Friday, 17 May 2024
อรรถวิชช์สุวรรณภักดี

'อรรถวิชช์' มอง!! ดิจิทัลวอลเล็ตในเชิงเศรษฐศาสตร์ มันจบแล้ว ชี้!! หากแท้ง ลองหวน 'แก้เครดิตบูโร' ช่วยประชาชนได้มากกว่า

(18 ม.ค.67) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตรองหัวหน้าพรรคพรรคชาติพัฒนากล้า และอดีต สส.กทม. แชร์มุมมองเกี่ยวกับดิจิทัลวอลเล็ต ในเชิงเศรษฐศาสตร์ โดยระบุว่า…

ผมบอกได้ว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมันจบแล้วท่านนายกฯ สำหรับในมุมเศรษฐศาสตร์ มันจบแล้ว และหมายความว่ามันไม่ได้วิกฤต ซึ่งเรากําลังพูดในปี 2567 ในปีนี้ ซึ่งสิ่งที่เรียกว่าวิกฤตเศรษฐกิจมันจะมีดังต่อไปนี้

1.) ‘อัตราแลกเปลี่ยน’ ค่าเงินจะอ่อนตัวค่อนข้างมาก ซึ่งของเราไม่ได้เป็นอย่างงั้นในขณะนี้ และ 2.) ‘ทุนสํารองเงินตราระหว่างประเทศ’ คือ ทองคําก็ดี ดอลลาร์หรือเยนที่ต้องเอามาแบ็คในการพิมพ์แบงค์มันร่อยหรอ ที่เขาบอกเงินหมดเกลี้ยงคลังซึ่งก็คือทุนสํารองเงินตราระหว่างประเทศ ของเราขณะนี้เต็มพิกัดเยอะมาก และมีมากกว่าเงินในระบบหลายเท่าตัวด้วย 

ปัจจุบันเมื่อปี 2566 เขาเพิ่งประกาศว่าสถาบันการเงินกําไรมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ คือ 2.2 แสนล้านบาท ซึ่งมันไม่ใช่แล้ว…อัตราเงินเฟ้อก็ไม่ใช่อีก ก็ไม่ได้เฟ้อหรือเละเทะไปไหน ในปีนี้ GDP ก็ขึ้นแดนบวก เพราะฉะนั้นในมุมความเป็นเศรษฐศาสตร์ในปีนี้มันจบล่ะโครงการนี้ มันไม่มีความชอบธรรมแล้ว

ดังนั้น ในมุมเศรษฐศาสตร์ที่มันจบแล้ว มันมีกฎหมายพรบ.วินัยทางการคลังมาตรา 53 โดยมาตรานี้ได้บอกว่าถ้ารัฐบาลจะออกกฎหมายนี้ออกได้ถ้ามันฉุกเฉินและจําเป็น แต่คุณต้องทําทั้ง ๆ ที่คุณใช้งบประมาณปกติประจําปีไม่ได้แล้ว ปีนี้กําลังคุยงบประมาณปี 2567 กันอยู่ พูดกันในสภาใช่ไหม แล้วมีไหมงบเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตข้างใน ซึ่งไม่มี…ก็จบแล้ว ไม่ต้องไปพูดเลยว่าวิกฤตหรือไม่วิกฤต เพราะว่ามันตั้งงบประมาณทัน แต่มันไม่ตั้ง 

แต่มันมีเรื่องหนึ่งที่ท่านนายกฯ มีความชอบธรรม คือความชอบธรรมของท่านนายกฯ มาจากประชาชน ท่านจะมีหน้าที่ต้องแก้ไขวิกฤตที่เกิดขึ้นกับชาวบ้าน ไม่ใช่วิกฤตประเทศ ซึ่งเมื่อกี้ได้ย้ำแล้วนะ GDP เราอยู่แดนบวก มันเป็นวิกฤตของชาวบ้าน พวกเราคนเงินเดือนต้องสู้กับดอกเบี้ยที่สูง สู้กับภาระหนี้นอกระบบ ทําไมธนาคารพาณิชย์ไทยไม่แข่งขันส่วนต่างดอกเบี้ยเงินฝากกับเงินกู้โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 7% ซึ่งสูงมาก ขณะที่ประเทศอื่นเขาอยู่กัน 2-3% แบงก์มันถึงกําไรเยอะ แล้วปีที่แล้วอเมริกาขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะกลัวเงินเฟ้อ จึงพิมพ์แบงค์ใช้เอง เพื่อแจกประชาชน พอแจกเยอะก็จะเอาเงินกลับ เพราะเงินเฟ้อเยอะ ก็ดูดขึ้นดอกเบี้ย เราก็ต้องขึ้นดอกเบี้ยตาม ประเด็นมันมีอยู่ว่าตอนขึ้นตามไม่มีปัญหาหรอก มันถึงมีกําไรทุกวันนี้ แล้วตอนกดลง มันกดลงได้เปล่า? ไม่ลงไง…

แล้วก็กลับมาว่าเกิดความตาย แล้วใครตาย? พวกเราไง พวกที่ไปผ่อนบ้านอยู่ 2-3 ล้านกว่า จากดอกหมื่นเดียว 3 ปีตรึงดอกเบี้ย พอขึ้นปีที่ 4 ดอกเบี้ยลอยตัว จากที่เคยจ่าย 10,000 บาท เป็นจ่าย 16,000-17,000 บาท ตายครับ…ไปเที่ยวก็ไม่ต้องไปเที่ยวไหนกันแล้ว

คือรัฐบาลเขามองว่าเขาแจกถ้วนหน้าทุกคน ไม่ใช่การไปช่วยเหลือคนจน เพราะเขามองว่าจะเอารายจ่ายภาครัฐอัดฉีดเครื่องยนต์ตัวนี้ให้ติด เพื่อไปกระตุ้นการบริโภค ซึ่งเขามองเรื่อง GDP ดังนั้นคําถามคืออันนี้ประเทศวิกฤตไหม? คําตอบคือประเทศไม่ได้วิกฤต คุณแจกถ้วนหน้าไม่ได้ในสูตรนั้น ผมจึงบอกมันจบแล้วไง แต่ในกลับกันคนชั้นกลางคนจนนี่แหละที่วิกฤต ทําไมอัตราดอกเบี้ยมันขึ้น ก็ต้องถามว่าทําไมแบงก์พาณิชย์มันกําไรกระฉูดเมื่อปีที่แล้ว เพราะว่าธนาคารพาณิชย์ไทยมันไม่แข่งขันกัน…ทำยังไงคุณให้ธนาคารพาณิชย์แข่งเรื่องดอกเบี้ย ซึ่งไม่ใช่เปิดแบงก์เพิ่มนะ และที่บอกว่าให้เปิดแบงก์เพิ่มเนี่ยผมว่าเป็นความคิดล้าหลังมาก เราเปิดแบงก์เพิ่มทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น อิสลามแบงก์ เอสเอ็มอีแบงก์ ลายเส้นแบงก์ย่อย เราเปิดหมด ไม่ใช่การเพิ่มแบงก์ เราต้องการเพิ่มในข้อแข่งขันในอัตราดอกเบี้ย เรื่องพวกนี้รัฐบาลต้องทํา ถึงบอกท่านว่าแล้วทําไมท่านไม่ใช้วิธีอื่นบ้าง? แก้กฎหมายเครดิตบูโรใครที่ติดหนี้อยู่แล้วจ่ายหนี้เรียบร้อย ให้ลบออกจากบัญชีไป เครดิตตอนนี้เวลาทําเป็นบัญชีนะ 3 ปี เหมือนบัญชีหนังหมา ดีบ้างไม่ดีบ้างอยู่ 3 ปี ไปปล่อยแบงก์ก็ไม่กล้าปล่อย

ดังนั้น ทําไมคุณไม่ทําแบบอเมริกาเป็น Credit Score บอกเป็นคะแนนเลย ถ้าคะแนนดีดอกต่ำ ถ้าคะแนนต่ำดอกแพง อย่างนี้มันก็เกิดการแข่งขันธนาคารไม่ใช่เพิ่มจํานวนธนาคาร แต่มันคือการให้ธนาคารแข่งขันในเรื่องอัตราดอกเบี้ย

'อรรถวิชช์' เตรียมรับมือสร้างคอนโดสูงหน้า 'รร.บดินทรเดชา' พบที่จอดรถโครงการน้อย โอกาสเบียดแย่งที่จอดในละแวกมีสูง

(29 ก.พ.67) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ได้เปิดเผยถึงโครงการคอนโดที่มีจำนวนยูนิตมากกว่า 500 กำลังจะก่อสร้างขึ้นบริเวณตรงข้ามโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) วังทองหลาง ซึ่งอาจสร้างปัญหาด้านการจราจรในอนาคต เนื่องจากโครงการมีจำนวนที่จอดรถน้อยจนเกินไป ว่า...

“ผมมาเตรียมรับมือการสร้างคอนโดสูงในซอยแคบหน้าโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ซึ่งโครงการนี้ไม่ธรรมดามีถึง 11 อาคาร และแต่ละอาคารจะมี 8 ชั้น แล้วที่สําคัญห้องพักมีถึง 512 ห้อง แต่ในขณะที่ที่จอดรถมีเพียงแค่ 206 คัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนแค่ 40% เท่านั้น ไม่ใช่ 1 ต่อ 1 และยังไม่รวมว่าถ้าเกิดมีญาติมาเยี่ยมหรือใครมาเยี่ยมอีก ซึ่งจะจอดรถกันตรงไหน”

“คราวนี้มาดูที่ถนนหน้าซอย ซึ่งเป็นถนนไปกลับสองเลน ไปเลนนึงและกลับเลนนึง ถ้ามีใครจอดรถเข้าสักคันนึง ทีนี้รถติดก็จะติดกันยาวเพราะว่าต้องเบี่ยงเข้าอีกเลนเพื่อแซงกันขึ้นมา”

จากนั้น นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ได้ทำการวัดขนาดถนนหน้าโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) แล้วพบว่ามีขนาดกว้างทั้งสิ้น 6.90 เมตร

“ซึ่งขณะนี้ผมก็เลยไปรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนที่อยู่บริเวณในซอยนี้ เขาก็ให้ความเห็นกันมาเป็นทิศทางเดียวกันเลยว่าติดตอนเช้าและตอนเย็นช่วงที่รับเด็กนักเรียน แต่ก็จะรู้สึกไม่โอเคถ้าหากมีคอนโดแห่งนี้เกิดขึ้นแล้วมีที่จอดรถไม่เพียงพอ หากถ้าตอนเช้าคนจากคอนโดมาจอดรถไว้แล้วไม่ยอมเอากลับไป ก็เท่ากับรถติดเป็นอัมพาตกันทั้งซอยเลยทีเดียว”

“ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาสําคัญเลยทีเดียวสำหรับในซอยที่โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ตั้งอยู่ ดังนั้นก็หวังว่าการสร้างคอนโดจะทําไปด้วยความระมัดระวังมากกว่านี้ในเรื่องของที่จอดรถต้องเตรียมให้มีความพร้อมมิฉะนั้นแล้วก็จะเป็นที่เดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้” นายอรรถวิชช์ กล่าว

'WAVE' แต่งตั้ง 'อรรถวิชช์' นั่งแท่นประธานกรรมการบริษัท มีผลตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป

(18 มี.ค.67) นายเจมส์ แอนดริว มอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเวฟ เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (มหาชน) หรือ WAVE ดำเนินธุรกิจโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ ธุรกิจเพื่อสุขภาพ และธุรกิจที่สนับสนุนให้องค์กรบรรลุเป้าหมายด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ได้อย่างยั่งยืน เปิดเผยว่า...

ทางบริษัทฯ ได้ทำหนังสือถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2567 โดยมีมติแต่งตั้ง 'นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี' เป็นกรรมการใหม่ และประธานกรรมการบริษัทแทนนายแมทธิว กิจโอธาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ที่ได้ลาออกไป โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. 2567 เป็นต้นไป

สำหรับ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี นอกจากเป็นนักการเมือง อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตเลขาธิการพรรคกล้า อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขตจตุจักร หลักสี่ บางซื่อพญาไท พรรคประชาธิปัตย์ ประธานกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย กรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ขณะที่ตำแหน่งในบริษัทจดทะเบียน ปัจจุบันยังเป็นกรรมการอิสระ กรรมการตรวจสอบ บมจ. เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น (ASIAN ) 

'อรรถวิชช์' ชู RECs 'ใบรับรองการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด'  นวัตกรรมช่วยลดโลกร้อน เพิ่มขีดความสามารถผู้ส่งออกไทยสู้เวทีการค้าโลก

(23 เม.ย.67) ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ประธานกรรมการบริษัท เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นสักขีพยานในการให้ความร่วมมือกันระหว่าง ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และ นายเจมส์ แอนดริว มอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัท เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (มหาชน) เพื่อช่วยองค์กรและผู้ประกอบการไทย ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน

ดร.อรรถวิชช์ กล่าวว่า "ขณะนี้ผู้ส่งออกสินค้าไทยที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือก๊าซที่ทำให้โลกร้อนจำพวกคาร์บอน มีเทน และอื่น ๆ หากไม่มีมาตรการหักลบหรือชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของตนเอง จะโดนข้อกีดกันทางการค้าจากประเทศปลายทางหลายอย่าง เช่น ภาษีคาร์บอน หรือการถูกยกเลิกเป็นคู่ค้า"

โดย บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด เล็งเห็นถึงความสำคัญในการหามาตรการช่วยลดภาวะโลกร้อน และ ต้องการเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการเข้าสู้เวทีการค้าโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด สามารถให้คำแนะนำ และมีนวัตกรรมที่สามารถจะช่วยเหลือผู้ประกอบการ ด้วยกลไก ที่เรียกว่า 'Renewable Energy Certificates : RECs' หรือ 'ใบรับรองการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด'

"กลไกนี้ จะทำให้เกิดความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) คือ ขาหนึ่งที่สร้างมลภาวะ ขณะที่อีกขาหนึ่งช่วยให้เกิดพลังงานสะอาด ให้หักกลบลบกันไป เพื่อช่วยลดโลกร้อน และเป็นการช่วยผู้ส่งออกไทยให้สู้กับต่างประเทศได้ นี่คือกติกาการค้าใหม่ที่ผู้ส่งออกไทยต้องเจอครับ เป็นเรื่องยากที่ต้องทำให้ง่าย" ดร.อรรถวิชช์ กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top