Friday, 3 May 2024
ข่าวเท็จ

‘ตระกูลรัตนพันธ์’ โดน ‘SC’ จี้ หลังให้ข้อมูลสื่อตีแผ่ข้อมูล พร้อมขู่!! ‘Top News’ หยุดนำเสนอข่าว-ลบข้อมูลทิ้ง

ครอบครัวรัตนพันธ์ ทำหนังสือถึงทีวีดาวเทียมช่องหนึ่ง เผื่อแผ่สื่อมวลชนทุกสำนัก กรณีแถลงข่าวแล้วเอสซี แอสเสท คู่กรณียื่นโนติสทีวีดาวเทียม หยุดนำเสนอข่าวและลบข่าวออกจากระบบ ขณะที่ก่อนหน้านี้เอสซีฯ แจงคดีอยู่ในศาล เคยแจ้งตลาดหลักทรัพย์แล้ว

(7 มี.ค. 66) จากกรณีที่ กลุ่มครอบครัวรัตนพันธ์ ได้เปิดแถลงข่าวที่ห้องกมลพร โรงแรมเดอะสุโกศล กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ระบุว่า ถูกบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ไม่ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงการรวบรวมที่ดินเพื่อเสนอขาย เนื้อที่กว่า 34 ไร่ บริเวณถนนรัชดา-รามอินทรา แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้ครอบครัวรัตนพันธ์ ต้องสูญเสียบ้านและที่ดินตามสัญญาประนีประนอมยอมความ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท และต้องบ้านแตกสาแหรกขาด เนื่องจากทรัพย์สินทั้งหมดตกไปเป็นของนายทุนเงินกู้ ครอบครัวรัตนพันธ์ต่อสู้คดีกันด้วยตนเอง มายาวนานกว่า 3 ปี ซึ่งศาลได้มีคำสั่งรับฟ้องแย้งของครอบครัวรัตนพันธ์จำนวน 1,503 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา

ต่อมานายสมบูรณ์ คุปติมนัส เลขานุการ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือถึงบรรณาธิการ สำนักข่าว Top News (หรือสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมท็อปนิวส์) ลงวันที่ 3 มี.ค. ขอให้ยุติเสนอข่าว อ้างว่าข้อมูลทั้งหมดที่กลุ่มครอบครัวรัตนพันธ์แถลงเป็นความเท็จ ข้อเท็จจริงทั้งหมดอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล ซึ่งบริษัทฯ ได้เป็นโจทก์ฟ้องดำเนินคดีกลุ่มบุคคลนี้ ในข้อหาหมิ่นประมาท ทั้งทางแพ่งและทางอาญา ขณะนี้ อยู่ในกระบวน การพิจารณาของศาล จึงขอแจ้งให้สำนักข่าว Top News ยุติการนำเสนอข่าว และนำออกจากสื่อออนไลน์ระบบคอมพิวเตอร์โดยทันที มิฉะนั้น บริษัทฯ จำเป็นที่จะต้องดำเนินคดีกับตามกฎหมายต่อไป

ล่าสุด ครอบครัวรัตนพันธ์ ทำหนังสือเรื่อง ครอบครัวรัตนพันธ์ขอยืนยันว่าสิ่งที่ได้แถลงข่าว และหรือการให้สัมภาษณ์เป็นความจริงทุกประการ ลงวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา ถึงกองบรรณาธิการ สำนักข่าว Top News และพี่น้องสื่อมวลชนทุกสำนักข่าว ระบุว่า ตามที่ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ส่งหนังสือมายังกองบรรณาธิการ สำนักข่าว Top News โดยมีเนื้อหาให้ยุติการนำเสนอข่าวและนำออกจากสื่อออนไลน์โดยทันที โดยกล่าวอ้างเพียงว่าข้อมูลทั้งหมดที่ ครอบครัวรัตนพันธ์แถลงเป็นความเท็จทั้งสิ้นนั้น

ครอบครัวเราขอยืนยันว่า ทุกข้อมูลที่ได้นำเรียนไปในการแถลงข่าว ตลอดจนการได้รับเชิญให้มาร่วมรายการ การให้ข้อมูลผ่านการสัมภาษณ์ ต่าง ๆ นั้น เป็นความจริงโดยทั้งสิ้น และประการสำคัญที่ครอบครัวต้องตัดสินใจนำเรื่องดังกล่าวมาเปิดเผยต่อสาธารณะ เพราะตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา ครอบครัวเราต้องต่อสู้ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม อย่างโดดเดี่ยวมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ใช้ความพยายาม ในการร้องเรียนและติดตามไปในหลายช่องทาง แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด จนทำให้ทางครอบครัวรู้สึกท้อใจ เพราะสิ่งที่กำลังต่อสู้อยู่นั้น คือ กลุ่มคนที่มีอำนาจ แต่ครอบครัวเราตระหนักดีว่าหากไม่สู้หรือยอมแพ้ พฤติกรรมแบบนี้ของคนกลุ่มนี้ อาจส่งผลกระทบให้กับประชาชนอื่น ๆ ตลอดจนครอบครัวอื่น ๆ ได้อีกเช่นกัน ครอบครัวรัตนพันธ์จึงตัดสินใจนำเสนอความจริงสู่สาธารณะ เนื่องจากเหตุการณ์เกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลที่มีอำนาจทางการเมืองและบริษัท (มหาชน) ในตลาดหลักทรัพย์ที่ประชาชนทั่วไปเข้าลงทุนได้ การเปิดเผยข้อมูลที่เกิดขึ้นจากการให้ครอบครัวรัตนพันได้รับประโยชน์จากส่วนต่างราคาที่ดินกว่า 200 ล้านบาทหรือการนำเงิน 20 ล้านบาทออกมาจากบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มาให้กับครอบครัวรัตนพันธ์ เพื่อปกปิดพฤติการณ์ของตนเองในขณะนั้น กระทำได้หรือไม่ ถูกต้องชอบธรรมกับผู้อื่นหรือไม่ เหตุใดคุณณัฐพงศ์ CEO ต้องให้เงิน 20 ล้านบาท และถ้าไม่ให้ในขณะนั้นได้หรือไม่ การเปิดเผยข้อมูลที่เกิดขึ้นของบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ และเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้ครอบครัวรัตนพันธ์ได้รับความเป็นธรรม

ครอบครัวรัตนพันธ์เห็นด้วยว่า ในการที่สาธารณะได้รับทราบข้อเท็จจริงจากครอบครัวเราเพียงฝ่ายเดียวนั้น ย่อมไม่เป็นธรรมกับบริษัทเอสชีฯ และครอบครัวชินวัตร ดังนั้นครอบครัวรัตนพันธ์จึงประสงค์ให้บริษัทเอสซีฯ และครอบครัวชินวัตรได้นำเสนอข้อเท็จจริงออกมาเพื่อให้ประชาชนได้รับฟังความจริงจากท่านเพื่อความเป็นธรรมกับตัวท่านเอง หาใช่ว่าจะใช้วิธีการข่มขู่ คุกคามให้สื่อมวลชน ยุติการนำเสนอข่าว ซึ่งการจำกัดเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสาร เพื่อปิดกั้นการรับรู้ของประชาชนในสังคมเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในยุคประชาธิปไตย เพราะเสรีภาพสื่อคือเสรีภาพประชาชน การก้าวก่ายสื่อมวลชน ก็เท่ากับประชาชนขาดอิสรภาพในการรับรู้ข่าวสารไปด้วยไม่ต่างกัน นอกจากความจริงที่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะไปแล้วนั้น ครอบครัวรัตนพันธ์ยังมีข้อมูลความจริงอีกมาก ทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษรและคลิปเสียงหลักฐานในเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเอสซีฯ และบุคคลในครอบครัวชินวัตรโดยตรง เช่น กรณีของคุณพานทองแท้ ชินวัตร (โอ๊ค) ก่อนการตัดสินคดีความเมื่อปี 2562 ข้อมูลที่เราแถลงออกมาเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของหลักฐานที่มีอยู่เท่านั้น

'กกต.' โต้ 'ผอ.ข่าวเวิร์คพ้อยท์' ปม 'คะแนนโผล่ขั้วตรงข้าม' ที่นนท์ ยัน!! เป็น 'ข่าวเท็จ' เตือน!! ผู้ใดกด 'ไลก์-แชร์' มีโทษหนัก

(12 พ.ค. 66) กรณีนายสมภพ รัตนวลี ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวเวิร์คพอยท์ แสดงความเห็นทางแอปพลิเคชัน TikTok ว่า "คนที่เค้าไปเลือกที่จังหวัดเค้า แต่คะแนนกลับโผล่จังหวัดนนทบุรี แล้วกาจากพรรคหนึ่งกลายเป็นอีกพรรคหนึ่ง ขั้วตรงข้ามกันเลย แล้วเป็นอย่างนี้อีกหลายคน กกต. ออกมายอมรับแล้วอ้างว่าเจ้าหน้าที่ผิดพลาด" นั้น ข้อความดังกล่าวเป็นความเท็จทั้งสิ้น

กกต. ขอชี้แจงว่า ในการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้งของจังหวัดนนทบุรี การกล่าวอ้าง
ว่ามีผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปใช้สิทธิเลือกตั้งในจังหวัดหนึ่ง แต่คะแนนไปโผล่ที่จังหวัดนนทบุรี โดยมีการลงคะแนนให้ผู้สมัครอีกพรรคหนึ่งแต่คะแนนกลับไปปรากฎให้ผู้สมัครอีกพรรคหนึ่ง เนื่องจากยังไม่มีการนำบัตรมานับคะแนนจึงไม่อาจทราบว่าคะแนนเป็นของผู้สมัครคนใด ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวจึงเป็นความเท็จ และเหตุการณ์ดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นจริงในการเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้งของจังหวัดนนทบุรี ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ

คำเตือน ผู้ใดแชร์ข่าวดังกล่าวด้วยวิธีการกดไลก์ กดแชร์ รีทวิต รีโพสต์ ทางยูทูบ ทางติ๊กต็อก ส่งต่อทางไลน์ไปยังกลุ่มต่างๆ หรือช่องทางสื่อสารอื่นๆ จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top