Sunday, 19 May 2024
สหรัฐ

‘หนุ่มอพยพจากลาว’ ในสหรัฐฯ ถูกหวยพาวเวอร์บอล 48,000 ลบ. ตั้งใจ!! จะนำไปเลี้ยงดูครอบครัว - รักษาตัวหลังป่วยเป็นโรคมะเร็ง

(30 เม.ย.67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โฆษกสำนักงานสลาก ‘โอเรกอน ลอตเตอรี่’ เปิดเผยว่า หนึ่งในผู้โชคดีถูกรางวัลใหญ่แจ็กพอต ‘พาวเวอร์บอล’ งวดเดือนที่แล้ว ที่มีเงินรางวัลสมทบสูงถึง 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 48,165 ล้านบาท เป็นชายวัย 46 ปี ผู้อพยพจากประเทศลาว ชื่อว่านายเชง หรือ ชาร์ลี แสพาน จากเมืองพอร์ตแลนด์ ซึ่งเขาเป็นผู้ป่วยมะเร็งมา 8 ปีแล้ว และได้รับการรักษาด้วยคีโมบำบัดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

โดยนายเชง กล่าวว่า หลังหักภาษีแล้วเขาจะได้รับเงินสดจำนวน 422 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.56 หมื่นล้านบาท โดยเขาและนางเดือนเพ็น ภรรยา จะแบ่งรางวัลเท่า ๆ กันให้กับเพื่อนอีกคนหนึ่งที่หุ้นกันซื้อลอตเตอรี่ฉบับนี้ ที่มีมูลค่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ เขากล่าวว่าเงินก้อนนี้จะทำให้เขาสามารถเลี้ยงดูครอบครัวและรักษาตัวเองได้ โดยเขาจะหาหมอที่ดีสำหรับตัวเอง แต่ในฐานะที่เป็นผู้ป่วยโรคมะเร็ง เขาสงสัยว่า จะมีเวลาใช้เงินทั้งหมดนี้ได้อย่างไร และเขาจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน

‘สหรัฐฯ’ วอน ‘จีน-รัสเซีย’ เร่งประกาศเจตนารมณ์ “การใช้นิวเคลียร์ต้องตัดสินใจโดยมนุษย์ ไม่ใช่ AI”

(2 พ.ค.67) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมาเรียกร้องให้จีนและรัสเซียประกาศเจตนารมณ์ในลักษณะเดียวกับสหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ ว่าการใช้อาวุธนิวเคลียร์จะต้องอยู่ภายใต้การตัดสินใจโดยมนุษย์เท่านั้น ไม่ใช่โดยปัญญาประดิษฐ์ (AI)

นายพอล ดีน รองผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ประจำสำนักควบคุม ป้องปราม และเสถียรภาพอาวุธ กล่าวในงานแถลงข่าวออนไลน์ว่า รัฐบาลสหรัฐได้ให้คำมั่นอย่างชัดเจนและเด็ดขาดว่า มนุษย์เท่านั้นที่มีอำนาจควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมด โดยฝรั่งเศสและอังกฤษก็ได้ประกาศเจตนารมณ์ในทำนองเดียวกัน

“เราหวังว่าจีนและสหพันธรัฐรัสเซียจะออกแถลงการณ์ในลักษณะเดียวกัน” นายดีนกล่าวและว่า “เราเชื่อว่านี่เป็นบรรทัดฐานสำคัญอย่างยิ่งของพฤติกรรมที่มีความรับผิดชอบ และจะเป็นที่ยินดีอย่างยิ่งในบริบทของ P5” 

ทั้งนี้คำกล่าวของ นายดีน ยังหมายรวมถึง 5 ประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วย

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความเห็นของนายดีนมีขึ้นในขณะที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน พยายามที่จะมีการหารือกับจีนอย่างละเอียด ทั้งในเรื่องนโยบายอาวุธนิวเคลียร์และการเติบโตของ AI

ประเด็นการแพร่กระจายเทคโนโลยี AI ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยในการเจรจาครั้งสำคัญระหว่างนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 26 เม.ย.

นายบลิงเกนกล่าวว่า “ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดการประชุมทวิภาคีเกี่ยวกับ AI เป็นครั้งแรกในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยจะแลกเปลี่ยนมุมมองกันว่าจะบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี AI ให้ดีที่สุดได้อย่างไร ในฐานะส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูการสื่อสารทางทหารให้กลับสู่ภาวะปกติ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนได้กลับมาหารือเรื่องอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้งในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี คาดว่าจะยังไม่มีการเจรจาควบคุมอาวุธอย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้”

‘ไบเดน’ กร้าว!! สหรัฐฯ จะ ‘หยุดส่งอาวุธ’ ให้อิสราเอล หากกองทัพยิวเปิดปฎิบัติการบุกโจมตีเมืองราฟาห์

(9 พ.ค. 67) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ออกมาเตือนอิสราเอลต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก ในวันที่ 8 พฤษภาคม ว่า สหรัฐจะหยุดจัดหาอาวุธให้อิสราเอล หากกองกำลังป้องกันอิสราเอล (ไอดีเอฟ) บุกโจมตีเมืองราฟาห์ ซึ่งตั้งอยู่ตอนใต้ของฉนวนกาซาที่เต็มไปด้วยผู้ลี้ภัยสู้รบชาวปาเลสไตน์มากกว่า 1 ล้านคน

“ผมบอกให้ทราบชัดเจนว่า หากพวกเขาเข้าไปในราฟาห์ ผมจะไม่จัดหาอาวุธที่เคยใช้ในอดีตเพื่อให้พวกเขานำไปใช้ในราฟาห์หรือในเมืองอื่น ๆ นั่นคือวิธีที่จะจัดการกับปัญหานั้น” ไบเดนกล่าวขณะให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น

ท่าทีดังกล่าวของไบเดนถือเป็นคำประกาศที่แข็งกร้าวที่สุดของเขานับตั้งแต่อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการโจมตีตอบโต้กลับในฉนวนกาซาจนถึงปัจจุบัน ภายใต้ความพยายามที่จะยับยั้งการโจมตีเมืองราฟาห์ของอิสราเอล แต่ก็เป็นการตอกย้ำความแตกแยกที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างสหรัฐและชาติพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดในตะวันออกกลาง

ไบเดนยอมรับว่า อิสราเอลได้ใช้อาวุธของสหรัฐเพื่อสังหารพลเรือนในฉนวนกาซา พลเรือนที่ถูกสังหารในกาซาเป็นผลจากระเบิดเหล่านั้นและวิธีการอื่น ๆ ทั้งนี้ คำกล่าวของไบเดนดังกล่าวเป็นการตอบคำถามถึงระเบิดที่มีน้ำหนักรวม 2,000 ปอนด์ที่สหรัฐส่งให้กับอิสราเอล

เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐซึ่งไม่เปิดเผยชื่อกล่าวว่า สหรัฐได้ตรวจสอบการส่งมอบอาวุธที่อาจถูกนำไปใช้ในราฟาห์อย่างรอบคอบแล้ว และด้วยเหตุนี้จึงมีการระงับการขนส่งระเบิดน้ำหนัก 2,000 ปอนด์จำนวน 1,800 ลูก และระเบิดน้ำหนัก 500 ปอนด์ จำนวน 1,700 ลูก

กิลาด เออร์ดาน เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรอิสราเอลประจำสหประชาชาติ ประณามการตัดสินใจของสหรัฐในการเลื่อนการส่งมอบอาวุธให้อิสราเอลออกไป โดยระบุว่าเป็นเรื่องน่าผิดหวังมาก แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อว่าสหรัฐจะยุติการส่งมอบอาวุธต่าง ๆ ให้กับอิสราเอลก็ตาม

การคาดการณ์ของเออร์ดานสอดคล้องกับท่าทีของไบเดนที่ยืนยันขณะให้สัมภาษณ์ว่า สหรัฐจะยังจัดหาอาวุธเพื่อป้องกันตนเองให้กับอิสราเอลต่อไป รวมถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศไอรอนโดมด้วย

“เรากำลังดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่า อิสราเอลมีความปลอดภัยในแง่ของไอรอนโดม และยังคงมีความสามารถในการตอบสนองการโจมตีที่มาจากตะวันออกกลางที่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ แต่เราจะไม่จัดหาอาวุธและกระสุนปืนใหญ่ เราจะไม่ทำ เพราะมันผิด” ไบเดน กล่าว

การสัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นของผู้นำสหรัฐในครั้งนี้ถูกเผยแพร่เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ออกมายอมรับต่อสาธารณะเกี่ยวกับการตัดสินใจของไบเดน ที่จะระงับการส่งระเบิดหลายพันลูกให้กับอิสราเอลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากวิตกกังวลเกี่ยวกับราฟาห์ ซึ่งสหรัฐคัดค้านการรุกครั้งใหญ่ของอิสราเอลโดยไม่มีมาตรการปกป้องพลเรือน

'พาณิชย์จีน' ค้าน 'สหรัฐฯ' ขึ้นภาษีนำเข้า 'อีวี-โซลาร์เซลล์' ชี้!! เป็นการขัดระเบียบการค้าโลก ควรยกเลิกทันที

(17 พ.ค.67) จากเพจเฟซบุ๊ก ‘Salika’ โพสต์ข้อความระบุว่า…

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (14 พ.ค.67) กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกมาแสดงการคัดค้านและประท้วงกรณีสหรัฐฯ ปรับขึ้นการจัดเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติมกับสินค้าจีนบางส่วน และจะดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของจีน

สหรัฐฯ มีมติปรับขึ้นการจัดเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติมกับการนำเข้าสินค้าจีน ได้แก่ ยานยนต์ไฟฟ้า ในอัตรา 102.5% จากปัจจุบันที่เก็บอยู่ในอัตรา 27.5% ส่วน แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน, โซลาร์เซลล์, แร่ธาตุสำคัญ, เซมิคอนดักเตอร์, เหล็กและอะลูมิเนียม และเครน เป็น 25% จากปัจจุบันที่อยู่ระหว่าง 0 - 7.5% ภายใต้มาตรา 301

ทั้งนี้ทางโฆษกกระทรวงฯ ระบุว่าจีนไม่พึงพอใจอย่างยิ่งกับกระบวนการทบทวนการจัดเก็บภาษีศุลกากรตามมาตรา 301 โดยมิชอบของสหรัฐฯ ซึ่งมีแรงผลักดันจากประเด็นทางการเมืองภายในประเทศและการปรับขึ้นภาษีศุลกากรเพิ่มเติมกับสินค้าจีนบางส่วน

"การดำเนินการนี้ของสหรัฐฯ ใช้การค้ามาสร้างประเด็นทางการเมืองและใช้เป็นเครื่องมือ 'ชักใยทางการเมือง' ตามแบบฉบับ ทั้งที่องค์การการค้าโลก (WTO) ชี้ชัดแล้วว่าการจัดเก็บภาษีศุลกากรตามมาตรา 301 ขัดต่อระเบียบข้อบังคับขององค์การฯ แต่สหรัฐฯ ยังคงทำผิดต่อไป"

สำหรับการปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ยังขัดกับฉันทามติที่ผู้นำของสองประเทศเห็นพ้องต้องกัน รวมถึงสวนทางกับคำมั่นสัญญาของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อบรรยากาศความร่วมมือทวิภาคี

ทางกระทรวงฯ ยังเน้นย้ำว่าฝ่ายสหรัฐฯ ควรแก้ไขข้อผิดพลาดโดยทันที และยกเลิกมาตรการจัดเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติมกับจีน

สหรัฐฯ ต้องมุ่งพัฒนาสินค้าที่…ล้ำกว่า เริ่ดกว่า เพื่อแข่งขันกับจีนแล้วปล่อยให้ผู้บริโภคตัดสินใจเอง

(17 พ.ค.67) รองศาสตราจารย์ ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจจีน จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

ผู้นำสหรัฐฯ 🇺🇸 ใช้มุขเดิมๆ มุขโบราณ ๆ ที่ตัวเองถนัดในการเตะสะกัดคนอื่น!! ทั้ง ๆ ที่มาตรการขึ้นภาษีเพื่อใช้สะกัดสินค้าจีน 🇨🇳 ไม่เคยได้ผล!! จีนไม่ยอมแพ้ เน้นพัฒนาสินค้า/เน้นนวัตกรรมให้ดีวันดีคืน 

‘โลกแห่งอนาคต’ คือ การมุ่งสู่ พลังงานสะอาด คือ การใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV แทนรถยนต์เติมน้ำมันแบบเดิม ๆ ใน ‘โลกยุคเก่า’ 

แทนที่สหรัฐฯ 🇺🇸 จะมุ่งไปพัฒนาสินค้าให้ดีกว่าจีน เก่งกว่าจีน เน้นแข่งขันกันที่คุณภาพ 🇺🇸 กลับเลือกใช้มุกโบราณ ๆ เดิม ๆ คือ ไล่บี้ขึ้นภาษีสินค้าจีน แบบซ้ำไปซ้ำมา 

แบบนี้ชัดเจนนะคะ ใครจะแพ้ ใครจะชนะ ในเกมแห่งอนาคต

หากต้องการ ‘เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม’ ตามวาทกรรมที่ท่องทุกวัน ก็ต้องส่งเสริมการพัฒนาสีเขียว  #GreenDevelopment และมุ่งสู่การพัฒนารถยนต์พลังงานสะอาด ไม่สร้างมลพิษแบบเดิมนะคะ  

คนเก่งจริงก็ต้องพัฒนาสินค้าแนวคุณภาพมาแข่งกับจีน ต้องล้ำกว่า ต้องเริ่ดกว่า แล้วให้ ‘ผู้บริโภค’ ตัดสินใจเอง ว่าจะซื้อสินค้าชาติไหน จะซื้อสินค้าจีนหรือไม่? แต่ไม่ใช่ไปไล่บี้ขึ้นภาษีรถยนต์ EV จีนและแบตตารี่ EV จีน เพื่อเตะสะกัดจีนแบบนี้นะคะ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top