Saturday, 15 February 2025
Xiaomi

8 ความสำเร็จ สะท้อนพฤติกรรมมุ่งมั่นแบบจีน 'ก่อนเขาจะรวย' ทำตัวกันแบบไหน? 

คนไทยจำนวนมากยังมีค่านิยม “เจ้าคนนายคน” อยากรวยง่าย รวยเร็ว มีชีวิตหรูหรา แต่ไม่ทำชีวิตให้ไปถึงจุดนั้น ต่างกับอุปนิสัย และพฤติกรรมตอน “ก่อนจะรวย” ของคนจีน ข้อความจาก 'นายพงศ์พรหม ยามะรัต' ที่ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก และยังกล่าวต่ออีกว่า... 

เกือบๆ 5 ปีก่อน ผมบอกว่า mi หรือ Xiaomi (เสี่ยวมี่) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีมาก และวันนึงจะมาครองตลาดไทย

มีแต่คนหัวเราะเยาะผม!! 

หลายๆ คนพูดเยาะเย้ยว่า “เสี่ยวเอ้อราคาถูกๆ นั่นหนะเหรอ?”

ผมพูดเสมอว่าจีนเจริญได้เพราะขยัน หมั่นศึกษา หมั่นพัฒนา “ตนเอง”

แต่ไทยเรามักจะติดกับตัวเองในการ “วิจารณ์คนอื่น” ไปเรื่อย แต่ไม่พัฒนาตัวเอง ไม่ลงมือทำ

จนผมได้พบกับรองประธาน Xiaomi ตัวเป็นๆ ตั้งแต่พูดคุย จนถึงทานข้าว ผมพบวัฒนธรรม... 

“ขยันเพื่อทำสินค้าให้ดีที่สุดเพื่อลูกค้า” 

ผมมั่นใจเลยว่าเขาจะครองโลก!! 

คนจีนมีความอยากรวยเหมือนคนไทย

แต่สิ่งที่ต่างกันคืออุปนิสัย และพฤติกรรมตอน “ก่อนจะรวย”

นิสัย “ก่อนจะรวย” นี่แหละครับ ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในไทย

คนจีนไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นเก่า หรือรุ่นใหม่ ก่อนจะรวยนั้นมีนิสัยคล้ายๆ กันหลายอย่าง ดังนี้... 

1.) ประหยัด แต่ไม่ขี้เหนียวในการพัฒนาตัวเอง

2.) จัดการการเงินดี มี 10 บาท ใช้ 2 บาท 

ชื่นชอบของแบรนด์เนม แต่ไม่ซื้อของแบรนด์เนมมาแข่งกัน เพราะมองว่าต้องประสบความสำเร็จซะก่อน 

เด็ก Startup ในจีนที่ผมรู้จักเยอะมาก จะไม่กิน Starbucks ก่อนจะรวยเด็ดขาด พวกเค้าจะเลือกทานกาแฟดีของท้องถิ่นที่ราคาไม่ต้องแพง แล้วเก็บเงินเพื่อลงทุนในการพัฒนาตัวเอง หรือหุ้น หรือลงทุนกิจการในอนาคต

3.) ใครซื้อของแบรนด์เนม เห่อซื้อรถราคาแพง โดยยังไม่ประสบความสำเร็จในการทำกิจการ จะไม่ได้รับการยอมรับ

4.) สังคมจีนให้ความสำคัญกับความสำเร็จที่จับต้องได้ ไม่ใช่เขียนอะไรสวยๆ พูดดูดีๆ ขับรถแพงๆ แต่ต้องเปิดร้านบะหมี่ที่อร่อยจริง มีลูกค้ามาต่อคิว ไปจนถึงทำ Startup คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

5.) สังคมจีนไม่ยึดติด และฝันอยู่กับความสำเร็จในอดีตหรือปัจจุบัน

คุยไกล 5,000 กม. ‘Xiaomi’ เขย่าวงการ ‘Smartphone’ เปิดตัววิทยุสื่อสารรองรับ 4G ไกลถึง 5 พัน กม.!

วงการ Smartphone ต้องจับตามอง เพราะ Xiaomi ได้ออกสินค้าใหม่เป็นวิทยุสื่อสารที่รับเครือข่าย 4G ได้ไกลถึง 5000 กิโลเมตร

Xiaomi ได้เปิดตัว Xiaomi Walkie-Talkie 3 ที่มีราคาประมาณ 2,000 บาทเท่านั้นพร้อมสเปคสุดคุ้มรองรับ 4G Netcom เต็มรูปแบบ

การสนับสนุน 4G ของ Netcom เต็มรูปแบบนั้นกระจายไปทั่วผู้ให้บริการหลักสามรายในประเทศจีน คุณลักษณะนี้ทำให้สามารถสร้างการสื่อสารภายในระยะทาง 5,000 กม. ทั่วประเทศ ทำให้ทะลุขีดจำกัดระยะทางการโทรภายในแบบเดิม

ในแง่ของความสะดวกสบาย ฟังก์ชันต่างๆ เช่น การสร้างกลุ่มพูดคุย หรือพูดคุยผ่านอินเตอร์คอมส่วนตัวสามารถทำได้โดยไม่ต้องตั้งค่าให้ยุ่งยาก ในขณะเดียวกันก็รองรับการอัพเกรด OTA ซึ่งคาดว่าจะสามารถปลดล็อกฟังก์ชันเพิ่มเติมได้ในอนาคต

นอกจากนี้ Mi Walkie Talkie 3 รองรับการโทรด้วยเสียงแบบสองทาง โดดเด่นด้วยระบบเสียงประสิทธิภาพสูงซึ่งประกอบด้วยชุดลำโพงขนาดใหญ่ 40 มม. และชิปประมวลผลเสียงระดับสูง ทำให้ระดับเสียงเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ยังมีอัลกอริธึมการลดเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งลดอัตราการบิดเบือนลง 10.9%

Mi Walkie-Talkie 3 มีแบตเตอรี่ 3000mAh ในตัว ซึ่งสามารถสแตนด์บายได้นานเป็นพิเศษถึง 100 ชั่วโมง และยังใช้งานได้นานถึง 60 ชั่วโมงอีกด้วย และชาร์จด้วย USB-Type C 

Xiaomi กำไรวูบกว่าครึ่ง เตรียมลดพนักงานกว่า 5000 ชีวิต | Summary Reporter EP.27

สถานการณ์ดูน่าเป็นห่วงสำหรับแบรนด์เทคโนโลยีชั้นนำจากจีนอย่าง Xiaomi
หลังมีข่าวปลดคนงานร่วม 5,000 ชีวิต เหตุกำไรหดลดไปกว่าครึ่ง
เพราะผลพวงจากนโยบาย Zero - COVID เรื่องนี้มีรายละเอียดอย่างไร ไปติดตามชมกัน...

รับชม Summary Reporter ตอนอื่น ๆ ได้ที่
https://youtube.com/playlist?list=PLq_3bZE25J9ifbJu1zakb0XyrHOu4upxS

#THESTATESTIMES
#ReporterJourney
#SummaryReporter
#COVID
#Xiaomi
#เศรษฐกิจ

‘เสียวหมี่’ เปิดตัว ‘HyperOS’ เป็นระบบปฏิบัติการของตัวเอง เผยข้อดี ‘ลื่นไหล-เสถียร’ มากขึ้น!! พร้อมใช้งาน 31 ต.ค. นี้

(27 ต.ค. 66) สำนักข่าวCNBC รายงานว่า เสียวหมี่ ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติจีน เปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ เรียกว่า 'HyperOS' และพร้อมให้ลูกค้าใช้งาน 31 ต.ค. นี้ เมื่อโทรศัพท์ อุปกรณ์สวมใส่ เช่น นาฬิกา และโทรทัศน์รุ่นล่าสุดของเสียวหมี่เริ่มจำหน่ายในจีน

เสียวหมี่ ระบุว่า ระบบ HyperOS สร้างโดยลีนุกซ์ และระบบเสียวหมี่ลีลาที่พัฒนาเอง ซึ่งระบบนี้ทำให้ความลื่นไหลของภาพมีความเสถียรมากขึ้น และลดการใช้พลังงานไฟฟ้าเมื่อเทียบกับระบบแอนดรอยด์

เสี่ยวหมี่ ยังเผยเกี่ยวกับความเร็วของระบบประมวลผล ความปลอดภัยของระบบ HyperOS และบอกแนวทางการใช้ระบบในสมาร์ตโฟน รถยนต์ และแล็ปท็อป ซึ่งสามารถแชร์คอนเทนต์และเข้าถึงกล้องของผู้อื่นในระบบใหม่ได้อย่างง่ายดาย

ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เสียวหมี่ได้พัฒนาธุรกิจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งมีสัดส่วนสร้างรายได้ประมาณ 22% ของรายได้ทั้งหมดในบริษัทในไตรมาสสอง เป็นรองรายได้จากสมาร์ตโฟนที่มีสัดส่วน 37% และเมื่อวันพฤหัสบดี (26 ต.ค.) บริษัทได้เปิดตัวสมาร์ตโฟน 3,999 หยวน หรือราว 19,900 บาท,เครื่องซักผ้าราคา 1,999 หยวน หรือประมาณ 9,900 บาท, และตู้เย็น 2,999 หยวน ราว 14,800 บาท และมีแอปพลิเคชันให้ลูกค้าควบคุมการตั้งค่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเสียวหมี่ได้

ด้าน 'เหลย จุน' ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เสียวหมี่ เผยผ่านโซเชียลมีเดียจีนเมื่อวันพุธ (25 ต.ค.) ว่าบริษัทเตรียมเปิดตัวรถยนต์ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 ด้วย แต่ไม่ได้ระบุว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่

ทั้งนี้ บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งต่างพยายามสร้างความจงรักภักดีในตัวแบรนด์ หรือสร้างความเชื่อมั่นต่อสินค้าด้วยการมีระบบปฏิบัติการเป็นของตัวเอง เช่น ระบบ iOS ของแอปเปิ้ล และแอนดรอยด์ของกูเกิล

ด้านหัวเว่ย บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีนได้พัฒนาระบบปฏิบัติการเป็นของตนเองเช่นกัน เรียกว่า HarmonyOS เพื่อแทนที่แอนดรอยด์ และบริษัทได้ปรับระบบให้เข้ากับสมาร์ตโฟน แล็ปท็อป แท็บเล็ต และชุดโทรทัศน์ ทั้งยังจำหน่ายซอฟต์แวร์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของพาร์ตเนอร์ด้วย

‘Xiaomi’ ท้าชน!! เปิดตัว NEV รุ่น SU7 ที่พัฒนาเองครั้งแรก ราคาเริ่มต้น 1.1 ล้านบาท ครบครันทั้งสมรรถนะ-เทคโนโลยี

(29 มี.ค.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เสียวหมี่ (Xiaomi) บริษัทเทคโนโลยีของจีน เปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่ที่พัฒนาขึ้นเองเป็นครั้งแรก รุ่นเอสยู7 (SU7)

โดยรถยนต์รุ่นดังกล่าวมาใน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ เอสยู7, เอสยู7 โปร (SU7 Pro) และเอสยู7 แม็กซ์ (SU7 Max) ซึ่งจะจำหน่ายในท้องตลาดในราคา 215,900-299,900 หยวน (ราว 1.1-1.53 ล้านบาท)

รถยนต์เอสยู7 และเอสยู7 แม็กซ์ ถูกออกแบบให้มีพิสัยวิ่งขั้นต่ำ 700 กิโลเมตร โดยจะเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าภายในปลายเดือนเมษายน ส่วนเอสยู7 โปร จะเริ่มส่งมอบภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม

เหลยจวิน ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของเสียวหมี่ กล่าวในงานเปิดตัวว่าบริษัทฯ สร้างความก้าวหน้าในการพัฒนาทางเทคโนโลยีในหลายสาขาสำคัญ เช่น การออกแบบโมเดล แบตเตอรี่ การขับขี่อัจฉริยะ และห้องคนขับอัจฉริยะ

ทั้งนี้ เสียวหมี่เข้าสู่ภาคส่วนยานยนต์พลังงานใหม่ในปี 2021 และสร้างโรงงานบนพื้นที่มากกว่า 700,000 ตารางเมตรในกรุงปักกิ่ง

ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งประเทศจีน ระบุว่าปริมาณการผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ในจีนสูงถึง 1.25 ล้านคัน และมีการจัดจำหน่ายรถประเภทนี้ 1.21 ล้านคันในช่วงสองเดือนแรก (มกราคม-กุมภาพันธ์) ของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.2 และร้อยละ 29.4 เมื่อเทียบปีต่อปี ตามลำดับ

‘Xiaomi’ ทำยอดขายแซง iPhone รั้งเบอร์ 2 ของโลกในเดือนสิงหาคม ฟาก 'นักวิเคราะห์' ชี้!! คงเป็นช่วงสั้นๆ แต่เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญพลิกตลาด

(23 ก.ย. 67) ไม่นานมานี้ Counterpoint Research บริษัทวิจัยตลาดชั้นนำ ได้เปิดเผยว่า Xiaomi สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตสมาร์ตโฟนอันดับ 2 ของโลกในเดือนสิงหาคม 2567 โดยมียอดจัดส่งสมาร์ตโฟนแซงหน้า Apple เป็นครั้งแรก ความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลมาจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Xiaomi ที่มียอดจัดส่งสมาร์ตโฟนเพิ่มขึ้นถึง 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตาม การครองอันดับ 2 ของ Xiaomi อาจเป็นเพียงช่วงสั้น ๆ เนื่องจากในเดือนต่อมา คือเดือนกันยายน Apple มีกำหนดเปิดตัว iPhone 16 ซึ่งคาดว่าจะทำให้ยอดขายของ Apple พุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และน่าจะกลับมาครองตำแหน่งอันดับ 2 อีกครั้ง

ในขณะเดียวกัน ทางด้านของ Samsung ยังคงครองตำแหน่งผู้ผลิตสมาร์ตโฟนรายใหญ่ที่สุดของโลกไว้ได้ แม้ว่าในช่วงก่อนหน้านี้จะเคยสูญเสียตำแหน่งให้กับ Apple ไปเป็นเวลาหลายเดือนก็ตาม ปัจจุบัน Samsung สามารถกลับมาครองบัลลังก์อีกครั้งด้วยส่วนแบ่งตลาดที่เหนือกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน

สำหรับการก้าวกระโดดของ Xiaomi ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัท โดยเฉพาะในตลาดเอเชียและยุโรป ที่ Xiaomi สามารถนำเสนอสมาร์ตโฟนที่มีคุณภาพสูงในราคาที่แข่งขันได้ ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการสมาร์ตโฟนประสิทธิภาพสูงแต่ราคาไม่แพงจนเกินไป

นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมมองว่า แม้การขึ้นแท่นอันดับ 2 ของ Xiaomi จะเป็นเพียงชั่วคราว แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของบริษัท และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดสมาร์ทโฟนโลก

ซีอีโอ Xiaomi ชี้!! ใช้เวลาแค่ 230 วัน ขายรถไฟฟ้าได้ 1 แสนคัน ขิงใส่!! ‘Tesla’ ใช้เวลานานกว่า ‘7 ปีครึ่ง’ กว่าจะมาถึงจุดนี้

(24 พ.ย. 67) เล่ย จุน (Lei Jun) ซีอีโอของ Xiaomi กล่าวว่า เทสลา (Tesla) ใช้เวลาถึงเจ็ดปีครึ่งในการขายได้ถึง 100,000 คัน แต่ Xiaomi ใช้เวลาเพียงแค่ 230 วันเท่านั้น และเรียกความสำเร็จของบริษัทว่าเป็น ‘ปาฏิหาริย์ที่ไม่มีใครเคยพบเห็นมาก่อน’ ในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมยานยนต์

‘เสียวหมี่’ (Xiaomi ) ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสัญชาติจีน รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 5.3 พันล้านหยวน หรือราว 2.5 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน โดยธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครบ 100,000 คันเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน เพียงไม่กี่เดือนหลังจากเปิดตัวครั้งแรกในเดือนมีนาคม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top