Saturday, 18 May 2024
13ตุลาคม

'กองทัพบก' จัดพิธีบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศลครบรอบ 5 ปี ‘วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร’

วันนี้ (วันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2564) เวลา 07.00 น. ณ กองบัญชาการกองทัพบก พลเอก ณรงค์พันธ์  จิตต์แก้วแท้  ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธาน พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา และกำลังพลร่วมกิจกรรมบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศล ครบรอบ 5 ปี วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยกิจกรรมประกอบด้วย พิธีตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 18 รูป จากวัดโสมนัสราชวรวิหาร ถวายเป็นพระราชกุศล ณ บริเวณลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 กองบัญชาการกองทัพบก จากนั้นจึงกระทำพิธีสวดพระพุทธมนต์ ณ ห้องจัดเลี้ยง 221 อาคาร 2 ชั้น 2 โดยนิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป จากวัดโสมนัสราชวรวิหาร และพิธีวางพวงมาลา และกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ ณ ห้องรับรองพิเศษ 161 อาคาร 1 ชั้น 6 กองบัญชาการกองทัพบก

นอกจากกิจกรรมภายในกองบัญชาการกองทัพบกแล้ว หน่วยขึ้นตรงกองทัพบกต่างพร้อมใจกันจัดกิจกรรมภายใต้โครงการ “ร่วมทำความดี สร้างความรักสามัคคีคนในชาติ สืบสานรักษาต่อยอด พระราชปณิธาน” ได้แก่ กิจกรรมจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจกิจกรรมปลูกหญ้าแฝก กิจกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งการช่วยเหลือประชาชน เป็นต้น ณ พื้นที่รับผิดชอบของหน่วย ชุมชนใกล้เคียง และพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี ทรงครองราชสมบัติ ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 นับเป็นพระมหากษัตริย์ไทย ที่ทรงครองราชสมบัติยาวนานที่สุดในประเทศไทย ตลอดระยะเวลากว่า 70 ปี ที่ทรงครองราชย์ พระองค์ทรงปกครองราษฎรไทยด้วยน้ำพระราชหฤทัยงดงามเปี่ยมด้วยพระเมตตา ภายใต้ปฐมพระบรมราชโองการที่ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” พระราชกรณียกิจที่สำคัญยิ่งด้านการทหาร ทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย ในยามปกติพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมค่ายทหารและตำรวจตระเวนชายแดน และพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภคเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ในยามที่ทหารต้องออกปฏิบัติหน้าที่ป้องกันอธิปไตยรักษาความสงบตามแนวชายแดน

พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นมิ่งขวัญกำลังใจแก่ทหารกล้า รวมทั้งพระราชทานทรัพย์อุปการะช่วยเหลือครอบครัว และช่วยเหลือทุนการคึกษาแก่บุตรของทหารที่พลีชีพจากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกลทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศให้มั่นคงอย่างยั่งยืนด้วยแนวพระราชดำริ “เศรษฐกิจพอเพียง” ผ่านโครงการพระราชดำริจนทรงได้รับการยกย่องว่าเป็นกษัตริย์นักพัฒนา

“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” จัดพิธีบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศรฯ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ในวันพุธ ที่ 13 ต.ค. 2564 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ สำหรับในปี 2564 หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และพสกนิกรชาวไทย ร่วมกันจัดพิธีบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศลพร้อมกันทั่วประเทศ

พลตำรวจเอก สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำหนดให้มีการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศล และพิธีวางพวงมาลา เนื่องในโอกาสวันครบรอบวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ในวันพุธ ที่ 13 ต.ค. 64 ทั้งนี้ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป  ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และข้าราชการตำรวจเข้าร่วมพิธี

กรุงเทพฯ - “นิพนธ์” ร่วมวางพวงมาลาเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต รัชกาลที่ 9 พร้อมร่วมทอดผ้าป่าทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 13 ตุลาคม 2564 ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีวางพวงมาลา เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 13 ตุลาคม 2564 โดยมี นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  พร้อมด้วย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เข้าร่วมพิธี

โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ร่วมพิธีถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรแล้ว วางพวงมาลาหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จากนั้น ร่วมยืนสงบนิ่ง เป็นเวลา 89 วินาที เพื่อร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อันหาที่สุดมิได้ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า

 

“พระครูแจ้” จัดกิจกรรมบำเพ็ญกุศล 13 ตุลาฯ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวง ร.9

ท่าน พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ประธานจัดกิจกรรม ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี ประธานฝ่ายฆราวาส พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี ข้าราชการตำรวจ สภ.บางพลี นายแพทย์ สกล สุขพรหม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางพลี คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบางพลี ร่วมในพิธี ณ บริเวณ ชั้น 2 ศาลาการเปรียญ วัดบางพลีใหญ่กลาง

โดยกิจกรรมประกอบด้วย การแจกข้าวสารให้กับประชาชนบริเวณพื้นที่โดยรอบและพื้นที่ใกล้เคียง ข้าราชการตำรวจ และพนักงานลูกจ้างอาชีพเก็บขยะ โดยจะได้รับแจกข้าวสาร คนละ 1 ถุง พร้อมด้วยเงินสดอีกคนละ 500 บาท อีกทั้ง  ยังมีค่าเดินทางมอบให้กับประชาชนอีกคนละ 100 บาท รวม 1,000 ครอบครัว จากนั้น ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง นำคณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง  พร้อมด้วย  คณะเจ้าหน้าที่ร่วมประกอบพิธีสวดมาติกาบังสุกุล พระสงฆ์สดับปกรณ์

 

‘ครม.’ ประกาศให้ 13 ตุลาคม เป็นวัน ‘นวมินทรมหาราช’ เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9

(26 ก.ย.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ครม.เห็นชอบประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานชื่อวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยให้วันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวัน ‘นวมินทรมหาราช’ เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้า ล้นกระหม่อมแก่อาณาประชาราษฎร์ ตลอดรัชสมัยของพระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ เพื่อความวิวัฒน์พัฒนาของบ้านเมือง เป็นคุณประโยชน์อเนกอนันต์ และยังความผาสุก ร่มเย็นแก่ผองพสกนิกรชาวไทย พระเกียรติคุณเป็นที่แซ่ซ้องก้องประจักรทั้งแก่ปวงชนชาวไทยและนานาอารยประเทศ แม้การเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 จะล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบัน แต่พสกนิกรทุกหมู่เหล่ายังล้วนคำนึง ซาบซึ้งถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างไม่รู้ลืมเลือน 

นายชัย กล่าวว่า วันที่ 13 ตุลาคม 2566 เป็นวันแห่งการเสด็จสวรรคตครบ 7 ปี หรือ ‘สัตตมวรรษ’ ดังนั้นเพื่อให้วันคล้ายวันสวรรคต เป็นวันแห่งการร่วมรำลึก และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ แห่งพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีคุณูปการอันยิ่งใหญ่แก่แผ่นดิน การนี้รัฐบาลจึงได้นำความกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัย ซึ่งทรงพระราชกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ชื่อวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ว่าวัน ‘นวมินทรมหาราช’ ตามที่รัฐบาลได้ขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ จึงเห็นสมควรกำหนดให้วันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปีเป็นวันนวมินทรมหาราช นับตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2566 เป็นต้นไป

๑๓ ตุลาคม วันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทย

ตลอดระยะเวลา ๗๐ ปี ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองราชย์ พระองค์ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยหลักทศพิธราชธรรม เพื่อให้บ้านเมืองและประชาชนอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ดังพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” นับจากวันนั้น พระองค์ทรงประกอบพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนมาโดยตลอด

ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ทรงห่วงใยในทุกข์สุข ของอาณาประชาราษฎร์ มิต่างจากทุกข์สุขของพระองค์เอง กษัตริย์ผู้ทรงอุทิศพระวรกาย ในการประกอบพระราชกรณียกิจด้านต่าง ๆ มากมาย นำพาซึ่งความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่ ปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ สะท้อนออกมาเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า ๔,๐๐๐ โครงการ ซึ่งล้วนแต่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและ การพัฒนาประเทศทั้งสิ้น อาทิ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ พัฒนาด้านการเกษตร พัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม พัฒนาด้านการส่งเสริมอาชีพ พัฒนาด้านสาธารณสุข พัฒนา ด้านคมนาคมและการสื่อสาร พัฒนาด้านสวัสดิการสังคมและการศึกษา โครงการพัฒนา แบบบูรณาการและอื่น ๆ ซึ่งทุกโครงการที่พระองค์ได้พระราชทาน ยังประโยชน์สุข มากมายแก่ประชาชนชาวไทยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืน

สำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย ด้วยการน้อมนำพระราชดำรัสของพระองค์ท่าน มาเป็นแนวปฏิบัติในการดำรงตน ตามวิถีแห่งความพอเพียง พออยู่ พอกิน และคงไว้ ซึ่งความดี ความซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติงานในฐานะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จะเป็นองค์กรรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง พร้อมก้าวเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท แห่งศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

กลุ่ม ปตท. ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องใน ‘วันนวมินทรมหาราช’ 13 ตุลาคม 2566

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เป็นประธานในพิธีน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรม

ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ‘วันนวมินทรมหาราช’ 13 ตุลาคม 2566 พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร กลุ่ม ปตท. และพนักงานเข้าร่วมพิธีฯ ณ อาคารสำนักงานใหญ่ ด้วย ปตท. สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ซึ่งพระองค์เปรียบดั่งพระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย ทรงมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกลด้านพลังงานในหลายโครงการ อาทิ การผลิตพลังงานทดแทนจากแก๊สโซฮอล์ ไบโอดีเซล ก๊าซชีวภาพ ชีวมวล พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ที่ถูกพัฒนาขึ้นเป็นรูปธรรม ทำให้ประเทศไทยสามารถผลิตพลังงานใช้ได้เอง ลดการพึ่งพานำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่ง ปตท. น้อมนำแนวพระราชดำริหลักแนวคิดมาเป็นภารกิจหลักในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ก้าวตามรอยพระยุคลบาทสืบต่อไป

‘นัท มีเรีย’ แบ่งปันคลิป ‘ในหลวง ร.9’ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

(13 ต.ค.66) สืบเนื่องวันที่ 13 ตุลาคม 2566 เป็นวันแห่งการเสด็จสวรรคตครบ 7 ปี หรือเรียกว่า ‘สัตตมวรรษ’ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กำหนดชื่อ วันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตามที่รัฐบาลขอพระราชทานพระมหากรุณา จึงเห็นสมควรกำหนดให้วันที่ 13 ตุลาคมของทุกปี เป็น ‘วันนวมินทรมหาราช’

โดยคนบันเทิงต่างน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร หนึ่งในนั้น มี นักร้องหญิงมากความสามารถ ‘นัท มีเรีย’ โพสต์คลิป พร้อมข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @myriabenedetti พร้อมข้อความระบุว่า...

“คลิปนี้คือเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่อยากจะนำมาแบ่งปันในปีนี้ที่ขึ้นสู่ปี 7 🙏🏻💛 วันนวมินทรมหาราช 13 ตุลาคม 2566 ธ สถิตในดวงใจตราบนิรันดร์ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร #13ตุลาคม #วันนวมินทรมหาราช”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top