🔎10 บริษัทถือสิทธิบัตร Gen AI มากที่สุดในโลก
ในประเทศไทย CP Group ธุรกิจสัญชาติไทยถือหุ้น Ping An Insurance ผ่านตลาดฮ่องกงเป็นจำนวนถึง 27.84% ของหุ้นที่จดทะเบียน

ในประเทศไทย CP Group ธุรกิจสัญชาติไทยถือหุ้น Ping An Insurance ผ่านตลาดฮ่องกงเป็นจำนวนถึง 27.84% ของหุ้นที่จดทะเบียน
(19 ส.ค. 67) นิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานว่า อุตสาหกรรมแอนิเมชันของญี่ปุ่นกำลังเปิดรับศักยภาพของ Generative AI หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Gen AI เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ เพื่อหยุดยั้งปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก แม้จะมีข้อกังวลเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้สร้างสรรค์อยู่มากก็ตาม
โดยเมื่อปีที่ผ่านมา เคแอนด์เคดีไซน์ (K&K Design) เผยว่าใช้ Gen AI ในขั้นตอนการทำงานลงสีและวาดภาพพื้นหลัง ซึ่งสามารถลดเวลาวาดภาพพื้นหลังจากหนึ่งสัปดาห์ลงมาเหลือแค่ห้านาทีได้
ฮิโรชิ คาวาคามิ (Hiroshi Kawakami) ผู้อำนวยการบริษัทเคแอนด์เคดีไซน์ กล่าวว่า จำเป็นต้องทำงานโดยใช้ Gen AI เพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมการทำงานขณะที่ต้องรักษาคุณภาพของการผลิตไว้ด้วย
การเติบโตของสตรีมมิ่งอนิเมะผ่านอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน ได้เรียกร้องให้การผลิตมีคุณภาพและความเร็วในมาตรฐานที่สูงมาก และการขาดแคลนแรงงานเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ผลักดันให้ต้องใช้ Gen AI
ตามข้อมูลจากสมาคมแอนิเมชันญี่ปุ่น (Association of Japanese Animations - AJA) รายงานว่า อุตสาหกรรมอนิเมะญี่ปุ่น มีมูลค่าตลาดทั่วโลกอยู่ที่ 2.9 ล้านล้านเยนในปี 2022 (ราว 6.78 แสนล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อนหน้า
ถึงแม้อย่างนั้น การขยายตัวของตลาดถูกรั้งไว้ ส่วนหนึ่งเนื่องด้วยค่าจ้างที่ต่ำและชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน
ในแบบสำรวจแรงงานอุตสาหกรรมแอนิเมชันโดยสมาคมอนิเมะและภาพยนต์ญี่ปุ่น (Nippon Anime & Film Cultural Association) พบว่า 38% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีรายได้ต่อเดือนจากงานที่เกี่ยวกับอนิเมะต่ำกว่า 200,000 เยน (ราว 47,000 บาท) ชั่วโมงทำงานเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 219 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่าเวลาทำงานปกติถึง 1.3 เท่า
การมอบหมายงานบางส่วนให้กับ AI อาจช่วยให้มนุษย์สามารถจดจ่ออยู่กับการวางแผนและการออกแบบตัวละครได้ ซึ่งผลิตภาพที่สูงขึ้นอาจนำไปสู่การปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น ขณะที่การเพิ่มความหลากหลายของงานอาจช่วยเสริมการส่งออกไปยังต่างประเทศ
ทั้งนี้ AI ยังช่วยในเรื่องการแปลภาษา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการทำการค้ากับต่างประเทศ ออเร้นจ์ (Orange) สตาร์ตอัป AI ได้พัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในการแปลมังงะมากถึง 10 เท่า และได้รับเงินร่วมลงทุนจากกองทุนซึ่งร่วมกับบรรษัทการลงทุนแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan Investment Corporation)
ผู้บริหารกองทุนกล่าวเกี่ยวกับการลงทุนในออเร้นจ์ว่า เป็นโครงการที่จะเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น
คาดว่าในญี่ปุ่นมีงานมังงะประมาณ 700,000 ชิ้นงาน แต่กลับมีเพียง 14,000 ชิ้นงานเท่านั้นที่ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ ออเร้นจ์ยังพิจารณาถึงการขยายบริการไปยังประเทศที่พูดภาษาสเปนและอินเดีย ที่ซึ่งมีผู้อ่านจำนวนมาก
บริษัทผู้ผลิตเว็บตูนเอ็นดอลฟิน (En-dolphin) กำลังพัฒนา Gen AI ที่สามารถสร้างภาพประกอบโดยเรียนรู้จากผลงานของศิลปินมังงะในอดีต ด้วยการมอบสคริปต์หรือภาพร่างคร่าว ๆ ระบบสามารถสร้างผลงานที่มีรูปแบบและองค์ประกอบเหมือนกับผลงานของศิลปินต้นฉบับได้
รัฐบาลยังได้ส่งเสริมให้มีการใช้ AI ในอุตสาหกรรมคอนเทนต์อีกด้วย โดยในเดือนกรกฎาคม กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (Ministry of Economy, Trade and Industry) เผยแพร่แนวทางการปรับใช้ AI ให้กับบริษัทเกมและแอนิเมชัน
แนวทางดังกล่าวระบุว่า Gen AI สามารถส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการผลิตเนื้อหาได้หลายแง่มุม ซึ่งในอนาคต รัฐบาลจะพิจารณามอบเงินอุดหนุนและการช่วยเหลืออื่น ๆ แก่บริษัทที่ใช้ AI โดยหวังว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยแก้ปัญหาแรงงานในภาคอุตสาหกรรมได้
แต่การพัฒนา AI อย่างรวดเร็วก็มีความเสี่ยงเช่นกัน มีความกังวลว่าผลงานของญี่ปุ่นจะถูกนำไปรวมเข้ากับโมเดล AI ในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจนำไปสู่การเลียนแบบ
อย่างไรก็ตาม ก็มีกลุ่มนักวาดภาพประกอบชาวญี่ปุ่นมากกว่า 10,000 รายชื่อ ได้ออกมาเรียกร้องให้มีข้อกฎหมายปกป้องผู้สร้างสรรค์ผลงานในปีที่ผ่านมา
(12 ก.ย. 67) ‘อะมิตี้ โซลูชั่นส์’ (Amity Solutions: ASOL) หนึ่งในผู้พัฒนาซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์ (GenAI) ของไทย ประกาศเข้าซื้อหุ้นและกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน ‘โทลล์ริง’ (Tollring) ผู้ให้บริการชั้นนำด้านการวิเคราะห์การโทรและระบบธุรกิจอัจฉริยะ มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหราชอาณาจักร
โทลล์ริง ได้รับการยอมรับว่า เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านโซลูชันการวิเคราะห์การโทรและระบบธุรกิจอัจฉริยะ โดยให้บริการแก่ธุรกิจกว่า 20,000 แห่งในสหราชอาณาจักร, ยุโรป, สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ซึ่งเฉิดฉายและมีชื่อเสียงจากการใช้เทคโนโลยีเอไอ และเจนเอไอ อย่างสร้างสรรค์ในชุดผลิตภัณฑ์ของบริษัท
‘นายกรวัฒน์ เจียรวนนท์’ ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง ASOL กล่าวว่า การเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการเดินทางของ ASOL สู่การเป็น GenAI แชมเปี้ยนของไทย
“ความเชี่ยวชาญของ โทลล์ริง ในด้านระบบวิเคราะห์เสียงและการโทรด้วยเทคโนโลยี เอไอ สอดคล้องกับกลยุทธ์ของเราได้อย่างลงตัว และยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถของเราในตลาดนี้ได้เป็นอย่างมาก”
ดีลมูลค่าระดับหลักพันล้านบาทนี้ คาดว่าจะก่อให้เกิดคุณประโยชน์สำคัญกับ ASOL เช่น เสริมแกร่งขีดความสามารถด้าน GenAI ความเป็นผู้นำตลาดของ โทลล์ริง ด้านระบบวิเคราะห์เสียงและสายโทรด้วยเทคโนโลยีเอไอ จะช่วยเป็นทั้งตัวเสริมและขยายโครงการด้าน GenAI ต่าง ๆ ที่มีอยู่เดิมของ ASOL
ทั้งเป็นการเพิ่มการเข้าถึงตลาดโลก การเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ช่วยเสริมแกร่งให้กับกลยุทธ์ของ ASOL ไปสู่ระดับนานาชาติ โดยต่อยอดจากรายได้และกำไรที่มาจากตลาดโลกที่มีอยู่เดิมได้อย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่ การผนึกกำลังด้านผลิตภัณฑ์ ชุดผลิตภัณฑ์ของโทลล์ริงสามารถผสานรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของ ASOL ได้อย่างราบรื่น สร้างโอกาสในการเกิดการผสานพลังร่วมกัน (cross-synergies) ในระดับโลก ซึ่งชุดผลิตภัณฑ์นวัตกรรมของโทลล์ริงช่วยติดสปีดความสามารถให้ธุรกิจต่างๆ ด้วยการมองเห็นและควบคุมการสื่อสารทางเสียงได้อย่างครอบคลุม อาศัยระบบวิเคราะห์การโทรขั้นสูง ข้อมูลเชิงลึกจากการสนทนาที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอ และการผสานรวมกับแพลตฟอร์มการสื่อสารชั้นนำ องค์กรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการโทร รับรองการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และตัดสินใจโดยอิงจากข้อมูลเพื่อยกระดับประสบการณ์และปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า
ผลิตภัณฑ์ของ โทลล์ริง มีฟีเจอร์หลักประกอบด้วยการบันทึกและวิเคราะห์ที่ขับเคลื่อนด้วย เอไอ เพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น การวิเคราะห์การโทรขั้นสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า และการวิเคราะห์การทำงานร่วมกันเพื่อการจัดการทีมได้อย่างมีประสิทธิผล
ความสามารถเหล่านี้ครอบคลุมการใช้งานต่าง ๆ เช่น การบันทึกการโทร การจัดการการปฏิบัติตามกฎระเบียบ การวิเคราะห์ปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า และการวิเคราะห์การทำงานร่วมกัน ลูกค้าของ Tollring นั้นรวมถึงองค์กรชั้นนำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น BT Group, KPN, Dstny, CallTower, Mitel และ NFON
‘นายโทนี่ มาร์ติโน่’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ ของ โทลล์ริง กล่าวว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา การเดินทางของโทลล์ริง นับวันแล้วมีแต่ก้าวที่ยิ่งใหญ่ และความสำเร็จของบริษัท สร้างขึ้นบนพื้นฐานของวัฒนธรรมองค์กรที่ยอดเยี่ยม ควบคู่ไปกับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งที่บริษัทมุ่งเน้นอย่างจริงจังในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า
“เรารู้สึกตื่นเต้นมากกับการเดินทางบทใหม่ของเราในฐานะส่วนหนึ่งของ ASOL ซึ่งจะทำให้เราสามารถส่งมอบคุณค่าและขยายขนาดธุรกิจในระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนให้กับลูกค้าและพาร์ตเนอร์ของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และโอกาสอันมหาศาลในอุตสาหกรรมของเรา”
อย่างไรก็ตาม ดีลครั้งนี้ส่งผลให้ ASOL มีพนักงานใหม่เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 120 คน มีสำนักงานอยู่ในลอนดอนและนิวเดลี ซึ่งช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับกลุ่มบุคลากรที่มีความสามารถในเวทีโลก อีกทั้งยังช่วยขยายฐานการดำเนินงานของบริษัท ขณะที่ การร่วมมือครั้งนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ ASOL ในด้านนวัตกรรม เร่งเครื่องสู่ความเป็นผู้นำในด้าน GenAI ไม่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่รวมถึงในเวทีโลก