Saturday, 15 February 2025
Depa

‘CG บราซิล’ ยกย่อง Thailand Pavilion ยอดเยี่ยม นำเสนอเรื่องดี ร้อยเรียงเนื้อหางานเก่ง เต็มสิบไม่หัก

กลายเป็นอีกความน่าภาคภูมิใจ หลังจากเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 65 ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทาง General Elias Rodrigues Martins Filho-Commissioner General for Brazil Pavilion ได้เข้าเยี่ยมชมอาคารแสดงประเทศไทย โดยมี ดร.รัฐศาสตร์ กรสูต รองผู้อำนวยการฯ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า (depa) ในฐานะ Thailand Pavilion Director และ ดร.จักกนิตต์ คณานุรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมกำลังคนดิจิทัล ให้การต้อนรับ

ในการนี้ General Elias Rodrigues Martins Filho ได้กล่าวแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสที่อาคารแสดงประเทศไทยมียอดผู้เข้าชมผ่าน 1 ล้านคนไปเมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมชมเชยว่าความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลจากการเตรียมการอย่างดีตั้งแต่แนวคิดในการนำเสนอ การร้อยเรียงข้อมูลที่ประยุกต์ “สายน้ำ” เป็นผู้ดำเนินเรื่องเพื่อสะท้อนการพัฒนาประเทศจากความรุ่งเรืองในอดีตสู่ปัจจุบันและต่อเนื่องไปในอนาคต รวมถึงการออกแบบอาคาร การบริหารจัดการกิจกรรมตลอดระยะเวลาการจัดงาน ตลอดจนการคัดเลือกเยาวชนไทยมาทำหน้าที่ Thailand Pavilion Ambassador เพื่อส่งมอบความประทับใจให้กับผู้เข้าชมอาคารทุกคน

เชียงใหม่- depa เหนือบน ร่วมให้การต้อนรับ นายกรัฐมนตรี ในโอกาสลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.เชียงใหม่ 

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ ร่วมพบปะคนรุ่นใหม่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพูดคุยประเด็นด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ระบบขนส่งคมนาคม สังคม และสิ่งแวดล้อม (PM 2.5) พร้อมหารือทิศทางการพัฒนาจังหวัด โดยมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และ นายปรัชญา โกมณี ผู้จัดการสาขาภาคเหนือตอนบน สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ร่วมให้การต้อนรับ ณ อุทยานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP)

โดย นายกรัฐมนตรี ร่วมพูดคุยกับผู้แทนจากภาคเอกชน ผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ ภาคประชาชน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และผศ.ดร.ชนม์เจริญ แสวงรัตน์ ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในหลากหลายประเด็น ประกอบด้วย 1) โครงสร้างพื้นฐาน อาทิ สนามบินและระบบขนส่งสาธารณะ ขยายเวลาเปิด 24 ชั่วโมง เสนอสนามบินแห่งที่ 2 ส่งเสริมเอกชนโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ระบบโครงข่ายถนน Links เชื่อม 25 อำเภอ 2) ส่งเสริมสนับสนุนการทำตลาด ได้แก่ อัปเกรดงานแสดงสินค้าสู่ระดับประเทศ จัดอีเวนต์ระดับโลก ดึงอีเวนต์ใหญ่มาจัดในจังหวัดเชียงใหม่ 3) ปรับปรุงกฎกระทรวงต่าง ๆ เกี่ยวกับ Visa ส่งเสริม Remote Woker และ Digital Nomad เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 4) ส่งเสริมและสนับสนุนการทำตลาดในต่างประเทศ 5) นโยบายสนับสนุนเพิ่มจำนวนผู้ประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมเดินหน้าแก้ไขปัญหาผังเมืองและการใช้ประโยชน์ที่ดิน

ขณะที่ข้อเสนอของคนรุ่นใหม่ อาทิ ประเด็นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ระบบขนส่งคมนาคม สังคม และสิ่งแวดล้อม (PM 2.5) Soft power โอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจ การขอให้ขับเคลื่อน พ.ร.บ.อากาศสะอาด พื้นที่สาธารณะที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก การทำ  Wellness Tourism ฯลฯ ซึ่งในบางเรื่องที่หารือนั้นอยู่ในแผนการดำเนินงานของรัฐบาลอยู่แล้ว 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ ยังได้ร่วมพูดคุยและรับฟัง Solution จาก Digital Startup ในจังหวัด ได้แก่ ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นแนวคิดจากเด็ก ป.6 สามารถนำมาต่อยอดให้การแจ้งเตือนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นวัตกรรมการผลิตน้ำเชื้อโคแยกเพศ ระบบบริหารจัดการหอพัก อพาร์ทเมนท์และธุรกิจรายวัน (Horganice) บริการทำความสะอาดและรีดผ้า (BeNeat) โดย นายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาการจับคู่ค้า (Matching) กับต่างประเทศมาร่วมลงทุนด้วย พร้อมย้ำถึงการมีความทะเยอทะยานให้มากขึ้น เพื่อคิดหาแนวทางและขับเคลื่อนธุรกิจของตนเองให้มีศักยภาพ

ในโอกาสเดียวกันนี้ นายประเสริฐ ได้พบปะผู้แทนของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวง อาทิ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (NT) ไปรษณีย์จังหวัดเชียงใหม่ สถิติจังหวัดเชียงใหม่ ศูนย์อุตุวิทยาภาคเหนือ และ depa โดย นายปรัชญา ได้รายงานการดำเนินงานที่ผ่านมาของ depa สาขาภาคเหนือตอนบน ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ในพื้นที่ การขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจดิจิทัลในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน รวมถึงการยกระดับกำลังคนดิจิทัล การเพิ่มทักษะใหม่ด้านดิจิทัลสำหรับวัยเรียนและผู้สูงอายุ

'ททท.' ผนึก ‘depa-NIA-SME D Bank’ เปิดเวที Travel Tech Startup 2024 เฟ้นหาคนเก่ง ช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของท่องเที่ยวไทยในเวทีโลก

เมื่อวานนี้ (5 ก.ย. 67) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA)ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank และหน่วยงานพันธมิตร เปิดเวทีขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยผ่านโครงการประกวดผู้ประกอบการ Travel Tech Startup 2024 เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ Travel Tech Startup พร้อมติดอาวุธทางการตลาดให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพได้มีโอกาสเติบโตทางธุรกิจ พร้อมร่วมชิงเงินรางวัลรวมกว่า 350,000 บาท และสิทธิประโยชน์จากพันธมิตร

นางสาววรรณภา เกียรติพงษา ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า การท่องเที่ยวของไทยในปัจจุบันต้องเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยรอบด้าน ทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัว การแข่งขันจากประเทศต่าง ๆ ที่นำเสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวที่หลากหลายและคุ้มค่า รวมถึงความเปลี่ยนแปลงของ พฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจในประสบการณ์และรูปแบบการท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน ส่งผลให้การท่องเที่ยวไทยต้องปรับตัวต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์เพิ่มมากขึ้น เพื่อพยายามครองความเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก 

ททท. เล็งเห็นว่า Travel Tech เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยตอบโจทย์การสร้างเสริมประสบการณ์ที่ดีให้แก่นักท่องเที่ยว จึงได้จัดโครงการประกวดผู้ประกอบการ Travel Tech Startup 2024 เพื่อเปิดโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการที่สร้างสรรค์ในการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี นักพัฒนาแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้มีโอกาสนำเสนอผลงาน รวมทั้งโอกาสในการพบกับพันธมิตรที่ช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตอย่างมีทิศทาง ซึ่งเมื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมีจำนวนผู้ประกอบการ Travel Tech มากขึ้น จะทำให้ข้อมูลและบริการท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงได้ง่ายและสะดวกขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยว สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ที่น่าสนใจยิ่งขึ้น รวมถึงเข้าใจแนวโน้มและความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลต่อการเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันของการท่องเที่ยวไทยในตลาดโลกและดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพจากทั่วโลกอีกด้วย

คุณนิตาภา อินชัย หัวหน้างานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวว่า depa มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในภาคการท่องเที่ยวไทย ผ่านโครงการประกวดผู้ประกอบการ Travel Tech Startup 2024 โดยส่งเสริมการผลักดันการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักของเศรษฐกิจประเทศ โครงการนี้ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการเติบโตของ Startup เทคโนโลยีด้านการท่องเที่ยว สนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมและแนวคิดใหม่ ๆ ที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับประสบการณ์ของนักท่องเที่ยว ซึ่ง depa เชื่อว่า ด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐและการประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จะสามารถสร้างระบบนิเวศทางดิจิทัลที่เอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนให้แก่ Startup ไทยก้าวสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้น และนำเสนอเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวในยุคปัจจุบัน

คุณปริวรรต วงษ์สำราญ รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) กล่าวว่า NIA มุ่งมั่นที่จะผลักดันนวัตกรรมเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย ภายใต้โครงการ TAT Travel Tech Startup 2024 นี้ NIA มีวิสัยทัศน์ที่จะส่งเสริมและสนับสนุน Startup ที่มีศักยภาพในการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ให้กลายเป็น Net Zero Tourism เชื่อว่าเทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ดีและน่าประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดย NIA ได้มุ่งเน้นสร้างการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน เช่น นวัตกรรมเส้นทางท่องเที่ยวโลว์คาร์บอนในระดับชุมชน, ยานยนต์ EV สำหรับการท่องเที่ยวทางบกและทางน้ำ เป็นต้น รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการและการดำเนินงานของธุรกิจการท่องเที่ยวในทุกระดับ NIA มุ่งหวังที่จะสร้างระบบนิเวศที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของ Startup ด้านการท่องเที่ยวไทย โดยการให้การสนับสนุนทางด้านทรัพยากรและการเชื่อมโยงกับเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้สามารถแข่งขันในระดับสากลได้ และส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาค

คุณสุชาดา โคตรสิน รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาและสนับสนุนผู้ประกอบการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย SME D Bank กล่าวว่า ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนและความท้าทายที่ซับซ้อน การเข้าถึงแหล่งเงินทุนเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ประกอบการในการพัฒนาและขยายธุรกิจ SME D Bank จึงมีวิสัยทัศน์ในการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ Startup และผู้ประกอบการด้าน Travel Tech อย่างครบวงจร ด้วยเงื่อนไขที่เหมาะสมและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการทุกขั้นตอน ธนาคารมุ่งเน้นในการสร้างระบบการเงินที่ยืดหยุ่นเพื่อเสริมสร้างความสามารถ ในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในตลาดโลก เชื่อว่าการสนับสนุนครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพและความยั่งยืนของธุรกิจด้านการท่องเที่ยว พร้อมทั้งส่งเสริมเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างมั่นคง

โครงการ Travel Tech Startup 2024 เปิดรับสมัครผู้ประกอบการ Tech Startup ที่มีการดำเนินกิจการมาแล้ว มีผลการเติบโตที่ดี และต้องการต่อยอดในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสามารถสมัครเพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนาและขยายการเติบโตของธุรกิจ พร้อมทั้งเข้าถึงการส่งเสริมตลาดทางการท่องเที่ยว โดยจะประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบในวันที่ 17 ตุลาคม 2567 เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม Founder First Date และ Online Bootcamp จำนวน 2 ครั้ง ในช่วงเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2567 พร้อมทั้งร่วมนำเสนอผลงานใน Opportunity Day ณ SCBX NEXT TECH ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เพื่อชิงเงินรางวัลและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากหน่วยงานพันธมิตร 

โดยผู้ชนะอันดับที่ 1 จะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 200,000 บาท อันดับที่ 2 เงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท และ อันดับที่ 3 เงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากหน่วยงานพันธมิตร โดยโครงการยังได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรอีกหลายหน่วยงาน ได้แก่ สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (UNGCNT) บริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด (Tech Sauce) ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) บริษัท เดนท์สุ (ประเทศไทย) จำกัด (Dentsu) บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด (Siam Piwat) และ SIAM PARAGON SCBX NEXT TECH และพันธมิตรด้านสื่อ ประกอบด้วย สมาคมการค้าสตาร์ตอัปไทย Mission To The Moon greenery.org และ สำนักข่าว THE STATES TIMES 

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ Startup ที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี นักพัฒนาแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สนใจร่วมแข่งขันในโครงการประกวดผู้ประกอบการ Travel Tech Startup 2024 สามารถติดตามรายละเอียดโครงการได้ที่ www.TATstartup.com และ Page Facebook: TAT Startup Thailand เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่ 5 กันยายน 2567 - 4 ตุลาคม 2567


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top