Friday, 17 May 2024
Thailand

นักท่องเที่ยวชาวไทยครองแชมป์จำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุดใน #ลาว ประจำปี 2566

โดยกระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ของ สปป.ลาว เผย #ท็อปเทน นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวลาวในปี 2023 

The Ministry of Information, Culture, and Tourism unveiled the 2023 tourist arrival data. Here are the top 10 tourist nationalities that entered #Laos last year.

‘ชาตรามือ’ เปิดตัวสาขาแรกในอเมริกา ลูกค้าแห่ต่อคิวซื้อยาวเหยียด พร้อมเผย “คิดถึงเมืองไทย” ขึ้นแท่นซอฟต์พาวเวอร์ไทยในต่างแดน

‘ชาไทย’ ไม่ธรรมดา!! ล่าสุด ‘ชาตรามือ’ เปิดตัวสาขาแรกในสหรัฐอเมริกา ได้รับการต้อนรับอย่างดี นับเป็นอีกเรื่องราวที่น่าภูมิใจของซอฟต์พาวเวอร์ไทยในต่างแดน ลูกค้าต่อคิวยาว แต่เอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่า “คิดถึงเมืองไทย!!”

เมื่อไม่นานนี้ เพจ ‘ร้านเด็ด อเมริกา - Landed America’ เพจขวัญใจชาวไทยในอเมริกา ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 4.6 แสนคน เผยภาพบรรยากาศร้านเครื่องดื่มที่คนไทยคุ้นเคย นั่นคือ ‘ร้านชาตรามือ’ ที่ตัดสินใจเลือกทำเลในแอลเอ เพื่อเปิดร้านเป็นสาขาแรกในสหรัฐอเมริกา บรรยากาศภายในร้านมีทั้งชาวไทยในสหรัฐฯ และชาวต่างชาติต่อคิวจนยาวจนพ้นหน้าร้าน บรรยากาศคึกคัก มีชาวต่างชาติ ต่อคิวยาวตลอดทั้งวัน

เพจร้านเด็ด อเมริกา เผยว่า ชาตรามือ สาขาลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย ได้รับการตอบรับอย่างดี โดย ‘ชาไทย’ คือเมนูที่ขายดีที่สุด รองลงมาคือ ‘ชาเขียว, ชามะนาว’ ส่วนราคาจำหน่ายที่นี่ ราคาแก้ว 5.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 200 บาท

นอกจากนี้ ยังมี ‘ชากุหลาบ’ ที่เป็นกระแสในเมืองไทย ในเรื่องการช่วยขับถ่าย ซึ่งก็เป็นที่สนใจเช่นเดียวกัน อีกทั้งสามารถเลือกระดับความหวานได้หลายระดับ ตั้งแต่ 0%, 30%, 70%, 100% และ 130% ทำให้ชาวต่างชาติต่างพึงพอใจเป็นอย่างมาก ลูกค้าหลายคนบอกว่าเคยเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศไทยมาแล้ว และเคยได้ลองชิมก็ติดใจ จึงเดินทางมาซื้อชาไทยที่ร้านนี้ด้วย

คนไทยในสหรัฐฯ ที่คิดถึงเมืองไทยหรืออยากแนะนำเพื่อนต่างชาติ ให้ลองชิมชาไทยเครื่องดื่มสุดฮิตของประเทศ แวะไปกันได้ ที่ 1100 N Main St, Los Angeles, CA 90012

‘สื่ออาวุโส’ ชี้!! ‘คนไทย’ นี่แหละ Soft Power ที่คนญี่ปุ่นตระหนัก พร้อมเปิดรับวัฒนธรรมใหม่ ‘ปรับตัว-ประยุกต์’ สร้างโอกาสต่อยอดเก่ง

(26 ก.พ.67) เถกิง สมทรัพย์ สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า…
 

สวัสดีบัดดี้… เวลาบัดดี้ไปญี่ปุ่น เคยเห็นสิ่งที่เรียกว่า ‘Soft Power’ ของไทยในบ้านเมืองเขาไหม…

พี่มีข้อคิดสนุกๆ มาแลกเปลี่ยนกับบัดดี้และเพื่อนๆ ในเพจ ดังนี้…

1.) เราไปเที่ยวญี่ปุ่นเพราะต้องการเสพความสุขจาก Soft Power ของญี่ปุ่น ทั้งอาหาร สินค้า ทิวทัศน์ ฤดูกาล วัฒนธรรม ผู้คน ความทันสมัยของบ้านเมือง และวิธีการบริหารต่างๆ ของญี่ปุ่น

2.) Soft Power ของญี่ปุ่นบดขยี้จิตใจของคนไทยให้อ่อนไหว หลงรัก เสพติด และยินยอมตกเป็นทาสอย่างถอนตัวไม่ขึ้น

3.) ไม่เพียงแต่คนไทยจะโบยบินไปเสพ Soft Power ถึงประเทศญี่ปุ่นแบบไปแล้วไปอีก เขาบอกว่ามีอะไรใหม่ๆ ก็ไปกันแล้วไปกันเล่า

4.) แม้แต่ในบ้านเมืองของไทย Soft Power ของญี่ปุ่นก็ยกทัพมาให้เราเสพถึงบ้าน…

5.) ในกรุงเทพ ในต่างจังหวัด ในอำเภอ ในตำบล ในหมู่บ้าน เราจะเห็นอิทธิพลทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเต็มไปหมด ทั้งร้านอาหาร เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้… และคนไทยที่เคยเดินทางไปญี่ปุ่นกันมาแล้ว จะมีอยู่แทบจะทุกอำเภอในประเทศไทย

6.) ในทางกลับกัน Soft Power ของไทยในประเทศญี่ปุ่น… แทบจะหาไม่เจอ

7.) ร้านอาหารไทยแทบจะไม่มี ร้านนวดไทยไม่มี มีแต่สาวไทยไปบริการนวดในญี่ปุ่น ซึ่งมีแค่ในเมืองใหญ่ๆ

8.) ดาราไทย เพลงไทย หรือเพลงฝรั่งที่คนไทยร้อง… ไม่มีในญี่ปุ่น

9.) แม้คนญี่ปุ่นจะบินมาอยู่มาเที่ยวเมืองไทยมากมายหลายล้านคน แต่เขาไม่เคยขนเอา Soft Power ไทยกลับไปเผยแพร่ในญี่ปุ่น อย่างที่คนไทยขนมาให้คนไทยด้วยกันเสพสุข

10.) แต่ แต่… ในอีกมุมหนึ่ง

11.) Soft Power ของไทย ที่คนญี่ปุ่นต้องการที่สุด คือ ‘คนไทย’

12.) เพราะคนไทยมี ‘อำนาจซื้อ’ มหาศาล… จับจ่ายใช้สอยกันอย่างมีความสุขในญี่ปุ่น

13.) ในเวลาเดียวกัน… คนไทยจำนวนมากได้ไอเดียทำมาหากิน ทำมาค้าขาย มาจากการไปเที่ยวญี่ปุ่น

14.) Soft Power ญี่ปุ่นที่มากระจายทั่วทุกถนนในเมืองไทย… ส่วนใหญ่ก็เพราะคนไทยมีความสนใจ ได้เรียนรู้ ใฝ่รู้ เสาะหา มาใช้ทำมาค้าขาย จนได้รับความสำเร็จ

15.) การไปญี่ปุ่นของคนไทยทุกคนคือ ‘ทัศนศึกษา’ คือ การเรียนรู้นอกห้องเรียน การซึมซับโลกาภิวัฒน์ในภาคปฏิบัติ

16.) การไปญี่ปุ่น สำหรับพี่แล้ว… เทียบเท่าการไปยุโรปหรืออเมริกา เพราะความเจริญในทุกด้านของญี่ปุ่นเหนือกว่าหลายประเทศในโลกนี้

17.) คนไทยเราได้มีโอกาสไปเปิดหูเปิดตาในญี่ปุ่น พี่ถือว่า นี่คือการไปเรียนเมืองนอกในแบบกระทัดรัด…

18.) คนไทยส่วนใหญ่ไปญี่ปุ่น กลับมาพร้อมกับโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น และหลายคนได้ ‘แรงบันดาลใจมหาศาล’ มาพัฒนาตัวเอง

19.) และความเป็นคนไทยของเราที่มีจิตใจที่ ‘เปิดรับวัฒนธรรมใหม่ๆ’ ทำให้เราซึมซับนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน 

20.) เช่นเดียวกับ ความหลงใหลในเกาหลี, จีน, ยุโรป, อเมริกา ที่เรานำมาคลุกเคล้าในเบ้าหลอมขนาดใหญ่ที่มี ชื่อว่า ‘ประเทศไทย’

21.) เหลือเพียงว่า เราจะก้าวข้ามไปถึงการนำความรู้เหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ปรับใช้จนเป็นสินค้า Soft Power ที่เป็นเอกลักษณ์ของเราเองหรือไม่ 

22.) ดังเช่นการเข้ามาของ 7-11 ในยุคแรกๆ ส่งผลให้คนไทยนำรูปลักษณ์การค้าขายแบบนั้นไปประยุกต์ใช้จนเกิด ‘มินิมาร์ทของคนไทย’ ไปทั่วบ้านทั่วเมือง และสิ้นสุดยุคร้านค้าแบบ ‘โชว์ห่วย’... แม้เจ้าของร้านค่าส่วนใหญ่ในสมัยนั้นจะยังไม่เคยไปญี่ปุ่นเลย แต่เห็นระบบการบริหารจัดการของญี่ปุ่นผ่านร้านค้าอย่าง 7-11 

23.) ในช่วงเวลา 10 กว่าปีที่คนไทยได้รับโอกาสเดินทางไป… ญี่ปุ่นได้ง่ายขึ้น… และมีปรากฏการณ์เช่นนี้… พี่คิดว่าน่าพอใจมาก

คนไทยนี่แหละ คือ ‘Soft Power’ ที่แท้จริง…

เราจะส่งเสริมให้เขาเรียนรู้ดูดซับความรู้ต่างๆ มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเองและสังคม ในเชิงบวกมากขึ้นไปอีกอย่างไร??


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top