Saturday, 18 May 2024
TCEB

เริ่มแล้ววันนี้ TCEB เปิดงานชา กาแฟระดับโลก 'World Tea & Coffee Expo 2023' ใจกลางเมืองเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2566 สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปนร่วมกับหน่วยงานภาคี ได้เปิดงาน World Tea & Coffee Expo 2023 ซึ่งเป็น งานประชุมวิชาการนานาชาติและแสดงสินค้าในอุตสาหกรรมชาและกาแฟระดับโลก ณ ห้องประชุม Nimman Convention Centre จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับเกียรติจากนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยนายชิกุจิ เคอิจิ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นคร เชียงใหม่ ที่ให้เกียรติมาร่วมแสดงความยินดีและร่วมกิจกรรมเสวนาภายในงานด้วย

ทั้งนี้ งานประชุมวิชาการนานาชาติและแสดงสินค้า World Tea & Coffee Expo 2023 จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 26 – 29 มกราคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 นณ ศูนย์การค้า One Nimman ถือเป็น งานที่ สสปน. ใช้กลไกของไมซ์ในการขับเคลื่อนพืชเศรษฐกิจระดับภาคเพื่อสร้างชื่อเสียง (Destination Branding) ต่อยอดความพร้อมของภาคเหนือตอนบนในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมชาและกาแฟระดับโลก ซึ่ง ดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 โดยในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “A Cup of Success” เน้นย้ำถึงความสำเร็จ ของธุรกิจชาและกาแฟในไทยที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมถึงความสำเร็จที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

ภายในงานมีกิจกรรมสองส่วน ได้แก่ ส่วนของ งานแสดงและจำหน่ายสินค้า ในบริเวณลานกิจกรรม กลางแจ้ง และส่วนของงานประชุมวิชาการนานาชาติในชื่อ The 3rd Tea and Coffee International Symposium ณ ห้องประชุม Nimman Convention Centre โดยในส่วนของงานแสดงสินค้าประกอบด้วยบูธ ของผู้ประกอบการจำนวน 50 ราย แบ่งเป็นบูธผู้ประกอบการชาและกาแฟภาคเหนือรวมทั้งภาคอื่น ๆ จำนวน 45 ราย และต่างประเทศจำนวน 5 ราย โดยทั้งหมดเป็นผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ตามที่ สสปน. กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านความน่าเชื่อถือ คุณภาพ และมาตรฐานของสินค้า การนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ใน กระบวนการผลิต และศักยภาพที่สามารถต่อยอดธุรกิจต่อไปได้ในอนาคต เป็นต้น

อีกหนึ่งกิจกรรม ภายในงานซึ่งจะเป็นโอกาสทางการค้าที่สำคัญของผู้ประกอบการคือ การเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ซึ่งในครั้งนี้มีการเชิญคู่ค้า หรือ buyer จากทั่วประเทศ 20 ราย และจากต่างประเทศ จำนวน 5 ราย โดยการเจรจาจะมีทั้งรูปแบบออฟไลน์ภายในงาน และการเจรจาผ่านทางออนไลน์ โดยทาง สส ปนได้ตั้งเป้ามูลค่าการซื้อขายจากกิจกรรมทั้งหมดอยู่ที่ 10 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าซื้อขายและการสั่งซื้อจาก การเจรจาธุรกิจจำนวน 8 ล้านบาท และการซื้อขายภายในงานจำนวน 2 ล้านบาท สำหรับในส่วนของผู้เข้าชมนั้น เดิมตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 คน แต่ด้วยสถานที่จัดงานที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และอยู่ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของ จังหวัดเชียงใหม่ จึงมั่นใจว่าจะมีผู้เข้าชมมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้อย่างแน่นอน

'อนุทิน' ร่วมหารือเครือข่ายธุรกิจเอกชน หนุนไทยเป็นเจ้าภาพ 'Expo 2028 Phuket Thailand'

(20 ก.พ. 66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในการประชุมความร่วมมือกับภาคเอกชนในการสนับสนุนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand โดยมีนางอรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ, นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (สสปน.) หรือ TCEB และผู้บริหารภาคเอกชนเข้าร่วม ณ ห้อง Plenary Hall 1 ชั้น 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

การประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อหาแนวทางความร่วมมือกับเครือข่ายทางธุรกิจของเอกชนในการสนับสนุนให้ประเทศไทยได้รับความเชื่อมั่นจากองค์การนิทรรศการนานาชาติ Bureau International des Expositions (BIE) ตลอดจนสมาชิก BIE ทั้ง 171 ช่วยให้ประเทศไทยได้รับชัยชนะเป็นเจ้าภาพงาน Expo 2028 Phuket Thailand ซึ่งไทยแข่งขันการเป็นเจ้าภาพกับอีก 4 ประเทศจากทวีปอเมริกา และยุโรป ประกอบด้วยสหรัฐฯ (รัฐมินนิโซตา), อาร์เจนตินา (เมืองซาน คาร์ลอส เดอ บาริโลเช่), เซอร์เบีย (เมืองเบลเกรด) และสเปน (เมืองมาลาก้า)

ระหว่างการประชุม นายอนุทิน ได้กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมของประเทศไทย สำหรับการเป็นตัวแทนภูมิภาคเอเชีย เพื่อเข้าแข่งขันเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษ (Specialised Expo) ว่า ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต, สสปน. และหน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมกันเตรียมการในเรื่องนี้อย่างเป็นเอกภาพ

โดย BIE เข้ามาตรวจสอบสถานที่จัดงานและความพร้อมของไทย และมีความพึงพอใจเป็นอย่างมาก ซึ่งขณะนี้ ไทยอยู่ในขั้นตอนการหาเสียงให้ประเทศสมาชิกของ BIE ทั้ง 171 ประเทศ ให้ลงคะแนนเสียงโหวตให้ประเทศไทย ซึ่งการตัดสินจะมีขึ้นในเดือน มิ.ย. 66 นี้

นายอนุทิน ได้กล่าวถึงศักยภาพในมิติต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการเป็นเจ้าภาพของไทย โดยเฉพาะเป็นโอกาสเสนอทางออกให้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ของโลกโลกในปัจจุบัน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การเมืองระหว่างประเทศ และเรื่องโลกร้อน ด้วยการดึงผู้เข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการ นำเสนอแนวคิดครอบคลุมมิติในด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และการแบ่งปัน ภายใต้ธีม 'Future of Life : Living in Harmony, Sharing Prosperity'

‘RCEP’ หนุน ‘ไทย-จีน’ เสริมความร่วมมือด้าน ‘งานแสดงสินค้า’ เปิดประตูเชื่อมการค้า 2 ประเทศ แบ่งปันโอกาสเติบโตทางธุรกิจ

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 67 สำนักข่าวซินหัว, หนานชาง รายงานว่า เมื่อไม่นานนี้ นายดวงเด็ด ย้วยความดี ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการแห่งประเทศไทย ได้เข้าร่วมการประชุมงานจัดแสดงสินค้าเพื่อความร่วมมือระดับนานาชาติ (CEFCO) ครั้งที่ 19 ในนครหนานชาง มณฑลเจียงซีทางตะวันออกของจีน

นายดวงเด็ด กล่าวว่า ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่มีผลบังคับใช้สองปีแล้ว ได้ช่วยส่งเสริมการค้าระหว่างจีนกับไทย โดยเฉพาะความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมการจัดแสดงสินค้า และนำพาโอกาสการพัฒนาใหม่ๆ มาสู่ 2 ประเทศ ซึ่งไทยพร้อมเดินหน้าทำงานกับทุกฝ่ายอย่างรอบด้านเพื่อสร้างผลประโยชน์จากความตกลงฯ เพิ่มขึ้น

ไทยนั้นอยู่ในตำแหน่งศูนย์กลางเชิงยุทธศาสตร์ของภูมิภาคอาเซียน ทำให้เป็นทำเลทองของการจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ โดยมีระบบขนส่งที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างโดดเด่น การเดินทางจากไทยไปยังตลาดอื่นๆ ในอาเซียนมีความสะดวกง่ายดาย จึงเกื้อหนุนการดำเนินงานของเหล่าผู้จัดแสดงสินค้าให้ดียิ่งขึ้น

ปัจจุบันไทยมีการจัดงานแสดงสินค้าที่โดดเด่นในด้านการผลิตอัจฉริยะ เทคโนโลยีอัจฉริยะ และอุตสาหกรรมอัญมณี ซึ่งนายดวงเด็ดหวังว่า จีนและไทยจะร่วมมือกันในด้านเหล่านี้เพิ่มขึ้น พร้อมต้อนรับจีนเข้ามาจัดงานแสดงสินค้าใหม่ๆ โดยไทยจะให้การสนับสนุนทางนโยบายสิทธิพิเศษ โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยีเฉพาะทาง

นายดวงเด็ด เสริมว่า จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของไทยในปี 2023 ด้วยปริมาณการค้าทวิภาคีสูงถึง 1.35 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 4.73 ล้านล้านบาท) โดยจีนนำเข้าสินค้าจากไทยสูงถึง 5.65 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.98 ล้านล้านบาท) ขณะไทยนำเข้าสินค้าจากจีนสูงถึง 7.85 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 2.75 ล้านล้านบาท)

อนึ่ง การประชุมงานจัดแสดงสินค้าเพื่อความร่วมมือระดับนานาชาติ ครั้งที่ 19 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 10-12 ม.ค. 67 ภายใต้หัวข้อ ‘แบ่งปันอย่างเปิดกว้าง เชื่อมโยงสู่ทั่วโลก’ โดยมีตัวแทนจากกว่า 10 ประเทศและภูมิภาค อาทิ ไทย, เยอรมนี, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ เข้าร่วมมากกว่า 500 คน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top