Sunday, 18 May 2025
Disney

'ฝน วีระสุนทร' คนไทยคนแรกในตำแหน่งผู้กำกับร่วม ภาพยนตร์แอนิเมชั่น 'Wish' ของดิสนีย์

เพจเฟซบุ๊ก U.S. Embassy Bangkok โพสต์ข้อความน่ายินดี ระบุว่า...

👏👏👏 ขอแสดงความยินดีกับ คุณฝน วีระสุนทร ศิลปินชาวไทย 🇹🇭 คนแรกที่จะเป็นผู้กำกับร่วมในภาพยนตร์แอนิเมชันของดิสนีย์ คุณฝนเคยทำงานเบื้องหลังมาแล้วใน Frozen, Zootopia และ Raya and the Last Dragon เราตื่นเต้นที่จะได้รับชมฝีมือจากความสามารถอันโดดเด่นของเธอในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง “Wish”! 

เหล่าตัวละครดิสนีย์แลนด์โตเกียว พยายามปลอบขวัญเด็ก-นทท. ให้คลายความกังวลขณะเกิดแผ่นดินไหว ทำหน้าที่อย่างมืออาชีพจริงๆ

เมื่อไม่นานนี้ ได้มีผู้ใช้งานติ๊กต็อกท่านหนึ่ง ชื่อ ‘disneybabeopal’ หรือ ‘โอปอล ดิสนีย์เบ้บ’ ยูทูบเบอร์และติ๊กต็อกเกอร์สาวกดิสนีย์ ได้ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคลิปวิดีโอจากผู้ใช้โซเชียลมีเดียชื่อว่า ‘Jason Hill’ ผู้เป็นแฟนคลับดิสนีย์ ที่ได้ไปเที่ยวที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แต่ได้เกิดแผ่นดินไหวขึ้น โดยคุณโอปอลได้ระบุว่า…

“ทุกคนเห็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ดิสนีย์แลนด์ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่นกันหรือยังคะ หลายคนในเหตุการณ์บอกว่าตอนนั้นกลัวมาก แต่ก็ผ่านมาได้อย่างดีและปลอดภัย เพราะว่าเหล่าแครักเตอร์ดิสนีย์และแคชเมมเบอร์ทุกคน คอยช่วยปลอบให้ทุกคนผ่อนคลายในสถานการณ์ที่ตึงเครียด ซึ่งที่หลายคนประทับใจที่สุดก็คือ ‘อียอร์’ (Eeyore) หรือเจ้าตุ๊กตาลาสีฟ้าจาก ‘วินนี่ เดอะ พูห์’ ที่พยายามปลอบขวัญผู้คนในระหว่างเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว คอยทําท่าเหมือนกับบอกให้ทุกคนใจเย็นๆ ไม่ต้องตกใจ เหมือนกับเป็นการสื่อว่า “อียอร์อยู่เป็นเพื่อนตรงนี้แล้วนะ”

โดยหลายคนบอกว่า ตอนนั้นอียอร์ช่วยให้รู้สึกกลัวน้อยลงได้จริงๆ นอกจากนั้นก็ยังมีอีกหลายแครักเตอร์ที่คอยให้กําลังใจนักท่องเที่ยวตอนที่เกิดแผ่นดินไหวเหมือนกัน เช่น ‘โดนัลด์ ดั๊ก’ ที่พยายามทําท่าทางน่ารักๆ เพื่อให้คนไม่กังวล

นอกจากนี้ยังมี ‘กูฟฟี่’ และ ‘แม็กซ์ กูฟ’ ที่คอยช่วยปลอบเด็กน้อยในรถเข็น รวมไปถึงปีเตอร์แพนกับเวนดี้ที่นั่งจับมือกันและจับมือนักท่องเที่ยว พร้อมส่งสายตาหาทุกคนที่อยู่รอบๆ เหมือนกับเป็นการปลอบว่า “ไม่เป็นไรนะ เราทุกคนจะต้องปลอดภัย”

พนักงานดิสนีย์ทุกคนเข้มแข็งและใจถึงมากจริงๆ เอาจริงๆ ลึกๆ ในใจพวกเขาก็คงกลัวเหมือนกันแหละ แต่ก็ยังพยายามทําให้ทุกคนที่มาเที่ยวที่ดิสนีย์มีแต่ความทรงจําดีๆ กลับไป เห็นแบบนี้แล้วยอมใจทุกคนจริงๆ ค่ะ”

‘Disney-Netflix’ ลั่น หยุดบริจาค หาก ‘เดโมแครต’ ไม่ยอมเปลี่ยนคนอื่นมาชน ‘ทรัมพ์’ มั่นใจ!! หายนะแน่ เพราะสภาพร่างกายไปต่อไม่ไหวแล้ว ชี้!! ดัน ‘แฮริส’ ขึ้นมายังดีกว่า

(7 ก.ค.67) หายนะจากงานดีเบทรอบแรกระหว่าง ไบเดน และ ทรัมพ์ ยังไม่จบง่ายๆ และดูเหมือนจะกลายเป็นสนิมเซาะกร่อนภายในพรรคเดโมแครตไปเรื่อยๆ เมื่อมีคนวงในพรรคหลายคน ออกมาแสดงความเห็นอย่างชัดเจนว่า ต้องการให้โจ ไบเดน ถอนตัวจากการแข่งขันเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 ที่จะถึงนี้ 

ทว่า โจ ไบเดน ยังยืนยันที่จะลงชิงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 2 และ ล่าสุดได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ ABC News ว่า มีเพียง ฤทธานุภาพของพระเจ้าเท่านั้น ที่สามารถดลบันดาลให้เขายอมถอนตัวออกจากสนามชิงชัยในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ 

และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ถ้าผลเกิดเลือกตั้งแพ้ทรัมพ์ขึ้นมา ไบเดนจะว่ายังไง? ไบเดนก็ตอบแบบลางไม่ค่อยดีว่า ‘ผมรู้สึกว่า ผมก็ทุ่มสุดตัวและทำหน้าที่ได้อย่างดีที่สุดเท่าที่ทำได้แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมทำอยู่’

ฟังดูก็น่าเป็นห่วงอยู่ ว่า โจ ไบเดน วางเดิมพันกับการเลือกตั้งครั้งนี้ ด้วยบุญเก่าของตัวเองล้วนๆ ถ้าเสียงสวรรค์ชาวอเมริกันจะเลือกไบเดน ก็อาจเพราะเห็นใจอยากให้ปู่อยู่ต่อ หรือเป็นแฟนคลับเดนตายของเดโมแครต ที่ไม่เกี่ยงว่าพรรคจะส่งใครมา ยังไงก็เลือก โดยไม่ต้องไปคาดหวังว่าปู่โจ ไบเดน ยังจะขึ้นบันได Air Force One ไหวหรือเปล่า

แต่เมื่อโจ ไบเดน ได้อ้างถึง ฤทธานุภาพของพระเจ้า ผู้ทรงอำนาจสูงสุดในการดลใจมนุษย์หล่ะก็ พระเจ้าอาจไม่แสดงอิทธิฤทธิ์ให้มนุษย์เห็นตรงๆ แต่ทำงานผ่านคนกลาง ผู้มีศักยภาพมากพอที่จะเสกอะไรก็ได้ ประหนึ่งลูกพระเจ้าได้เหมือนกัน 

เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า กิจกรรมพรรคการเมืองขนาดใหญ่ระดับเดโมแครต จะขับเคลื่อนไม่ได้เลย หากไม่มีนายทุนผู้สนับสนุนพรรค ซึ่งนักลงทุนรายใหญ่จะตัดสินใจบริจาคเงินสนับสนุนใครก็ต่อเมื่อเขามั่นใจว่าจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า และมองเห็นอนาคต

ซึ่งตอนนี้ ผู้สนับสนุนรายใหญ่ของเดโมแครตหลายคนเริ่มไม่ค่อยมั่นใจในสภาพร่างกายของโจ ไบเดน แล้ว ว่าอาจเป็นตัวเลือกที่เสี่ยงเกินไป เมื่อต้องลงแข่งขันเลือกตั้งกับโดนัลด์ ทรัมพ์ ในครั้งนี้ 

หนึ่งในนายทุนรายใหญ่ที่สุดของเดโมแครตก็คือ อบิเกล ดิสนีย์ ทายาทอาณาจักรดิสนีย์ผู้มั่งคั่ง ออกมาประกาศชัดเจนว่า เธอจะยุติการสนับสนุนทุนให้แก่พรรคเดโมแครต ตราบใดที่พรรคไม่ยอมหาใครมาแทน โจ ไบเดน ในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ 

อบิเกลได้ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า ‘นี่คือโลกแห่งความเป็นจริงค่ะ ไม่ได้มีเจตนาหยามเหยียดใคร ไบเดนเป็นคนดีที่ทำงานรับใช้ชาติได้อย่างน่าชื่นชม แต่เดิมพันครั้งนี้มันสูงเกินไป ถ้าไบเดนไม่ถอนตัว เดโมแครตแพ้แน่ ฉันมั่นใจอย่างนั้น และผลจากความพ่ายแพ้ครั้งนี้มันคือหายนะดีๆนี่เอง’
หรือถ้าพรรคยังหาตัวเลือกแทนไบเดนไม่ได้ อบิเกล เสนอให้ดัน กมลา แฮริส รองประธานาธิบดีคนปัจจุบันขึ้นมาแข่งแทน และเชื่อว่าสามารถเอาชนะทรัมพ์ได้ไม่ยากเลย และเรียกร้องให้พรรคอย่ามัวแต่เอาเวลามาล้อเลียนข้อบกพร่องของแฮริส ถ้าพรรคสามารถมองข้ามข้อเสียของไบเดนได้ ทำไมถึงยอมหยวนๆ กับข้อบกพร่องของแฮริสไม่ได้ 

และไม่ใช่เฉพาะทายาทดิสนีย์ ที่ออกมากดดันพรรคเดโมแครตให้เปลี่ยนตัวไบเดน รีด เฮสทิงส์ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Netflix และเป็นผู้บริจาครายใหญ่ของเดโมแครต ก็ออกมาเรียกร้องให้ไบเดนถอนตัวเช่นกัน เพื่อเห็นแก่พระเจ้า อุ่ย! ไม่ใช่! เพื่อเห็นแก่พรรคในการแข่งขันเพื่อเอาชนะทรัมพ์
รีด เฮสทิงส์ และ ภรรยา คือผู้ที่ลงเงินสนับสนุนให้กับแคมเปญหาเสียงของไบเดนตั้งแต่งานเลือกตั้งปี 2020 ถึง 1.5 ล้านเหรียญ และเมื่อไบเดน ตัดสินใจลงสนามอีกครั้งในปีนี้ เขาบริจาคเงินให้แคมเปญของไบเดนอีก 1 แสนเหรียญทันที ก่อนประกาศยุติการสนับสนุนหลังเห็นผลงานการดีเบทของไบเดนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

และนอกจากผู้บริหาร Disney และ Netflix จะออกมาประกาศเทไบเดนแล้ว ยังมีเศรษฐีกระเป๋าหนักด้อมเดโมแครต ที่ออกมายอมรับว่าจะไม่สนับสนุนไบเดนแล้ว อาทิ แบร์รี่ ดิลเลอร์ ผู้บริหารสื่อยักษ์ใหญ่ หรือ อารี เอ็มมานูเอล CEO บริษัทเอเจนซีเจ้าดังในฮอลลิวูด โดยเขาเปรียบเทียบว่า หากสหรัฐอเมริกาเป็นรถยนต์หรูราคา 2.7 ล้านล้านดอลลาร์คันหนึ่ง เขาคงไม่ยอมให้ทั้งทรัมพ์ และ ไบเดน ขับรถคันนี้ออกถนนในยามค่ำคืนแน่ๆ 

แม้ความเห็นของมหาเศรษฐีไม่กี่คน จะสู้เสียงของพระเจ้าในใจไบเดนไม่ได้ แต่ บางคนก็บอกว่า เงินนั่นแหล่ะคือพระเจ้า ถ้าเงินไม่มี จะไปทำอะไรได้ ซึ่งก็อาจจะจริงในแง่หนึ่งเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด

เพราะทุกการลงทุนคือความเสี่ยง เช่นเดียวกับการทอดลูกเต๋า โอกาสที่ไบเดนที่จะชนะทรัมพ์ ก็ไม่ได้เป็น 0 เสมอไป เพราะบางคนเลือกแค่คนที่รัก แต่บางคนก็เลือกเพราะพรรคที่ชอบ 

แต่หากเป็นเรื่องของประเทศชาติบ้านเมือง ถ้ามัวแต่เกรงใจกัน ก็ต้องยอมรับผลลัพธ์ร่วมกัน ว่าเราได้เลือกแล้วว่าจะให้ใครมาขับรถหรูคันละ 2.7 ล้านล้าน ออกไปซิ่งยามค่ำคืนในอีก 4 ปีข้างหน้า 

'ดิสนีย์' เปิดทางเคสแพทย์หญิงไทยดับจากแพ้อาหาร ฟ้องศาลได้ หลังก่อนหน้าใช้ข้ออ้างเงื่อนไขในสัญญา Disney+ กีดกันการฟ้อง

(21 ส.ค.67) สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า บริษัทวอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney) ตกลงยอมเปิดทางให้สามีของ พญ.กนกพร แต่งสวน สามารถยื่นฟ้องในชั้นศาลได้แล้ว กรณีที่แพทย์หญิงชาวไทยรายนี้เสียชีวิตจากการแพ้อาหารที่สวนสนุกดิสนีย์ในฟลอริดาเมื่อปีที่แล้ว แต่ดิสนีย์ปฏิเสธการฟ้องศาล โดยยกเงื่อนไขในข้อตกลงบริการสตรีมมิ่ง Disney+ มาใช้กับเคสนี้ 

ทั้งนี้ พญ.กนกพร จากศูนย์การแพทย์แลนกอน มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ได้รับประทานอาหารที่ร้าน Raglan ในดิสนีย์ สปริงส์เมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว โดยมีการแจ้งย้ำกับพนักงานหลายครั้งว่ามีอาการแพ้อาหารอย่างรุนแรงในถั่วและนม จึงขอให้มีการทำอาหารที่ปราศจากวัตถุดิบที่แพ้ ซึ่งพนักงานเสิร์ฟตกลงรับทราบ

แต่หลังจากนั้น พญ.กนกพร มีอาการแพ้อย่างรุนแรงและเสียชีวิตภายในวันเดียวกัน ซึ่งผลชันสูตรศพที่ระบุในเอกสารฟ้องร้องของเจฟฟรีย์ เจ พิกโคโล ผู้เป็นสามีพบว่า ผู้เสียชีวิตมีอาการแพ้อาหารอย่างรุนแรง และพบระดับของนมและถั่วในร่างกายในปริมาณมาก

สามีของ พญ.กนกพร ยื่นฟ้องทางร้านและดิสนีย์เรียกร้องค่าเสียหายกว่า 50,000 ดอลลาร์ แต่ทางดิสนีย์ใช้ข้ออ้างที่ผู้เป็นสามีเคยสมัครสมาชิกบริการสตรีมมิ่ง Disney+ เมื่อปี 2562 ที่มีเงื่อนไขห้ามฟ้องร้องบริษัทเอาไว้ จึงอ้างว่าไม่สามารถฟ้องร้องในกรณีนี้ได้ และขอไปใช้กระบวนการไกล่เกลี่ยยอมความนอกศาลแทน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ส.ค.67 จอร์จ ดามาโร ประธานแผนก Disney Experiences ได้เปิดเผยกับรอยเตอร์สผ่านทางอีเมลว่า “เราเชื่อว่าสถานการณ์นี้ควรได้รับการดำเนินการอย่างละเอียดอ่อน เพื่อเร่งแก้ปัญหาให้กับครอบครัวผู้ที่สูญเสียอย่างเจ็บปวด”

“ด้วยเหตุนี้ เราจึงตัดสินใจสละสิทธิในการใช้กลไกอนุญาโตตุลาการและให้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวในศาล” ดามาโร กล่าวเสริม 

ทั้งนี้หลังจากถูกยื่นฟ้อง ในช่วงแรกเดือน เม.ย. ทางดิสนีย์ยังปฏิเสธโดยอ้างว่าบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีนี้ เนื่องจากดิสนีย์เป็นเพียงเจ้าของที่ และไม่มีส่วนในการควบคุมการดำเนินงานหรือบริหารงานของร้าน Raglan

ทว่าต่อมาในเดือน พ.ค. ดิสนีย์ได้อ้างข้อต่อสู้ใหม่เรื่องเงื่อนไขในสัญญาให้บริการสตรีมมิ่ง Disney+ รวมถึงเงื่อนไขที่ผู้เป็นสามีได้ใช้เว็บไซต์ของดิสนีย์ในการซื้อตั๋วเข้าสวนสนุกในปี 2566

อย่างไรก็ตาม โจเซฟ เซลเลอร์ส ทนายฝ่ายโจทก์ ซึ่งเคยมีผลงานการฟ้องคดีเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ระบุว่า การที่ดิสนีย์ตัดสินใจไม่ใช้สิทธิอนุญาโตตุลาการไกล่เกลี่ยนอกศาลถือเป็นเรื่องผิดปกติ และบ่งชี้ว่าทนายฝ่ายของดิสนีย์เชื่อว่าข้อตกลงใน Disney+ ไม่สามารถใช้กับกรณีนี้ได้

แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งแข่งขันกันดุเดือดขนาดไหน?

อุตสาหกรรมสตรีมมิ่งที่เป็นหนึ่งในช่องทางที่ให้ความบันเทิงกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด และจากการเก็บรวบรวมข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2024 อุตสาหกรรมนี้มีเจ้าที่ครองตลาดอย่าง Netflix, Viu และ Disney+ ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มนำเสนอคอนเทนต์และกลยุทธ์ราคาที่แตกต่างกันเพื่อพยายามที่จะเข้าไปแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด รวมถึงครองใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นตลาดของตัวเอง

เรามาดูความเหมือนและความต่างของทั้ง 3 แพลตฟอร์มนี้กันค่ะ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top