Tuesday, 14 May 2024
หิมาลัยผิวพรรณ

‘ดร.หิมาลัย’ โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็น ‘เป็นห่วง’ เรื่องเว็บพนันออนไลน์ และการจ่ายสินบน

ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กด้วยความเป็นห่วง ในประเด็นที่สังคมกำลังให้ความสนใจ เรื่องเว็บพนันออนไลน์และการจ่ายสินบน โดยได้ให้ความเห็นไว้ว่า ...

น่าเป็นห่วง...ผมอ่านข่าวผู้การชลบุรีเรียกรับเงินสินบนจากผู้ต้องหาคดีการพนันออนไลน์ กว่า 140 ล้าน เพื่อแลกกับการช่วยเหลือทางคดี ขณะนี้ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจมองไปที่มุมด้านของตำรวจที่เรียกรับเงินจากผู้ต้องหาในคดีการพนันออนไลน์แต่เพียงด้านเดียว ซึ่งแน่นอนตำรวจที่ทำอย่างนั้นก็ต้องรับผิดไปตามกฎหมาย แต่ก็ไม่อยากให้ลืมกลุ่มผู้เสียหายในคดีที่ตำรวจเรียกเงินนั้น ว่าเป็นผู้ต้องหาในคดีการพนันออนไลน์ ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าถ้าตำรวจชุดที่ทำคดีมีการเรียกเงินจริงตามข่าว แล้วในคดีการพนันนั้นจะมีการสอบสวนสืบสวนอย่างจริงจังแค่ไหน คงต้องมีการแตะเบรคแน่ๆ และตามที่ปรากฏเป็นข่าวผู้เสียหายในคดีตำรวจเรียกเงิน หรือผู้ต้องหาในคดีการพนัน มีความสามารถสั่งให้คนเอาเงินมาให้ในคืนเดียวกว่า 60-70 ล้านบาท กลุ่มคนที่เอาเงินมาให้เอาเงินมาจากไหน เกี่ยวกับเงินการพนันออนไลน์หรือไม่ ก็ควรต้องไปตรวจสอบ จากที่พวกเราได้รับรู้ข่าวพวกการพนันออนไลน์ที่ได้เงินมาจากการทำบ่อนออนไลน์จำนวนมาก จนสามารถใช้เงินเบิกทางไปสู่ตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือสร้างภาพทางสังคม ทำให้ผมเห็นถึงความน่ากลัวของการใช้เงินของพวกนี้แล้วครับว่า จะใช้เงินซื้ออะไรอีก…

‘ดร.หิมาลัย’ โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็น ‘เป็นห่วง’ เรื่องเว็บพนันออนไลน์ และการจ่ายสินบน

ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กด้วยความเป็นห่วง ในประเด็นที่สังคมกำลังให้ความสนใจ เรื่องเว็บพนันออนไลน์และการจ่ายสินบน โดยได้ให้ความเห็นไว้ว่า ...

น่าเป็นห่วง...ผมอ่านข่าวผู้การชลบุรีเรียกรับเงินสินบนจากผู้ต้องหาคดีการพนันออนไลน์ กว่า 140 ล้าน เพื่อแลกกับการช่วยเหลือทางคดี ขณะนี้ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจมองไปที่มุมด้านของตำรวจที่เรียกรับเงินจากผู้ต้องหาในคดีการพนันออนไลน์แต่เพียงด้านเดียว ซึ่งแน่นอนตำรวจที่ทำอย่างนั้นก็ต้องรับผิดไปตามกฎหมาย แต่ก็ไม่อยากให้ลืมกลุ่มผู้เสียหายในคดีที่ตำรวจเรียกเงินนั้น ว่าเป็นผู้ต้องหาในคดีการพนันออนไลน์ ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าถ้าตำรวจชุดที่ทำคดีมีการเรียกเงินจริงตามข่าว

แล้วในคดีการพนันนั้นจะมีการสอบสวนสืบสวนอย่างจริงจังแค่ไหน คงต้องมีการแตะเบรคแน่ๆ และตามที่ปรากฏเป็นข่าวผู้เสียหายในคดีตำรวจเรียกเงิน หรือผู้ต้องหาในคดีการพนัน มีความสามารถสั่งให้คนเอาเงินมาให้ในคืนเดียวกว่า 60-70 ล้านบาท กลุ่มคนที่เอาเงินมาให้เอาเงินมาจากไหน เกี่ยวกับเงินการพนันออนไลน์หรือไม่ ก็ควรต้องไปตรวจสอบ

จากที่พวกเราได้รับรู้ข่าวพวกการพนันออนไลน์ที่ได้เงินมาจากการทำบ่อนออนไลน์จำนวนมาก จนสามารถใช้เงินเบิกทางไปสู่ตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือสร้างภาพทางสังคม ทำให้ผมเห็นถึงความน่ากลัวของการใช้เงินของพวกนี้แล้วครับว่า จะใช้เงินซื้ออะไรอีก…
 

‘ดร.หิมาลัย’ แนะวิธีผ่อนคลาย มีสติ และทำใจให้เป็นกลาง เพื่อยอมรับ กับการเมืองที่มันเปลี่ยนไป

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 66 ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้เล่าถึงประเด็น การจัดการ ความเครียดที่มากับการเมืองและการเลือกตั้ง
ผ่านรายการ ‘คุยกับ ดร. หิมาลัย’ EP.4 โดยระบุว่า…

ความเครียดที่มากับการเมือง ช่วงนี้คนไทยเครียดมาก ในเรื่องของการเมือง ในทางการเมืองนั้นที่ผ่านมามันเป็นการปลุกเร้าทางการเมือง เพื่อหาคะแนนเสียง มันเป็นการทำสงครามทางการเมือง มันจะรุนแรงก้าวร้าวและยิงตรงประเด็น เพราะถ้อยคำที่อ่อนโยนอ่อนหวานนั้นมันจะโดนกลืน มันไม่จุดกระแสมันไม่กินใจ ซึ่งเราอยู่ในบรรยากาศแบบนี้มานาน ในการเลือกตั้ง ซึ่งหลังจากที่ผ่านการเลือกตั้งมาแล้วบรรยากาศแบบนี้ก็ยังไม่หมดไป ทุกคนยังอินอยู่กับบรรยากาศที่เพิ่งผ่านมาอย่างต่อสู้โจมตีกัน มันก็เกิดความเครียด

วิธีการ ที่จะคลายความเครียดทางการเมือง ก็คืออยากจะให้ทุกคนทำใจให้เป็นกลาง ในระบบประชาธิปไตยนั้น เราต้องเคารพสิทธิ์ เคารพเสียงส่วนใหญ่แต่ในขณะเดียวกันเสียงส่วนใหญ่ก็ต้องเคารพและฟังเสียงส่วนน้อยด้วย เพราะความคิดเห็นของเสียงส่วนน้อยนั้นก็อาจจะนำมาช่วยเหลือชาติบ้านเมืองได้
.
อย่างแรก เสพข่าวให้น้อยลง ถ้ารู้สึกเครียด แน่นอนว่าข่าวการเมืองนั้นคือการมุ่งไปสู่จุดหมายเป้าหมายฉะนั้น ถ้อยคำที่ใช้ก็ย่อมจะ ปลุกเร้าอารมณ์

อย่างที่สอง ก็คือในการเสพข่าวนั้นเราต้องมีสติและมีใจที่เป็นกลาง ได้ยินสิ่งที่ไม่ชอบ มันลอยมาเข้าหูเราก็ต้องทำใจให้เป็นกลาง ก็ปล่อยให้มันเป็นไป

อย่างที่ 3 ก็คือหาสิ่งใหม่ๆทำ เอาชีวิตของเราไปให้กับสิ่งที่เราชอบให้กับครอบครัวให้กับพ่อแม่พี่น้อง แล้วก็ปล่อยเรื่องการเมืองให้มันเป็นไปตามบริบท

อย่าให้มิตรภาพเสียไปเพราะการเมือง เป็นเพื่อนกันมาเรียนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม เพราะเรื่องการเมืองแค่นี้ จะเสียมิตรภาพไปทำไม บางครั้งก็ต้องปล่อยวางกันบ้าง อย่าไปเครียดว่าเขาจะตั้งรัฐบาลกันได้ไม่ได้มันไม่ใช่หน้าที่ของเราแล้ว

ตามหลักศาสนานั้น มีคำว่าอนิจจังซึ่งก็คือการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงนั้นเราก็จะต้องยอมรับมันให้ได้ ถ้าชอบก็ยินดีถ้าไม่ชอบก็ทำใจ ก็แค่นั้นเอง ใครจะเป็น รัฐบาลก็เป็นไปเถอะอย่างน้อย เราก็เป็นคนไทยด้วยกันเราไม่ได้ไปเป็นเมืองขึ้นของใคร

‘ดร. หิมาลัย’ ชี้ ‘หยก’ ยังมีทางเลือก หากไม่อยากใส่เครื่องแบบ แนะให้เรียน กศน.- Home School

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 66 ดร. หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้เล่าถึงประเด็น เสรีภาพทางการศึกษา ผ่านรายการ ‘คุยกับ ดร. หิมาลัย’ โดยระบุว่า…

เรื่องของเสรีภาพในสถานศึกษา ซึ่งนำเอาน้องหยกมาเป็นกรณีศึกษา ซึ่งเราก็จะรู้จักเขาในมุมของนักต่อสู้ ที่แสดงออกตามความเชื่อความคิดของตัวเอง ที่โดดเด่นที่สุดก็คือการต่อสู้ในการเรียกร้องเพื่อการต่อต้านมาตรา 112 น้องหยกมีการต่อสู้ที่ชัดเจนและรุนแรง เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างรวดเร็ว

สำหรับเรื่องสิทธิเสรีภาพในโรงเรียน ซึ่งน้องหยกย้อมผมไปเรียนแต่งตัวไปรเวทตามสบายไปเรียน และเลือกเข้าเรียนเฉพาะวิชาที่ตัวเองชอบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในเรื่องของสิทธิและเสรีภาพ ที่น้องหยกกำลังเรียกร้องนั้นมันมีความถูกต้องหรือว่ามีความเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน ในปี 2559 นั้นเคยมีงานวิจัย ซึ่งทำการวิจัยในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา มีการทำวิจัยว่าการแต่งเครื่องแบบนักเรียนนั้นมีผลต่อการเรียนอย่างไร ซึ่งก็ได้ผลออกมาว่าการแต่งเครื่องแบบนักเรียนนั้นจะเพิ่ม การเข้าเรียนของนักเรียนในระดับชั้นมัธยม ในขณะเดียวกันนั้นก็เพิ่มการอยู่ในห้องเรียนของครูในระดับประถม นักเรียนเมื่อใส่เครื่องแบบนักเรียนแล้วจะมีการเข้าเรียนที่ตรงเวลามากขึ้น การตั้งใจเรียนก็มีมากขึ้นและการส่งเสียงรบกวนในห้องเรียนนั้นก็มีน้อยลง เครื่องแบบนักเรียนนั้น เป็นแบรนด์เนมที่ราคาถูกที่สุดในโลก การใส่เครื่องแบบ นักเรียนนั้นจะได้รับความเอาใจใส่จากบุคคลรอบข้าง เมื่อใส่เครื่องแบบนักเรียนแล้วสังคมรอบข้างจะช่วยกันดูแล สังเกตได้ว่าเมื่อใส่เครื่องแบบนักเรียนแล้วและมีปัญหา ก็จะมีผู้ใหญ่เข้ามาถามว่ามีปัญหาอะไรมีอะไรให้ช่วยหรือไม่

ถ้าเราไม่อยากใส่เครื่องแบบนักเรียนนั้นเราก็ยังมีทางเลือกเช่นการเรียน กศน. การศึกษานอกโรงเรียน การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ซึ่งเราไม่ต้องแต่งเครื่องแบบเลย ก็แค่แต่งชุดให้สุภาพในการเข้าห้องสอบ หรือเลือกเรียนในระบบ Home School ทางเลือกเหล่านี้น้องหยกก็สามารถเลือกที่จะเรียนได้

เรื่องของหยกนั้น ยังมีกรณีเรื่องของผู้ปกครองอีกด้วย ซึ่งถ้าบุคคลที่อ้างตัวเป็นผู้ปกครองของน้องหยกนั้นไม่ใช่ผู้ปกครองที่ถูกต้องตามกฎหมายการมอบตัวของน้องหยกก็ย่อมจะ ไม่ถูกต้องตามไปด้วย

‘ดร.หิมาลัย’ เตือน 'พนันออนไลน์' อันตรายไม่ต่างจาก 'ยาเสพติด' เยาวชนเข้าถึงได้ง่าย เพราะเล่นได้ ทุกที่ทุกเวลา

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 66 ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้เล่าถึงประเด็น การพนันออนไลน์ ผ่านรายการ ‘คุยกับ ดร. หิมาลัย’ โดยระบุว่า…

พนันออนไลน์ร้ายกว่าเสพยา ทำไมหลายคนชอบเล่นการพนัน ถ้ามนุษย์เรามีความตื่นเต้นมีการลุ้น มันก็จะมีสารตัวนึงที่หลั่งออกมา สารนี้ชื่อว่าโดฟามีน

สารชนิดนี้ เป็นสารชนิดเดียว กับสารที่มาจากยาเสพติด มาเล่นการพนันสารชนิดนี้ก็จะหลั่งออกมาจากสมองผู้เล่นการพนันก็จะมีความรู้สึกว่าตัวเองมีความสุข ผู้เล่นการพนันจึงติดการเล่นพนัน

การเปิดบ่อนเสรีนั้น มีการถกเถียงกันมาโดยตลอดมีการหยิบยกข้อดีและข้อเสียมาพูดคุยกัน ข้อดีก็อย่างเช่นเป็นการหาเงินเข้าประเทศ เงินทองไม่รั่วไหลออกนอกประเทศ ข้อเสียก็อย่างเช่นอาจจะกระทบกับสถาบันครอบครัวซึ่งสุดท้ายแล้ว ตอนนี้ในประเทศไทยก็ยังไม่มีการเปิดก่อนเสรีกัน

การเปิดบ่อนการพนันนั้น อย่างน้อยก็จะต้องมีสถานที่ ในการเปิดบ่อน การพนัน การจะเข้าไปเล่นในบ่อนได้ก็จะมีผู้คัดกรอง ซึ่งเด็กๆไม่สามารถเข้าไปเล่นได้อย่างแน่นอน

แต่เมื่อพูดถึงการพนันออนไลน์ มันไม่จำกัดสถานที่ นี่คือสิ่งที่น่ากลัว นั่งอยู่ในห้องเรียน อาจารย์ กำลังสอนอยู่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก็สามารถเล่นการพนันได้แล้ว การพนันออนไลน์สามารถเล่นได้ทุกที่ทุกเวลา เด็กและเยาวชนก็สามารถเข้าไปเล่นได้ เพราะมันไม่มีการคัดกรอง ใช้เว็บเป็นก็สามารถเล่นได้หมด การพนันออนไลน์จึงเกิดการหาลูกค้าหน้าใหม่ขึ้นมา จากงานวิจัยนั้นผู้เล่นอายุ 15-25 ปี มีจำนวนอยู่ประมาณ 3 ล้านกว่าคน ซึ่งเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ ซึ่งอายุขนาดนี้ ก็ย่อมจะเป็นผู้เล่นกลุ่มนักเรียนนักศึกษา เมื่อมันเล่นออนไลน์แล้วก็ไม่มีเงินกินข้าวไม่มีเงินไปโรงเรียน แล้วก็ไม่กล้าที่จะบอกพ่อแม่ สิ่งที่ตามมาก็คือการไม่เข้าห้องเรียน ขาดเรียน ปัญหาสังคมก็เกิดตามมา เมื่อไม่ไปโรงเรียนก็ไปรวมกันที่แหล่ง มั่วสุม แล้วก็เจอคนชักจูงไปในทางที่ผิดเด็กที่หน้าตาดีก็จะถูกชักจูงไปขายบริการทางเพศ ถ้าใจถึงหน่อยก็ชวนไปรับเล็กขโมยน้อยไปเป็นเด็กเดินยาเสพติดหรือไปก่ออาชญากรรมอื่นๆ ซึ่งก็จะเกิดปัญหาตามมา

เด็กวัยรุ่น ที่เดินเข้าสู่การพนันออนไลน์ก็จะมีค่านิยมอยากจะกินหรู อยู่สบาย งานเบา อยากจะหาเงินได้เงินแบบง่ายๆ แล้วเมื่อเด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้อายุมากขึ้นเขาจะไปทำอะไรต่อ ในเมื่อเขาไม่เคยอดทนไม่เคยทำงานที่ลำบาก ก็อาจจะพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นเจ้าของเว็บไซต์การพนันขนาดเล็ก จนเติบโตไปสู่เว็บพนันขนาดใหญ่เป็นวัฏจักร

ประเทศชาติ ไม่ได้อะไรจากการพนันออนไลน์เลย ภาษีก็ไม่ได้ เศรษฐกิจก็ไม่มีการพัฒนา แต่มีผลเสียก็คือไปดูดเงินของคนในสังคม ออกมาสู่เงินนอกระบบ

เจ้าของเว็บพนันออนไลน์ เมื่อมีเงินแล้วก็เริ่มจะเข้าสู่ สังคมด้วยการใช้เงินนั้นสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ตัวเองดูดี เริ่มใช้เงินนั้นเข้าไปหาผู้มีอำนาจ เพื่อให้ผู้มีอำนาจนั้นการันตีตัวเองว่าตัวเองนั้นเป็นคนดี และต่อมา ก็อาจจะเข้าสู่การเป็นผู้มีอำนาจเสียเอง ก็จะเดินเข้ามาสู่การเมือง ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่อันตรายต่อประเทศชาติ

สื่อมวลชน เป็นอาชีพที่การพนันออนไลน์นั้นซื้อไม่ได้ เราจะเห็นได้ว่าเรื่องการพนันออนไลน์เรื่องนอกระบบนั้น ถูกเปิดเผยให้สังคมได้รับรู้ผ่านทางสื่อมวลชนที่มีจรรยาบรรณ ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงไหนสื่อมวลชนก็จะตามไปหาข้อมูลมานำเสนอต่อสังคม เพื่อเอามาตีแผ่

‘ดร.หิมาลัย-สส.สัญญา’ รับมอบข้าวสารจากวิสาหกิจชุมชนนครสวรรค์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย-ขาดแคลนอาหาร ตามโครงการ ‘ใจถึงใจ’

(24 ก.ย. 66) ‘มูลนิธิพระราหู’ โดย ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิพระราหูพร้อมด้วย นายสัญญา นิลสุพรรณ สส.นครสวรรค์ เขต 3 รวมทั้ง พ.อ.วาทิน เปริญกุล ที่ปรึกษามูลนิธิฯ และ คุณพิมพ์ปวีณ์ นิลสุพรรณ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมคณะ ‘ชมรม FC สัญญาใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน’ ได้ร่วมรับมอบข้าวสาร จำนวน 10 ตัน ที่สนับสนุนจัดซื้อจากวิสาหกิจชุมชน ตำบลหนองกระเจา อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตามโครงการ ‘ใจถึงใจ’

โดยมี นายณัฐวุฒิ อรุโนธา ปลัดอาวุโส อำเภอชุมแสง พร้อมด้วย นายสุพัฒน์ กันสุข นายกอบต.หนองกระเจา นางสรัญชณา กันสุข กำนันตำบหนองกระเจา นายทศพร เชาว์วิเศษ เกษตรตำบลหนองกระเจา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยฯ แพทย์ฯ สารวัตร ตำบลหนองกระเจา และสมาชิกกลุ่มสิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรม IT อินทรีย์บ้านเนินตะโก ม.11 ตำบลหนองกระเจา อ.ชุมแสง ร่วมให้การต้อนรับ และร่วมพิธีส่งมอบข้าวสารครั้งนี้

จากนั้น ดร.หิมาลัย และนายสัญญา นิลสุพรรณ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังวิสาหกิจชุมชน ต.เกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ เพื่อรับมอบข้าวสารจากการสนับสนุนจัดซื้อข้าวสารจากวิสาหกิจชุมชน ต.เกยไชย อ.ชุมแสง จำนวนอีก 10 ตัน เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตามโครงการใจถึงใจ

โดยมี นายสำรวย พระโพธิ์ นายก อบต.เกยไชย นางกัลย์ชพร รอดบำรุง สจ. นครสวรรค์ นายชัยยันต์ กองอรรถ ปลัด อบต.เกยไชย คุณสำอางค์ เปี่ยมส้ม ผู้ใหญ่ ม.7 เกยไชย นายมานพ เกตุศรีเนียม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นายนพดล มั่นศักดิ์ ผู้จัดการมูลนิธิการจัดการความรู้และเครือข่ายโรงเรียนชาวนาจังหวัดนครสวรรค์ ร่วมให้การต้อนรับ และร่วมพิธีส่งมอบข้าวสารดังกล่าว

ดร.หิมาลัย กล่าวว่า สำหรับการสนับสนุนจัดซื้อข้าวสารจากวิสาหกิจชุมชนครั้งนี้ โดย มูลนิธิพระราหู ร่วมกับ ชมรม FC สัญญาใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน โดย สส.สัญญา นิลสุพรรณ ได้ร่วมลงพื้นที่มารับมอบในการสนับสนุนจัดซื้อข้าวสารจากวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมของมูลนิธิพระราหู ซึ่งเป็นดำริของท่าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองประธานที่ปรึกษามูลนิธิฯ ได้มีแนวคิดจากการจัดกิจกรรมของมูลนิธิพระราหู ในการซื้อข้าวสารต่างๆ ไปแจกให้กับประชาชน และชาวบ้านที่มีความขาดแคลนและต้องการ แทนที่เราจะไปซื้อจากห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าต่างๆ ซึ่งเขาสามารถดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว เราจึงมีแนวคิดหันมารับซื้อจากวิสาหกิจชุมชน เพื่อให้กำลังใจและช่วยเหลือสนับสนุนเกษตรกรชาวนาให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายข้าวสาร รวมทั้งเพื่อใช้ในการแจกจ่ายถุงยังชีพ ช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยต่างๆ ตามโครงการใจถึงใจ

ดร.หิมาลัย กล่าวอีกว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ได้รับความรู้มากมาย พร้อมรับรู้ปัญหาต่างๆจากการที่ชาวบ้านได้มาร้องเรียน เนื่องจากพื้นที่ตำบลนี้ขาดแคลนน้ำเป็นอย่างมาก ซึ่งต้องต่อสู้กับ ดิน ฟ้า อากาศ ผมขอยกย่องกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และเกษตรกรชาวนาทุกท่าน ที่ยังช่วยรักษาแผ่นดินนี้ไว้ให้ลูกหลานได้ พร้อมกับดำเนินตามรอยพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ท่านให้ไว้กับพวกเราทุกคน ให้รักษาแผ่นดินนี้ไว้เป็น อู่ข้าว อู่น้ำ ซึ่งวันนี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา หลายประเทศที่ร่ำรวยเศรษฐกิจใหญ่โตมหาศาล ยังเอาตัวรอดไม่ได้ แต่ประเทศไทยของเรา ซึ่งเป็น อู่ข้าว อู่น้ำ เรารักษาแผ่นดินนี้ไว้เพื่อทำเกษตรกรรม เราสามารถเอาตัวรอดได้

“ผมรู้สึกปลาบปลื้มที่เกษตรกรชาวนาและผู้นำชุมชน ที่มีความกล้าหาญ ถึงแม้จะเจออุปสรรค ปัญหาต่างๆ มากมาย เช่น ขาดแคลนน้ำ ฝนตกไม่ตรงตามฤดูกาล แต่ก็ยังช่วยกันรักษาแผ่นดินนี้ไว้ ให้ลูกหลานได้ ผมมีความรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งครับ” ประธานที่ปรึกษามูลนิธิพระราหู  กล่าว

‘ดร.หิมาลัย’ พร้อม ‘สส.สัญญา-สุรชาติ’ ลงพื้นที่บรรเทาทุกข์ ปชช. มอบถุงยังชีพ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมใน จ.นครสวรรค์-พิจิตร

จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร โดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนและเกษตรกรที่ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก พร้อมมอบให้ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ คณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่เร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ดังกล่าวนั้น

เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 66 น.ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ คณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค) พร้อมด้วย นายสัญญา นิลสุพรรณ สส.เขต 3 นครสวรรค์/ประธานคณะ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน รวมทั้ง นายสุรชาติ ศรีบุศกร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และ น.อ.ชัยสม ร่มโพธิ์ทอง พร้อมคณะศิษย์เก่าโรงเรียนนครสวรรค์ ร่วมลงพื้นที่ ณ วัดบางไซ ต.พิกุล อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ เพื่อพบปะพูดคุยให้กำลังใจกับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม พร้อมมอบถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในพื้นที่ ต.พิกุล ต.พันลาน และ ต.หนองกระเจา อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ จำนวน 574 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

จากนั้น ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ คณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ร่วมเดินทางไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลบางเคียน อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ เพื่อพบปะพูดคุยให้กำลังใจกับพี่น้องประชานชน ผู้ประสบภัยในพื้นที่ ต.บางเคียน ต.ทำไม้ และ ต.โคกหม้อ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ พร้อมมอบถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง จำนวน 842 ชุด ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป

โดยมี นายสุวัฒน์ จันทร์สุข ปลัดจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยโท อุทิศ คงรอด นายอำเภอชุมแสง, สจ.กัลย์ชพร รอดบำรุง, สจ.ไพฑูรย์ อินทร์นาง, นายสุพัฒน์ กันสุข นายกอบต.หนองกระเจา, นายสนอง วงษ์ละม้าย นายกอบต.พิกุล, นายงาม แสนมุข นายกอบต.พันลาน, นายสุทัศน์ สิงห์กวาง นายกอบต.ฆะมัง, นายวิรัติ เหมันต์ กำนันตำบลพิกุล, นายจักรพงษ์ เพ่งผล นายกอบต.บางเคียน, นางสาวศิริ ยิ้มสาระ นายกอบต.ท่าไม้, นายสิริชัย ศรีสิทธิการ นายกอบต.โคกหม้อ, นายอำนาจ บุญเกษม กำนันตำบลท่าไม้ พร้อมพี่น้องประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับและร่วมรับมอบ

ต่อมา ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ คณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางยัง วัดบางลายใต้ ต.บางลาย อ.บังนาราง จ.พิจิตร เพื่อมอบถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ ต.บางลาย อ.บึงนาราง จ.พิจิตร อีกจำนวน 520 ชุด

โดยมี นายธงชัย ขิมมากทอง นายอำเภอบึงนาราง,นายมนัส ชมพูพื้น ปลัดอาวุโสอำเภอบึงนาราง พร้อมด้วย ผู้นำท้องท้องถิ่น นำโดย นายจักรัตน์ จันทโรทัย สจ.เขต 2 อ.บึงนาราง, นายธรรมนูญ เทศอินทร์ ประธานชมรม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อ.บึงนาราง, คุณภัทราภรณ์ จันทโรทัย รองนายก อบต.บางลาย, พ.ต.ท มานิตย์ จิตรเอก สว.สภ.บางลาย, นายวิรัตน์ สุขเหม กำนันตำบลบึงนาราง, นายชุติชัย ตังสุวรรณ์ กำนันตำบลท้ายน้ำ, นายสุพจน์ อ่อนเนียม กำนันตำบลโพทะเล พร้อมพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับและร่วมรับมอบครั้งนี้

'ดร.หิมาลัย' จัดโครงการอุปสมบทหมู่ ตามรอยพระบรมศาสดา สู่ดินแดนพุทธภูมิ แสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน 4 ตำบล รุ่นที่ 5 ปี 2566 ณ ประเทศอินเดีย - เนปาล

'ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ' คณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ประธานจัดโครงการฯ นำคณะเข้าพิธีบรรพชาและพิธีอุปสมบทหมู่ ณ วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย

เมื่อวันที่ 30 พ.ย.66 ที่ วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย บริษัทรักษาความปลอดภัย จีจีไอ.กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับ 'มูลนิธิพระราหู' นำคณะผู้เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 43 ท่าน เข้าพิธีบรรพชา ณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ และเข้าพิธีอุปสมบทหมู่ ณ พระอุโบสถ วัดไทยพุทธคยา ตามโครงการอุปสมบทหมู่ ตามรอยพระบรมศาสดา สู่ดินแดนพุทธภูมิ แสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน 4 ตำบล รุ่นที่ 5 ปี 2566 ณ ประเทศอินเดีย - เนปาล ระหว่างวันที่ 29 พ.ย.– 13 ธ.ค.66 

โดยมี ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ คณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค )/ประธานที่ปรึกษา 'มูลนิธิพระราหู'/ประธานจัดโครงการอุปสมบทหมู่ และประธานพระนวกะโพธิ รุ่นที่ 1 ให้เกียรติมาเป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย คุณพจน์ บุญดวงประเสริฐ คุณไพบูลย์ ศิริภาณุเสถียร กรรมการบริหาร บริษัท อสทม.จำกัด (มหาชน) คุณนรินทร สุขเกษม หัวหน้ากลุ่มขายเส้นทางเอเชียใต้และประเทศตะวันออกกลาง รวมทั้ง คณะญาติโยมและคณะศิษยานุศิษย์ ให้เกียรติเข้าร่วมพิธีฯ

ทั้งนี้ พระเดชพระคุณ พระธรรมโพธิวงศ์ วีรยุทธ วีรยุทฺโธ เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา หัวหน้าธรรมทูต สายประเทศอินเดียเนปาล เมตตาเป็นพระอุปัชฌาย์ และเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย พระครูอุดมโพธิวิเทศ เจ้าอาวาสวัดพระรามอโยธยาราชธานี หัวหน้ากองงานกิจการพิเศษ พระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล เมตตาร่วมพิธีฯ

หลังจากนั้น ในระหว่างวันที่ 1-13 ธ.ค.66 คณะพระนวกะโพธิ และคณะแม่ชี ที่ร่วมโครงการอุปสมบทหมู่ฯ รุ่นที่ 5 พร้อมคณะศิษยานุศิษย์ จะร่วมเดินทางไปปฏิบัติธรรม เพื่อตามรอยพระบรมศาสดา สู่ดินแดนพุทธภูมิ แสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ณ ประเทศอินเดีย - เนปาล เป็นลำดับต่อไป

‘ดร.หิมาลัย’ ยัน!! รทสช. ไม่เกี่ยวข้องพฤติกรรม ‘เจ๋ง ดอกจิก’ ชี้!! ‘ถูก-ผิด’ ต้องว่าไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

(9 ก.พ. 67) ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ในรายการ TOP NEW Talk กรณีนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เข้าไปพัวพันกับขบวนการตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยระบุว่า เรื่องดังกล่าวเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคลของคุณเจ๋ง ดอกจิก ซึ่งทางพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่มีเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมดังกล่าวแต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่มีข่าวลือว่าตนเป็นคนชักชวนเจ๋ง ดอกจิก เข้าพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ทั้งนี้หากคนที่ติดตามการเมืองมาตลอด จะทราบว่า เจ๋ง ดอกจิก อยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดง และเมื่อช่วงใกล้จะเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ทางเจ๋ง ดอกจิก ได้เข้ามาที่พรรคฯ เพื่อขอร่วมงานทางการเมืองด้วยกันกับทางพรรค โดยได้ยกประเด็นเรื่องการสลายสีเสื้อเพื่อความสมานฉันท์ของคนในชาติ ซึ่งตรงกับแนวทางนโยบายของพรรคพอดี

ดร.หิมาลัย ย้ำว่า กรณีที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะมีคนของพรรครวมไทยสร้างชาติเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อพรรค เนื่องจากเป็นการกระทำส่วนตัว และที่สำคัญคือพรรครวมไทยสร้างชาติ และ ท่านพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคฯ ได้เน้นย้ำเสมอถึงความซื่อสัตย์สุจริต แม้แต่โครงการต่าง ๆ ที่สส.ของพรรคต้องการผลักดัน ถ้าโครงการนั้นเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ท่านก็จะให้ดำเนินการตามระเบียบของราชการ หากกฎเกณฑ์เป็นอย่างไรก็ให้ทำตามนั้น

ส่วนเรื่องที่มีการกล่าวหาว่า ท่านพีระพันธุ์ ปลด เจ๋ง ดอกจิก จากคณะทำงาน เพื่อช่วยเหลือให้ได้รับโทษน้อยลงนั้น ดร.หิมาลัย ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน เพราะท่านพีระพันธุ์ เป็นคนทำงานเที่ยงตรงและโปร่งใส แต่ทางคุณเจ๋งเอง ที่ได้มาขอลาออกก่อนหน้านี้ เพราะไม่สะดวกที่จะเดินทางไปทำงานในพื้นที่ต่างจังหวัด พร้อมทั้งได้แนะนำให้แต่งตั้งพิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือคุณการ์ตูน แทนตนเอง โดยให้เหตุผลว่าเคยเป็นผู้สมัครสส.ของพรรคมาก่อน อย่างไรก็ดี หนังสือแต่งตั้งที่ท่านพีระพันธุ์ ลงนามไปนั้น เป็นเพียงร่างคำสั่งแต่งตั้งเท่านั้น และคำสั่งนั้นก็ยังอยู่บนโต๊ะเจ้าหน้าที่ ยังไม่ได้ประกาศออกไป เพราะท่านลงนามในช่วงเที่ยง ๆ จากนั้นเวลาประมาณบ่ายสองโมง ก็มีข่าวเรื่องตบทรัพย์ออกมา จึงมีการระงับร่างคำสั่งนั้นไว้ก่อน

“การที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าท่านพีระพันธุ์ ปลดคุณเจ๋ง ดอกจิก ออกจากคณะทำงาน เพื่อช่วยให้รับโทษน้อยลง เรื่องนี้ผมยืนยันได้ว่าไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน เพราะจากการทำงานกับท่านพีระพันธุ์ มาหลายปี ผมบอกได้เลยว่าท่านเป็นคนทำงานตรงไปตรงมา เปรียบดังไม้บรรทัดก็ว่าได้ ทุกอย่างยึดตามหลักเกณฑ์ตามตัวอักษรเป๊ะ ๆ เพราะฉะนั้นหากคุณเจ๋ง ทำผิดจริง ท่านไม่มีทางช่วยคนผิดอย่างแน่นอน และในวันที่เกิดเรื่อง ทางคุณเจ๋งจะเข้ามาลา แต่ท่านก็ไม่ให้เข้าห้องทำงาน แต่ท่านออกมาพบข้างนอก พร้อมกับบอกให้ไปต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมาย และอธิบายให้สังคมฟัง จากนั้นก็ได้ให้เชิญทั้ง 2 ท่านนี้ออกจากที่ทำงานของท่านทันที” 

'มูลนิธิพระราหู' ลงพื้นที่ 'เกาะกูด' เยี่ยม 'ทหาร-ตำรวจ' พร้อมมอบถุงยังชีพ เพื่อกระตุ้นขวัญกำลังใจ พร้อมยกย่อง ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ดูแลปกป้องชายแดน

เมื่อวานนี้ (15 มี.ค.67) เวลา 15.00 น.ที่หน่วยปฏิบัติการ เกาะกูด (นปก.เกาะกูด) อำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด มูลนิธิพระราหู โดย ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิพระราหู พร้อมด้วย พล.ท.ปธาน ทองขุนนา ที่ปรึกษามูลนิธิพระราหู และคณะ เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพ มอบเงิน ให้แก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการชายแดนเกาะกูด จ.ตราด 

โดยมี พล.ร.ต.นิรัตน์ ทากุดเรือ ผู้บัญชาการศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน/ผู้บัญชาการโรงเรียนทหารนาวิกโยธินฯ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนกฤษ พาภิรมย์ รอง ผบก.ภ.จว.ตราด พร้อมทั้งหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด นำโดย น.ท.อนุรักษ์ คงคา (รน.),หน่วย ชพส. 1305ฯ นำโดย น.ต.ไพศาล ไคร่ครวญ (รน.), ชุดเฝ้าตรวจนาวิกโยธิน พื้นที่เกาะกูด นำโดย ร.ท.สุเมธ สีอินมน (รน.) และสภ.เกาะกูด นำโดย พ.ต.ท.คมสัน ศรีงิ้ว รอง ผกก.(ป) นำกำลังพลของหน่วยปฏิบัติการเกาะกูดและข้าราชการตำรวจ สภ.เกาะกูด ร่วมให้การต้อนรับและร่วมรับมอบถุงยังชีพ 

ในโอกาสนี้ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ได้กล่าวทักทายและชื่นชมกำลังพล การปฏิบัติงานของหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยสติรู้ตัว ปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ จากนั้นได้ขับกล่อมบทเพลง 'สุดแผ่นดิน' เพื่อเป็นกำลังใจ แด่ข้าราชการ ทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่ รักษาอธิปไตย น่านน้ำทะเลไทยพื้นที่เกาะกูด จ.ตราด ราชอาณาจักรไทย รวมทั้ง กล่าวให้กำลังใจข้าราชการตำรวจ สภ.เกาะกูด ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนในพื้นที่ ด้วยความสงบเรียบร้อยโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น

สำหรับในส่วนของ หน่วยปฏิบัติการเกาะกูด (นปก.) เป็นหน่วยเฉพาะกิจของ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) ที่ขึ้นการควบคุมทางยุทธการกับกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด มีที่ตั้งหน่วยบนเกาะกูด อำเภอเกาะกูด จังหวัดตราดโดยกองทัพเรือจัดตั้งหน่วยตรวจการณ์พิเศษที่ 1 บนเกาะกูด เมื่อปี พ.ศ.2521 ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2529 กองทัพเรือได้อนุมัติเปลี่ยนชื่อจากหน่วยตรวจการณ์พิเศษที่ 1เป็นหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด จนถึงปัจจุบัน และในปี พ.ศ.2534 สอ.รฝ.อนุมัติให้ กรมรักษาฝั่งที่ 1 เป็นหน่วยรับผิดชอบในการจัดกำลัง

ทั้งนี้ นปก.มีภารกิจ ได้แก่ การป้องกันการคุกคามทางทะเล และทางอากาศ คุ้มครองเรือประมงไทย สนับสนุนการปฏิบัติการของเรือและกำลังทางบก ปฏิบัติการจิตวิทยา และประชาสัมพันธ์กับส่วนราชการ และราษฎรในพื้นที่เกาะกูด สนับสนุนและร่วมกับหน่วยงานราชการ ประชาชนร่วมทำจิตอาสาพัฒนาชุมชน บ้าน วัด โรงเรียน ซึ่ง นปก.มีความสัมพันธ์อันดีและประสานการปฏิบัติงานร่วมกัน มาอย่างต่อเนื่อง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top