Monday, 20 May 2024
CPR

เปิดใจฮีโรชั้นประถม ทำ CPR ช่วยเด็กจมน้ำ จนรอดชีวิต ชี้ ลองเข้าใจทฤษฎี การทำ CPR ใคร ๆ ก็ทำได้

เปิดใจ 'น้องหมัด' ปั๊มหัวใจยื้อชีวิตน้อง 6 ขวบพลัดตกน้ำ จนรอดปลอดภัย เผยจดจำการปฐมพยาบาล จากพี่ ๆ มูลนิธิกู้ภัยร่มไทรที่เคยมาอบรมเมื่อไม่นานมานี้ โซเชียลฯ ซูฮก 'กล้าหาญ-มีสติ-ช่วยถูกวิธี-เป็นตัวอย่างที่ดีของเยาวชน'

ฮีโรพี่ประถม CPR ช่วยชีวิตน้องอนุบาล

คำกล่าวที่ว่า “ฮีโร ไม่จําเป็นต้องมีพลังวิเศษ” คงเปรียบได้กับเหตุการณ์ที่กำลังถูกแชร์สนั่นโลกออนไลน์ของบ้านเราในขณะนี้ กับเรื่องราวอันน่ายกย่องของหนูน้อยวัยเพียง 12 ปี ผู้เข้าช่วยเหลือเด็กอนุบาล 2 วัย 6 ขวบ ที่ประสบเหตุจมน้ำ ด้วยการทำ CPR (Cardiopulmonary resuscitation) หรือการปฐมพยาบาลด้วยการปั๊มหัวใจ จนเด็กวัย 6 ขวบกลับมาหายใจได้อีกครั้ง

หลังจากที่เรื่องราวถูกส่งต่อออกไป ก็นำมาซึ่งเรียกชื่นชมอย่างล้มหลาม ถึงความกล้าหาญ มีไหวพริบ ความมีสติ และกล้าตัดสินใจในเวลาอันคับขัน ของเด็กชายวัย 12 ปีผู้นี้ ขณะเดียวกันก็มีหลายความเห็นที่บอกว่า ผู้ใหญ่หลายคนยังทำ CPR ไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ

ฮีโรหนุ่มน้อยผู้นี้คือ ด.ช.ศิราพัช ศรีงาม หรือ น้องหมัด นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนศาลาคู้ เขตมีนบุรี

น้องหมัดได้เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ขณะที่กำลังเล่นอยู่ที่บ้านเพื่อน บริเวณซอยราษฎร์อุทิศ 70 เขตมีนบุรี ก็ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือว่ามีเด็กจมน้ำ ก่อนจะทราบว่าเด็กที่ประสบเหตุนั้นตนเองก็รู้จัก เพราะเป็นน้องที่อาศัยอยู่ละแวกบ้านใกล้เคียงกัน

“เหตุการณ์วันนั้นเป็นวันเสาร์ (22 ต.ค.65) ประมาณตอนเที่ยง ผมมาเล่นที่บ้านเพื่อน แล้วก็มีคุณลุงคนหนึ่งเห็นเหมือนเด็กเล่นน้ำ แต่ไม่ใช่ เขามาจอดดูซักพักนึงเห็นเด็กจมลงไป แล้วเขาก็ลงไปช่วย

เสร็จแล้วเขาขึ้นมา ผมก็ได้ยินว่า "ช่วยด้วย ๆ" ผมก็เลยเดินมาดู ถ้าผมลงไปช่วยเองผมก็น่าจะจมเหมือนกันครับ ผมก็เห็นน้องเขาหมดสติ”

โชคดีที่น้องหมัดอยู่บริเวณนั้น จึงใช้ความรู้เรื่องการทำ CPR ปั๊มหัวใจช่วยเหลือเบื้องต้น จนหนูน้อยวัย 6 ขวบได้สติ ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร นำส่งโรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ในเวลาต่อมา

“ผมก็เลยเริ่มทำ CPR ตรง 1 ส่วน 4 ของร่างกายก็คือช่วงหัวใจ ตรงกลาง ตรงอก แล้วก็เอามือมาประกบกันแบบที่เคยเห็นกัน ผมก็ปั๊มไปเรื่อย ๆ ประมาณ 4-5 นาที ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าถ้าเราช่วยได้เราก็ดีใจครับ

หลังจากนั้นน้องเขาลืมตาแต่หายใจยังไม่ค่อยคล่องครับ เพราะสำลักน้ำ แล้วก็มีคนโทร.ตามกู้ภัย ตอนนั้นน้องเขาลุกได้แล้วครับ ก็ดีใจครับที่ได้ช่วย เป็นครั้งแรกเลย(ที่ได้ช่วยชีวิตคน)

จากทฤษฎีสู่ปฏิบัติจริง “ทำ CPR ใคร ๆ ก็ทำได้”

ถามถึงความรู้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ฮีโรชั้นประถมก็กล่าวว่า เรียนรู้มาจากการจัดฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน CPR@AED ที่โรงเรียนของเขาจัดขึ้น ร่วมกับมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร

อีกทั้งยังเป็นความบังเอิญอย่างมาก ที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยผู้มาให้ความช่วยเหลือ นำส่งน้องวัย 6 ขวบผู้ประสบเหตุจมน้ำไปยังโรงพยาบาล ก็เป็นหนึ่งในทีมวิทยากรจากมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร ที่ไปทำการฝึกอบรมให้กับโรงเรียนศาลาคู้ในวันนั้นอีกด้วย

ในเวลาเพียงไม่ถึง 3 สัปดาห์หลังจากนั้น ใครจะไปคิดว่า จะมีนักเรียนได้นำความรู้เรื่องของการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานมาใช้จริง จนสามารถช่วยชีวิตคนได้

“วันที่ 5 ต.ค.65 ทางโรงเรียนเขาจัดงานเข้าค่ายลูกเสือ แล้วเขาก็ไปเชิญทางมูลนิธิกู้ภัยร่มไทรมาฝึกสอนทำ CPR ครับ ผมก็ตั้งใจจำสิ่งที่สอน ก็รู้สึกสนุกแล้วก็มีความสุข แล้วพี่ที่เขามาสอนเขาก็มาที่เกิดเหตุ มานำตัวส่งน้องโรงพยาบาลครับ ตอนนี้น้องก็ปลอดภัยแล้วครับ”

เกี่ยวกับเรื่องนี้ วิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานมูลนิธิกู้ภัยร่มไทรมีนบุรี ก็กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ชื่นชมฮีโรตัวน้อย พร้อมฝากถึงภาครัฐในการสนับสนุนการฝึกอบรมลักษณะนี้ให้หน่วยงานต่าง ๆ ด้วย

“ต้องขอแสดงความชื่นชมยินดีกับการจัดอบรมการทำ CPR และ AED ให้กับเด็กนักเรียน โดยเฉพาะต้องยินดีกับนักเรียนโรงเรียนศาลาคู้ ที่ได้ผ่านการอบรมเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 โดย ด.ช.ศิราพัช ศรีงาม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนศาลาคู้

โซเชียลแห่ชื่นชม ‘หมวดต้น’ ทหารฮีโร่แห่ง ร.1 พัน.3 ช่วยปั้มหัวใจชายหมดสติจากโรคประจำตัวกลางงานแต่ง

(25 มี.ค. 66) กลายเป็นที่ฮือฮาและเป็นที่ชื่นชมของประชาชนที่ติดตามข่าวการปฏิบัติหน้าที่ของร้อยตรีอดิเทพ พลวงศ์ษา หรือ ‘หมวดต้น’ ผู้บังคับหมวดปืนเล็กกองร้อยอาวุธเบาที่ 2 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 3 (ร.1 พัน.3) ค่ายกฤษณ์สีวะรา จังหวัดสกลนคร หลังมีภาพเหตุการณ์นาทีชีวิต เผยแพร่ออกไปตามสื่อต่าง ๆ กรณีได้ทำการช่วยเหลือปั๊มหัวใจ CPR ผู้ป่วยหมดสติกลางงานแต่ง จากอาการป่วยด้วยโรคประจำตัว เกิดหัวใจหยุดต้นเฉียบพลัน ขณะมาร่วมงานแต่งบ่าวสาวคู่หนึ่งที่บ้านโพนสว่าง ตำบลโคกสว่าง อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม

ซึ่งเป็นจังหวะที่หมวดต้นพบเห็นเหตุการณ์ต่อหน้าต่อตา จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือเบื้องต้น จนผู้ป่วยมีชีพจรกลับมาเป็นปกติ และประสานรถกู้ชีพ 1669 โรงพยาบาลปลาปาก ส่งตัวไปอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านต่อไป

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2566 ล่าสุดอาการปลอดภัย ทราบชื่อผู้ป่วยภายหลัง คือ นายทองพลู สูญราช อายุ 67 ปี ชาว อ.ปลาปาก จ.นครพนม

โดยช่วงเกิดเหตุนั้นมีผู้ที่มาร่วมงานแต่ง ใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ ก่อนนำไปเผยแพร่ชื่นชมยกย่องว่าเป็น ‘ทหารฮีโร่’ สร้างความประทับใจให้กับประชาชนและแขกเหรื่อที่มาร่วมงานมงคล เนื่องจากทำให้เห็นถึงภารกิจหน้าที่ของทหารไม่เพียงเป็นนักรบเท่านั้น ยังนำทักษะการเรียนรู้การฝึกเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลช่วยเหลือผู้ป่วยมาใช้ในชีวิตประจำวัน และเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินสามารถนำมาช่วยเหลือสังคมได้

ทั้งนี้ จากการสอบถาม ร้อยตรีอดิเทพ พลวงศ์ษา หรือ ‘หมวดต้น’ ผู้บังคับหมวดปืนเล็กกองร้อยอาวุธเบาที่ 2 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 3 จ.สกลนคร เปิดเผยว่าวันดังกล่าว ตนและแฟนสาวได้ไปร่วมพิธีมงคลสมรส คู่รักบ่าวสาวที่รู้จักกัน ขณะนั้น พิธีการได้ดำเนินไปตามลำดับ จู่ ๆ เสียงสู่ขวัญให้คู่บ่าวสาวเงียบลงกลางคัน

ชื่นชม!! ‘3 นร.’ ชั้น ม.5 ทำ CPR ช่วยเหลือลุงหมดสติ ด้านครอบครัวคุณลุงขอมอบทุนการศึกษาแก่เด็กทั้ง 3 คน

โซเชียลแห่แชร์เรื่องราวชื่นชม 3 นักเรียนชายจากโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม สพม.น่าน ที่ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น (CPR) ให้คุณลุงประชา ศิริอังกูร ที่กำลังประสบอุบัติเหตุ ต่อมาครอบครัวคุณลุงประชามอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนทั้ง 3 คน

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 66 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Thida Samerjai’ ได้โพสต์นำเสนอเรื่องราวชื่นชม 3 นักเรียนชายจากโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม สพม.น่าน ที่ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น (CPR) ให้ชายรายหนึ่งที่กำลังประสบอุบัติเหตุ โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า

“ขอพื้นที่เสนอข่าวเด็กดีบ้างนะคะ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 66 นายพิชาภพ ปะทิ นายอรรถกร จันทรธิมา และนายพนมชัย สนลา นักเรียนโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม สพม.น่าน ขณะเดินทางกลับบ้าน ได้ประสบเหตุพบคุณลุงประชา ศิริอังกูร ประสบอุบัติเหตุ มีจิตอาสาช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น (CPR) และในวันต่อมา ภรรยา และลูกของคุณลุงประชา ศิริอังกูร ได้นำเงินมามอบเป็นทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนทั้ง 3 คน”

ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. เพจ ‘ที่นี่เมืองน่าน’ ได้โพสต์ภาพพร้อมรายงานเพิ่มเติมว่า…

“จากนั้นวันที่ 14 มิถุนายน 2566 ทางโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม อำเภอท่าวังผ่า จังหวัน่าน ได้ชื่นชมนักเรียนที่เป็นฮีโร่ได้เข้าช่วยเหลือลุงประชา ศิริอังกูร ประสบอุบัติเหตุ ก่อนที่มี นายพิชาภพ ปะทิ ชั้น ม.5/4, นายอรรถกรณ์ จันทรธิมา ชั้น ม.5/4 และนายพนมชัย สมลา ชั้น ม.5/3 นักเรียนโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม ที่มีจิตสาธารณะในการช่วยเหลือปฐมพยาบาลผู้ประสบเหตุเบื้องต้น คุณลุงประชา ศิริอังกุล ก่อนนำตัวส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลท่าวังผา และทางญาติๆ คุณลุงได้นำเงินจำนวนหนึ่งมามอบให้เป็นทุนการศึกษาให้น้องๆ ฮีโร่ 3 คน เพื่อแทนคำขอบคุณนักเรียนที่ทำความดี เป็นตัวอย่างแก่นักเรียนและคนทั่วไป ณ หอประชุมหลังใหม่ โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม อ.ท่าวังผา จ.น่าน

จากการสอบถามฮีโร่ 1 ใน 3 คน ได้ ทราบว่า ขณะที่ตนเองกำลังเลิกเรียนและได้ขับรถกลับเข้ามาที่โรงเรียนเพื่อมาเตรียมจัดกิจกรรมกีฬาสี ขณะนั้นรถได้ติดไฟแดงก่อนถึงทางเข้าโรงเรียน แล้วได้หันไปเจอคุณลุงประสบอุบัติเหตุล้มลงตรงบันได ก็เลยขับรถออกไฟแดง แล้วเข้าไปช่วยเหลือคุณลงโดยทำ CPR ช่วยกันปั๊มหัวใจคุณลุง ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นในจุดที่เกิดเหตุ และประสานไปยัง 1669 ก่อนที่มูลนิธิเพชรเกษมน่านสาขาท่าวังผาได้เร่งนำตัวคุณลุงไปยังโรงพยาบาล ขณะที่เกิดเหตุนั้นคุณลุงหมดสติ เรียกไม่รู้สึกตัว ชีพจรก็เริ่มอ่อนลง

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฮีโร่ทั้ง 3 คน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับการได้เข้าช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ถึงแม้ว่า จะช่วยเหลือคุณลุงให้กลับคืนมาได้ก็ตาม แต่พวกเขาทั้ง 3 คนก็ได้ให้การช่วยเหลือจนสุดความสามารถ แต่ก็แสดงความเสียใจต่อการจากไปของคุณลุง

ด้านนางธิดา เสมอใจ ผู้อำนวยการโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม ได้กล่าวว่า มีความภาคภูมิใจกับเด็กนักเรียนทั้ง 3 คนที่เป็นจิตอาสาช่วยเหลือผู้อื่นโดยที่ไม่ได้ร้องขอ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าโรงเรียนเป็นที่บ่มเพาะคนที่มีจิตใจที่ดีงามป็นตัวอย่างให้เยาวชนคนอื่นๆ และสร้างความภาคภูมิใจให้แก่โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม, ครอบครัวและตัวของนักเรียนเอง อีกทั้งยังสอดคล้องกิจกรรมนโยบายโรงเรียนปลอดภัย ของ สพม.น่าน และ สพฐ.อีกด้วย”

‘น.ร.หญิง’ โรงเรียนเตรียมอุดมฯ รัชดา ทำ CPR ช่วยชีวิตคน โซเชียลชื่นชม!! ฮีโร่ไม่ต้องมีพลังวิเศษ แค่สองมือเปล่าก็เป็นได้

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 66 ปัจจุบันมีข่าวการเสียชีวิตอย่างกะทันหันเพิ่มมากขึ้นทุกๆ วัน ทั้งในผู้ที่มีสุขภาพดี แข็งแรง ซึ่งการเสียชีวิตอย่างกะทันหันนั้นส่วนมากเกิดจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ที่พบมากขึ้นก็เพราะในยุคสมัยนี้ เพราะไลฟ์สไตล์ที่มีการเปลี่ยนไป ปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มเติมจากโรคประจำตัวเดิม ทำให้การปั๊มหัวใจช่วยชีวิต (CPR) จึงเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นพื้นฐานสำคัญที่ประชาชนควรเรียนรู้ไว้ เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน

ทั้งนี้ มีเหตุการณ์ที่เรียกเสียงชื่นชมจากโลกออนไลน์จำนวนมาก เมื่อผู้ใช้บัญชี TikTok รายหนึ่ง โพสต์คลิปนักเรียนช่วย CPR ผู้ป่วย โดยระบุข้อความว่า…

“ฮีโร่ไม่ต้องมีพลังวิเศษ แค่สองมือเปล่าก็เป็นได้ ขอบคุณน้องนักเรียนมาก ๆ นะครับ ที่มาช่วยพี่ทำ CPR ช่วยผู้ป่วย”

ในคลิปจะเห็นทีมกู้ภัยให้การช่วยเหลือชายรายหนึ่ง และมีนักเรียนหญิงช่วยทำซีพีอาร์อยู่ด้วย ทั้งนี้ เจ้าของโพสต์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นักเรียนหญิงคนดังกล่าว ชื่อ น.ส.ประติภา ดีหามแห เรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา

หลังจากคลิปนี้เผยแพร่ไปมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น

“ชื่นชมเลยครับ สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน”
“น้องน่ารักมากก ยอมชุดเปื้อนเลือดเพื่อ 1 ชีวิต น้องน่ารักมากก อนาคตของชาติต้องแบบนี้สิ เก่งมากๆ”
“สุดดดดดดดยอดดดดด”
“ฮีโร่ไม่จำเป็นต้องมีพลังวิเศษ”
“น้องเก่งมากครับ อีกอย่างน้องเป็นอาสาสมัครด้วยครับ”
“ทุกโรงเรียนควรมีการสอนนี้”
“การ CPR ผู้ชายทำยากนะคะ หน้าอกแข็งแน่น แต่คือน้องทำได้ดีมากๆ” เป็นต้น

‘ผู้บัญชาการทหารเรือ’ ชื่นชม!! '2 ทหารกล้า' กำลังพล ‘ทร.’ คืนชีพนักท่องเที่ยวที่กระบี่ด้วย CPR

เมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณชมเชย กำลังพลกองทัพเรือที่ประกอบคุณงามความดี เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและสร้างชื่อเสียงแก่กองทัพเรือ จำนวน 7 นาย ณ ห้องสุพรรณหงส์ อาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร   

สำหรับกำลังพลทั้ง 7 นายที่เข้ารับมอบประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชย จากผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นกำลังพลจากหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันทีซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมและได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกองทัพเรือให้ปรากฏต่อสาธารณชน 

ทั้งนี้ 2 พลทหารแห่งกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันที ได้แก่...

เรือตรี สุทิน นอบไทย และ พันจ่าเอก สุวิทย์ อ่อนอินทร์ กำลังพลจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน

โดยได้ให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวซึ่งเกิดอาการช็อก และล้มลงจนศีรษะฟาดพื้นหมดสติ บริเวณหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพีจังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 โดยได้ทำการปฐมพยาบาลโดยวิธีช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน CPR จนมีสติฟื้นกลับมาและให้การช่วยเหลือจนกระทั่งรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลในพื้นที่มารับตัวเพื่อทำการรักษาได้อย่างปลอดภัย

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวชื่นชม เรือตรี สุทิน นอบไทย และ พันจ่าเอก สุวิทย์ อ่อนอินทร์  กำลังพลจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ด้วยว่า การให้การช่วยเหลือประชาชนในเหตุการณ์ดังกล่าว แสดงออกซึ่งความกล้าหาญ ไม่ลังเลที่จะเสียสละ เข้าช่วยเหลือ 

ถือเป็นบุคคลตัวอย่างของสังคม เป็นกำลังพลที่ทำให้กองทัพเรือเป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ได้มอบไว้ให้ในการให้การช่วยเหลือประชาชน และการกำหนดให้กำลังพลทุกนายมีความรู้ในการปฐมพยาบาลโดยวิธีช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานหรือ CPR โดยสามารถให้การช่วยเหลือประชาชนได้ในทันทีที่ประสบเหตุ

‘ผู้บัญชาการทหารเรือ’ ยกย่อง-ชื่นชม 'เรือเอก สมใจ เอี่ยมสุข' กำลังพลกองทัพเรือ คืนชีพผู้ถูกคนร้ายยิงที่ชลบุรีด้วย CPR

เมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณชมเชย กำลังพลกองทัพเรือที่ประกอบคุณงามความดี เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและสร้างชื่อเสียงแก่กองทัพเรือ จำนวน 7 นาย ณ ห้องสุพรรณหงส์ อาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร   

สำหรับกำลังพลทั้ง 7 นายที่เข้ารับมอบประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชย จากผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นกำลังพลจากหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันทีซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมและได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกองทัพเรือให้ปรากฏต่อสาธารณชน 

ทั้งนี้ 1 พลทหารแห่งกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันที ได้แก่...

'เรือเอก สมใจ เอี่ยมสุข' ซึ่งได้ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยซึ่งถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณหน้าทางเข้าหมู่บ้านบุญฤทธิ์โครงการ 2 ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยได้ทำการปฐมพยาบาลด้วยการฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน CPR พร้อมทั้งประสานรถพยาบาลกู้ชีพฉุกเฉินเพื่อนำส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวชื่นชม เรือเอก สมใจ เอี่ยมสุข ด้วยว่า การให้การช่วยเหลือประชาชนในเหตุการณ์ดังกล่าว แสดงออกซึ่งความกล้าหาญ ไม่ลังเลที่จะเสียสละ เข้าช่วยเหลือ 

ถือเป็นบุคคลตัวอย่างของสังคม เป็นกำลังพลที่ทำให้กองทัพเรือเป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ได้มอบไว้ให้ในการให้การช่วยเหลือประชาชน และการกำหนดให้กำลังพลทุกนายมีความรู้ในการปฐมพยาบาลโดยวิธีช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานหรือ CPR โดยสามารถให้การช่วยเหลือประชาชนได้ในทันทีที่ประสบเหตุ

‘ผบ.ทร.’ ชื่นชม!! พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณแก่ '3 ทหารกล้า' หลังช่วยชีวิต นทท.เยี่ยมชมเรือหลวงจักรีนฤเบศร ขึ้นจากน้ำอย่างปลอดภัย

เมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณชมเชย กำลังพลกองทัพเรือที่ประกอบคุณงามความดี เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและสร้างชื่อเสียงแก่กองทัพเรือ จำนวน 7 นาย ณ ห้องสุพรรณหงส์ อาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร   

สำหรับกำลังพลทั้ง 7 นายที่เข้ารับมอบประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชย จากผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นกำลังพลจากหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันทีซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมและได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกองทัพเรือให้ปรากฏต่อสาธารณชน 

ทั้งนี้ 3 พลทหารแห่งกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันที ได้แก่...

'พันจ่าเอก ดาวลอย นาธงไชย',‘จ่าตรี เฉลิมชัย เหมหา’ และ 'พลทหาร กูฮัทซัน สมัย' ให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมเรือหลวงจักรีนฤเบศรและได้กระโดดน้ำบริเวณช่องทางเดินกราบซ้ายของเรือโดยกำลังพลทั้ง 3 นายที่เห็นเหตุการณ์ ได้กระโดดน้ำเพื่อให้การช่วยเหลือ และนำตัวขึ้นฝั่งเพื่อนำผู้ประสบเหตุส่งเข้ารับการรักษาตัวยังโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือได้อย่างปลอดภัย

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวชื่นชม 'พันจ่าเอก ดาวลอย นาธงไชย',‘จ่าตรี เฉลิมชัย เหมหา’ และ 'พลทหาร กูฮัทซัน สมัย' ด้วยว่า การให้การช่วยเหลือประชาชนในเหตุการณ์ดังกล่าว แสดงออกซึ่งความกล้าหาญ ไม่ลังเลที่จะเสียสละ เข้าช่วยเหลือ 

ถือเป็นบุคคลตัวอย่างของสังคม เป็นกำลังพลที่ทำให้กองทัพเรือเป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ได้มอบไว้ให้ในการให้การช่วยเหลือประชาชน และการกำหนดให้กำลังพลทุกนายมีความรู้ในการปฐมพยาบาลโดยวิธีช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานหรือ CPR โดยสามารถให้การช่วยเหลือประชาชนได้ในทันทีที่ประสบเหตุ

‘บิ๊กดุง’ ชื่นชม!! 'พันจ่าเอก ทรัพย์อำนวย ศรีชม' กำลังพล ‘ทร.’ หลังคืนชีพชาวพม่าหมดสติที่สัตหีบด้วย CPR

เมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณชมเชย กำลังพลกองทัพเรือที่ประกอบคุณงามความดี เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและสร้างชื่อเสียงแก่กองทัพเรือ จำนวน 7 นาย ณ ห้องสุพรรณหงส์ อาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร   

สำหรับกำลังพลทั้ง 7 นายที่เข้ารับมอบประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชย จากผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นกำลังพลจากหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันทีซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมและได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกองทัพเรือให้ปรากฏต่อสาธารณชน 

ทั้งนี้ 1 พลทหารแห่งกองทัพเรือ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนอันแสดงถึงความกล้าหาญและความเสียสละในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันที ได้แก่...

'พันจ่าเอก ทรัพย์อำนวย ศรีชม' ซึ่งได้ให้การช่วยเหลือชายชาวพม่านอนหมดสติและไม่หายใจบริเวณถนนหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาสัตหีบ โดยได้เข้าทำการตรวจสอบและช่วยเหลือด้วยการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน CPR จนทำให้ผู้ป่วยกลับมาหายใจได้ด้วยตนเองและนำส่งตัวเข้ารับการรักษาได้อย่างปลอดภัย

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวชื่นชม พันจ่าเอก สุวิทย์ อ่อนอินทร์ กำลังพลจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ด้วยว่า การให้การช่วยเหลือประชาชนในเหตุการณ์ดังกล่าว แสดงออกซึ่งความกล้าหาญ ไม่ลังเลที่จะเสียสละ เข้าช่วยเหลือ 

ถือเป็นบุคคลตัวอย่างของสังคม เป็นกำลังพลที่ทำให้กองทัพเรือเป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ได้มอบไว้ให้ในการให้การช่วยเหลือประชาชน และการกำหนดให้กำลังพลทุกนายมีความรู้ในการปฐมพยาบาลโดยวิธีช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานหรือ CPR โดยสามารถให้การช่วยเหลือประชาชนได้ในทันทีที่ประสบเหตุ

พังงา เพิ่มขีดความสามารถการปฐมพยาบาลด้วยการทำ CPR 'เพิ่มโอกาสการรอดชีวิต'

กองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 จัดการอบรมการกู้ชีพพื้นฐานให้กับกำลังพล และการปฐมพยาบาลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการช่วยชีวิตด้วยการทำ CPR (Cardiopulmo nary Resuscitation ) และการใช้เครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (AED ) จากวิทยากร โรงพยาบาลฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 โดยมี นาวาโท ศักรินทร์ ซื่อสงวน ผู้บังคับกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 เป็นประธาน 

พิธีเปิดการฝึกอบรม ณ ห้องประชุมกองบังคับการกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปีงบประมาณ 2567

ตร.สน.บางซื่อ ใช้เครื่อง AED และ CPR ช่วยคนขับรถตู้หมดสติ ตามนโยบาย ช่วยเหลือ ปชช. เหมือนเป็นคนในครอบครัว

(23 มี.ค.67) ตำรวจ สน.บางชื่อ ได้รับแจ้ง คนขับรถตู้หมดสติคาพวงมาลัย บริเวณแยกกำแพงเพชร แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ด.ต.ไกรศร พลตาล ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ จึงไปตรวจสอบ พบชายดังกล่าว มีสัญญาณชีพเพียงเล็กน้อย ด.ต.ไกรศร จึง ได้วิทยุแจ้งรถกู้ภัยให้มายังที่เกิดเหตุ ก่อนที่ด.ต.ไกรศร จะทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยไปเอาเครื่องกระตุกหัวใจ(AED) ซึ่งติดตั้งไว้ที่แยกกำแพงเพชร ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตร มาทำการช่วยเหลือ และทำการ CPR จนชายคนดังกล่าว เริ่มมีชีพจร จากนั้นได้ประสานศูนย์นเรนทร นำตัวส่ง รพ.ราชวิถี  

จากการสอบถาม ญาติชายคนดังกล่าว ทราบว่าได้ฟื้นแล้ว และทำการฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ส่วนสาเหตุ เกิดจาก มีโรคประจำตัวหลายโรค พักผ่อนน้อย และสภาพอากาศแปรปรวน จึงทำให้เกิดอาการ 

ทั้งนี้ การช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีของตำรวจ สืบเนื่องจาก เป็นนโยบายของ พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ ที่เน้นย้ำให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงทีให้เหมือนเป็นญาติของตัวเอง และที่ผ่านมา ได้สนับสนุนให้ผู้ใต้บังคับบัญชาได้เข้ารบกวนการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อลดการสูญเสีย 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top