Saturday, 18 May 2024
หมอพรทิพย์

'ผศ.ดร.อานนท์' โพสต์!! ปม ‘หมอพรทิพย์’ ถูกไล่ออกจากร้านอาหาร ชี้!! การเลือกปฏิบัติแบบนี้ นับเป็นสิ่งผิดกม.ที่ทุกประเทศบัญญัติไว้

(30 ก.ย.66) ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก 'Arnond Sakworawich' ระบุว่า…

การไล่คุณหญิงหมอพรทิพย์ออกจากร้านอาหารที่ไอซ์แลนด์ ​เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายเรียกว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ โดยความแตกต่างทางความเชื่อด้านการเมือ​ง​ รัฐธรรมนูญ​ของแทบทุกประเทศได้บัญญัติเรื่อง​ Unfair treatment กับ​ Discrimination เอาไว้แทบทั้งนั้นรวมทั้งประเทศไทยด้วย​ ทั้งนี้ยังเป็นการหมิ่นประมาทร้ายแรงด้วย

ในทางประชาธิปไตยนั้นสิ่งที่เชฟคนไทยทำกับคุณหญิงหมอก็ไม่เป็นประชาธิปไตยเพราะไม่ยอมรับความเห็นต่าง ในทางมารยาทสังคมก็ถือว่าทรามมาก ในทางธุรกิจก็ถือว่าล้มเหลวสุดที่ปฏิบัติกับลูกค้าเช่นนี้​ ชื่อเสียงของร้านพังย่อยยับ​ เชฟสามกีบคงต้องตกงาน​ในไม่ช้า

สวัสดี

'พิธา' เห็นใจ 'หมอพรทิพย์' ชวนสังคมร่วมกัน 'อดทน-มีวุฒิภาวะ' ชี้!! 'ตาต่อตา-ฟันต่อฟัน' ไม่ช่วย แนะ!! ควรหารูระบายขจัดขัดแย้ง

(30 ก.ย. 66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึง กรณีแพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภาเดินทางไปต่างประเทศ และถูกคนไทยเจ้าของร้านอาหารไล่ออกจากร้าน ว่า ทั้งในฐานะนักการเมืองและส่วนตัวตน ตนอยากเชิญชวนทุกคนมาสร้างสังคมที่อดทนอดกลั้น แสดงออกอย่างอดทนอดกลั้น มีวุฒิภาวะ เชิญชวนให้มาสร้างระบบพรรคการเมืองที่ตรงไปตรงมา และมีรูระบายในการกำจัดความขัดแย้ง

ทั้งนี้ ส่วนตัวคิดว่าตาต่อตาฟันต่อฟันไม่ได้ช่วยอะไร ตนเป็นนักการเมืองเข้าใจดีเวลาลงพื้นที่ต่างจังหวัด หรือไปกับครอบครัว ก็เจอการแสดงออกของประชาชนที่คล้าย ๆ กัน ตนเข้าใจว่าตนเป็นบุคคลสาธารณะ แต่การอนุญาตให้แสดงออกโดยไม่คำนึงถึงระบบก็น่าเสียดาย

จากที่ตนได้ตามข่าวมา คู่กรณีที่เกิดขึ้นเป็นคนที่ชื่นชอบคุณหญิงพรทิพย์ แต่เกิดขึ้นจากระบบที่ไม่ตรงไปตรงมา และระบบทำให้เกิดความขัดแย้ง มาจากเสียงประชาชนที่มาจากเลือกตั้ง และเสียงในสภาที่มาจากการแต่งตั้งที่ไม่ตรงไปตรง และเกิดความอึดอัดที่ต้องระบายออก ตนก็เข้าใจพี่น้องประชาชนที่อดทนอดกลั้น และรู้สึกไม่สบายใจกับการเข้าสู่อำนาจของการเมืองไทย และระบบการเมืองไทยที่ผ่านมา ก็อยากให้ระบบมันดี ถ้าระบบมันดี เรื่องลักษณะแบบนี้ก็จะน้อยลง เพราะมีรูระบายในระบบ แต่ในส่วนของบุคคล ความมืดไล่ความมืดไม่ได้ แต่ต้องเป็นความสว่าง จึงอยากให้ช่วยกันสร้างสังคมที่อดทนอดกลั้น และมีวุฒิภาวะ ระบบที่เสถียร ทำให้ความอึดอัดส่วนตัวน้อยลง

‘หมอพรทิพย์’ ถึงไทยแล้ว พร้อมขอโทษ ปมถ่ายภาพบน ‘ลาวามอส’ แจง ไม่มีป้ายเตือน-ไม่ได้ศึกษากฎให้ดี ต่อไปจะระวังให้มากขึ้น

(1 ต.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปวิดีโอ ชายเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นคนไทย ได้ไลฟ์สดขับไล่ แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ หรือ ‘หมอพรทิพย์’ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่มีคณะติดตามไปด้วย ออกจากร้านของตัวเอง

ล่าสุด แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Porntip Rojanasunan’ ระบุว่า…

“กลับถึงไทยแล้ว ขออนุญาตเรียนตามทีบอกไว้เรื่องทริปนี้ ส่วนเรื่องการถูกไล่ออกจากร้านอาหารที่ไอซ์แลนด์ ได้เป็นบททดสอบธรรมะในตน ทันทีที่ทราบว่าเขาเกลียดมากจนชี้หน้าด่า หมอกลับรู้สึกเฉยและมองไปข้างหลังและข้างหน้าของเขาที่จะเป็นเช่นไร ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคำแนะนำ แต่ขออนุญาตเลือกที่จะใช้ธรรมะจัดการมากกว่าใช้กฎหมายจัดการ”

“ส่วนเรื่องการถ่ายภาพบนลาวามอส ก็ถือเป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้ศึกษากฎระเบียบให้ชัดเจน ในบริเวณที่ลงถ่ายไม่มีป้ายจึงทำไม่ถูกระเบียบ แจ้งมาก็เพื่อให้รู้ว่าหมอผิดพลาดเอง และแก้ไขทันทีที่ทราบทันที จึงลบออกตั้งแต่ยังไม่กลับมา แต่ก็ไม่ทันสำหรับคนที่เกลียดชังนำไปขยายผล ขอบคุณอีกครั้ง”

‘ปารีณา’ ซัด!! ‘หมอพรทิพย์’ ดันทุรัง ร้านอาหารมีสิทธิที่จะไล่ ชี้ เป็นบุคคลสาธารณะ ต้องยอมรับผลการกระทำของตนเอง

หลังเกิดดรามา ‘คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์’ สว. ถูกชายไทยคนหนึ่งอ้างเป็นเจ้าของร้านอาหารในประเทศไอซ์แลนด์ ไล่ออกจากร้านขณะจะเข้าไปรับประทานอาหาร งานนี้ชาวเน็ตเสียงแตกเป็น 2 ฝ่าย มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของชายคนดังกล่าว

ในจำนวนนี้มีอดีตนักการเมืองคนดัง ‘น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์’ อดีต สส.ราชบุรี ที่โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้ว่า…

“#หมอพรทิพย์ #ดันทุรังเอง มันเป็นสิทธิของร้านอาหารนะ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดคือ… ไม่ต้อนรับ ไม่ให้บริการ ถ้าครั้งแรกเขาไล่ ก็ควรรีบไป ชัดเจนว่า…หมอพรทิพย์ดันทุรังอยู่ต่อ จึงต้องรับสภาพ”

“เห็นภาพ ไม่ได้รู้สึกเห็นใจท่าน สว. หรือ สส. เลย รู้สึกแต่เสียดายเงินภาษีประชาชน เมื่อช่วงที่บ้านเมืองกำลังมีปัญหาต้องแก้ไขเยอะ ช่วงที่มีประชุมสภา สส. สว. ยังจะมีอารมณ์มาเล่นดนตรีไทยที่ไอซ์แลนด์ได้อย่างไรคะ”

“สุดท้าย บุคคลสาธารณะ ต้องยอมรับผลของการกระทำตนเอง เปรียบเมื่อเจ้าฟ้าชายชาวล์เฉยเมย เมื่อรัฐบาลอังกฤษขึ้นค่าเทอมนักเรียน ถูกปาก้อนหินใส่รถ ทั้งที่ท่านไม่มีหน้าที่อะไรในรัฐบาล หรือโจ ไบเดน ถูกชาวบ้านตะโกนใส่ว่า ฟั..ก ไบเดน สาเหตุจากไบเด้รบริหารประเทศชาติได้พังพินาศ”

‘สว.สมชาย’ รับไม่ได้!! พนง.ร้านอาหารที่ไอซ์แลนด์ไล่ ‘หมอพรทิพย์’ ทั้งที่ ‘คนยุโรป-ทั่วโลก’ ต่างนับถือชื่นชม สมัยลงไปลุยช่วยสึนามิ

(1 ต.ค. 66) นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และอดีตผู้อำนวยการร่วมด้วยช่วยกัน โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า...

ภาพและข้อความนี้มีความหมายยิ่งครับ

ก่อนหน้านั้นผมไม่เคยรู้จัก ‘คุณหญิงหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์’ เป็นการส่วนตัวมาก่อน เพิ่งพบเจอกันครั้งแรกเมื่อช่วงเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547

คุณหญิงหมอพรทิพย์ ลงไปลุยทำงานสึนามิ ระดมสรรพกำลังช่วยตรวจสอบพิสูจน์อัตลักษณ์ ศพนิรนามทั้งคนไทยและชาวต่างชาติมากมาย หลายพันศพ

คนยุโรปและทั่วโลกนับถือคุณหมอ ซึ่งเป็นทั้งญาติผู้สูญหายและในระดับรัฐบาลขอบคุณและชื่นชมในความทุ่มเทเสียสละของคุณหญิงหมออย่างยิ่ง

ผมจำเหตุการณ์สึนามิในครั้งนั้นได้ดี เพราะเป็นผู้นำทีมร่วมด้วยช่วยกันลงไปร่วมช่วยผู้ประสบภัย ค้นหาศพ และร่วมสร้างบ้านน็อกดาวน์ ฯลฯ

จึงได้พบและรู้จักกับคุณหมอครั้งแรกที่นั่น ที่วัดย่านยาว ซึ่งคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นศพนิรนามที่ต้องรอการพิสูจน์อัตลักษณ์หลายร้อยหลายพันศพ

ช่วงนั้นทราบข่าวจากสื่อว่า คุณหมอและทีมพิสูจน์อัตลักษณ์ ต้องการกล้องถ่ายรูปความคมชัดสูง10 หรือ 20 ล้านพิกเซล (ในสมัยนั้น)

ผมจึงได้ประสานกับผู้บริหารยูคอมและร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อจัดหาและร่วมส่งมอบให้ทีมงานนิติวิทยาศาสตร์ของคุณหมอ ร่วมสนับสนุนงานดังกล่าวด้วยความศรัทธาในทันที

วันนี้เห็นสิ่งที่คุณหมอเสียสละทำงานเพื่อประเทศชาติและโลกแล้ว ถูกกระทำเช่นนี้แล้ว รับไม่ได้ครับ

เพราะเทียบชั้นกันไม่ได้เลยกับเด็กทำครัวคนหนึ่งที่ไอซ์แลนด์ ไม่เคยสร้างผลงานใดๆ ให้ประเทศชาติ กลับมีพฤติกรรมต่ำๆ ออกมาในคลิปที่คุกคามขับไล่ออกจากร้าน ด้วยความคลั่งไคล้การเมืองสุดโต่งแบบนั้น

ส่วนตัวผมถือว่าหยาบคายต่ำชั้นมากครับ
เพราะถ้านับคุณค่าคนกันแล้ว  
คนละระดับ คนละโลกกันเลยครับ

ศาลฯ ยกฟ้อง 'คุณหญิงพรทิพย์' ปม GT 200 ไม่พบการทุจริต ด้าน ทนายซัด!! ปปช.เหมือนสั่งประหารชีวิต ทั้งที่รู้อยู่ว่าไม่ผิด

เมื่อวานนี้ (26 มี.ค. 67) ที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.เลียบทางรถไฟ ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขดำ อท 98/2566 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ฟ้อง แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กับพวกรวม 10 คน เป็นจำเลย ฐานร่วมกันทุจริตและประพฤติมิชอบคดีจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดและสารเสพติด จีที 200 และอัลฟา เมื่อปี พ.ศ. 2551 ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์

ภายหลัง ดร.ณรงค์ พลมาตร์ ทนายความ เปิดเผยว่า ศาลพิเคราะห์หลักฐานหลังการไต่สวนพยานครบถ้วนแล้ว ไม่พบว่า คดีมีมูลความผิด หรือการทุจริต มีการแสวงหาประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่นโดยมิชอบและไม่พบว่า คุณหญิงพรทิพย์ กับเจ้าหน้าที่ประพฤติมิชอบ มีเจตนาจงใจ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และไม่ปฏิบัติตามระเบียบพัสดุ ว่าด้วยการจัดซื้อ จัดจ้าง แต่อย่างใด

ศาลจึงพิพากษายกฟ้อง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนะสุนันท์ และเจ้าหน้าที่ ทุกข้อกล่าวหา

​ดร.ณรงค์ กล่าวว่า การถูกกล่าวหาว่าทุจริตคอร์รัปชันซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับราชการ โดยเฉพาะข้าราชการที่ลงไปทำงานในพื้นที่อันตรายที่มีความเสี่ยงตลอดเวลา เมื่อมีการกล่าวหาและให้ข่าวต่อสาธารณะ โดยเลขาธิการ ป.ป.ช. เป็นเหมือนการประหารชีวิต ทั้งที่ ป.ป.ช.ทราบอยู่แล้วว่าไม่มีหลักฐานการทุจริตคอร์รัปชัน ตั้งแต่ในชั้นการสอบสวน และตลอดระยะเวลา 14 ปี มีบุคคลพยายามสื่อสาร สร้างข่าว สร้างกระแสในทางลบต่อคุณหญิงพรทิพย์ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ว่าเป็นต้นเหตุก่อให้เกิดการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดและสารเสพติด จีที 200 และอัลฟา ทำให้เกิดความเสียหาย​โดยข้อเท็จจริง หน่วยงานความมั่นคงได้ดำเนินการจัดซื้อ GT 200 ดังนี้ 

1.กองทัพอากาศ จัดซื้อครั้งแรกปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 รวมจัดซื้อ 26 เครื่อง 
2.กองทัพบก จัดซื้อครั้งแรกปีงบประมาณพ.ศ. 2550 รวมจัดซื้อ 757 เครื่อง 
3.กองทัพเรือ จัดซื้อครั้งแรกปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 รวมจัดซื้อ 38 เครื่อง 
4.กรมราชองครักษ์ จัดซื้อครั้งแรกปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 รวมจัดซื้อ 8 เครื่อง 
5.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จัดซื้อครั้งแรกปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 รวมจัดซื้อ 6 เครื่อง

​“การที่ ป.ป.ช. ตั้งข้อหาทุจริต ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงมาก และการกล่าวหาว่าประพฤติมิชอบ ซึ่งหมายถึงการกล่าวหาว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง ทั้งที่ผู้เชี่ยวชาญ และ กรมบัญชีกลางให้ความเห็น และตรวจสอบความชอบแล้ว ดังนั้น การที่ ป.ป.ช. ได้กล่าวหาโดยไร้พยานหลักฐาน แต่อ้างเป็นความเห็นส่วนตัว สร้างตราบาปให้ข้าราชการ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์และคุณหญิงพรทิพย์ มาตลอดระยะเวลา 14 ปี (กล่าวหาปี 2553 พิพากษา 2567) และมีเจ้าหน้าที่บางหน่วยเครียดจนต้องจบชีวิตตัวเอง” ดร.ณรงค์ กล่าว

ดร.ณรงค์ กล่าวย้ำว่า ป.ป.ช. ใช้เวลาในการสอบสวนเป็นเวลานานโดยผู้ที่ถูกกล่าวหาไม่เคยได้มีโอกาสชี้แจงทั้งก่อนและหลังการชี้มูล ทั้งนี้ เมื่อร้องขอความเป็นธรรมตามมาตรา 99 อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ และกรรมการจัดซื้อจัดจ้างเนื่องจากเห็นว่าไม่ได้กระทำความผิด แต่ ป.ป.ช.นำคดีมายื่น ฟ้องเอง ซึ่งศาลได้ไต่สวนโดยละเอียดและตรวจสอบพยานบุคคล เอกสาร ผู้เชี่ยวชาญ ยืนยัน ไม่พบการทำผิดใด ๆ ในข้อกล่าวหาว่า ทุจริต ประพฤติมิชอบ ดังนั้น ข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช. ทั้งหมดจึงไม่เป็นความจริง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top