Sunday, 19 May 2024
Fit_for_the_Future

กองทัพเรือ โดย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมเปิดจุดบริการประชาชน ในห้วงเทศกาลปีใหม่ 2567

วันที่ 28 ธันวาคม 2566 กองทัพเรือ โดย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ได้มอบหมายให้ นาวาเอก ปริญญา เอี่ยมสะอาด ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 1 เป็นผู้แทน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เข้าร่วมพิธีเปิดจุดบริการประชาชน ในห้วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566 - 4 มกราคม 2567 ณ จุดบริการประชาชนบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวชายหาดบางเสร่ เทศบาลตำบลบางเสร่ และจุดบริการประชาชนบริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว (ถนนสาย 332) เทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของทัพเรือภาคที่ 1 

ในการนี้ ทัพเรือภาคที่ 1 ได้จัดกำลังพลจากหน่วยขึ้นตรงทัพเรือภาคที่ 1 เข้าร่วมปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ประจำจุดบริการประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนในการเดินทาง และเป็นการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางท้องถนน ในห้วงเทศกาลปีใหม่ 2567 อีกทั้งยังเป็นการให้ข้อมูลเส้นทางการเดินทาง และข้อมูลต่าง ๆ ที่นักท่องเที่ยวและประชาชนสอบถาม

กองทัพเรือ ส่งมอบอาหารทะเลที่มีสารไอโอดีนพระราชทาน รร.แม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน 'จากทะเลสู่ดอย ปีที่ 28'

เมื่อ 26 ม.ค.67 พลเรือโท สุระศักดิ์ สิงขรวัฒน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภารที่1 (ผู้แทนกองทัพเรือ) จัดพิธีส่งมอบปลากะตักแห้ง ปลาทูเค็ม และอาหารทะเลที่มีสารไอโอดีน ให้แก่ นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง ในฐานะผู้แทนโครงการส่วนพระองค์ในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน รวมถึงครูโรงเรียนแม่สะเรียง"บริพัตรศึกษา เป็นผู้รับมอบ

กองทัพเรือ โดย ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกับกลุ่มสมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติในทะเลเขตทัพเรือภาคที่ 1 สมาคมการประมงใน จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดชลบุรี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร และองค์การสะพานปลา ได้ร่วมกันน้อมเกล้าฯ ถวายปลากะตักแห้ง จำนวน 7,785 กิโลกรัม ปลาทูเค็ม และปลาเค็มแห้งอื่น ๆ จำนวน 8,010 กิโลกรัม ปลากระป๋อง จำนวน 58,500 กระป๋อง กะปิ จำนวน 2,502 กิโลกรัม เกลือ จำนวน 13,000 กิโลกรัม และน้ำปลา จำนวน 12,156 ขวด เพื่อสนับสนุนโครงการตามพระราชดำริต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีน

สำนักงานโครงการส่วนพระองค์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้กำหนดแผนการแจกจ่ายส่งมอบ ให้แก่ หน่วยงานในพื้นที่เพื่อนำแจกจ่ายให้แก่ โรงเรียนในโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร และโรงเรียนในสังกัดโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน รวมทั้งสิ้น 268 โรงเรียน นักเรียนจำนวน 21,273 คน โดยในห้วงที่ผ่านมาได้จัดสรรแจกจ่ายอาหารทะเล ถึงจุดส่งมอบพื้นที่ทุรกันดารในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

สำหรับโครงการต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีน ได้เริ่มเมื่อปลายปี พุทธศักราช 2538 ในการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ภาคเหนือ ทรงพบเห็นพสกนิกรของพระองค์ท่าน ป่วยเป็นโรคขาดสารไอโอดีน (หรือโรคคอหอยพอก) จำนวนมาก พระองค์ทรงตระหนักถึงพิษภัยของโรคนี้ ที่อาจสร้างปัญหาให้กับสังคมในภายหน้าได้จึงทรงจัดตั้ง “โครงการต่อต้านโรคขาดสารไอโอดีน” ขึ้นโดยพระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อดำเนินโครงการในเบื้องต้น และจากนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ก็ได้ทรงดำเนินโครงการนี้ต่อมาจนถึงปัจจุบันโดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานความช่วยเหลือให้กับผู้ที่เป็นโรคขาดสารไอโอดีนอย่างต่อเนื่องตลอดมา ซึ่งในปีนี้นับเป็นปีที่ 28

ทั้งนี้มีบริษัทที่เข้าสนุับสนุน อุปกรณ์การเรียนการสอน เครื่องอุปโภคบริโภค และเครื่องนุ่งห่ม น้องๆในทุรกันดารในภาคเหนือ ดังนี้ 
1. บริษัท CP มอบผ้าห่ม จำนวน 500 ผืน
2. บริษัท ไทยแท้งค์เทอร์มินัล จำกัด สนับสนุนทุน อุปกรณ์ เพื่อการศึกษา ให้น้องๆ โรงเรียนแม่สะเรียง
3. บริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด สนับสนุนมอบอุปกรณ์กีฬาต่างๆ และชุดไมค์-ลำโพงเคลื่อนที่ จำนวน 3 ชุด
4. บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) สนับสนุน สบู่เหลวล้างมือขนาด 1 ลิตร จำนวน 200 แกลลอน เสปรย์แอลกอฮอล์ขนาด 60 ML จำนวน 20 ลัง

ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 จัดเรือหลวงศรีราชา และกำลังพลนาวิกโยธินให้การสนับสนุนจังหวัดระยองในการอพยพผู้ประสบภัยจากเหตุเพลิงไหม้ในพื้นที่ท่าเรือมาบตาพุด

เมื่อวานนี้ 9 พฤษภาคม 2567 พลเรือตรีวีรุดม  ม่วงจีน  โฆษกกองทัพเรือเปิดเผยว่าตามที่ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ ถังเก็บวัตถุดิบ บรรจุแก๊สโซลีน บริษัท มาบตาพุดแทงค์เทอร์มินัล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ภายในท่าเรือมาบตาพุด จังหวัดระยอง โดยขณะนี้ทางจังหวัดระยองได้ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับ 2 และ 3 ตามลำดับ  และได้อพยพประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งนี้ในส่วนของกองทัพเรือ ได้จัดกำลังพลพร้อมยุทธปกรณ์เข้าให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน

โดยในส่วนของ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ได้ จัดกำลังพลจาก กองพันทหารราบที่ 7 กรมทหารราบที่สาม กองพลนาวิกโยธิน  เดินทางไปยังศูนย์ราชการจังหวัดระยอง โดยมีภารกิจคือ อำนวยความสะดวกและดูแลประชาชน ที่อพยพมาพักพิงที่ศาลากลางจังหวัดระยอง จากพื้นที่เกิดเหตุ รวมถึงสั่งการให้ เรือหลวงศรีราชา ออกเรือไปท่าเรือมาบตาพุด ซึ่งเป็นบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อเตรียมรับผู้ที่ติดค้าง ที่ไม่สามารถออกมาได้  นอกจากนั้นยังได้มีการเตรียม  UAV Schiebel ขึ้นพร้อมปฏิบัติการสนับสนุน ในการลาดตระเวนค้นหาผู้ประสบภัยในที่เกิดเหตุ 

โดยโฆษกกองทัพเรือกล่าวว่ากองทัพเรือจะเร่งดำเนินการให้การสนับสนุนจังหวัดระยองในการค้นหาและอพยพผู้ประสบภัยในพื้นที่เกิดเหตุจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top