Sunday, 19 May 2024
9ปีลุงตู่

เฉิดฉายในเวทีโลก!! สรุปสุดยอดภารกิจระดับนานาชาติ ใต้ปีก 'รัฐบาลประยุทธ์' เจริญสัมพันธ์ราบรื่น สานเศรษฐกิจยั่งยืน พาไทยฟื้นสถานะสุดแกร่ง

ต้องยอมรับว่า ช่วงสมัยรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในซีซัน 2 ระหว่างปี 2562 ถึงปัจจุบันนั้น...ประเทศไทย ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมประชุมและเป็นแขกสำคัญของนานาประเทศ ในการผูกเชื่อมสัมพันธ์ การพูดคุยเจรจาด้านเศรษฐกิจ และการหารือวาระสำคัญระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกงานที่ร่วม ล้วนแล้วแต่ได้รับผลตอบรับ และสานต่อพันธกิจของชาติได้อย่างน่าชื่นชม

โอกาสนี้ THE STATES TIMES เลยขอเปิดไทม์ไลน์ 17 ภารกิจงานประชุมใหญ่ระดับนานาชาติ และการเยือนต่างประเทศของรัฐบาลไทย ภายใต้ 'พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ให้คนไทยทุกคนได้ย้อนรำลึกไปด้วยกัน เริ่มด้วย...

1. การประชุมระดับประเทศ ณ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21-27 กันยายน 2562

2. การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 ณ สาธารณรัฐเกาหลี เมื่อวันที่ 24-27 พฤศจิกายน 2562

3. การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 36 เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2563 ทางออนไลน์

4. การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 37 เมื่อวันที่ 12-15 พฤศจิกายน 2563 ทางออนไลน์

5. การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 27 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 ทางออนไลน์

6. การประชุม ACMECS ครั้งที่ 9 เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 ทางออนไลน์

7. การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ทางออนไลน์

8. ประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2564 ทางออนไลน์

9. การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และ 39 เมื่อวันที่ 26-28 ตุลาคม 2564 ทางออนไลน์

10. การประชุม COP26 เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2564 

11. การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 28 เมื่อวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2564 ทางออนไลน์

12. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เดินทางเยือน ซาอุฯ เมื่อวันที่ 25-26 มกราคม 2565 เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีของรัฐบาลไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน

13. ประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11-15 พฤษภาคม 2565

14. การประชุม Nikkei Forum ครั้งที่ 27 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 25-27 พฤษภาคม 2565)

15. การประชุมเอเปค ณ ประเทศไทย ครั้งยิ่งใหญ่ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 14-19 พฤศจิกายน 2565

16. การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 40 และ 41 กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อวันที่ 10-13 พฤศจิกายน 2565

17. การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ ณ ประเทศเบลเยียม (12-15 ธันวาคม 2565)

เรียกได้ว่า ทุกภารกิจด้านการต่างประเทศของไทย ภายใต้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ระหว่างปี 2562-ปัจจุบันนั้น ได้สร้างผลลัพธ์อันดีต่อประเทศไทยสามารถลุล่วงภารกิจหลากมิติ ทั้งด้านความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า ความมั่นคง วิชาการ สังคม สิ่งแวดล้อม และอื่น ๆ ระหว่างไทยกับนานาชาติได้อย่างน่าชื่นชม

9 เรื่องดีๆ เกิดได้!! ภายใต้ 9 ปี 'รัฐบาลพลเอกประยุทธ์'

ตลอดระยะเวลา 9 ปี ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของประเทศไทย เป็นช่วงเวลา 9 ปีที่ได้ทำงานเพื่อปกป้องแผ่นดินไทย ซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอน เป็น 9 ปีที่ได้ใช้สติปัญญา ทุ่มเททุกศักยภาพและกำลังความสามารถ สานพลังจากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน รวมทั้งเชิดชูสถาบันอันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย และเป็น 9 ปีของประเทศไทยที่ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด มีความเจริญก้าวหน้าในหลายด้านทัดเทียมนานาอารยประเทศ และพร้อมยกระดับไปสู่ประเทศชั้นนำของโลก ในอนาคตอันใกล้นี้ ด้วยเหตุผลสำคัญได้แก่

1. เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยมี ‘ยุทธศาสตร์ชาติ’ ระยะยาว 20 ปี เพื่อเป็นเข็มทิศนำทางและกรอบแนวคิดในการพัฒนาประเทศในทุกมิติ ให้เกิดความต่อเนื่อง เป็นเป้าหมายให้ทุกภาคส่วนได้ทำงานร่วมกัน ขับเคลื่อนประเทศตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกระดับ 

2. มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมครั้งยิ่งใหญ่ ในทุกระบบ ทั้งทางถนน ทางราง ทางทะเล และทางอากาศ รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในอนาคต ยกบทบาทของประเทศจากความโดดเด่นทางภูมิรัฐศาสตร์ ให้เป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ ด้านการบิน ด้านการขนส่งสินค้า ด้านการท่องเที่ยว ฯลฯ

3. มีความพร้อมเรื่อง ‘เศรษฐกิจดิจิทัล’ และ ‘เศรษฐกิจแพลตฟอร์ม’ โดยมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล และ 5G ที่โดดเด่นในภูมิภาค เป็นที่ดึงดูดการลงทุนบริษัทชั้นนำของโลกหลายราย ซึ่งจะส่งเสริมบทบาทให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้าน 5G - Data center - Cloud services ที่สำคัญในภูมิภาค มีการใช้ประโยชน์ของประชาชนในชีวิตประจำวัน การศึกษาหาความรู้ การประกอบอาชีพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของตนและสร้างรายได้ที่สูงขึ้นของคนทุกกลุ่ม ทุกสาขาอาชีพ  

4. มีการกำหนด 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งล้วนเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคต รวมทั้งมีเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเขตส่งเสริมเศรษฐกิจเพื่อกิจการพิเศษ ทั้งด้านการแพทย์ ด้านนวัตกรรม ด้านดิจิทัล เป็นต้น ที่เป็นแหล่งบ่มเพาะแรงงานทักษะสูง-แรงงานแห่งอนาคต รวมถึงเกษตรอัจฉริยะ เพื่อตอบสนองตลาดแรงงานในอนาคต และการพัฒนาประเทศในศตวรรษที่ 21

5. สร้างกลไกในการบริการจัดการทรัพยากรที่สำคัญของชาติ ได้แก่ ‘น้ำ’ ออกกฎหมายน้ำฉบับแรกของประเทศ มีสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) บูรณาการหน่วยงานน้ำในทุกระดับ ‘ดิน’ ตั้งคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) และจัดทำแผนที่ One Map เพื่อแก้ปัญหาที่ดินทับซ้อนมาหลายสิบปี รวมทั้งจัดสรรที่ดินทำกินให้กับผู้ยากไร้-เกษตรกร ‘ป่า’ ออกกฎหมายป่าชุมชน ไม้มีค่า และตลาดคาร์บอนเครดิต เพื่อส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศ

6. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เช่น ส่งเสริมสวัสดิการกลุ่มเปราะบางทั้งเด็ก-ผู้สูงอายุ-ผู้พิการ ส่งเสริมบทบาทกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กองทุนยุติธรรม และกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อสร้างสังคมที่เท่าเทียม ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และการยกระดับศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ด้วยการศึกษา รองรับความท้าทายใหม่ๆ ของโลกในอนาคต

7. ปฏิรูปกฎหมายไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ ส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน อำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ และดึงดูดการลงทุนเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ รวมทั้งแก้ไขและบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล สามารถแก้ไขวิกฤตชาติได้ในหลายเรื่อง เช่น ปลดธงแดง ICAO และแก้ปัญหาการประมงผิดกฎหมาย IUU สร้างความเชื่อมั่นประเทศไทยในเวทีโลก 

8. ประยุกต์เทคโนโลยีที่ทันสมัยในระบบราชการไทย เพื่อยกระดับการให้บริการแก่ประชาชนและเอกชน ที่เข้าถึงง่าย - สะดวก - โปร่งใส เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ช่วยให้การจ่ายเงินช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางตรงเป้าหมาย เต็มเม็ดเต็มหน่วย ตรวจสอบได้ และ UCEP สายด่วน 1669 บริการการแพทย์ฉุกเฉิน ฟรีทุกสิทธิ์ ทุกโรงพยาบาล เป็นต้น

9. สร้างความสัมพันธ์ทั่วโลก ทั้งในรูปแบบทวิภาคี-พหุภาคี และเขตการค้าเสรี (FTA) รวมทั้งรื้อฟื้นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย เพื่อขยายความร่วมมือ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และตลาดการค้าระหว่างกัน 

ทั้งนี้ การเดินทางของประเทศไทยในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้ราบรื่น หรือง่ายดาย ยังคงมีวิกฤตโควิด วิกฤตความขัดแย้งในโลก ที่ส่งผลกระทบด้านราคาพลังงาน ค่าครองชีพ และเงินเฟ้อจนถึงในปัจจุบัน แต่ด้วยความร่วมมือร่วมใจ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทย ช่วยให้เราฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ และฟื้นตัวมาได้ ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ยังคงผันผวน

ต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อนข้าราชการ และทุกภาคส่วน ที่ได้เสียสละและอดทนในทุกสถานการณ์ที่ผ่านมา เพื่อให้ส่วนรวม สังคม และประเทศชาติ กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง ทั้งนี้ประเทศไทยนับจากวันนี้เป็นต้นไป จะไม่ได้เริ่มนับที่ 1 อีกต่อไป หากทุกอย่างที่พลเอกประยุทธ์ ได้สร้างมานั้นได้รับการต่อยอด ก็จะทำให้ประเทศไทยเดินทางเข้าสู่ ‘เส้นชัย’ ได้เร็ววันยิ่งขึ้น


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top