Monday, 29 April 2024
คึกคะนอง

ดี้ นิติพงษ์’ สุดเคือง!! ถูกผู้ประกาศช่องดังโพสต์แขวะ เตือน!! ระวังได้รับตราครุฑจากศาล ระงับความคึกคะนอง

วันที่ (29 พ.ค. 66) จากกรณีที่ รายการเล่าข่าวข้น ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมท็อปนิวส์ ดำเนินรายการโดย นายกนก รัตน์วงศ์สกุล และนายธีระ ธัญไพบูลย์ เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ได้นำเสนอข้อความจากเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Piyanee Thiam-amporn’ ของ น.ส. ปิยณี เทียมอัมพร ผู้ประกาศข่าวในพระราชสำนัก สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 แคปภาพหน้าจอข้อความระบุว่า

“มีสองอย่างที่ไม่ควรปล่อยให้เสรี 1.) กัญชา 2.) ท็อปนิวส์” เจ้าตัวระบุว่า “คอมเมนต์นี้ดีนะคะ ฝากรัฐบาลใหม่นำไปพิจารณาเพิ่มเติมด้วยค่ะ ล่าสุดข่าวปั่นเรื่องอเมริกา (อเมริกา) ที่เราว่าติงต๊องๆ กันนะ มีคนเอาจริงเอาจังอยู่นะคะ ดูอย่างพี่นักแต่งเพลงท่านนั้นสิ แม่ประไพ”

ซึ่งกล่าวพาดพิงถึงนายนิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงที่มักจะใช้คำว่า “แม่ประไพ” ในเฟซบุ๊กบ่อยครั้ง

ล่าสุด นายนิติพงษ์ ห่อนาค หรือ ‘ดี้’ นักแต่งเพลงชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ ‘Nitipong Honark’ ระบุว่า…

“เสียดาย และเศร้าใจ นี่ก็น้องๆ ทั้งนั้นที่ฉันชื่นชม ความจริงก็ไม่ได้เห็น แต่ก็มีผู้หวังดีส่งมาให้ซ้ำกันมากมาย ก็รู้จักกันทั้งนั้น พี่น้องกัน เรื่องท็อปนิวส์ ก็ว่าของเขาไป จะฟ้องจะอะไรก็ตาม แต่น้องมาแขวะอะไรฉันเนี่ย ที่เคืองที่สุดคือ แม่ประไพของฉันมีเป็นแสนคน คะนองอะไรนักหนาหรืออีหนู?

ได้ข่าวว่าท็อปนิวส์เขาจะฟ้องร้อง…ก็ว่าไปฉันไม่ถือสาแล้ว…แต่ก็อยากให้ได้รับบทเรียนที่เป็นยาระงับความคะนองอันไร้ประโยชน์กับทุกฝ่าย อย่าบูลลี่ คะนองอะไรอีกเลย กับคนไทยด้วยกัน สงสารตำรวจ อัยการ ศาลเถิด…ตอนนี้คดีหมิ่นฯ ทางคอมพ์ฯ มันเกิดขึ้นง่าย ชนิดที่ว่า อยากโพสต์ก็พิมพ์เดี๋ยวนี้ อีกสามนาทีก็ด่าได้อีก อีกสิบนาทีก็ด่าได้อีก เหมือนกับว่า ผู้คนสมัยนี้อยากด่าทุกอย่างในโลก โดยไม่เสพสุนทรีย์อย่างอื่น นอกจากการด่าๆๆๆ โทษทุกอย่าง โดยที่ไม่มีความผิดของตัวเอง

ด้วยเครื่องมืออันง่ายดายและไร้ความรับผิดชอบ คือ โซเชียลมีเดีย แต่พอมีผู้เสียหายเกิดขึ้น โดยสามัญสำนึกวิญญูชน ก็ต้องฟ้องตำรวจ รอตำรวจส่งสำนวนอัยการ อัยการพิจารณาว่าจะส่งฟ้องศาลไหม ? ศาลรับมาแล้วจะตัดสินว่าควรส่งหมายให้มาขึ้นศาลไหม ?

ในโซเชียลมีเดีย พิมพ์ด่าได้ทุกวินาที และวินาทีละหลายคน แชร์ได้อีกทีละหลายพันหลายหมื่น แต่กระบวนยุติธรรมของเรา ต้องพิจารณาทีละคดี คดีนึงกว่าจะผ่านตำรวจ ซึ่งก็มีคดีท่วมหัว คดีสำคัญมีเป็นร้อยเป็นพัน แล้วมามีคดีคนด่ากัน นึกถึงใจตำรวจนะ เขาก็ไม่ไหว หรือถึงไหว ก็ส่งอัยการ อัยการก็กลับมาตอแย ขอน้ำหนักสำนวนให้ดีกว่านี้ กูจะได้ส่งให้ศาลท่านประทับรับฟ้องได้…

กว่าจะมีครุฑจากศาลไปถึงจำเลยได้ จากวันแรกที่เกิดเหตุ มาถึงวันที่ไอ้ปากมอมกลายเป็นจำเลย ใช้เวลาประมาณ 2-5 ปี มันด่าคน แค่สองนาที ก็ได้สองเคส ด่าไอ้โน่น ได้อีกสองเคส แต่แต่ละเคส กว่าจะตัดสินได้ก็ประมาณ 2 ปี

แต่…แต่…ช้าแต่…อย่าได้ลำพองไป

คดีหมิ่นประมาท จากนี้ไป ผู้เสียหายจะไม่ผ่านกระบวนการราชการอีกแล้ว เขาจะมีทนาย ทั้งทนายแพง และทนายฟรีผู้ซึ่งรักความเป็นธรรม แบ่งเบางานตำรวจ อัยการ ไปถึงศาลด้วยตัวเองเลย

ซึ่งขั้นตอนจะไวมากขึ้น จาก 2 ปี อาจจะเหลือ 2 เดือน ที่จะเอาคุณจำเลยมารับรางวัลที่ควรจะได้รับ แต่จริงๆ นะ… ถ้าเราไม่เริ่มด้วยการด่ากันแบบคะนองเหมือนเด็กๆ จะเสนอความเห็นอะไร ก็เสนอ มันก็จะไม่เปลืองแรงงานปัญญาของตำรวจ อัยการ ศาล… เพราะยุคนี้ คดีบุลลี่ไร้สาระ มันเปลืองแรงงานเจ้าหน้าที่เหลือเกิน

เตือนสติ กลุ่มเยาวชนปาหินใส่รถไฟ สุดท้ายถูกตำรวจคลองตัน ดำเนินคดี ทำบันทึกทัณฑ์บน พร้อมผู้ปกครอง

27 มิ.ย. 2566 ความคืบหน้าเหตุ กลุ่มเยาวชน ร่วมกันก่อเหตุปาหิน ใส่ขบวนรถไฟ สายกรุงเทพ-ปราจีนบุรี ใกล้สถานีแอร์พอร์ตลิงก์รามคำแหง กรุงเทพฯ จนทางตำรวจ สน.คลองตัน ได้ลงพื้นที่เร่งติดตามตัวผู้ปกครองเด็กเหล่านี้มาดำเนินการทำทัณฑ์บน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีกนั้น
ล่าสุด เมื่อค่ำที่ผ่านมา พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน สั่งการให้ พ.ต.ท.ประเสริฐ จันทร์อักษร รอง ผกก.สส.สน.คลองตัน นำกำลังติดตามตัวเยาวชนชาย อายุระหว่าง 13-16 ปี จำนวน 7 ราย พร้อมกับผู้ปกครองมาที่ สน.คลองตัน 

จากการสอบถามเยาวชน รับว่าตนเองนั้นลงมือก่อเหตุจริง โดยทำเป็นครั้งแรก เกิดจากสาเหตุความคึกคะนองของกลุ่มเยาวชนดังกล่าว  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จัดทำบันทึกทัณฑ์บนความผิดครั้งแรก แก่ผู้ปกครองและเยาวชนว่า จะไม่ประพฤติตนเช่นนั้นอีก ซึ่งเป็นถือเป็นพฤติกรรมที่ถือว่าเป็นเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด 

ตามกฎกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เรื่อง กำหนดเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด พ.ศ.2549 ออกตามความมาตรา 4 พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 โดยหากฝ่าฝืนจะถือว่าเป็นความผิดฐาน ปล่อยปละละเลย หรือยุยงส่งเสริมเด็กหรือเยาวชนให้กระทำความผิด ซึ่งผู้ปกครองได้รับทราบและเข้าใจดี   
และยังบันทึกข้อตกลงการเลี้ยงดูเด็ก โดยตกลงว่าจะดูแลเยาวชนเป็นอย่างดี และไม่ให้มาก่อเหตุเช่นนี้อีก พร้อมทั้งลงประจำวัน ไว้เป็นหลักฐาน และส่งตัวเยาวชนให้แก่ผู้ปกครองต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top