Friday, 17 May 2024
ฆ่าลูกโบกปูน

เปิดคำสารภาพ ‘พ่อ-แม่’ ใจโหด เผยปมสังหารลูกน้อย 5 ศพ เพราะ ‘ทนเสียงร้องเด็กไม่ได้-น้อยใจชีวิตลำบาก-ป่วยทางจิต’

(21 ก.ย. 66) จากกรณีพ่อแม่โหดสังหารลูก 2 ขวบ แล้วนำไปโบกปูนฝังอำพรางที่บ้านต่างจังหวัด จนเป็นข่าวสะเทือนใจคนไทยทั้งประเทศ ยิ่งเมื่อรู้ว่า พ่อรายนี้ยังลงมือฆ่าลูกนำฝังดินอีก 4 ศพ รวมแล้วเป็น 5 ศพด้วยกัน

ล่าสุด มีรายงานคำสารภาพของ นายส่องศักดิ์ หรือ ‘เอ็ม’ อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาลงมือฆ่าลูก รับสารภาพว่า ได้ลงมือทำร้ายร่างกายจนทำให้เด็กถึงความตาย คือ

1.) ด.ช.ไข่ดำ (ลูกกับ น.ส.เจษ) โดยลงมือใช้มือตบตี ที่ท้องเป็นจำนวน 2-3 ครั้ง ด้วยความแรง ทำให้เกิดการชักและเสียชีวิต นำร่างไปทิ้งที่สวนจตุจักร
2.) ด.ช.เล็กต้า (ลูกกับ น.ส.เจษ) โดยลงมือใช้มือตบตี ที่ลำตัวและท้องเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 6 ครั้ง ด้วยความแรง แต่เด็กยังร้องไม่เลิก จึงนำไปขังไว้ในตู้วางทีวี จนกระทั่งเสียชีวิต นำร่างไปทิ้งที่สวนจตุจักร
3.) ด.ญ.โมเดล (ลูกกับ น.ส.สุนัน) โดยลงมือตีไปที่ท้อง จากนั้นเด็กก็เริ่มป่วย และเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา จากนั้นได้นำร่างไปโบกปูนที่ จ.กำแพงเพชร

ในส่วนอีก 2 ราย นั้น นายเอ็ม สารภาพว่าไม่ได้ลงมือทำร้าย ดังนี้

4.) ด.ช.ธนาทรัพย์ (ลูกกับ น.ส.เจษ) เสียชีวิตจากการป่วยออดๆ แอดๆ และมีแผลจากการเสียดสีกับที่นอนที่บริเวณศรีษะ จึงนำร่างไปทิ้งที่ ศาลตายาย พื้นที่ สน.สายไหม
5.) ด.ช.นัฐพงศ์ (ลูกกับ น.ส.เจษ) เสียชีวิตจากที่ตนเองบังคับให้ น.ส.เจษฎา (ภรรยาคนที่ 2) เอาผ้าอุดปากจนชัก แล้วนำไปขังไว้ในตู้วางทีวี และป่วยตายในเวลาต่อมา จึงนำร่างไปทิ้งที่ ศาลตายาย พื้นที่ สน.สายไหม

ขณะที่ น.ส.เจษฎา หรือ ‘เจษ’ ภรรยาคนที่ 2 ซึ่งมีลูกด้วยกันกับนายเอ็ม 5 คน รับสารภาพว่า ลงมือใช้ผ้าอุดปาก ด.ช.นัฐพงศ์ (ลูกคนที่ 5) แล้วนำไปขังไว้ในตู้วางทีวี และป่วยตายในเวลาต่อมา แต่ที่ทำไปเพราะเป็นการปกป้องมิให้ นายส่องศักดิ์ลงมือเอง

อย่างไรก็ตาม นายส่องศักดิ์ ยังเปิดเผยอีกว่า ตนได้ลงมือทำร้ายภรรยาคนที่ 2 หรือ น.ส.เจษฎา และ ด.ญ.ปิ่น ลูกสาวคนโต เป็นประจำ โดยมีพฤติกรรมเอาไม้แขวนเสื้อตี, จับหัวกดน้ำ, ใช้มีดหรือไขควงรนไฟ แล้วเอามาจี้ เอาไฟแช็ครน โดยมีสาเหตุในการทำร้ายจากความหึงหวง และขัดใจที่ภรรยาไม่ทำตามคำสั่ง

ส่วนที่ลงมือทำร้ายเด็กๆ เพราะ ‘ทนเสียงร้องเด็กไม่ได้’ เมื่อได้ยินแล้วเกิดอารมณ์โมโห ฉุนเฉียว ด้วยรู้สึกว่าชีวิตตนเองต้องมาประสบกับชะตากรรมยากลำบาก หากงานทำไม่ได้เพราะมีประวัติ และมีอาการป่วยทางจิต บางครั้งลูกก็ร้องเพราะความหิว แต่ตนก็ไม่มีเงินไปซื้อนมซื้ออาหาร จึงเกลียดเสียงร้องของเด็กเป็นอย่างมาก

ส่วนที่ทำให้ ด.ญ.ปิ่น ลูกสาวคนโต ซึ่งเป็น 1 ใน ลูกทั้ง 5 คนของนายส่องศักดิ์ และภรรยาคนที่ 2 น.ส.เจษ รอดชีวิต เป็นเพราะช่วงเด็กแบเบาะได้นำไปให้พ่อตาเลี้ยง จนโตระดับหนึ่งแล้วค่อยกลับมาอยู่กับพ่อแม่ จึงไม่ค่อยส่งเสียงร้อง

อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ให้นายส่องศักดิ์ ใช้แรงที่ตีเด็กแต่ละครั้งตีมาที่เจ้าหน้าที่ ปรากฏว่า “มือหนักมาก”

ด้าน น.ส.เจษฎา ภรรยาคนที่ 2 ผู้ต้องหาช่วยสังหารลูกคนที่ 5 เปิดใจว่า เหตุที่ยังทนอยู่กับ นายส่องศักดิ์ เพราะว่าเป็น ‘รักแรก’ และไม่เคยมองถึงชายอื่น หรือตัวเลือกอื่นๆ จำใจทนอยู่จนถึงปัจจุบัน

ส่วนสาเหตุที่ นายส่องศักดิ์ ไปมีเมียใหม่คือ น.ส.สุนัน ภรรยาคนที่ 3 (ผู้ต้องหาฆ่าโบกปูนลูก 2 ขวบ) นั้น เพราะด้วย น.ส.เจษฎา ไปทำหมัน แล้วไม่มีอารมณ์ทางเพศ นายส่องศักดิ์ บ่นว่าเหมือนนอนกับท่อนไม้ ซึ่งถุงที่พบที่จุดทิ้งศพ พื้นที่ สน.สายไหม ทั้ง นายส่องศักดิ์ และ น.ส.เจษฎา ยอมรับว่าเป็นถุงที่นำศพเด็กไปทิ้งจริงๆ

‘ส่องศักดิ์’ พ่อใจโหดฆ่าลูก คอตกนอนคุก ไร้คนยื่นประกันตัว ด้าน ‘กรมราชทัณฑ์’ นำตัวฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

(22 ก.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา พนักงานสอบ สน.บางเขน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอฝากขังนายส่องศักดิ์ ส่งแสง กับพวก รวม 2 สำนวน ประกอบด้วย คำร้องฝากขัง หมายเลขดำ ฝ.1406/2566 ซึ่งมีนายส่องศักดิ์ ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1 และน.ส.สุนัน ภรรยา ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย, ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิดการตาย หรือเหตุแห่งความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 199, 290 วรรคหนึ่ง

ในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาที่ 1 รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 รับสารภาพในข้อกล่าวหาร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิดการตาย หรือเหตุแห่ง ความตาย ส่วนข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายนั้นผู้ต้องหาที่ 2 ให้การปฏิเสธ

ซึ่งการฝากขัง ทั้งพนักงานสอบสวน ผู้ร้อง และผู้เสียหาย ขอคัดค้านการให้ประกันตัวด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงหากปล่อยตัวไปเกรงว่าจะหลบหนี และผู้เสียหายอาจได้รับอันตรายเนื่องจากผู้ต้องหาทราบที่อยู่ของผู้เสียหาย

และคำร้องฝากขัง หมายเลขดำ ฝ.1407/2566 กล่าวหา นายส่องศักดิ์ ผู้ต้องหา ความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายสาหัส, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดฯ หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 (4), 309 ในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ซึ่งการฝากขัง ทั้งพนักงานสอบสวน ผู้ร้อง และผู้เสียหาย ขอคัดค้านการให้ประกันตัวด้วย เนื่องจากเกรงว่าหากปล่อยตัวไปแล้วจะหลบหนียากแก่การติดตามตัวมาภายหลัง และจะข่มขู่ผู้เสียหาย

โดยศาลอาญา อนุญาตให้ฝากขังตามคำร้องทั้ง 2 สำนวน ซึ่งผู้ต้องหาไม่ได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวในชั้นฝากขังนี้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top