Sunday, 16 June 2024
ชัยธวัช_ตุลาธน

'ดร.สุวินัย' เชื่อ!! หาก 'ชัยธวัช' นั่งหัวหน้า ก็เพื่อรอการกลับมาของ 'ธนาธร' เตรียมคืนชีพ 'อนาคตใหม่' ดันแก้ ม.112 เพื่อ 'ปฏิรูปสถาบัน' เต็มสูบ

(19 ก.ย.66) ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Suvinai Pornavalai' ถึงกรณีหากพรรคก้าวไกลเลือก 'ชัยธวัช ตุลาธน’ นั่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ ว่า...

อันที่จริงนี่คือ การตระเตรียมคืนชีพ 'พรรคอนาคตใหม่' แบบเต็มตัวด้วยการยืนกรานผลักดันการแก้ ม.112 เพื่อ 'ปฏิรูปสถาบัน' โดยถือเป็นยุทธศาสตร์ของพรรคที่สำคัญที่สุด

การผลักดัน ชัยธวัช เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล ต่อจากพิธา จึงสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ก้าวไกลที่ยอมสละโอกาสเป็นรัฐบาลและพิธาเป็นนายกฯ เพราะไม่ยอมถอยการแก้ ม.112 ออกจากนโยบายหลักของพรรค

อนึ่ง ชัยธวัช คือผู้ร่วมก่อตั้งนิตยสารฟ้าเดียวกัน ร่วมกับธนาธร ชัยธวัชเป็นมือขวาของธนาธร และเป็นร่างทรงของธนาธรด้วย

ทุก move ของก้าวไกลที่ผ่านมา ล้วนอิงกับยุทธศาสตร์ล้มเจ้าของพรรคอนาคตใหม่ทั้งสิ้น

ถ้าก้าวไกลจะเอาความนิยม ควรต้องเลือกโรมเป็นหัวหน้าพรรค แต่นี่กลับเลือกชัยธวัช ที่ไร้เสน่ห์ดึงดูดสาวกสาว ๆ มันชัดเจนว่า ขัดตาทัพเพื่อรอธนาธรกลับมานำพรรคเท่านั้น

'ชัยธวัช' โพสต์เดือด!! "ประยุทธ์คิด เศรษฐาทำ ไอ้โม่งสั่ง" หลังนายกฯ ไม่ตอบกระทู้ก้าวไกล เอาแต่ตอบเรื่องที่ตัวเองเตรียมมา

(26 ต.ค. 66) นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์) ภายหลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ไม่มาตอบกระทู้ถามสดของพรรคก้าวไกล แต่มาตอบกระทู้ของ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ โดยระบุว่า วันนี้เป็นที่ชัดเจนว่า นายกฯ เจตนาไม่ตอบกระทู้ถามสดของพรรคก้าวไกล ต้องการจะตอบกระทู้ถามสดเฉพาะที่ตนเองเตรียมมาตอบ หรือชงให้โฆษณารัฐบาลเท่านั้น

จริง ๆ ประเด็นสำคัญของปัญหาที่ผมต้องการถามนายกฯ จะเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจที่มีลักษณะ “ประยุทธ์คิด เศรษฐาทำ ไอ้โม่งสั่ง” ด้วย

นายชัยธวัช ระบุเพิ่มเติมว่า น่าผิดหวังที่นายเศรษฐา กล้าใช้อำนาจในลักษณะที่อาจผิดกฎหมาย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่ควรปกป้องผลประโยชน์สาธารณะ และเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง แต่ไม่กล้าเผชิญหน้าการตรวจสอบจากฝ่ายค้านในสภา ตั้งใจไม่มาตอบกระทู้ถามสดของก้าวไกลแล้วเข้ามาตอบกระทู้ถามอื่นได้ในเวลาติดกัน

หลังจากเผยแพร่โพสต์ดังกล่าวปรากฏว่า มีชาวเน็ตแห่เข้ามาคอมเมนต์ถาม ไอ้โม่งคือใคร

‘ชัยธวัช’ รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น ‘ผู้นำฝ่ายค้าน’ ทำหน้าที่ถ่วงดุลรัฐบาล

(20 ธ.ค. 66) ที่รัฐสภา มีพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ลำดับที่ 10 โดยมี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่ 2 และสส.ของพรรคก้าวไกล รวมถึงข้าราชการของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ร่วมในพิธีดังกล่าว และร่วมแสดงความยินดี ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มี สส.จากพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้แม้แต่คนเดียว

ด้านนายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธาน สส.พรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงกรณีที่ สส.ประชาธิปัตย์ไม่ได้เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายชัยธวัช ที่ได้รับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ว่าเนื่องจากได้รับแจ้งตอนเข้าประชุมวิปฝ่ายค้าน ช่วงบ่ายเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ทำหน้าที่ ประธานวิปฝ่ายค้านบอกว่า ถ้าว่างให้เชิญมาร่วมพิธี รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งก็ได้ขอโทษไปแล้วว่า สส. ส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัดและเดินทางมาในพื้นที่กรุงเทพฯ แล้ว จึงไม่ได้เตรียมชุดขาวปกติมาเพื่อมาร่วมในพิธี แต่อย่างไรก็ตาม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะมีการนัดพูดคุยกับผู้นำฝ่ายค้านอยู่แล้ว จึงจะใช้โอกาสดังกล่าวในการแสดงความยินดี

‘ชัยธวัช’ ชี้!! ต้องหยุดนำสถาบันมายุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองไทยได้แล้ว

เมื่อวานนี้ (30 ม.ค. 67) นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ เปิดปากกับภาคภูมิ ทางไทยรัฐ ในประเด็น ‘หยุดเอาเรื่องสถาบันฯ เข้ามาเกี่ยวพันการเมืองไทยได้แล้ว’ โดยระบุว่า

“ต้องหยุดเอาเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเกี่ยวพันกับความขัดแย้งทางการเมืองไทยได้แล้ว เรื่องนี้ไม่ได้เริ่มต้นโดยพรรคก้าวไกลด้วยซ้ำ แต่เริ่มต้นโดยคณะกรรมการอิสระที่ตั้งโดยรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์”

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า มีคนเอาเรื่องสถาบันมาเป็นเหตุผลในการยุบพรรคการเมือง สอยนักการเมือง สร้างความเกลียดชังให้กับกลุ่มที่มีความขัดแย้งกัน พวกเรา (พรรคก้าวไกล) ก็หวังว่าจะเหลือพื้นที่ให้กับกระบวนการนิติบัญญัติ เป็นพื้นที่ที่จะหาข้อยุติความเห็นต่างอย่างมีวุฒิภาวะโดยกระบวนการประชาธิปไตย

นายชัยธวัช กล่าวถึงกรณีหากมีการยุบพรรคก้าวไกล จากสารตั้งต้นในเรื่อง ม.112 ว่า ก็ต้องดูรายละเอียดสําคัญ สส.พรรคก้าวไกลก็เห็นตรงกันว่าการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงบทบัญญัติมันมีปัญหาที่ควรที่จะต้องมีการแก้ไขปรับปรุง ดังนั้นก็รอดูอยู่ว่าคําวินิจฉัยจะมีรายละเอียดยังไง และก็ปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องเอามาเป็นองค์ประกอบในการพิจารณาในการดำเนินการเรื่องนี้ต่อไปของพรรคก้าวไกล 

นายชัยธวัช ระบุต่อว่า มาตรา 112 ยังมีความสำคัญในการคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งในการเมืองไทย และยังมีปัญหาทั้งในเชิงตัวบทกฎหมายและการบังคับใช้ และหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้อยู่ พรรคก้าวไกลก็ยังจะให้ความสำคัญต่อไป ส่วนจะดำเนินการแบบใด จะต้องพิจารณากันอีกที เพราะยังมีหลายเรื่องที่ต้องการผลักดันให้สำเร็จ

‘ธนกร’ ฟาดใส่ ‘ชัยธวัช’ เอาแรงงานมาอ้าง หวังผลโจมตีทางการเมือง ชี้!! รัฐมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตปชช. ปรับค่าแรงทุกปี แต่ต้องดูให้รอบคอบ

(1 พ.ค. 67) นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) กล่าวว่ากระทรวงแรงงาน และรัฐบาลให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนภาคแรงงาน เพราะถือเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ พัฒนาเศรษฐกิจ ทั้งในส่วนของภาคอุตสาหกรรม การเกษตรและภาคท่องเที่ยว ล้วนต้องใช้แรงงานที่มีฝีมือและมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งล่าสุดกระทรวงแรงงานได้ประกาศข่าวดีมาแล้วว่าเตรียมขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศในปีนี้และปรับขึ้นทุกปี โดยผ่านคณะกรรมการไตรภาคี ซึ่งจะดำเนินการเร็วขึ้นจากแผนงานที่วางไว้

นายธนกร กล่าวว่า จากกรณีที่ นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายเซีย จำปาทอง สส.พรรคก้าวไกล ออกมาโจมตีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน และนายกฯว่าให้ความหวังผู้ใช้แรงงานลมๆ แล้งๆ ไม่ทำตามที่หาเสียงไว้นั้น ตนมองว่า การปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็นอำนาจของคณะกรรมการค่าจ้าง ซึ่งเป็นองค์กรไตรภาคีตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ที่มีผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง และผู้แทนฝ่ายรัฐบาล ซึ่งเป็นข้าราชการประจำ ดังนั้น ฝ่ายการเมืองหรือ รมว.แรงงาน จึงไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ โดยรัฐบาลต้องดูให้รอบด้านไม่ใช่มองแค่ฝ่ายลูกจ้างอย่างเดียว ต้องดูถึงสภาพคล่องและกำลังทุนของนายจ้างและผู้ประกอบการรวมถึงสภาวะเศรษฐกิจของประเทศควบคู่กันไปด้วย จึงทำให้คณะกรรมการไตรภาคีต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ อีกทั้งนายกฯและรัฐบาลก็ยึดนโยบายหลักที่ได้แถลงต่อสภาไว้ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องผู้ใช้แรงงานในการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทุกปีอยู่แล้ว

“การที่พรรคก้าวไกล ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาล เร่งขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำตามที่หาเสียงไว้นั้น มองว่าเป็นการหวังดีประสงค์ร้าย นำผู้ใช้แรงงานมาบังหน้าเพื่อโจมตีทางการเมืองรัฐบาล เพราะถ้าหากกระทรวงแรงงาน เข้าไปก้าวก่าย แทรกแซงคณะกรรมการไตรภาคี ให้ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอย่างรวดเร็ว ย่อมจะถูกก้าวไกลโจมตีอีกเช่นกัน ซึ่งตามหลักการแล้ว ทุกรัฐบาลต้องหารือผ่านคณะกรรมการไตรภาคี และต้องคิดอย่างรอบคอบว่าผู้ประกอบการ จะได้รับผลกระทบแบกรับต้นทุนไหวหรือไม่ หากมีการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจนทำให้ต้นทุนการผลิตสูงเกินไปจน นายจ้างผู้ประกอบการ แบกรับไม่ไหว สุดท้ายผลกระทบก็จะกลับมาที่ผู้ใช้แรงงานอยู่ดี การโจมตีทั้งขึ้นทั้งล่องแบบนี้ จึงมองว่า ก้าวไกลนำความเดือดร้อนของประชาชนมาบังหน้าเพื่อหวังดิสเครดิตรัฐบาล จึงอยากถามกลับว่า เป็นการหวังดีต่อพี่น้องผู้ใช้แรงงานจริงๆ หรือไม่ หรือหวังผลทางการเมืองเพียงอย่างเดียว” นายธนกร ระบุ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top