Sunday, 5 May 2024
BLACKPINK

‘Soompi’ เผย เพลง LALISA ของ ‘ลิซ่า’ สร้างสถิติใหม่ ทะยานสู่ 600 ล้านวิว!! เร็วที่สุดในศิลปินหญิง K-POP

(9 เม.ย. 66) เรียกว่าฮอตเกินต้านสำหรับ ‘ลิซ่า’ ลลิษา มโนบาล หรือ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ศิลปินหญิงไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย เมื่อล่าสุดเว็บไซต์ Soompi ซึ่งเป็นสื่อเกาหลีใต้ได้รายงานข่าว ช่วง 01.30 น. ตามเวลาประเทศเกาหลีใต้ วันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา ว่า ‘LALISA’ เพลงโซโล่ของลิซ่าเป็นซิงเกิล มียอดวิวทะลุ 600 ล้านวิวได้เร็วที่สุดในศิลปินหญิง K-POP โดยมิวสิกวิดีโอเพลง ‘LALISA’ เปิดตัววันแรกเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 เวลา 13.00 น. (ตามเวลาประเทศเกาหลีใต้)

‘ลิซ่า BLACKPINK’ ศิลปินหญิงคนแรกของโลก มียอดวิวบนติ๊กต๊อกทะลุ 1 แสนล้านวิว!!

เมื่อวันที่ 22 เม.ย.66 ทวิตเตอร์ของ World Music Awards ได้ทวีตข้อความ ระบุว่า ‘ลิซ่า วงแบล็กพิงค์’ ได้กลายเป็นศิลปินหญิงคนแรกของโลก ที่มียอดวิวบนแอพพลิเคชั่นติ๊กต็อก ทะลุ 1 แสนล้านวิว จาก #LISA


ที่มา : https://www.matichon.co.th/entertainment/interstars/news_3939465
 

‘ลิซ่า’ เสิร์ฟลุคหวาน เปิดไหล่โชว์เครื่องเพชร ประกบคนดังระดับโลกในงาน Bvlgari 

(17 พ.ค. 66) เกินเรื่องเกินราว สร้างเรื่องสร้างราวอีกแล้ว ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ร่วมงานเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ของ ‘Bvlgari’ ที่จัดขึ้นที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี มาด้วยลุคที่สวยและฉ่ำสุดๆ ให้ฟิลลิ่งเจ้าหญิงราชนิกูล ยิ่งตอนอยู่ใต้ร่มก็คือดีไปหมด แถมประกบเหล่าตัวแม่ Anne Hathaway, Priyanka Chopra, Zendaya ไปเลยสิคะ ปังไม่หยุด

ภูมิใจในความเป็นไทย!! ลิซ่า BLACKPINK เผย รู้สึกภูมิใจที่ได้สวมชุดไทย และชฎาไทย ในมิวสิกวิดีโอ LaLisa

เมื่อไม่นานมานี้ ‘ลลิษา มโนบาล’ หรือ ‘ลิซ่า’ นักร้องวง BLACKPINK ขวัญใจคนไทยและทั่วโลก ได้ตอบคำถามพิธีกรที่ว่า “รู้สึกอย่างไรที่ทำให้ชุดไทย ชฎาไทยที่ลิซ่าสวมในมิวสิกวิดีโอ LaLisa ขายดีจนหมดเกลี้ยง?” ซึ่งลิซ่าได้ให้คำตอบว่า…

“มันเป็นความภาคภูมิใจเล็กๆ น้อยๆ ของหนูที่ได้ใส่ชุดไทยใน MV ของเรา แล้วทั่วโลกได้เห็น ภูมิใจค่ะ ภูมิใจจริงๆ และแฮปปี้มากๆ ที่ทุกคนชอบ”

โดยลิซ่าได้กล่าวไว้ในงานแฟนมีต What’s Lisa’s True ID จัดขึ้นที่ True ICON Hall ไอคอนสยาม เมื่อคืนวันที่ 26 พ.ค. 66 ซึ่งมีแฟนคลับมาให้กำลังใจแน่นขนัด รับแจกความสดใสจากลิซ่ากันไปเต็ม ๆ ก่อนที่ลิซ่าจะขึ้นเวทีคอนเสิร์ตใหญ่ของ BlackPink ที่สนามรัชมังคลา 2 รอบ คือวันนี้และพรุ่งนี้

‘จีซู BLACKPINK’

เตรียมขาดตลาด!! ‘ขนมมะเขือเทศ’ แบรนด์ FF ขนมอบกรอบสุดฮิตในตำนานของคนไทย อร่อยถูกใจ ‘จีซู BLACKPINK’ ถึงขั้นโพสต์ลง IG งานนี้มีแววขายหมดเกลี้ยง!! 🍅✨
 

ลิซ่า BLACKPINK’ นุ่งผ้าซิ่น โพสต์รูปเช็กอินไหว้พระ-เที่ยวอยุธยา กระตุ้น Soft Power พาผ้าไทยโกอินเตอร์ คาด!! ซิ่นไทยเตรียมหมดตลาด

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 66 น.ส.ลิษา มโนบาล หรือ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ทำไอจีแทบแตก โพสต์ภาพสวมชุดไทยไหว้พระและเที่ยวอยุธยากับเพื่อน หลังจบคอนเสิร์ตที่ไทย

กลับมาบ้านเกิดเมืองไทยครั้งนี้ นอกจากจะมาทำงานและแสดงคอนเสิร์ตแล้ว ไอดอลสาวชื่อดังระดับโลก ‘ลลิษา มโนบาล’ หรือ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ก็ได้ใช้ช่วงเวลาอยู่กลับครอบครัวและเพื่อน ๆ

โดยนอกจากจะไปเดินซื้อของที่ปากคลองตลาดในลุคสบาย ๆ แล้ว เจ้าตัวก็ยังมีโอกาสไปเที่ยวและไปไหว้พระวัดดังที่จังหวัดอยุธยา ซึ่ง ‘ลิซ่า’ ได้โพสต์ภาพสวมชุดผ้าไทย เสื้อผ้าฝ้ายสีขาวและผ้าถุงฝ้ายมัดหมี่ย้อมคราม ลงอินสตาแกรมส่วนตัว

พร้อมเช็กอินที่ ‘วัดมหาธาตุ’ วัดในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยารวมไปถึง ‘วัดแม่นางปลื้ม’ ที่อยู่ในอยุธยาด้วยเช่นกัน

งานนี้หลังจากที่ไอดอลสาวโพสต์ภาพเซ็ตนี้ลงอินสตาแกรมนั้น ก็ทำไอจีเกือบแตก มีแฟนๆ เข้ามาคอมเมนต์มากมาย และยังมีแฟน ๆ ที่บอกว่าจะไปเช็กอินตามรอยลิซ่า ทำเอาโดนแซวยกใหญ่ว่าอยุธยาแตกแน่!!

หากย้อนกลับไป ‘ลิซ่า’ แม้จะเป็นหนึ่งในแฟชั่นไอคอนที่แฟนๆ บอกว่าลุคไหนๆ ก็เอาอยู่ แต่ตัวเธอนั้นเคยเลือกสวมชุดไทยในเอ็มวีเพลงโซโล่แรกในชีวิตอย่าง ‘LALISA’ มาแล้ว โดยเธอให้เหตุผลว่า “เป็นความภาคภูมิใจที่ได้ใส่ชุดไทยในเอ็มวีให้ทั่วโลกได้เห็น ภูมิใจจริงๆ แฮปปี้มากๆ ที่ทุกคนชอบ”

งานนี้เชื่อว่าลิซ่าจะกระตุ้น Soft Power ให้เมืองไทยเหมือนหลายๆ ครั้ง ที่ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรก็เป็นกระแสฟีเวอร์ไปซะหมด อาทิ ‘ลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์’ ที่ขายดิบขายดี เพียงแค่เธอให้สัมภาษณ์ว่าชอบทาน ช่วยพลิกสถานการณ์ให้แม่ค้าในช่วงโควิดอีกด้วย หรือ ‘ชุดไทย’ ที่สวมใหญ่ในเอ็มวี ก็สามารถนำวัฒนธรรมไทยสร้างชื่อก้องโลกมาแล้ว
 

รู้จัก ‘หนองโพ’ นมโค 100% ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อสังคม-คนเลี้ยงวัว

(13 มิ.ย.66) หลังจากที่ผ้าไทยได้ขาดตลาดไปแล้ว คราวนี้ถึงคิวของ ‘นมถุงหนองโพ’ เมื่อ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ได้ถ่ายลงสตอรี่อินสตราแกรมที่มีผู้ติดตามทั่วโลกกว่า 94 ล้านคน พร้อมแคปชัน “วัยเด็กต้องนี่เลย!”

งานนี้จึงเชื่อได้ว่า ‘นมถุงหนองโพ’ คงต้องขาดตลาดอีกแน่นอน เพราะไม่ว่าสาวลิซ่าจะหยิบจับอะไร ก็กลายเป็นที่สนใจทุกครั้งไป ช่วยคืนชีพ Soft Power ไทยให้ดังไกลไปทั่วโลก

ว่าแต่ ‘แบรนด์หนองโพ’ มีที่มาที่ไปอย่างไร?

ถ้าหากให้ผู้ใหญ่ในวัยนี้ได้ย้อนนึกไปถึงวัยเด็ก เชื่อว่าหลายคนย่อมคุ้นเคยและมีประสบการณ์ร่วมกับ ‘นมหนองโพ’ มาไม่มากก็น้อย ทั้งรูปแบบของนมกล่อง หรือนมถุง จนรู้ตัวอีกทีหนองโพก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่อยู่คู่และเติบโตมาพร้อมๆ กับคนไทยไปแล้ว

แนวคิดในการก่อตั้งแบรนด์ ‘หนองโพ’ ซึ่งมีที่มาจากชื่อของตำบลหนึ่งในจังหวัดราชบุรี แหล่งเลี้ยงโคนมที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ มาจากการที่ตกผลึกถึงเกษตรกรผู้อยู่เบื้องหลังของเศรษฐกิจของประเทศ แต่หลายครั้งพวกเขากลับเข้าไม่ถึงโอกาสต่างๆ เช่นเดียวกับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เปิดเผยว่าประเทศไทยมีเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์และทำปศุสัตว์กว่า 2.9 ล้านราย และในจำนวนนั้นเป็นผู้เลี้ยงโคนมราว 18,000 ราย ที่คอยดูแลโคนมมากกว่า 600,000 ตัวทั่วประเทศ

ทั้งนี้หากย้อนไปเมื่อ 54 ปีก่อน ในปี 2511 กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่ราชบุรีเผชิญหน้ากับปัญหาด้านเศรษฐกิจ และเกิดปัญหาด้านสถานที่จำหน่ายน้ำนมดิบ จนสร้างความเสียหายให้กับน้ำนมดิบที่เก็บไว้และเกิดการขาดทุน ทำให้มีการรวมตัวเพื่อถวายฎีกาต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 เกี่ยวกับปัญหาตลาดจำหน่ายน้ำนม

พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรงงานเพื่อแปรรูปน้ำนมดิบที่ตำบลหนองโพ ในปี 2515 และดำเนินการในรูปแบบของสหกรณ์การเกษตร ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อเป็น ‘สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์)’ สหกรณ์นี้เองทำให้เกิดการรวมตัวที่เข้มแข็งของกลุ่มผู้เลี้ยงโคนม สร้างรายได้ สร้างคุณภาพชีวิต และสร้างโอกาสมากมายมายาวนานกว่า 5 ทศวรรษ จนปัจจุบันสหกรณ์มีสมาชิกกว่า 4,000 คน ที่กระจายรายได้เข้าสู่หลายพันครัวเรือน และนำไปสู่การพัฒนาน้ำนมและเลี้ยงวัวให้มีคุณภาพและมีความสุข

ดังนั้นหนองโพจึงไม่ใช่เพียงแค่แบรนด์นมโคคุณภาพสูง แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาหนองโพเป็นจุดศูนย์กลางของคุณภาพชีวิต และความสุขของคนเลี้ยงโคนมมาโดยตลอด ซึ่งโอกาสเหล่านั้นได้พัฒนามาในรูปแบบของน้ำนมโค 100% ที่เต็มไปด้วยสารอาหารและประโยชน์ดีๆ ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม, วิตามินบี 2, วิตามินบี 12 และโปรตีนที่มาช่วยสร้างสุขภาพดีๆ ให้กับคนไทยทั่วประเทศ

ปัจจุบันหนองโพมีทั้งหมด 3 รูปแบบ คือ...

>> นมถุง (พาสเจอร์ไรซ์) มี 5 รสชาติสุดอร่อย คือ จืด, หวาน, ช็อกโกแลต, สตรอว์เบอร์รี และ กาแฟ (สูตรพร่องไขมัน)

>> นมกล่อง (ยูเอชที) ที่มี วัวยิ้มอยู่หน้ากล่อง  มีสองขนาด 225 มล. และ 180 มล. และมีถึง 5 รสชาติ ให้เลือก คือ จืด, หวาน, ช็อกโกแลต, รสจืด (สูตรพร่องมันเนย), กาแฟ (สูตรพร่องไขมัน) 

>> และสำหรับเด็กเล็ก ที่เพิ่งเริ่มหัดดื่มนม หนองโพ ก็มีแบบ นมยูเอชที กล่องเล็ก ขนาด 125 มล. จำชื่อให้ดี นมหนองโพ ไฮคิดส์  มีรสชาติ ให้เลือก 3 รสชาติ คือ จืด, หวาน, ช็อกโกแลต 

ไม่ใช่แค่นมสดเท่านั้น หนองโพยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นโยเกิร์ตและไอศกรีมที่ผลิตจากนมโคแท้ ๆ ที่ขอบอกว่าต้องลองสักครั้ง

โดยสรุปแล้ว แบรนด์หนองโพไม่ได้มีดีแค่นมที่สดใหม่ รสชาติดีเท่านั้น แต่เป็นอีกแบรนด์สำคัญที่สร้างความเข้มแข็งและส่งต่อโอกาสให้กับกลุ่มผู้เลี้ยงโคนมและครอบครัวผ่านการรวมตัวของสหกรณ์อย่างยั่งยืน และการที่ไอดอลคนดังอย่าง ลิซ่า BLACKPINK ได้จับตำนานขึ้นมาโพสต์หนนี้ คงมีออเดอร์ล้นแบบผลิตกันไม่ทันขายแน่นอน...

‘วัดอินทาราม’ ขึ้นป้ายเป็นที่สะดุดตา ชวนนักท่องเที่ยว แวะขอพร-ลอดซุ้ม ไล่สิ่งอัปมงคล

จากกรณี ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ที่ได้ไปเที่ยวอยุธยา กับ 3 วัดสวย วัดมหาธาตุ-วัดหน้าพระเมรุ-วัดแม่นางปลื้ม

แต่งานนี้วัดอินทาราม ก็ไม่พลาดขึ้นป้ายชวนเช็คอิน "วัดนี้ลิซ่าผ่าน" ซึ่งเป็นที่สะดุดตา โดยทำเป็นแผ่นป้ายไวนิล ขนาดใหญ่ ติดเอาไว้ที่ซุ้มประตูทางเข้าวัด มีรูปลิซ่า ศิลปินชื่อดัง พร้อมกับข้อความ "วัดนี้ลิซ่าผ่าน แวะมาไหว้พระขอพรได้จ้า"

ซึ่งท่านพระครูปลัดยุทธนา ธนปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดอินทาราม เปิดเผยถึงความเป็นไปเป็นมาของป้าย เนื่องจากเป็นความคิดของลูกศิษย์เนื่องจากที่มีกระแส ลิซ่า Black Pink มาเที่ยววัดอยุธยา โดยเฉพาะที่วัดแม่นางปลื้มที่ ลิซ่ามีการถ่ายภาพแล้วโพสต์ จนมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก จึงมีความคิดว่าวัดอินทาราม ก็เป็นวัดหนึ่งที่สวยงามและมีประวัติศาสตร์ความเป็นไปเป็นมาที่น่าสนใจ

วัดอินทารามก็เป็นวัดทางผ่านก่อนจะถึงวัดแม่นางปลื้มเพียง 500 เมตร ซึ่งเป็นวัดที่ลิซ่าขับรถผ่านจึงมีแนวความคิดทำป้ายเพื่อให้ประชาชน แวะเข้ามากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดก่อนจะเดินทางไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดแม่นางปลื้ม สำหรับวัดอินทาราม มีโบสถ์ที่สวยงามและมีการปรับแต่งภูมิทัศน์รอบโบสถ์ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในวรรณคดีไทย

โดยเฉพาะซุ้มหน้าอุโบสถ์ สร้างเป็นพระสมเด็จองค์ปฐม  พญาครุฑ เชื่อว่าหากรอดผ่านประตูซุ้มก่อนเขาอุโบสถ์ จะทำให้สิ่งไม่ดีหรือสิ่งอัปมงคลเสื่อมหายไป ส่วนบริเวณในอุโบสถ์ มีหลวงพ่อโตเป็นพระประธานและ หลวงพ่อธรรมจักร ขจัดภัย ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด มีอายุกว่า 600 ปี และเชื่อได้ว่าหากผู้ใดเข้า มากราบไหว้ขอพร หลวงพ่อธรรมจักรขจัดภัยก็จะช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป

แม่ค้ายิ้ม!! เมนู ‘ตำมะม่วง’ ขายดีจนทำแทบไม่ทัน หลังคนแห่สั่งซื้อเพียบ ตามรอย ‘ลิซ่า BLACKPINK’

วันที่ (29 มิ.ย. 66) ถือเป็นอีกหนึ่งพลัง Soft Power ของเมืองไทย จากกรณีที่ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ศิลปินชื่อดัง ได้โพสต์ภาพตำมะม่วงพร้อมข้อความระบุว่า “ตำมะม่วงส่งตรงจากไทยแลนด์” จนได้กลายเป็นกระแสอีกครั้ง จากที่ครั้งก่อนๆ ไม่ว่าลิซ่าจะโพสต์เมนูไหน เมนูนั้นก็ขายดีในชั่วข้ามคืน อย่างเช่น ที่ร้านโกเปี๊ยกคาเฟ่ แอนด์ เรสเตอรองท์ ซอยเทศบาลตำบลนาโยงเหนือ 16 (หลัง สภ.นาโยง) อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ขณะนี้เมนูส้มตำถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี หลังจากมีภาพและข่าว ‘ลิซ่า BLACKPINK’ รับประทานตำมะม่วง ทำให้ทางร้านต้องเตรียมวัตถุดิบสำหรับปรุงเมนูส้มตำเพิ่มจากปกติ เช่น มะม่วงเบา มะละกอ ปลาร้า มะเขือเทศ เป็นต้น เพื่อรองรับการสั่งของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

น.ส.สุนิสา อินจุ้ย อายุ 35 ปี เจ้าของร้าน บอกว่า หลังจากที่ลิซ่าได้โพสต์เมนูตำมะม่วง ทำให้ต้องเตรียมวัตถุดิบไว้รับตามกระแสทันที เพราะตอนนี้ลิซ่า รีวิวอะไรก็สะเทือนทันที และปังทุกอย่าง จนตอนนี้มีลูกค้าสั่งตำมะม่วงมากขึ้น ซึ่งปกติที่ร้านมีพวกเมนูส้มตำ และอาหารอีสานอยู่แล้ว โดยเฉพาะซิกเนเจอร์ของทางร้านคือ ตำมะม่วงเบา ด้วยการเก็บมะม่วงสดๆ จากต้นที่ปลูกไว้หลังร้านมาตำแบบสไตล์บ้านๆ แล้วใส่กะปิลงไปด้วยนิดหน่อย ซึ่งถือว่าเป็นสูตรดั้งเดิม แต่หากหมดฤดูมะม่วงเบาไปแล้ว จะใช้มะม่วงน้ำดอกไม้ หรือมะม่วงแก้วขมิ้นมาตำแทน โดยเมนูตำมะม่วงจะขายในราคาจานละ 60 บาท ดังนั้น ตนจึงอยากขอบคุณลิซ่า ที่ช่วยชูอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น นับตั้งแต่ข้าวเหนียวมะม่วง ลูกชิ้นทอด หมูกระทะ มาถึงตำมะม่วง จนทำให้อาหารไทยขายดีขึ้น

ส่วนบรรยากาศตามร้านขายส้มตำที่ จ.สงขลา หลังจากที่ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ หรือ ‘ลลิษา มโนบาล’ ไอดอลสาวชาวไทยแห่งวง BLACKPINK โพสต์ IG Story เป็นภาพ ‘ตำมะม่วง’ พร้อมข้อความ “ตำมะม่วง ส่งตรงจากไทยแลนด์” ปรากฏว่าฮิตติดกระแส เพราะลูกค้าพากันสั่งตำมะม่วงแบบลิซ่า เช่น ที่ร้านเจ๊รุ่งตำแซ่บเวอร์สงขลา ตั้งอยู่หัวมุมถนนศรีสุดาตัดถนนปละท่า ในเมืองสงขลา ซึ่งเป็นร้านของ น.ส.รุ่งรัศมี เชาวลิต หรือ ‘เจ๊รุ่ง’ อายุ 40 ปี เจ้าของร้าน ซึ่งบรรยากาศในร้านคึกคักขึ้นมาทันตาเห็น หลังจากที่ลิซ่าโพสต์ IG Story สั่งตำมะม่วงจากเมืองไทยไปกิน

เจ๊รุ่ง บอกว่า ก่อนหน้านี้ลูกค้าที่มากินในร้านจะสั่งเมนูปกติทั่วๆ ไป เช่น ตำไทย ตำปูปลาร้า แต่มาวันนี้เปลี่ยนเป็นสั่งตำมะม่วงแบบลิซ่าแทน เพราะอยากลอง และจะต้องเอาสูตรตำมะม่วงแบบลิซ่าเท่านั้น ไม่เอาสูตรของร้าน นั่นคือ ‘ตำมะม่วงสูตรแบบลิซ่า’ จะไม่ใส่ถั่วฝักยาว แต่ใส่มะเขือเทศหรือแครอทแทน รวมทั้งใส่น้ำปลาร้าด้วย และมีทั้งสั่งกินที่ร้าน และใส่ถุงกลับไปกินที่บ้าน 

ทำให้ทางร้านต้องเตรียมมะม่วงไว้รองรับมากขึ้นจากปกติ เพราะกระแสตำมะม่วงลิซ่ากำลังมาแรง ทำให้เมนูนี้มียอดขายเพิ่มขึ้น มาแล้วต้องได้กิน ขาดไม่ได้ สำหรับตำมะม่วงสูตรลิซ่า ทางร้านยังคงขายราคาปกติคือจานละ 40 บาท ตอนนี้เวลาลูกค้าสั่งตำมะม่วง จะต้องถามว่าเอาแบบธรรมดา หรือว่าตำมะม่วงแบบลิซ่า ซึ่งส่วนใหญ่จะบอกว่าเอาแบบลิซ่า

🔍 ตัวแม่ตัวมัม!!

🔍 ตัวแม่ตัวมัม!! ไม่ว่าจะขยับหรือจับอะไรก็กลายเป็นกระแสฟีเวอร์ไปซะหมด นับว่าเป็นอีกคนที่มีอิทธิพลสูงเป็นอย่างมากในวงการโซเชียล และวันนี้เราจะมาเปิด 8 Soft Power ของไทยที่ ‘ลิซ่า BlackPink’ เข้ามาเอี่ยว จนปลุกกระแสให้ขายดิบขายดีชั่วข้ามคืนได้!!
 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top