Saturday, 4 May 2024
กรือเซะ

‘ไพศาล’ ฟอกขาวให้ 'ทักษิณ' ยันไม่เกี่ยวเหตุการณ์กรือเซะ

'ไพศาล' ฟอกขาวให้ 'ทักษิณ' ยันไม่รู้เรื่องเหตุการณ์กรือเซะสักกระผีก ส่วน 'ลุงจิ๋ว' ก็ช่วยให้ไทยรอดพ้นจากสงคราม โลกมุสลิม แต่ 'พัลลภ ปิ่นมณี' รับไปเต็ม ๆ

2 ธ.ค. 64 - นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ทักษิณไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์กรือเซะ!!!” ระบุว่า นักการเมืองมุสลิมทางใต้มาหารือ เกี่ยวกับการย้ายพรรคไปอยู่พรรคเพื่อไทย แต่ติดขัดด้วยพี่น้องมุสลิมภาคใต้ยังติดใจกรณีสังหารที่กรือเซะ จึงบอกท่านว่าเป็นความเข้าใจผิด คุณทักษิณไม่ได้เกี่ยวข้องเรื่องเหตุการณ์สังหารที่กรือเซะเลย แถมไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำไป จึงถือโอกาสเล่าเหตุการณ์กรือเซะให้ฟังว่า

1.) เหตุการณ์กรือเซะเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากกรณีที่ผู้ก่อความไม่สงบระดมกำลังระดับ 2 กองพัน เคลื่อนมาตามถนนสายหลักและแยกเข้าโจมตีสถานีตำรวจ สถานที่ราชการ และฐานปฏิบัติการของฝ่ายรัฐบาลหลายจุดพร้อมกัน แต่ถอนกำลังกลับไม่ทัน บางส่วนถูกกองกำลังของรัฐบาลล้อมไว้ที่บริเวณมัสยิดกรือเซะ และผู้ก่อความไม่สงบหลบเข้าไปอยู่ในมัสยิดนั้น

2.) ครั้งนั้นลุงจิ๋วเป็นรองนายกฝ่ายความมั่นคงจึงเป็นผู้อำนวยการสถานการณ์ และได้มอบให้พลเอก พัลลภ ปิ่นมณี ซึ่งรับผิดชอบ กอ.รมน. เป็นผู้บัญชาการสถานการณ์ โดยพลเอก พัลลภ ปิ่นมณี ลงไปบัญชาการด้วยตนเองตั้งแต่เช้าตรู่ ทั้งสองฝ่ายตรึงกำลังกันโดยฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบเข้าไปตั้งมั่นอยู่ในมัสยิด ในขณะที่กองกำลังรัฐบาลล้อมอยู่โดยรอบ โดยมีประชาชนมุงดูเต็มไปหมด

3.) ลุงจิ๋วมอบนโยบายให้หาทางปรองดองโดยการเจรจากัน ถึงขนาดสั่งการว่าถ้าผู้ก่อความไม่สงบในมัสยิดหิวน้ำก็ให้ส่งน้ำไปให้ หิวข้าวก็ให้ส่งข้าวไปให้ ต้องการพบพ่อแม่ญาติพี่น้องก็ให้ช่วยตามไปพบ และให้อำนวยความสะดวกทุกอย่าง เพียงขอให้เจรจาและมอบตัวเพื่อปรองดองกันต่อไป ซึ่งเป็นวิธีการที่ลุงจิ๋วแกถนัด

4.) พลเอก พัลลภ ปิ่นมณี ผู้บัญชาการสถานการณ์ก็ปฏิบัติตามนโยบายนั้นอย่างเต็มที่ สร้างความชื่นอกชื่นใจให้แก่ประชาชน แม้สื่อต่างประเทศที่ไปทำข่าวก็ชื่นชมเป็นอันมาก แต่จนเวลาบ่ายคล้อยก็ไม่เป็นที่ตกลงกัน

‘ทักษิณ’ อาจโดนคดีฆาตกรรมจากเหตุกรือเซะ หลัง ‘แหย่รังแตน’ ปรี่ฟ้อง ‘นายชวน หลีกภัย’

ก่อนหมดอายุความเพียง 3 วัน 'ชวน หลีกภัย' ประธานรัฐสภา ได้เรียกทนายความมาคุยเพื่อหารือกับอัยการถึงการเข้ามอบตัวสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม หลังถูก 'ทักษิณ ชินวัตร' ฟ้อง กรณีชวนบรรยายเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ ทั้งเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ และเหตุการณ์ที่โรงพักตากใบ อันเป็นช่วงที่ทักษิณมีอำนาจอยู่ และนำมาสู่ความรุนแรงมาจนถึงปัจจุบัน 

ชวนประสงค์ให้ศาลวินิจฉัยความถูกผิด และนำข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นไปเปิดเผยในชั้นศาล และบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์กับวาทะกรรม 'โจรกระจอก' จนทักษิณต้องออกมาขอโทษชาวใต้ แต่ไม่วายแกว่งปากโยนความผิดไปให้ทหาร พุ่งตรงไปยังทหารฝ่ายตรงข้ามที่จ้องทำลาย โดยเอ่ยชื่อถึงผู้บัญชาการทหารบกในสมัยนั้น คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยอ้างว่า ทหารมีอำนาจเต็มในการแก้ไขสถานการณ์ คนเป็นนายกรัฐมนตรีคงไม่อาจทราบรายละเอียดทั้งหมด และคงไม่สั่งการในรายละเอียดของการปฏิบัติ

น่าสนใจยิ่งว่า เมื่อคดีของชวนกับทักษิณจบลงในชั้นศาลแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป แต่อย่างน้อยที่สุดข้อมูลของฝ่ายชวน และเป็นข้อมูลจำนวนมากจะถูกตีแผ่ในชั้นศาลอย่างหมดเปลือก นี้คือปรากฏการณ์ ‘แหย่รังแตน’ ของทักษิณ สุดท้ายก็จะโดนแตนต่อยตาบวมแน่นอน หรืออาจจะพูดได้ว่า ‘แกว่งเท้าหาเสี้ยน’ ก็จะโดนเสี้ยนตำเท้าเป็นแน่แท้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top