฒน์ อายุ 84 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 7 ต.หนองน้ำใหญ่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับความเดือดร้อนและประสบภัยธรรมชาติ จากพายุและฝนตกหนัก จนบ้านพังเสียหาย

นางศิริ อาศัยอยู่กับหลานชายอายุ 15 ปี กันเพียง 2 คน รายได้ส่วนใหญ่หลานชายเป็นคนหา โดยรับจ้างทั่วไป วันละ 20-40 บาท เพื่อนำมาเลี้ยงชีพ จึงไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ เนื่องจากนางศิริ ไม่สามารถหาเงินได้ด้วยโรคชรา โดยตัวบ้านทรุดโทรม ทางเข้าบ้านต้องใช้แผ่นไม้เก่า ๆ ต่อกันเป็นจำนวนมากเพื่อให้เข้าบ้านได้ โดยคนตัวใหญ่ไม่สามารถเดินเข้าไปได้ และภายในบ้านเสียหายหลายจุด พื้นบ้านทรุดเป็นรูจำนวนมาก

นางศิริ เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่าเวลาจะไปเข้าห้องน้ำหรือเดินภายในบ้าน ต้องคอยระแวงว่าตรงไหนจะแตกหักแล้วตัวเองจะร่วงลงไป จึงประสานวิงวอน ขอความช่วยเหลือจากภาครัฐและเอกชน ช่วยเหลือเป็นการด่วนต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top