Saturday, 18 May 2024
ก่อการร้าย

สถานทูตไทยในวอชิงตัน ประกาศเตือน!! 'คนไทย' ในสหรัฐฯ เฝ้าระวังก่อการร้าย

เพจสถานเอกอัครราชทูตไทยเตือนคนไทยติดตามสถานการณ์การก่อการร้ายให้ดี หลังกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐออกโรงเตือนและให้มีผลถึง 8 ก.พ. 65

11 พ.ย. 64 เพจสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์เอกสารจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ เตือนภัยด้านการก่อการร้ายระบุว่า เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ (DHS) ได้เผยแพร่เอกสาร National Terrorism Advisory System Bulletin (NTAS) เตือนภัยเฝ้าระวังการก่อเหตุจากกลุ่มนิยมความรุนแรงภายในประเทศ (Domestic Violent Extremists- DVEs) และกลุ่มนิยมแนวทางรุนแรงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มก่อการร้ายสากล ที่อาจก่อเหตุในห้วงเทศกาลวันหยุดและวันสำคัญทางศาสนาซึ่งมักจะตกเป็นเป้าหมายการโจมตีอยู่บ่อยครั้ง

โดยเตือนให้เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินและเพิ่มความระมัดระวังกับสถานการณ์ที่อาจเกิดความเสี่ยงกับตนเอง รวมถึงขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นหรือ FBI ในกรณีที่พบเห็นเหตุการณ์ที่น่าสงสัยหรือเหตุการณ์ที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบ ซึ่งรวมถึงภัยคุกคามในโลกออนไลน์

อย่างไรก็ตาม กระทรวงความมั่นคงฯ ยังไม่พบภัยคุกคามเฉพาะเจาะจง และไม่มีสถานที่เฉพาะเจาะจงที่จะเกิดเหตุ

นาทีระทึก!! ‘นักเรียน ม.2’ ถูกคนร้ายบุกยิงดับ หน้ามัสยิด ในปัตตานี จนท. เร่งตามล่าผู้ก่อเหตุ คาดหลบหนี ‘อ.ยะรังฯ’

เด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 นั่งอยู่กับแม่หน้ามัสยิด ถูกคนร้ายขับรถมายิง เสียชีวิต 1 ราย ที่ ปัตตานี
.
(10 มี.ค.66)  เวลาประมาณ 08.35 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุเหตุใช้อาวุธปืนยิง ที่ม้านั่งหินขัด หน้ามัสยิดดารุสนัดวะตุสอิสลามียะห์บริเวณโรงเรียน ประชารักษ์ ม.6 ต.ปุยุค อ.เมือง จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นนักเรียน ชั้น ม.2 ทราบชื่อ ด.ญ.กูตักวา เงินสองสี อายุ 14 ปี ชาวปัตตานี ถูกกระสุนปืนเข้าบริเวณหน้าอกด้านซ้าย นำส่งโรงพยาบาลปัตตานี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

‘ฝรั่งเศส’ ยกระดับเฝ้าระวังก่อการร้ายสูงสุด หลังเกิดเหตุบุกแทงคนใน รร. คาดผลพวงสถานการณ์ฉนวนกาซา ด้าน ‘สถานทูต’ เตือนคนไทยระวังตัว

(15 ต.ค. 66) เฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความเตือนคนไทยในฝรั่งเศส หลังเกิดเหตุการณ์วุ่นวายซึ่งคาดว่าอาจเป็นผลจากสถานการณ์ในฉนวนกาซา ดังนี้

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ขอแจ้งว่า ตามที่ทางการฝรั่งเศสได้ประกาศยกระดับการเฝ้าระวังสถานการณ์การก่อการร้ายภายในประเทศ เป็นระดับสูงสุด ภายหลังเกิดเหตุผู้ร้ายใช้มีดทำร้ายร่างกายคนในโรงเรียนฝรั่งเศส เมือง Arras เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2566 โดยทางการฝรั่งเศสคาด ว่าอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สู้รบบริเวณฉนวนกาซาขณะนี้อีกทั้งต่อมา วานนี้ (14 ต.ค. 66) ทางการฝรั่งเศสได้มีการอพยพผู้คนโดยด่วนออกจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์และพระราชวังแวร์ซาย และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอื่นๆ เนื่องจากทางการฝรั่งเศสได้รับแจ้งเตือนว่าอาจมีการวางระเบิดในพื้นที่ดังกล่าว

สถานเอกอัครราชทูตจึงขอประกาศเตือนคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวไทยในฝรั่งเศสให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมชนและสถานที่ท่องเที่ยว ตรวจสอบเส้นทางการเดินทาง และการเปิดทำการของสถานที่ต่างๆ รวมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการฝรั่งเศสอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ หากมีเหตุด่วนและฉุกเฉินต้องการความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตกรุณาติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน +33 6 03 59 97 05 และ +33 6 46 71 96 94

‘รัฐบาล’ เตือน ‘คนไทยในฝรั่งเศส’ เลี่ยงพื้นที่ชุมนุม-สถานที่ท่องเที่ยว  หลังทางการออกประกาศยกระดับเฝ้าระวังเหตุก่อการร้ายสูงสุด

(15 ต.ค. 66) นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประชาสัมพันธ์ข่าวสารจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส ประกาศเตือนคนไทยในฝรั่งเศสให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง-ท่องเที่ยว ภายหลังทางการฝรั่งเศสประกาศยกระดับการเฝ้าระวังสถานการณ์การก่อการร้ายเป็นระดับสูงสุด

จากกรณีเกิดเหตุร้ายเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งทางการฝรั่งเศสคาดว่าอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง อีกทั้งต่อมาในวันที่ 14 ตุลาคม 2566 ทางการฝรั่งเศสได้มีการอพยพผู้คนโดยด่วนออกจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ และพระราชวังแวร์ซาย และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอื่น ๆ เนื่องจากทางการฝรั่งเศสได้รับแจ้งเตือนว่าอาจมีการวางระเบิดในพื้นที่ดังกล่าว

ทางสถานเอกอัครราชทูตฯ จึงได้ประกาศเตือนคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวไทยในฝรั่งเศสให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมชนและสถานที่ท่องเที่ยว ตรวจสอบเส้นทางการเดินทาง และการเปิดทำการของสถานที่ต่าง ๆ รวมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการฝรั่งเศสอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากมีเหตุด่วนและฉุกเฉินต้องการความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตฯ กรุณาติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน +33 6 03 59 97 05 และ +33 6 46 71 96 94

“รัฐบาลห่วงใยสวัสดิภาพและความปลอดภัยของประชาชนไทยทุกคนด้วยขอให้ติดตามข่าวสารจากช่องทางหลักของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนการเดินทาง หรือก่อนวางแผนการเดินทางทุกครั้ง” นายสัตวแพทย์ชัย กล่าว

‘ออสเตรเลีย’ ออกกฎหมายแบน ‘การชูมือแบบนาซี’ ในประเทศ หวังไม่ให้มีที่ยืนสำหรับคนที่เชิดชู ฝ่าฝืน!! จำคุกสูงสุด 12 เดือน

(8 ม.ค. 67) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลออสเตรเลียได้ออกกฎหมายแบนการชูมือคารวะแบบนาซี ตลอดจนการแสดงหรือการจำหน่ายสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (8 ม.ค.) เป็นต้นไป กฎหมายนี้เกิดขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ต่อต้านชาวยิวเพิ่มขึ้นจากสงครามระหว่างอิสราเอล-กาซา

กฎหมายดังกล่าวระบุว่า การชูมือคารวะแบบนาซี หรือการแสดงสัญลักษณ์สวัสติกะหรือสัญลักษณ์ประจำหน่วยชุทซ์ชตัฟเฟิล (SS) ในที่สาธารณะ ตลอดจนการจำหน่ายและแลกเปลี่ยนสัญลักษณ์เหล่านี้ ถือเป็นความผิดต้องโทษจำคุกสูงสุด 12 เดือน

นอกจากนี้ กฎหมายใหม่ยังห้ามการแสดงหรือค้าขายแลกเปลี่ยนสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรก่อการร้ายที่ถูกแบน เช่น กลุ่มรัฐอิสลาม (IS), ฮามาส หรือพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (PKK) อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้มีข้อยกเว้นสำหรับการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการ การศึกษาหรือศิลปะ

นายมาร์ก เดรย์ฟัส อัยการสูงสุด กล่าวในแถลงการณ์ว่า กฎหมายนี้ส่งสารชัดเจนว่า ในออสเตรเลียไม่มีพื้นที่ให้สำหรับผู้ยกย่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวหรือการก่อการร้าย

“นี่เป็นกฎหมายฉบับแรกในลักษณะนี้ และจะทำให้แน่ใจว่า ไม่มีใครในออสเตรเลียสามารถยกย่องหรือแสวงหาผลกำไรจากการกระทำและสัญลักษณ์ที่เชิดชูพวกนาซีและอุดมการณ์ชั่วร้ายของพวกมัน”

ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวได้รับการเสนอในเดือนมิ.ย.และผ่านความเห็นชอบในเดือนธ.ค. 2566 โดยกฎหมายนี้มีความสำคัญมากยิ่งขึ้นท่ามกลางกระแสต่อต้านชาวยิวและศาสนาอิสลามที่เพิ่มขึ้นหลังจากเหตุการณ์การโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งทางการอิสราเอลรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,200 ราย และถูกจับเป็นตัวประกัน 240 ราย

ตัวอย่างกระแสเกลียดชังชาวยิวที่ปรากฏในออสเตรเลียได้แก่กรณีคลิปวิดีโอแสดงภาพชายกลุ่มเล็ก ๆ ในม็อบสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ที่ชุมนุมกันนอกซิดนีย์โอเปราเฮาส์เมื่อเดือนต.ค. โดยมีการตะโกนว่า ‘gas the Jews’ (จับพวกยิวไปรมแก๊ส)


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top