Monday, 6 May 2024
NSB

‘ตร.’ ทลายแหล่งพัก-เครือข่ายขนยาเสพติด ก่อนส่งออกทางเรือ พร้อมจับบิ๊กชาวมาเลฯ-ฮ่องกง ยึดเฮโรอีน 94 กก.-ไอซ์ 162 กก.

ตำรวจ ปส. (NSB) ทลายเครือข่ายขนยาเสพติดข้ามชาติ ผ่านระบบขนส่ง Logistics ก่อนส่งออกทางเรือและทลายแหล่งพักยา จับนักค้ามาเลเซีย-ฮ่องกง ระดับสั่งการ ได้พร้อมด้วยของกลางรวมเฮโรอีน 94 กก.ไอซ์ 162 กก. จากการปราบปรามอย่างหนักของตำรวจ (NSB) ในการเดินหน้าทำลายเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ และรายย่อย ตามนโยบายเร่งด่วนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร ซึ่งจะพบว่า สถานการณ์ยาเสพติดขณะนี้ ผู้ค้ายาเสพติดมีความพยายามในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ระบบขนส่งในการลักลอบขนยาเสพติด

(18 เม.ย. 66) ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง รอง ผบช.ปส.,พล.ต.ต.สมกิต พุ่มวารี ผบก.ขส.บช.ปส., พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส.บช.ปส., พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผบก.ปส.1,พล.ต.ต.ธนรัชน์  สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3 แถลงผลการจับกุมเครือข่ายค้าเฮโรอีนรายใหญ่ระดับสั่งการผู้ต้องหา 8 ราย ตรวจยึด เฮโรอีน 94 กก., ไอซ์ 182 กก., ยาบ้า 7 แสนเม็ด, คีตามีน 25 กก.และสารเสพติดไม่ทราบชนิด (อยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์) 1,250 ขวด

คดีแรก สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10-11 เม.ย.ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (NSB) ร่วมกับ เจ้าหน้าที่หน่วยงานร่วมภายใต้โครงการปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ ท่าเรือสากลของอาเซียน หรือ Seaport Interdiction Task Force (SITF) ประกอบด้วย สำนักงาน ป.ป.ส., ศุลกากรและศูนย์รักษาความปลอดภัย เข้าตรวจสอบพัสดุหลังพบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ที่คลังสินค้าแห่งหนึ่ง เขตบึงกุ่ม พบเฮโรอีนน้ำหนักกว่า 30 กก.ซุกซ่อนไปกับแผ่นเรซิ่นลายแผ่นไม้ เตรียมส่งออกไปประเทศออสเตรเลีย

เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนขยายผลจนทราบว่า ผู้ส่งสินค้าคือ น.ส.กานดา (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ก่อนจะถูกจับกุมได้ในเวลาต่อมา สารภาพว่า เป็นผู้ส่งเฮโรอีนจริง โดยใช้บัตรประชาชนของผู้อื่นในการจัดส่ง ส่วนยาเสพติดรับมาจากชายรู้จักเพียงว่าชื่อ ‘เถ้าแก่’ พูดภาษาจีน โดยมี ‘นายตี๋’ ช่วยแปลภาษาและจ่ายเงินว่าจ้างถูกจับกุมได้ในเวลาต่อมา ส่วนผู้รับเป็นลูกครึ่งไทย – ออสเตรเลีย

ต่อมา เจ้าหน้าที่พบความเคลื่อนไหวของเครือข่ายนี้ จะส่งยาเสพติดไปต่างประเทศในช่วงใกล้วันสงกรานต์ อีกครั้ง จึงขยายผลจากฐานข้อมูล (Big data) ที่ บช.ปส. (NSB) มีอยู่ กระทั่งวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา สามารถจับกุม Mr.LEUNG หรือเฮีย หรือเถ้าแก่ สัญชาติมาเลเซีย ระดับสั่งการ ได้ที่ปั้มน้ำมัน ย่านถนนพระราม 3 พร้อมไอซ์กว่า 2 กก.ซุกซ่อนในกรอบรูปเตรียมส่งไปยังประเทศญี่ปุ่น

จากนั้นขยายผลจับกุมนายจายหลู่ หรือ ‘ตี๋ ชาวไทใหญ่’ ได้ที่ปั้มน้ำมันในซอยสาธุประดิษฐ์ 15 พร้อมสอบสวนและขยายผลเพิ่มเติมก่อนเข้าตรวจค้นที่พักย่านถนนพระราม 3 เป็นห้องสำหรับจัดเตรียมยาเสพติดเพื่อซุกซ่อนไปกับสินค้าชนิดต่าง ๆ ผลการตรวจค้นพบไอซ์ ซุกซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้า น้ำหนักกว่า 13 กก., และไอซ์ ลักษณะเป็นเกล็ดผสมกับเนื้อซิลิโคน 2 แผ่น น้ำหนักกว่า 18 กก.ซุกซ่อนในกรอบรูปผ้าใบ 2 กรอบ, ไอซ์ ลักษณะเหลวเหนียวข้น 1 กก. และของเหลวบรรจุอยู่ในขวด แสดงสินค้าเป็น Massage Oil 1,250 ขวด ตรวจทดสอบเบื้องต้นด้วยน้ำยาทดสอบยาเสพติดพบเปลี่ยนสี หลังจากนี้จะส่งไปตรวจกับสถาบันตรวจพิสูจน์ว่าเป็นสารเสพติดชนิดใด

นอกจากนี้ยังจับกุม Mr.Kai สัญชาติฮ่องกง ได้เพิ่มอีก 1 ราย จากนั้นได้เข้าตรวจค้นห้องพัก 2 ห้อง ภายในคอนโด ย่านถนนเลี่ยงวงแหวนอุตสาหกรรม พบเฮโรอีน น้ำหนักกว่า 64 กก. และ ไอซ์กว่า 128 กก.

ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากฐานข้อมูล Big Data พบว่า ผู้ต้องหามีความเกี่ยวข้องกับการจัดส่งพัสดุไปต่างประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศซึ่งจะต้องสืบสวนขยายผลการจับกุมบุคคลหรือกลุ่มเครือข่ายต่อไป

คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส. และ บก.ขส. ร่วมกันจับกุมนายณัฐวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี และ น.ส.อรุณี (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่พบความเคลื่อนไหวของเครือข่ายดังกล่าว เตรียมนำยาเสพติดจำนวนมากจาก จ.เชียงราย มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคตะวันออก จึงวางกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ตลอดเส้นทางที่คาดจะขับผ่าน ก่อนจะสกัดจับกุมได้ที่ริมถนนหมายเลข 3543 อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจค้นรถพบยาบ้า 7 แสนเม็ด ซุกซ่อนในรถยนต์ หมายเลขทะเบียน กท 30xx สุโขทัย

ตำรวจ ปส.(NSB) ปฏิบัติการสกัดขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ยึดไอซ์บิ๊กล็อต 1,600 กก. คาเรือประมงก่อนส่งออกนอกประเทศ และรวบนักบินเครือข่ายยาเสพติดภาคเหนือ ยึดยาบ้ารวม 4.6 ล้านเม็ด

เมื่อวันที่ 16 พ.ค.66 เวลาประมาณ 10.00 น. พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร.,พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส., พล.ต.ต.สมกิตพุ่มวารี ผบก.ขส.,พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผบก.ปส.1,พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และ กอ.รมน. ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้กวาดล้างจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่และรายย่อยให้หมดสิ้นโดยเร็ว ล่าสุดตำรวจ ปส.(NSB) สามารถทลาย 3 เครือข่าย ผู้ต้องหา 15 คน พร้อมของกลางไอซ์ 1,600 กก. ยาบ้า 4.6 ล้านเม็ด และยึดทรัพย์ เรือประมง 1 ลำ สปีดโบต 2 ลำ รถยนต์ 9 คัน บ้าน 1 หลัง ที่ดิน 8 แปลง รวมมูลค่าประมาณ 70 ล้านบาท

คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 13 พ.ค.66 ตำรวจบก.ปส.3 ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 9 คน ได้แก่ 1.นายกฤษณะ, 2.นายสะหมาด, 3.นายประโยชน์, 4.นายรุ่งศักดิ์, 5.นายอรชุน, 6.นายจุมพล,7.นายนพดล, 8.นายสุชาติ และ 9.นายอนุชา พร้อมของกลางไอซ์ 1,600 กก. โดยก่อนการจับกุม ตำรวจ ปส.3 ได้สืบสวนทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ จะมีการลำเลียง ยาเสพติดล็อตใหญ่ลงเรือ ส่งไปให้ขบวนการค้ายาเสพติดในต่างประเทศโดยจะนำไปลงเรือที่บริเวณท่าเทียบเรือไม่มีชื่อ ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราชจึงวางแผนจับกุม ต่อมาวันที่ 13 พ.ค.66 เวลาประมาณ 18.30 น.ตำรวจ ปส.3  ได้เข้าตรวจค้นเรือประมง Shipoxx พบไอซ์ 1,600 กก. ซึ่งกำลังเตรียมออกทะเล เพื่อนำยาเสพติดไปส่งยังต่างประเทศ    จึงแจ้งข้อกล่าวหาจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย ยึดยาเสพติดไว้เป็นของกลาง และยึดทรัพย์ไว้ตรวจสอบอีกหลายรายการ อาทิเช่น เรือประมง 1 ลำ เรือสปีดโบต 2 ลำ รถยนต์ 5 คัน บ้าน 1 หลัง ที่ดิน 8 แปลง นำส่ง พงส.บก.ปส.3                     เพื่อดำเนินคดีและขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการและผู้สั่งการต่อไป

คดีที่ 2 เมื่อ 13 พ.ค.66 ตำรวจ บก.สกส. จับกุมผู้ต้องหา 2 คน ได้แก่ 1.นายสือ และ2.นายพินิจ ได้ที่บริเวณริมถนนสายเอเชีย อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยตำรวจ บก.สกส. ได้สืบสวนทราบว่าในวันที่ 13 พ.ค.66 ขบวนการ ค้ายาเสพติดจะลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่จากภาคเหนือไปส่งให้ลูกค้าในภาคกลาง จึงวางแผนจับกุม ต่อมาวันที่ 13 พ.ค.66 เวลาประมาณ 22.15 น. ได้มีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีเทา หมายเลขทะเบียน ยฉ 76xx และรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รีโว่สีเทา หมายเลขทะเบียน ผค 89xx ขับขี่ผ่านไปถึง ถนนสายเอเชีย ต.หันสัง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา มีลักษณะคล้ายกับรถลำเลียงยาเสพติดที่ได้รับรายงาน จึงสกัดจับกุมและทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 4 ล้านเม็ด บรรจุอยู่ในกระสอบจำนวน 25 กระสอบ ซุกซ่อนในรถกระบะหมายเลขทะเบียน ยฉ 76xx มีนายสือ เป็นผู้ขับขี่ โดยมีนายพินิจ เป็นผู้ขับขี่รถกระบะหมายเลขทะเบียนผค 89xx ทำหน้าที่นำทาง จึงแจ้งข้อกล่าวหาจับกุม ยึดยาเสพติดและรถกระบะ 2 คัน เป็นของกลาง นำส่ง พงส.ดำเนินคดีและสืบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการต่อไป

คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 ตำรวจ บก.สกส. ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 4 คน ได้แก่ 1.นายชาลี,2.น.ส.สายใจ, 3.นายอนุชา และ 4.นายไกรทอง ได้บริเวณริมถนน สายบางปะหันปทุมธานี อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา จากการสืบสวนทราบว่า ในระหว่างวันที่ 11-14 พ.ค.66 ขบวนการค้ายาเสพติดจะลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก ไปส่งให้ลูกค้าใน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงวางกำลังตามเส้นทางเพื่อสกัดจับกุม ต่อมาวันที่ 14 พ.ค.66 เวลาประมาณ 13.45 น. ได้มีรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน 3ฒช 71xx และ รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าหมายเลขทะเบียน กจ 70xx ขับขี่ไปถึงบริเวณถนนสายบางปะหัน–ปทุมธานี ต.ขวัญเมือง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา มีท่าทางพิรุธจะขับขี่หลบหนี                

‘ตำรวจ ปส.’ สกัดจับยาบ้ากว่า 22 ล้านเม็ด-ไอซ์ 620 กก. ทลาย 7 เครือข่าย รวบ 17 ผู้ต้องหา จ่อขยายผลจับคนสั่งการ

(7 ก.ค. 66) พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส., พล.ต.ต.สมกิต พุ่มวารี ผบก.ขส., พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และ กอ.รมน. ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ตามนโยบาย ตร. ประกอบกับการเดินหน้าทำลายเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่และรายย่อย ตามนโยบายเร่งด่วนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. อย่างเข้มข้น

ล่าสุดตำรวจ ปส. (NSB) สามารถทลาย 7 เครือข่าย ผู้ต้องหา 17 คน พร้อมของกลาง ยาบ้า 22 ล้านเม็ด ไอซ์ 620 กก. รถยนต์ 12 คัน ยึดทรัพย์สินเกี่ยวเนื่องจากการค้ายาเสพติด 8 ล้านบาท

คดีที่ 1 ตำรวจ ปส. (NSB) โดยตำรวจ บก.ปส.2 และ บก.ขส. ได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่า ในวันที่ 12 มิ.ย. 66 กลุ่มเครือข่ายยาเสพติดในภาคอีสาน จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดเป็นจำนวนมาก จาก อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เพื่อไปส่งในพื้นที่ตอนใน โดยมีนายสุวิทย์ ใช้รถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่นโคโลราโด สีเทา หมายเลขทะเบียน บร 75xx มหาสารคาม เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้ ตำรวจ บก.ปส.2 และ บก.ขส. ได้เฝ้าติดตามในพื้นที่ จนพบรถกระบะเป้าหมายดังกล่าวที่บริเวณสี่แยกบ้านธาตุ จ.สกลนคร จึงได้ติดตามไป จนรถเป้าหมายรู้ตัวว่าถูกติดตามและได้หลบหนีเข้าไปในซอยบ้านพักแห่งหนึ่ง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ก่อนจะจับกุมตัวได้พร้อมของกลางยาบ้าที่ซุกซ่อนอยู่ในท้ายกระบะ และในห้องโดยสารรถ 5 กระสอบ รวม 2 ล้านเม็ด จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน ปส.2 เพื่อดำเนินคดีและขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการต่อไป

คดีที่ 2 จากการสืบสวนขยายผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ซึ่งเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ทางภาคเหนือ ทราบว่านายพีรวัฒน์ กับพวก ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องเชื่อมโยงในการลำเลียงยาเสพติด โดยจะลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ ไปส่งให้กับผู้รับช่วงต่อในพื้นที่ภาคกลาง ตำรวจ บก.สกส. และ บก.ขส. จึงวางกำลังติดตาม

จนกระทั่งวันที่ 13 มิ.ย. 66 เวลาประมาณ 12.50 น. พบรถยนต์ต้องสงสัย ทะเบียน บว 54XX สระบุรี ขับขี่ไปถึงเส้นทางหลวงหมายเลข 21 (สระบุรี-หล่มสัก) จึงได้สกัดจับกุม ได้ที่บริเวณลานวัดโคกกระต่ายทอง ต.จำปา อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีนายพีรวัฒน์ เป็นผู้ขับขี่ และมีนายพงษ์ นั่งข้างคู่คนขับ จากการตรวจค้นพบไอซ์ 500 กก. ซุกซ่อนอยู่บริเวณที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังคนขับ และซุกซ่อนอยู่ภายในท้ายกระบะ ได้ที่บริเวณลานวัดโคกกระต่ายทอง ต.จำปา อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา และสามารถสกัดจับกุมนายรักชาติ ผู้ขับขี่รถยนต์ หมายเลขทะเบียน บห 19XX สระบุรี และนายวิชัย (นั่งคู่คนขับ) ซึ่งทำหน้าที่คุ้มกัน/สำรวจเส้นทาง ในการลำเลียงยาเสพติดครั้งนี้ ได้ที่ บริเวณลานจอดรถตลาดนัด ในพื้นที่ ต.กุดนกเปล้า อ.เมือง  จ.สระบุรี จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายและออกหมายจับติดตามผู้ต้องหาที่หลบหนี และบุคคลในเครือข่ายและยึดทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ต่อไป

คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 18 – 19 มิ.ย. 66 ตำรวจ ปส.2 ได้สืบสวนขยายผลเครือข่ายนักค้ายาเสพติด รายสำคัญ จนทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จ.บึงกาฬ โดยใช้รถยนต์ขับผ่านเส้นทาง จ.บึงกาฬ, จ.สกลนคร, จ.อุดรธานี, จ.ขอนแก่น, จ.ชัยภูมิ จึงติดตามความเคลื่อนไหว ต่อมาวันที่ 19 มิ.ย.66 พบรถยนต์เป้าหมายวิ่งผ่านถนนหมายเลข 201 ถนนชัยภูมิ-สีคิ้ว บริเวณหน้าบริษัทแห่งหนึ่ง ลักษณะเป็นรถที่มีการบรรทุกสิ่งของอย่างหนัก ก่อนจะจอดรถนานผิดปกติ ตำรวจ ปส.2 จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบนายธนพัฒน์หรือเฟส เป็นผู้ขับขี่ พบไอซ์ บรรจุในถุงชาสีเขียวอ่อน 3 กระสอบ จำนวน 120 ก้อน น้ำหนัก 120 กก. ซุกซ่อนในห้องโดยสารด้านหลังคนขับ สอบสวนนายธนพัฒน์ รับว่า ลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 5 ครั้ง โดยได้รับค่าจ้างล่วงหน้าบางส่วน เงินที่เหลือจะได้รับเมื่องานสำเร็จ จากนั้นจึงจับกุมและนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน ปส.2 เพื่อดำเนินคดีและขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการต่อไป

คดีที่ 4 เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 66 ตำรวจ บก.สกส. และ บก.ขส. ได้ขยายผลจากการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในภาคกลาง จนสามารถจับกุมนายปกรณ์ และนายฉัตรชัย โดยจากการสืบสวนพบว่านายฉัตรชัย จะนำยาเสพติดจากพื้นที่ จ.สุโขทัย ไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้เฝ้าติดตามจับกุม จนกระทั่งเมื่อวันที่  28 มิ.ย.66 เวลาประมาณ 10.00 น. พบรถยนต์ หมายเลขทะเบียน บม 35XX สุโขทัย กำลังลำเลียงยาเสพติด ที่บริเวณถนนในพื้นที่ จ.อยุธยา จึงได้ทำตรวจค้นจนสามารถ จับกุมนายฉัตรชัย ได้บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ สาขาโก่งธนู  จ.ลพบุรี พร้อมยาบ้าที่ถูกซุกซ่อนไว้บริเวณที่นั่งด้านหน้าข้างคนขับ และท้ายกระบะโดยมีผ้าใบสีดำคลุมปิดอำพรางไว้ รวม 3 ล้านเม็ด และสามารถสกัดจับกุมนายปกรณ์ ขับรถยนต์ หมายเลขทะเบียน บน 66XX ตาก ซึ่งทำหน้าที่คุ้มกัน/สำรวจด่าน ได้ที่บริเวณริมถนนในพื้นที่ หมู่ 1 ต.สำพะเนียง อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และขยายผลออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายและยึดทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ต่อไป

คดีที่ 5 เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 66 ตำรวจ ปส. 3 จับกุม นายเจษฎากร และนายอภิเษก พร้อมยาบ้า 6 ล้านเม็ด โดยก่อนการจับกุม ตำรวจ ปส.3 สืบทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดจะลำเลียงยาบ้าจาก อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เข้ามาซุกซ่อนไว้ในพื้นที่ ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย ก่อนจะส่งมอบให้กับเครือข่าย โดยใช้รถกระบะในการลำเลียง จึงนำกำลังเฝ้าติดตามรถเป้าหมาย พบรถกระบะ บว-66XX สระบุรี จอดอยู่บริเวณท้ายถนนบ้านน้ำลัดซอย 16 หมู่ 3 ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย จนกระทั่งเวลา 23.00 น. พบนายอภิเษก ขับขี่รถจักรยานยนต์และมีนายเจษฎากร ซ้อนท้ายก่อนลงรถจักรยานยนต์ แล้วขับรถกระบะเป้าหมายออกไป ตำรวจ ปส.3 จึงติดตามไปจับกุมได้ที่ บริเวณแยกห้วยปลากั้ง ถ.เลี่ยงเมืองเชียงรายตะวันตก ตรวจค้นในรถพบยาบ้า ซุกซ่อนอยู่บริเวณในห้องโดยสารและท้ายรถกระบะ รวม 6 ล้านเม็ด และได้ติดตามไปจับกุมนายอภิเษก ได้ที่บริเวณแยกขัวแคร่ ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน ปส.3 เพื่อดำเนินคดีและขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการต่อไป

คดีที่ 6 เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 66 ตำรวจ ปส.1 ร่วมกับ บก.ขส. และ ปส.2 จับกุม 6 ผู้ต้องหา คือ นายเจริญชัย หรือโจ, น.ส.เกศินี หรือแกล้ม, นายสุพรรณ หรือเบ็นซ์, น.ส.รัฐชิตา หรือเบ็นซ์, นายโยธณัฐ หรือดรีม และ น.ส.ธิติมา หรือทิพย์ โดยก่อนการจับกุม ตำรวจ ปส.1 สืบสวนทราบว่าเครือข่ายของนายสุพรรณ หรือเบนซ์ จะใช้รถยนต์ 3 คัน ลำเลียงยาเสพติดมาจากริมฝั่งแม่น้ำโขงด้าน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ขับรถมุ่งหน้า จ.นครราชสีมา จึงได้สะกดรอยติดตาม และสามารถสกัดจับได้บริเวณสถานีน้ำมัน ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องบริเวณสถานีน้ำมัน (ขาเข้า) ต่อเนื่องบริเวณถนนมิตรภาพ ตรวจค้นภายในห้องโดยสารรถพบยาบ้า 9 กระสอบ และอีก 3 กระสอบ อยู่ด้านท้ายกระโปรงรถยนต์ รวมยาบ้า 5 ล้านเม็ด เบื้องต้นได้ขยายผลตรวจยึดทรัพย์สิน มูลค่ารวมกว่า 8 ล้านบาท จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน ปส.1 เพื่อดำเนินคดีและขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการต่อไป

คดีที่ 7 เมื่อวันที่ 5 ก.ค.66 ตำรวจ บก.สกส. และ บก.ขส. ร่วมกันสืบสวนขยายผลจากการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในภารอีสาน ทราบว่า เครือข่ายนี้จะขนยาเสพติดล็อตใหญ่ไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ตอนใน จึงร่วมกันสืบสวนจับกุม จนกระทั่งวันที่ 5 ก.ค.66 เวลาประมาณ 08.00 น. พบรถกระบะต้องสงสัย ทะเบียน ผว xxxx ขอนแก่น ขับขี่ผ่าน จ.มุกดาหาร มุ่งหน้าไป จ.มหาสารคาม และ จ.นครราชสีมา น่าเชื่อว่ามีการลำเลียงยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้าตามข้อมูลที่มี จึงได้สกัดจับกุม ได้ที่บริเวณริมถนนมิตรภาพ ต.โตนด อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา โดยมี นายอิสระ เป็นผู้ขับขี่ จากการตรวจค้นพบยาบ้า ซุกซ่อนอยู่บริเวณท้ายกระบะติดตั้งตู้ทึบ จำนวน 15 กระสอบ จำนวน 6,000,000 เม็ด จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมยาเสพติดของกลาง รถกระบะ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง นำส่งพนักงานสอบสวน ปส.2 ดำเนินคดีตามกฎหมาย และสืบสวนขยายผล เพื่อจับกุมบุคคลในเครือข่ายมาดำเนินคดีต่อไป

สำหรับเดือน มิ.ย. 66 ตำรวจ ปส. สามารถจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ 18 คดี  ผู้ต้องหา 30 คน ของกลาง ยาบ้า 18 ล้านเม็ด, ไอซ์ 1,983 กก., เฮโรอีน 46 กก. และ ยาอี 5,865 เม็ด โดยยาเสพติดของกลางที่ตรวจยึดมาได้นั้นพนักงานสอบสวนจะส่งไปตรวจพิสูจน์ยังหน่วยที่กำหนดไว้ อาทิ สำนักงาน ป.ป.ส.,กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หลังจากนั้นยาเสพติดของกลางจะถูกเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อการทำลายต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top