Tuesday, 30 April 2024
กวาดล้างอาชญากรรม

ปทุมธานี - ตำรวจปทุมธานี ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565

ลานเดินห้างสรรพสินค้าโลตัสรังสิต ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้มาเป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 โดยมีพล.ต.ต.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี นำหัวหน้าสถานี.ทุกสภ.ที่สังกัดในจังปทุมธานี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่อาสาสมัครภาคประชาชน อาสาสมัครมูลนิธิ รวม 280 นาย เข้าร่วม

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ด้วยเทศกาลหยุดยาวปีใหม่ 2565 ซึ่งพี่น้องประชาชนจะเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดกันเป็นจำนวนมาก และจะมีกิจกรรมฉลองปีใหม่ซึ่งในระหว่างนั้นก็อาจจะมีการกระทำผิดกฎหมาย และขอขอบคุณทุกท่านที่เสียสละมาระดมปล่อยแถมกวาดล้างอาชญากรรมในวันนี้ โดยเฉพาะตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ที่ได้จัดการปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมในครั้งนี้ขึ้น

ซึ่งได้มีฝ่ายทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่อาสาสมัครภาคประชาชน อาสาสมัครมูลนิธิ ซึ่งอยากนำเรียนท่านผบช.ภ.1 ว่าในจังหวัดปทุมธานีของเราได้กำหนดการดูแลความมั่นคงของพี่น้องประชาชนไว้จำนวน 4 ข้อ

1. นโยบายของรัฐบาลและนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ได้สั่งการทางจังหวัดปทุมธานีจะทำตามอย่างเคร่งครัด

2. ปัญหายาเสพติดให้โทษที่ก่อให้เกิดปัญหาต่อพี่น้องประชาชนซึ่งจังหวัดปทุมธานีเป็นอีกจุดหมายหนึ่งที่ยาเสพจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาพักและจำหน่าย และส่งต่อไปนั้น พื้นที่อื่นตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานีก็มีการกวาดล้างกันอย่างต่อเนื่อง 

ตร. ปส. ระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรม ยาเสพติด อาวุธปืน พบเครือข่ายยาเสพติดหัวใส อาศัยช่วงน้ำท่วม ลอบขนยาบ้า 4 แสนเม็ด เตรียมส่งลูกค้าช่วงปีใหม่

ปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และส่วนที่เกี่ยวข้องได้เดินหน้าปราบปราม อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งการการระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรม ระหว่างวันที่ 20-29 ธ.ค. ตามสั่งการของ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ลงพื้นที่ตรวจสถานบริการ สถานบันเทิง สถานประกอบการ และตรวจชุมชนเป้าหมายที่เป็นแหล่งแพร่ระบาดยาเสพติด ภายใต้การอำนวยการ ของ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม) /ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส.,พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์  บุญยืนอนนต์ ผบก.ปส.1 และ พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธ์ ผบก.ปส.4 ได้สั่งการให้ลงพื้นที่รับผิดชอบในการกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบ วานนี้ เจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปส.4  ได้สืบสวนขยายผลแกะรอยนักค้ารายใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งคาดว่าเตรียมส่งมอบยาบ้าให้ลูกค้าห้วงก่อนปีใหม่ ประกอบกับในพื้นที่ภาคใต้เกิดอุทกภัยน้ำท่วม เบื้องต้นสามารถจับ 4 ผู้ต้องหา 4 คน 

1. นายยามีน อายุ 45 ปี 2. น.ส.รัชนีกร อายุ 26 ปี  3. นายสุเทพ อายุ 33 ปี  4. น.ส.ชัญญานุช อายุ 36 ปี ในพื้นที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 400,000 เม็ด รถยนต์ 2 คัน ซึ่งใช้ซุกซ่อนยาเสพติด และเป็นรถนำทางล่วงหน้า โดยแจ้งข้อหา 'ร่วมกับมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป'

ตำรวจไซเบอร์ ระดมกวาดล้างอาชญากรรมห้วงก่อนวันหยุดยาวสงกรานต์ จับกุมผู้ต้องหา และตรวจยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอประชาสัมพันธ์ชี้แจงกรณี ตำรวจไซเบอร์ ระดมกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์ในห้วงก่อนสงกรานต์ ทำการจับกุมผู้ต้องหา และตรวจยึกของกลางได้เป็นจำนวนมาก ดังนี้

ตามที่ในช่วงวันที่ 13 - 17 เม.ย.66 เป็นห้วงหยุดยาววันสงกรานต์ คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ประกอบกับนโยบายด้านการส่งเสริมให้ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศนั้น นอกจากจะส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนแล้ว มิจฉาชีพอาจฉวยโอกาสในช่วงเวลาดังกล่าวเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งที่ผ่านมาได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นวงกว้าง 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญ และมีความห่วงใยต่อภัยจากการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในทุกรูปแบบ ป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการตามนโยบาย จัดทำแผนหรือมาตรการป้องกันแลปราบปรามอาชญากรรมเพื่อรองรับช่วงวันหยุดยาวให้สอดคล้องกับสถานกาณ์ดังกล่าว รวมถึงดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วไป และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเร่งรัดปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง รวมไปถึงการสร้างการรับรู้ให้กับภาคประชาชนเพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของอาชญากรไซเบอร์

โดยในช่วงระหว่างวันที่ 29 มี.ค. - 9 เม.ย 66 บช.สอท. ได้มีการกำหนดเป้าหมายระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วไป ได้แก่ ความผิดเกี่ยวกับการพนัน ยาเสพติด การลักลอบหลบหนีเข้าเมือง อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน การสืบสวนจับกุมบุคคลตามหมายจับ เป็นต้น และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้แก่ การหลอกลวงออนไลน์ด้านการเงิน การหลอกลวงจำหน่ายสินค้าออนไลน์ การเผยแพร่ข่าวปลอม คดีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ การล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กและสตรี การค้ามนุษย์ การพนันออนไลน์ และอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งนี้สามารถทำการจับกุมผู้กระทำความผิดได้กว่า 307 คดี ผู้ต้องหากว่า 329 ราย พร้อมทั้งตรวจยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก มีคดีสำคัญและน่าสนใจ เช่น ปฏิบัติการเหนือเมฆ ตรวจค้น 17 จุด ทั่วประเทศ จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายเว็บไซต์เงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท, จับกุมผู้ต้องหาหลอกลวงให้เช่าบูชาพระเครื่องในกลุ่มต่างๆ กว่า 60 กลุ่ม, จับกุมผู้ต้องหาลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนออนไลน์ รวมถึงจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าอีกหลายคดี เป็นต้น นอกจากนี้แล้ว บช.สอท. ยังได้วางมาตรการป้องกัน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงกลโกง หรือแผนประทุษกรรมของมิจฉาชีพ ผ่านทางจอภาพในพื้นที่ต่างๆ หรือผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพอีกด้วย 

ผบช.ทท.ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม สร้างความมั่นใจเมืองพัทยา หลังรัฐบาลมีนโยบายฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยว

เวลา 16.30 น.วันที่ 27 ก.ย.66 ที่ลานอเนกประสงค์ ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวพัทยา (บาลีฮาย) จ.ชลบุรี พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้เดินทางมาเป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมเพื่อยกระดับมาตรการในการรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

ตามที่รัฐบาลมีนโยบายให้นักท่องเที่ยวจีน และคาซัคสถาน เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยยกเว้นวีซ่ามีระยะเวลา 5 เดือน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้น กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัย ให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในห้วงเวลาดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก 

ดังนั้น กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 จึงได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันได้แก่ ตำรวจท่องเที่ยว, ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี, สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา, ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี, กองบังคับการตำรวจน้ำ, กองบังคับการตำรวจทางหลวง, เมืองพัทยา, ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง, เจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา, ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี, อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว และภาคเอกชนในพื้นที่เมืองพัทยา

ทั้งนี้ เพื่อระดมสรรพกำลังร่วมปฏิบัติภารกิจกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่เมืองพัทยา เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย ปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

ยะลา-เบตง ปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมเตรียมพร้อมนายกลงพื้นที่

เบตง นายอำเภอเบตง ปล่อยแถวหน่วยงานด้านความมั่นคง กวาดล้างอาชญากรรมในห้วงนายกรัฐมนตรีมาตรวจราชการในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา

วันที่ 22 ก.พ.67 ที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรเบตง ถ.สุขยางค์ อ.เบตง จ.ยะลา นายอมร ชุมช่วย นายอำเภอเบตง ได้เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมในห้วงนายกรัฐมนตรีมาตรวจราชการในพื้นที่อำเภอเบตง และจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างวันที่ 27-29 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมี พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ดูดิง ผกก.สภ.เบตง, พ.ต.อ.ธีรภัทร ปิยะถาวร ผกก.สภ.อัยเยอร์เวง, พ.ต.ท.ทีปวัฒน์ ทองบุ สวญ.สภ.ยะรม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เบตง สภ.อัยเยอร์เวง สภ.ยะรม ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตชด. ทหาร ฝ่ายปกครอง และกองกำลังภาคประชาชน เข้าร่วม

นายอมร ชุมช่วย นายอำเภอเบตง กล่าวว่า อำเภอเบตงเป็นเมือง 1 ใน 7 เมืองเศรษฐกิจหลักในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัจจุบันได้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอเบตงเป็นจำนวนมาก ประกอบกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ มีกำหนดเดินทางตรวจราชการในพื้นที่อำเภอเบตง ในระหว่างวันที่ 28-29 กุมภาพันธ์ 2567 จึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจกันในการป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้น โดยออกปฏิบัติหน้าที่ ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ลาดตระเวนเส้นทางการปิดกั้นการกระทำผิดกฎหมาย กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง สร้างความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว

ผบช.สตม. สั่งการเข้ม! ระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนเทศกาลสงกรานต์ เปิดปฏิบัติการฟ้าสางพื้นที่มีนบุรี รวบแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย 23 ราย

พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. รับนโยบาย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม โดยเฉพาะความผิดที่เกี่ยวกับคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นความรับผิดชอบหลักของ สตม. โดยสั่งการและกำชับให้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบบังคับใช้กฎหมาย  โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่รับผิดชอบงานสืบสวน เน้นการบูรณาการกับหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2567 พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 ได้จัดให้มีพิธีปล่อยแถวเพื่อระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่บริเวณถนนข้าวสาร และสั่งการให้ดำเนินการตามนโยบาย ผบช.สตม.ในการ X-RAY พื้นที่เสี่ยงโดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.กาจภณ ปฐมัง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในสังกัด กก.สืบสวน บก.ตม.1 สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่จากกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน และ กอ.รมน.กทม. รวมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 40 นาย ประชุมวางแผนเพื่อเข้าตรวจสอบบุคคลต่างด้าวหลายสัญชาติ ไม่ว่าจะเป็น กัมพูชา เมียนมาร์ ลาว และเวียดนาม ที่พักอาศัยอยู่บริเวณจุดต่างๆ ในซอยเจริญพัฒนา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. ซึ่งได้รับการร้องเรียนและแจ้งเบาะแสจากประชาชน ทั้งทางช่องทางสื่อกระแสหลัก และโซเชียลมีเดีย ว่ากลุ่มแรงงานข้ามชาติจำนวนมากใช้เป็นที่พักอาศัย และรอรับการว่าจ้างให้ใช้แรงงานในกิจการก่อสร้างหารายได้แบบรายวัน

ต่อมาในวันที่ 2 เม.ย.2567 เวลาประมาณ 06.00 น. เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบตามจุดต่างๆ ในซอยเจริญพัฒนาโดยพร้อมเพรียงกัน ตั้งแต่ช่วงแยกเจริญพัฒนา เรื่อยมาจนถึงตลาดเช้ากลางซอย ในระหว่างตรวจสอบกลุ่มคนต่างด้าว ทั้งกลุ่มที่เป็นแรงงานผิดกฎหมาย และกลุ่มที่มีเอกสารถูกต้อง ต่างตกใจแตกฮือ  วิ่งหนี บางส่วนวิ่งไปหลบซ่อนตัวตามป่ารกข้างทาง เจ้าหน้าที่ต้องกระจายกำลังวิ่งไล่ติดตาม จนสามารถจับกุมตัวได้บางส่วน ปฏิบัติการดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ จึงสามารถควบคุมตัวคนต่างด้าวไว้ได้จำนวนทั้งสิ้น 23 คน มาตรวจสอบจำแนกโดยละเอียดอีกครั้งโดยใช้รถบรรทุกควบคุมผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ได้เตรียมไว้  ผลการตรวจสอบโดยละเอียดพบว่าส่วนใหญ่เป็น บุคคลต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา 22 คน สัญชาติลาว 1 คน แบ่งเป็นความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” 16 คน และ ความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” 7 คน ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี และผลักดันออกนอกราชอาณาจักรต่อไป

อนึ่ง สตม.ขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนทุกท่านทราบว่า บุคคลต่างด้าวทุกสัญชาติที่เข้ามาในราชอาณาจักร นอกจากจะต้องเข้ามาตามช่องทางอนุญาตตามกฎหมายและได้รับการตรวจลงตราโดยถูกต้องแล้ว ยังมีหน้าที่ที่จะต้องแจ้งที่พักอาศัยต่อเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองตามมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และหากประสงค์จะทำงานในประเทศไทยจะต้องดำเนินการยื่นขอใบอนุญาตทำงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยนายจ้างที่รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตจะมีความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 มีโทษปรับสูงสุดถึง 100,000 บาท ในส่วนของเจ้าของบ้านหรือผู้ครอบครองเคหสถานยังมีหน้าที่ในการแจ้งต่อ สตม. เมื่อมีบุคคลต่างด้าวเข้ามาพักอาศัยในสถานที่ที่อยู่ในความดูแลของตน ซึ่ง สตม. จะมีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามคนต่างด้าวที่เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ทั้งนี้หากผู้ใดให้ที่พักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้ผู้กระทำความผิดพ้นจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่ จะมีความผิดตามมาตรา 64 ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแส การกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top