Friday, 17 May 2024
ก้าวหน้า

'อั้ม เนโกะ' ซัดพรรคอ้างว่า ‘ก้าวหน้า-ก้าวไกล’ แต่ทำตัวล้าหลัง เป็นของปลอมที่ชอบออกตัว

(30 พ.ย. 65) นายศรัณย์ ฉุยฉาย หรืออั้ม เนโกะ ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ซึ่งลี้ภัยอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส โพสต์เฟซบุ๊กพร้อมแคปรูปทวิตเตอร์ของนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลระบุว่า…

ความทุเรศของนักการเมืองไทยที่สังกัดอยู่กับพรรค กับกลุ่มที่ชอบอ้างว่าตัวเองก้าวหน้า ก้าวไกล แต่กลับทำตัวล้าหลังไปร่วมกิจกรรมกับพรรคการเมืองฝ่ายขวาอนุรักษ์นิยมของเยอรมนี

'ก้าวไกล' ชู แคมเปญ 'ขอคนละชื่อ ปลดล็อกท้องถิ่น' ยัน!! ไม่นำไปสู่การยกเลิก 'กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน'

(7 ธ.ค. 65) แถลงการณ์พรรคก้าวไกล ต่อกรณีที่มีการพยายามโจมตีว่าการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม หมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่การยกเลิกกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ยืนยันไม่เป็นความจริงที่ผ่านมา คณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกล ได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรณรงค์และนำเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม หมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกับประชาชนที่เข้าชื่อจำนวน 80,772 คน ภายใต้ชื่อแคมเปญ 'ขอคนละชื่อ ปลดล็อกท้องถิ่น'

หัวใจสำคัญของข้อเสนอคือการกระจายอำนาจให้กับประชาชน ให้ทุกจังหวัดทุกพื้นที่มีอำนาจและทรัพยากรเพียงพอในการกำหนดอนาคตของตนเองและยกระดับการพัฒนาของพื้นที่ ผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน

ในที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 30 พ.ย. ตัวแทนของประชาชนผู้เสนอร่าง ได้ชี้แจงหลักการและเหตุผลของร่างฯ โดยสมาชิกรัฐสภาจากหลายฝ่ายได้แสดงความเห็นในเชิงสนับสนันกับหลักการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ในฐานะกลไกในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยกระดับบริการสาธารณะ และลดความเหลื่อมล้ำระหว่างพื้นที่ แม้อาจมีข้อถกเถียงที่แตกต่างกันในเชิงรายละเอียด

ทางเราได้พยายามชี้แจงและตอบทุกข้อสงสัยของสมาชิกรัฐสภาและประชาชนทั่วไป แต่เราเข้าใจเป็นอย่างดีว่าบางท่านอาจยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อสถานะและบทบาทของข้าราชการส่วนภูมิภาค และ เจ้าหน้าที่รัฐส่วนท้องที่ (เช่น กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน) หากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา โดยเฉพาะความกังวลที่ถูกสะท้อนในแถลงการณ์ของ ชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แห่งประเทศไทย ฉบับที่ 2/2565 (6 ธันวาคม 2565) ทางเราจึงขอชี้แจงเพื่อความชัดเจนดังกล่าว...

1. ส่วนภูมิภาค และ ส่วนท้องที่ มีลักษณะที่แตกต่างกัน - ส่วนภูมิภาคประกอบไปด้วยจังหวัดและอำเภอ (อ้างอิง พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน พุทธศักราช 2534 มาตรา 51) ซึ่งข้าราชการมาจากการแต่งตั้ง ในขณะที่ส่วนท้องถิ่นประกอบไปด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่มาจากการเลือก และถูกคาดหวังให้ประสานงานระหว่างราชการส่วนภูมิภาคกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อ้างอิง พ.ร.บ. ลักษณะปกครองท้องที่ พุทธศักราช 2457 และที่แก้ไขเพิ่มเติม) ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้มีข้อเสนอใด ๆ เกี่ยวกับราชการส่วนท้องที่ ดังนั้น จึงไม่นำไปสู่การยกเลิกกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านแต่อย่างใด

'ก้าวหน้า-ก้าวไกล' เสียดายอนาคตประเทศ หลังสภาคว่ำร่าง 'ปลดล็อกท้องถิ่น'

‘ก้าวหน้า-ก้าวไกล’ แถลงเสียดายอนาคตประเทศ หลังสภาคว่ำร่างปลดล็อกท้องถิ่น ‘ธนาธร’ ยัน ไม่ได้เสนอยกเลิกกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ด้าน ‘พิธา’ รับไม้ต่อ ชูนโยบายกระจายอำนาจปราศรัยทั่วประเทศ ชี้ ส.ส. มีหน้าที่ผ่านกฎหมายก้าวหน้า ไม่ใช่ดึงงบลงบ้านใหญ่

(7 ธ.ค. 65) ที่รัฐสภา คณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกล ร่วมแถลงข่าวภายหลังรัฐสภามีมติไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ‘ปลดล็อกท้องถิ่น’ จากการเข้าชื่อของประชาชน ด้วยคะแนนรับหลักการ 254 คน ไม่รับหลักการ 245 คน และ งดออกเสียง 129 คน นำโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย พรรคก้าวไกล และวีระศักดิ์ เครือเทพ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หนึ่งในผู้ชี้แจงร่างปลดล็อกท้องถิ่น

ธนาธร กล่าวว่า เราอยู่ในความขัดแย้งทางการเมืองมานาน แต่ร่างฉบับนี้เป็นร่างที่ตั้งใจปฏิรูป เพื่อทำให้ระบบราชการมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบสนองต่อความเดือดร้อนของประชาชน ทันต่อสถานการณ์โลก แบ่งเบาภาระราชการส่วนกลาง ให้ท้องถิ่นดูแลบริการสาธารณะทุกอย่างในพื้นที่และมีงบประมาณเพียงพอ ขณะที่ส่วนกลาง ดูแลมาตรฐานการบริการสาธารณะให้ทุกพื้นที่มีคุณภาพเหมือนกันและพาประเทศไทยไปเวทีโลก

ธนาธร กล่าวต่อว่า บางฝ่ายให้ความเห็นว่าแนวคิดของพวกเราสุดโต่งเกินไป แต่การปล่อยให้ปัญหาของประชาชนอยู่มานานโดยไม่ได้รับการแก้ไขอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน คนที่กักขังประเทศไว้แบบนี้ต่างหากที่สุดโต่ง นอกจากนี้ ร่างฉบับนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน แต่ให้จัดทำแผนยกเลิกส่วนภูมิภาค และทำประชามติถามประชาชนว่าจะยกเลิกหรือไม่ภายใน 5 ปี มาถกเถียงกันว่าเมื่อกระจายอำนาจและงบประมาณไปให้ท้องถิ่นเต็มที่แล้ว ราชการส่วนภูมิภาคควรมีบทบาทอย่างไร และสุดท้ายคือเรื่องการทุจริต ตนคิดว่าทุกรายงานยืนยันตรงกัน ว่าส่วนกลางและส่วนภูมิภาค มีมูลค่าการทุจริตมากกว่าท้องถิ่น

“ขอยืนยันความตั้งใจของเรา ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่เป็นการทำให้การบริการของภาครัฐมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลายข้อกล่าวหาที่เราได้รับจึงไม่ได้ตั้งอยู่บนความจริง แต่ตั้งอยู่บนอคติที่ผิด เสียดายเวลาและโอกาสของประเทศ ทั้งที่หากเราเห็นไม่ตรงกัน รัฐสภาควรรับหลักการในวาระ 1 เพื่อไปถกเถียงแลกเปลี่ยนในวาระ 2 ต่อ เพราะเรายืนยันชัดเจนว่าพร้อมประนีประนอม แต่แม้วันนี้ทำไม่สำเร็จ คณะก้าวหน้าจะเดินหน้ารณรงค์เรื่องการกระจายอำนาจต่อไป และเชื่อว่าเพื่อนร่วมงานของเราในพรรคก้าวไกล จะสานต่อภารกิจนี้” ธนาธรกล่าว

ขณะที่ พิธา กล่าวว่า การกระจายอำนาจอย่างแท้จริงเป็นหนทางเดียวของประเทศไทย เป็นนโยบายที่จะปราศรัยทุกเขต เช่นนโยบายยกเลิกคำสั่ง คสช. ที่ล้วงลูกการทำงานของท้องถิ่น หรือการเพิ่มงบของท้องถิ่นทั่วประเทศ 200,000 ล้านบาท ภายใน 4 ปี โดยที่ผ่านมาเห็นว่าเป็นนโยบายที่ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี จากการลงพื้นที่ ตนได้เห็นท้องถิ่นที่มีศักยภาพ แต่หากไม่มีการแก้ไขกฎหมายให้กระจายอำนาจมากขึ้น ประเทศไทยก็จะกระจุกตัวต่อไป

ก้าวหน้า-ก้าวไกล ผนึกกำลัง เรียกร้องสิทธิประกันตัว ย้ำจุดยืน หยุดใช้กฎหมายปิดปากผู้เห็นต่าง

ก้าวหน้า-ก้าวไกล ผนึกกำลัง 'ยืนหยุดขัง' เรียกร้องสิทธิประกันตัว หยุดใช้กฎหมายปิดปากผู้เห็นต่าง ‘พิธา’ ย้ำข้อเสนอก้าวไกลแก้ไข ม.112 ชี้ ถ้าไม่ปฏิรูประบบยุติธรรม สังคมไทยอาจถึงทางตัน ด้าน ‘ธนาธร’ ขอสภาทำหน้าที่นำการพูดคุยปัญหา 112 อย่างมีวุฒิภาวะ เป็นทางออกให้สังคมไทย

เมื่อวันที่ (23 ม.ค. 66) ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร แกนนำพรรคก้าวไกล และ คณะก้าวหน้า ประกอบด้วย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล ร่วมกิจกรรม 'ยืนหยุดขัง' ร่วมกับภาคประชาชนหลายเครือข่ายที่มาร่วมกันรณรงค์เรียกร้องการปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้งหมด หลังจาก 'ตะวัน' ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ 'แบม' อรวรรณ ภู่พงศ์ นักกิจกรรมทางการเมืองและผู้ต้องหาในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ประกาศถอนประกันตนเอง อดอาหารและน้ำประท้วงกระบวนการยุติธรรม จากกรณีที่ปัจจุบันมีนักโทษการเมืองหลายคนถูกปฏิเสธสิทธิการประกันตัวอย่างไม่เป็นธรรม

พิธา ระบุว่า วันนี้ตนมาร่วมกิจกรรมยืนหยุดขังด้วยความห่วงใย ต่อทั้งตะวัน-แบม และนักโทษทางการเมืองทุกคน ทั้งในฐานะนายประกันของตะวัน และในฐานะประชาชนคนหนึ่ง และเพื่อมาแสดงความเคารพด้วยจิตคารวะต่อนักเคลื่อนไหวที่ถูกจองจำทุกคน และเพื่อยืนหยัดกับทุกคนว่าพวกเขาไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง สิ่งที่เกิดขึ้นกับทั้งตะวัน-แบม และนักโทษการเมืองทุกคนวันนี้ คือข้อเท็จจริงที่ทำให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยมีปัญหาบิดเบี้ยวมาตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มีปัญหาทั้งเรื่องการบังคับใช้ อัตราโทษที่ไม่ได้สัดส่วน และการถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งประเทศไทยมีความจำเป็นต้องทำให้กระบวนการที่บิดเบี้ยวมาตั้งแต่ทางนี้ ดีขึ้น

“ทางออกที่ดีที่สุด ควรต้องใช้สภาผู้แทนราษฎรเป็นพื้นที่ให้ทุกฝ่ายมาหาทางออกร่วมกัน ต่อประเด็นปัญหาที่ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นคุณระหว่างประชาชนกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และแม้ว่าพรรคก้าวไกลจะได้นำเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 พร้อมกับกฎหมายที่จำกัดสิทธิเสรีภาพอื่น ๆ ไปตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา แต่สภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบันก็ปฏิเสธไม่ตอบรับ แต่อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ให้เกิดการแก้ไขกระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยวเช่นนี้ให้ได้” พิธากล่าว

หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่เป็นเรื่องเร่งด่วนในขณะนี้ คือการเรียกร้องต้องให้สิทธิการประกันตัวแก่นักโทษการเมืองทุกคน ยุติการใช้กฎหมายปิดปากผู้เห็นต่างในทันที และในอนาคตอันใกล้นี้ จะต้องมีการพิจารณาข้อเสนอนิรโทษกรรมคดีการเมืองทั้งหมด โดยการเดินตามขั้นตอนเหล่านี้เท่านั้น จึงจะนำไปสู่ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับสังคมไทย ส่วนปัญหาเรื่องมาตรา 112 นั้น พรรคก้าวไกลยืนยันที่จะผลักดันให้เกิดการแก้ไข ในฐานะข้อเสนอขั้นต่ำที่เราเห็นว่ายังสามารถเป็นหนทางให้ผู้เห็นต่างในสังคมไทยมาพูดคุยกันได้ และแม้ข้อเสนอดังกล่าวดูเหมือนจะไม่ทันได้ถูกนำมาพิจารณาในสภาชุดปัจจุบัน แต่พรรคก้าวไกลยืนยันที่จะเสนอและผลักดันร่างดังกล่าวต่อในสภาชุดต่อไปที่จะมีขึ้นหลังการเลือกตั้ง

พิธายังระบุด้วยว่า หากสภาผู้แทนราษฎรไม่ตอบรับข้อเสนอเรื่องการแก้ไขนี้ในอนาคต ตลอดจนการพูดคุยเพื่อหาทางออกกันอย่างมีวุฒิภาวะ ก็เป็นที่น่ากังวลเหลือเกินว่าทางเลือกของสังคมไทยจะถูกบีบให้เหลือน้อยลง

“สภาควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้ทุกฝ่ายมาพูดคุยกันได้อย่างมีวุฒิภาวะ โดยไม่มีใครต้องเสียสละเลือดเนื้อเพื่อเรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐาน ใช้โอกาสนี้พูดถึงการปฏิรูประบบยุติธรรมทั้งหมด เพราะถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้สังคมไทยก็อาจจะไปถึงทางตัน ถ้าสภาไม่ทำหน้าที่ ผมก็กังวลเหลือเกินว่าจะเหลือทางเลือกอื่นให้กับสังคมไทยอีกหรือไม่” พิธากล่าว

'สนธิ' ชำแหละ!! 'หลักสูตรเยาวชนก้าวหน้า' แนวทางการปลุกระดม โดยใช้ 'วิชาการ' บังหน้า!!

จากรายการ 'คุยทุกเรื่องกับสนธิ' (สนธิทอล์ก) เมื่อวันศุกร์ที่ 4 ส.ค.66 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ได้กล่าวถึงกรณีที่ 'คณะก้าวหน้า' ที่มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นประธาน ได้จัดหลักสูตร 'เยาวชนก้าวหน้า' ครั้งที่ 3 ดังนี้...

เมื่อวันที่ 27 ก.ค.66 เฟซบุ๊ก 'คณะก้าวหน้า' ได้โพสต์ภาพโปสเตอร์และข้อความเกี่ยวกับโครงการเยาวชนก้าวหน้าครั้งที่ 3 ไว้ว่า เป็นหลักสูตรที่จะพาคุณทะลุกะลาที่เขาครอบหัวเราไว้ เพาะเมล็ดพันธุ์ของผู้ไม่ยอมจำนน เพื่อเปิดประตูความเป็นไปได้ใหม่ๆ สู่สังคมที่ดีกว่าหลักสูตรนี้รับ 40 คนเท่านั้น เรียนทุกเสาร์-อาทิตย์ 6 สัปดาห์ ช่วงสิงหาคม-กันยายน ที่สำคัญ สำหรับเยาวชนรุ่นใหม่กรุงเทพฯ และปริมณฑล อายุตั้งแต่ 15-25 ปีเท่านั้น ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่เงื่อนไขคือ ผู้สมัครต้องเข้าร่วมกิจกรรมตลอดหลักสูตร และผู้สมัครต้องทำโครงการเมื่อจบหลักสูตร

ทั้งนี้ หลักสูตรเยาวชนก้าวหน้า ครั้งแรกจัดเมื่อวันที่ 8-9 ตุลาคม 2565 มีการเปิดให้เรียนรู้หลักสูตรเยาวชนก้าวหน้า ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ครั้งที่สอง จัดที่ขอนแก่น 12 พฤศจิกายน - 11 ธันวาคม 2565

ในครั้งนั้นเพจ Common School เคยโพสต์กิจกรรมคณะก้าวหน้า ระบุว่า หลักสูตรเยาวชนก้าวหน้า ครั้งที่ 2 ที่จังหวัดขอนแก่น เนื้อหาการบรรยายครอบคลุมทั้งรัฐศาสตร์, นิติศาสตร์, ประวัติศาสตร์, ปรัชญาการเมือง, เศรษฐศาสตร์ และการสื่อสาร ทั้งรูปแบบการบรรยายและกิจกรรมเวิร์กชอป

สำหรับโครงการในครั้งนั้น มีการเปิดรายชื่อวิชาและวิทยากร ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคอลัมนิสต์ นักวิชาการสายฟ้าเดียวกัน รวมทั้งสมาชิกคณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกล ที่อยู่เบื้องหลังม็อบสามนิ้ว ประกอบด้วย 'ประวัติศาสตร์การเมืองไทยร่วมสมัย' โดย รศ.ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ (อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต ) สายก้าวไกลเต็มตัว และสายม็อบสามนิ้วเต็มตัว

'การเมืองวัฒนธรรม จาก 2475 ถึงปัจจุบัน' โดย ณัฐพล ใจจริง (ซึ่งเสกสรรค์ปั้นแต่ง พูดจาโกหก ข้อมูลผิดเพี้ยนในตำราที่ตัวเองแต่ง แล้วเอาความผิด เอาความโกหกที่ตัวเองเขียนนั้นมาสอนเด็กรุ่นหลัง ให้เป็นความจริง ทั้งๆ ที่สิ่งที่ตัวเองเขียนนั้นได้ถูกพิสูจน์ชัดเจนแล้วว่าโกหก)

'การเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย' โดย ประจักษ์ ก้องกีรติ (รัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์)

'ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจการเมืองไทย' โดย อภิชาต สถิตนิรามัย (เศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์)

'บทบาทการเมืองระหว่างประเทศต่อการเมืองไทย' โดย ลลิตา หาญวงษ์ (สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)

'บทบาทกองทัพกับการเมืองไทย' โดย สุภลักษณ์ กาญจนขุนดี

'อดีต ปัจจุบัน และอนาคตของการขูดรีดเกษตรกรไทย' โดย เดชรัต สุขกำเนิด (เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเป็น สส. พรรคก้าวไกล)

'ประวัติศาสตร์กลุ่มทุนไทย และ การบริหารจัดการเมืองสมัยใหม่' โดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

'Constitutional Monarchy และ ประวัติศาสตร์ปฏิวัติ' โดย ปิยบุตร แสงกนกกุล

'เทคโนโลยีกับการเมือง : ความก้าวหน้าและความท้าทาย' โดย ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (สส. และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล)

'Workshop ประชาธิปไตย' โดย ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ

'ระบบราชการและงบประมาณ' โดย ศิริกัญญา ตันสกุล

'การสื่อสารทางการเมือง' โดย พรรณิการ์ วานิช

อีกทั้งยังมีการเปิดเผยเนื้อหาหลักสูตรในครั้งก่อนๆ  อาทิ กิจกรรม Landlord เป็นกิจกรรมรูปแบบ Active Learning ให้ผู้เรียนได้สัมผัสถึงโครงสร้างอำนาจแบบศักดินาที่กดขี่ผู้ขุดด้วยอำนาจดิบเถื่อน ใช้อำนาจตามอำเภอใจโดยไม่มีใครสามารถควบคุม ตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นอำนาจที่กดทับศักยภาพที่แท้จริงของประชาชนเอาไว้ พาไปสำรวจโครงสร้างแบบศักดินาในทุกๆ ระดับของสังคมอย่างถึงราก พร้อมทั้งเรียนรู้อำนาจตามแบบที่ทำให้เราเข้าใจความสัมพันธ์เชิงอำนาจในการเมืองมากขึ้น

ต่อด้วยการบรรยายที่อัดแน่นด้วยเนื้อหาที่อาจไม่เคยมีในหนังสือเรียนมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการบรรยาย ความเหลื่อมล้ำและเศรษฐกิจการเมืองไทย สภาพและสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำในสังคมการเมืองไทย ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มทุนกับการเมือง โดยอภิชาต สถิตนิรามัย แห่งคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ประวัติศาสตร์การเมืองไทยร่วมสมัย โดย รศ.ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ ที่บรรยายเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างราวฟ้ากับเหว ระหว่างการกระจายอำนาจและการรวมศูนย์อำนาจได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรมที่สุด ผ่านภาพถ่ายดาวเทียมในยามค่ำคืน ที่ทำให้เห็นว่าประเทศใดบ้างที่มีแสงไฟสว่างไสวปกคลุมไปทั่วประเทศบ้าง และประเทศใดบ้างที่มีแสงไฟส่องสว่างอยู่เพียงที่จุดศูนย์กลางเมืองหลวงของประเทศ และยังมีเกร็ดประวัติศาสตร์และความรู้ทางรัฐศาสตร์มากมาย ในสไตล์การบรรยายแบบธำรงศักดิ์ ที่ทั้งแฝงข้อคิด สาระ และความชวนหัวไปพร้อมกัน

ปิยบุตร แสงกนกกุล ได้มาบรรยายถึงเรื่องการเปรียบเทียบกับการกำเนิดขึ้นของ Constitutional Monarchy ในประเทศต่างๆ การต่อสู้ระหว่างชนชั้นกระฎุมพีกับสถาบันกษัตริย์ในยุโรป การปรับตัวของสถาบันกษัตริย์ท่ามกลางกระแสธารของประชาธิปไตย เพื่อวิเคราะห์วิธีการธำรงรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ให้สอดคล้องและเคียงคู่ไปกับระบบประชาธิปไตยในโลกสมัยใหม่

ปิดท้ายด้วยรับชมภาพยนตร์เรื่อง The Young Karl Marx ภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวชีวิตของปัญญาชนนักปฏิวัติที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของโลก มีอิทธิพลทางความคิด การเคลื่อนไหวทางการเมืองและเป็นต้นธารของการต่อสู้กับระบบทุนนิยมเพื่อปลดปล่อยมนุษย์ออกจากพันธนาการ ด้วยจินตนาการถึงสังคมใหม่ ที่ทุกคนเท่าเทียมและมีเสรีภาพอย่างแท้จริง

“เป็นที่ชัดเจนว่าหลักสูตรนี้คือ แนวทางการปลุกระดมเยาวชนพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า คนกลุ่มนี้กำลังใช้คำว่า 'วิชาการ' บังหน้า เป็นการปลุกระดมเด็ก ให้ข้อมูลที่ผิดๆ อาจจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ เห็นได้ชัดกรณีความพยายามยัดข้อมูลจนเกิดการทดลองทำประชามติแบ่งแยกรัฐปาตานี ที่ มอ.วิทยาเขตปัตตานี”

“ที่สำคัญ การล้างสมองเปิดรับคนอายุ 15-25 ปี เข้าอบรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะมีนายทุนผู้สนับสนุนงบประมาณอยู่แล้ว ใช่หรือเปล่า เป็นคุณธนาธรเอง หรือเจ้าของตั๋วปารีส ที่หนีคดีอยู่ที่ฝรั่งเศส มีส่วนร่วมด้วยหรือไม่ ตอบผมหน่อยครับ”

“เพราะว่าบทเรียนต่างๆ หัวข้อต่างๆ นั้นหลายๆ เรื่องเป็นเรื่องที่เสกสรรค์ปั้นแต่ง มีข้อมูลข้อเท็จจริงอยู่เพียงน้อยนิด แต่ที่เหลือแซมไปด้วยคำโกหกพกลม เหมือนอย่างที่ทุกวันนี้พรรคก้าวไกลโกหกพกลมทุกๆ เรื่อง คุณพิธา ก็โกหกพกลมทุกๆ เรื่อง แล้วคนที่อยู่ในโซเชียลมีเดียสายคอนด้อมส้ม ก็โกหกพกลมไปทุก ๆ เรื่อง เพื่อที่จะให้โลกสมมติที่ถูกสร้างขึ้นมาจากโซเชียลมีเดียนั้น ให้ดูเป็นจริงเป็นจัง และทำให้คนหลงเชื่อ จนกระทั่งตัวเองได้อำนาจมาเรียบร้อยแล้ว ความจริงที่เป็นหนึ่งเดียวที่ผมพูดมาตลอดนั้นก็ปรากฏขึ้นมา ทำให้รู้ว่าที่เชื่อพรรคก้าวไกลมาในอดีตนั้น ก็เพราะว่าพรรคก้าวไกลโกหก เชื่อคำโกหกแต่มารู้ความจริงอันเป็นหนึ่งเดียวทีหลัง เหตุการณ์ก็สายไปแล้ว เพราะว่าพรรคก้าวไกลก็เริ่มได้ยึดอำนาจเข้ามาเรียบร้อยแล้ว” นายสนธิ กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top