Thursday, 23 May 2024
ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ - ผวาโควิด-19 สั่งกักตัว 11 พระโยม เดินทางจากจังหวัดเสี่ยง เพื่อมาทำบุญฉลองศาลาวัด

เมื่อวันที่ 23 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบ้านก้านเหลือง ต.หมากเขียบ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ พร้อมด้วย ตัวแทนนายอำเภอเมืองศรีสะเกษ ตัวแทนสาธารณสุข อ.เมืองศรีสะเกษ กำนัน ต.หมากเขียบ ผู้ใหญ่บ้านก้านเหลือง ได้เข้าไปพบกับ นางสุวรรณี เบญจะขันธ์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/2 หมู่ 8 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และคณะ ที่เดินทางมาจาก จ.สมุทรปราการ รวมทั้งสิ้น 11 คน โดยมีพระ 1 รูปด้วย ทั้งนี้เนื่องจากว่า นางสุวรรณีเดินทางมาจากกลุ่มจังหวัดสมุทรปราการ พื้นที่เสี่ยงควบคุมสูงสุด 18 จังหวัด ทำให้นางสุวรรณีและคณะ ไม่พอใจ ทั้งนี้เนื่องจากว่าก่อนที่จะเดินทางเข้ามาที่จังหวัดศรีสะเกษ ได้ประสานงานกับผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งแล้ว แจ้งว่าสามารถเดินทางเข้ามาได้ แต่จะต้องมีจำนวนไม่เกิน 50 คน

นางสุวรรณี เบญจะขันธ์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/2 หมู่ 8 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ตนกับคณะที่เดินทางมาครั้งนี้ ได้จัดเตรียมพานบายศรี รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการทำบุญ รวมมูลค่าแล้วประมาณ 100,000 บาท เพื่อมาทำบุญถวายศาลาวัด  ซึ่งพวกตนได้ระดมเงินกันก่อสร้างเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 2,000,000 บาทเศษ เพื่อถวายให้กับวัดบ้านก้านเหลือง และบูชาองค์พระพิฆเนศ ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นมาด้วยเงินจำนวนประมาณ 100,000 บาท โดยพวกตนเห็นว่าอยู่ในช่วงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้มีการเลื่อนการจัดงานมาแล้ว 2 - 3 ครั้ง ซึ่งก่อนที่จะเดินทางมาในครั้งนี้ ตนได้ประสานงานกับผู้ใหญ่บ้านก้านเหลือง เพื่อจะเดินทางมาทำพิธีถวายศาลาวัดในครั้งนี้ และได้ทราบว่าอนุญาตให้เข้ามาได้ โดยจะต้องมีจำนวนคนเข้ามาไม่เกิน 50 คน ตนจึงได้ลดจำนวนคนลง เหลือเพียง 10 คน และพระ 1 รูป แต่เมื่อมาถึงวัดบ้านก้านเหลือง เพื่อทำบุญก็ปรากฏว่าไม่ได้รับอนุญาตให้ทำพิธีทั้งหมด ตนได้ขออนุญาตว่าขอนำพานพายศรีและเครื่องบูชาขึ้นไปไว้ที่บริเวณลานด้านหน้าพระพิฆเนศ แต่ทางราชการไม่ยินยอม ทำให้ตนและคณะเสียค่าใช้จ่ายไปร่วม 200,000 บาท และสั่งให้พวกตนกักตัว 14 วัน ที่วัดแห่งนี้ ทำให้พวกตนได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าเป็นห่วงครอบครัวที่อยู่ จังหวัดสมุทรปราการ ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้

พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาลได้ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาแล้ว และทาง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้ออกคำสั่ง จ.ศรีสะเกษ ที่ 1658/2564 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 21 เม.ย.64 ที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้ที่เดินทางเข้ามา จ.ศรีสะเกษ ที่เดินทางมาจาก 18 จังหวัดพื้นที่ความเสี่ยงสูง จะต้องมารายงานตัวกับเจ้าพนักงานผู้ควบคุมโรค คือ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข รพ.สต.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และจะต้องอยู่กักตัวเป็นเวลา 14 วัน ตามที่ทางคณะกรรมการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.หรือว่าตามที่ทางสาธารณสุขเป็นผู้สั่งการกักตัว โดยที่ไม่สามารถเดินทางไปที่ไหนได้ เราไม่สามารถละเว้นได้ เราเห็นใจประชาชนเป็นชาวพุทธมาทำบุญ แต่เนื่องจากว่าขณะนี้มีการประกาศเกี่ยวกับการแพร่เชื้อโควิด-19 ผวจ.ศรีสะเกษ ได้ออกคำสั่งไว้รองรับ เราจำเป็นต้องรักษากติกา เพื่อชาติบ้านเมือง เพื่อส่วนรวมเอาไว้ จึงต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยสถานที่กักตัวคือที่ศาลาวัดของวัดบ้านก้านเหลืองแห่งนี้ โดยมีคณะกรรมการทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาคอยควบคุมดูแล


ข่าว/ภาพ  บุญทัน ธุศรีวรรณ

ศรีสะเกษ - มอบชุดกิ๊ฟเซ็ทป้องกันโควิด -19 จำนวน 20,000 ชุด สนับสนุนทีมผจญเหตุด่านหน้า เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล และทีม อสม.ในพื้นที่ทุกอำเภอ

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 64 ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ  นายวัฒนา  พุฒิชาติ  ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้มอบชุดกิ๊ฟเซ็ทป้องกันโควิด-19 ประกอบด้วยหน้ากากผ้าอนามัย และ สเปรย์แอลกอฮอล์ จำนวน 10,000.- ชุด ให้แก่นายแพทย์ทนง วีระแสงพงษ์  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ และนายแพทย์ชลวิทย์ หลาวทอง  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อนำไปสนับสนุนทีมผจญเหตุที่เป็นปราการด่านหน้าในพื้นที่ทุกอำเภอ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล และทีม อสม. ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้มอบหมายให้ นายบุญประสงศ์ นวลสายย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย บุคลากร และเครือข่าย ทำการเร่งบรรจุสิ่งของ Sisaket gifts set Covid-19 ทั้งหมด 20,000 ชุด ในเบื้องต้นและเป็นความจำเป็นเร่งด่วนในการยับยั้งและควบคุมการแพร่กระจายโรค จึงส่งมอบก่อนจำนวน 10,000 ชุด นอกจากนี้ชมรมน้องพี่ศรีลำดวนยังได้สนับสนุนอาหารกลางวัน พร้อมเครื่องดื่มแก่บุคคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลศรีสะเกษอีกด้วย

นายวัฒนา  พุฒิชาติ  ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ  กล่าวว่า ชุดกิ๊ฟเซ็ทป้องกันโควิด 19 ทั้งหมด จำนวน 20,000 ชุด จะส่งมอบให้แก่อำเภอทั้ง 22 อำเภอ เพื่อทำการส่งมอบต่อไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลทุกแห่ง และมอบให้แก่ อสม. เพื่อนำไปใช้ในภารกิจเคาะประตูบ้านทุกหลังคา ติดตามสอบถามผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 18 จังหวัด หรือ จากพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเป็นการยับยั้งหรือควบคุมการแพร่กระจายของโรคโควิด -19  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การให้คำแนะนำการปฏิบัติในช่วงการกักตัวอย่างถูกวิธี จนครบ 14 วัน ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญและมีความเสี่ยงสูงของทีมผจญเหตุที่เป็นปราการด่านหน้าอย่างมาก  เพื่อให้ทีมงานจังหวัดศรีสะเกษมีความปลอดภัยเชื้อโรคไวรัสโควิด -19  ต่อไป


ข่าว/ภาพ บุญทัน  ธุศรีวรรณ  ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ - พายุฝนถล่ม 3 อำเภอ ทุเรียนภูเขาไฟที่กำลังใกล้สุกร่วงหล่น บ้านเรือนพังยับกว่า 50 หลังเรือน

เมื่อเวลา 22.00 วันที่ 5 พ.ค. 2564 นายบุญประสงค์ นวลสายย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงใกล้ค่ำของวันนี้ (5พ.ค.2564) ได้เกิดเหตุวาตภัยพายุฝนตกหนักอย่างรุนแรงในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า มี 3 อำเภอประกอบด้วย อ.กันทรลักษ์ อ.เมือง และ อ.ปรางค์กู่ มีบ้านเรือนของชาวบ้านโดนลมพายุพัดบ้านเรือนพังเสียหายรวมจำนวนประมาณ 43 หลัง ต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นล้มทับบ้านเรือนของชาวบ้านและต้นไม้ได้โค่นล้มขวางถนนตามเส้นทางถนนหลายสาย เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันตัดต้นไม้ออกจากถนนเพื่อให้รถราทุกชนิดสามารถใช้ในการสัญจรไปมาได้

นายบุญประสงค์ นวลสายย์  หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยต่อไปว่า  ขณะที่บริเวณบ้านซำตารมย์ ต.ตระกาจ อ.กันทรลักษ์ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการปลูกทุเรียนภูเขาไฟจำนวนมาก ลมพายุได้พัดถล่มต้นทุเรียนภูเขาไฟที่มีผลผลิตลูกทุเรียนจำนวนมาก และผลทุเรียนใกล้จะสุกเกษตรกรเตรียมที่จะนำออกไปขายในท้องตลาดทั่วประเทศในช่วงประมาณเดือนมิถุนายน 2564 นี้ 

ปรากฏว่า พายุฝนที่พัดโหมกระหน่ำอย่างหนักได้ทำให้ลูกทุเรียนภูเขาไฟร่วงหล่นลงมาจากต้นลงมากองอยู่ใต้ต้นทุเรียนจำนวนมาก เกษตรกรเจ้าของสวนทุเรียนต้องพากันเก็บลูกทุเรียนภูเขาไฟมากองรวมกันไว้ด้วยความเสียดายลูกทุเรียนภูเขาไฟที่ร่วงหล่นเสียหายจำนวนมาก

สรุปความเสียหายเบื้องต้นชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 33 ครัวเรือน ส่วนการช่วยเหลือนั้นอยู่ในระหว่างการสำรวจของอำเภอร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งจะได้เร่งให้การช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน

นายบุญประสงค์ ยังกล่าวด้วยว่า  นอกจากนี้แล้วยังได้เกิดฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในเขตพื้นที่อำเภอปรางค์กู่ ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรและโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นพบบ้านเรือนชาวบ้านเสียหาย ดังนี้ 1. บ้านหนองแต้ หมู่ที่ 11 ตำบลหนองเชียงทูน อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ บ้านเรือนเสียหาย  9 หลังคาเรือน  2. บ้านหนองตลาด หมู่ที่ 10 ตำบลโพธิ์ศรี อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ  บ้านเรือนเสียหาย 1 หลังคาเรือน 

ซึ่ง นายเทเวศน์  มีศรี นายอำเภอปรางค์กู่ ได้สั่งการไห้ ปลัดอำเภอ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และผู้นำท้องที่ เร่งสำรวจความเสียหาย และแจ้งให้องค์การบริหารส่วนตำบลหนองเชียงทูน และองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ศรี เร่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนของชาวบ้านเพื่อให้สามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ตามปกติเช่นเดิมอย่างเร่งด่วนต่อไปแล้ว


ภาพ/ข่าว  ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ – พิษโควิด !! คนร้ายงัดตู้เอทีเอ็ม หวังฉกเงินจากตู้

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 64  ร.ต.อ.สำราญศักดิ์ แซงเพชร ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุงัดตู้เอทีเอ็มที่บริเวณปั้ม ปตท.ท่าเรือ ต.โพธิ์ อ.เมืองศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษทราบ และรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสายตรวจ เมื่อไปถึงพบว่า ที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณปั้มน้ำมันข้างร้านสะดวกซื้อ ด้านล่างของตู้เอทีเอ็มมีร่องรอยของประตูตู้เอทีเอ็มเปิดอ้าอยู่  บริเวณฝาปิดรูกุญแจเปิดออก คาดว่าประตูด้านล่างของตู้เอทีเอ็มถูกคนร้ายงัดออก  ซึ่งจากการตรวจสอบโดยรอบตู้เอทีเอ็มไม่พบร่องรอยความเสียหายแต่อย่างใด

ร.ต.อ.สำราญศักดิ์ แซงเพชร  ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบตู้เอทีเอ็มเบื้องต้นแล้วคาดว่า คนร้ายอาจจะงัดประตูของตู้เอทีเอ็มออกเพื่อหวังเอาเงินจากตู้เอทีเอ็ม แต่ว่าจากการตรวจตู้เอทีเอ็มแล้วไม่พบร่องรอยของตู้ถูกงัดแต่อย่างใด  อาจจะเป็นไปได้ว่า ประตูของตู้เอทีเอ็มอาจจะไม่ได้ถูกปิดล็อคกุญแจเอาไว้  ซึ่งตนจะได้ประสานงานกับธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาศรีสะเกษ เพื่อให้มาร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นต่อไป


ภาพ/ข่าว ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ - ชาวสวนทุเรียนภูเขาไฟเศร้า พายุฤดูร้อนถล่มสวนทุเรียน ลูกทุเรียนใกล้สุกหล่นจากต้นจำนวนมาก

เมื่อเวลา 15:00 น. วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนตาบุญทันยายกล่อง บ้านซำตารมย์ ต.ตระกาจ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นางสาวสายชล เครือแก้ว กำนันตำบลตระกาจ ได้ออกสำรวจความเสียหายสวนทุเรียนภูเขาไฟที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดลมพายุพัดโหมกระหน่ำในเขต ต.ตระกาจ

เมื่อช่วงใกล้ค่ำของวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมาซึ่งจากการสำรวจพบว่าเกษตรกรชาวสวนทุเรียนภูเขาไฟกำลังช่วยกันเดินเก็บลูกทุเรียนภูเขาไฟที่หล่นลงมากองอยู่กับพื้นและเก็บรวบรวมนำเอาไปกองรวมกันไว้จำนวนมาก ซึ่งทุเรียนเหล่านี้จะสุกภายในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้และพร้อมที่จะนำออกสู่ท้องตลาด เพื่อจำหน่ายให้กับผู้บริโภคที่ชื่นชอบทุเรียนภูเขาไฟโดยเกษตรกรต่างมีใบหน้าที่เศร้าหมองเนื่องจากว่าในปีนี้ปลูกทุเรียนโดนลมพายุพัดต้นทุเรียนรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมาทำให้ลูกทุเรียนร่วงหล่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งลูกทุเรียนภูเขาไฟที่เก็บมากองรวมกันไว้ได้มีการแบ่งปันไปให้ประชาชนทั่วไปในเขต อ.กันทรลักษ์ได้มารับเอาไป  

ทั้งนี้เพื่อจะได้นำเอาไปประกอบอาหารจำพวกของหวานและขนมหวานทอดกรอบต่าง ๆ เป็นการแบ่งปันความสุขให้กับประชาชนทั่วไปในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้ว่าเกษตรกรจะมีความเสียดายมากที่ผลผลิตทุเรียนภูเขาไฟต้องร่วงหล่นจำนวนมากแต่หากเก็บเอาไว้ก็คงจะไม่สามารถที่จะนำเอาไปใช้ประโยชน์ได้หมดจึงต้องแจกจ่ายให้กับคนทั่วไป

นางกล่อง จันทรักษ์ อายุ 65 ปี กล่าวว่า ตนปลูกทุเรียนภูเขาไฟจำนวน 200 ต้นในเนื้อที่ 9 ไร่ คาดว่าจะได้ผลผลิตและรายได้จากการจำหน่ายทุเรียนภูเขาไฟประมาณ 4 ล้านบาท แต่ว่าปีนี้ไม่คิดว่าจะโดนภัยธรรมชาติทำให้ลูกทุเรียนภูเขาไฟหล่นลงมากองกับพื้นจำนวนมากร่วม 200 ลูก ทำให้ตนเสียใจมากเพราะคิดว่าปีนี้หลังจากขายทุเรียนภูเขาไฟแล้วจะมีเงินนำเอาไปใช้หนี้สินจำพวกค่าปุ๋ย และค่าใช้จ่ายต่างๆในการปลูกทุเรียนภูเขาไฟซึ่งส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนำ โดยกำนันตำบลตระกาจ ได้มาสำรวจความเสียหายแล้วก็หวังว่าทางราชการจะให้ความช่วยเหลือเพื่อที่ตนจะได้มีกำลังใจในการทำสวนทุเรียนภูเขาไฟต่อไป


ข่าว/ภาพ  บุญทัน ธุศรีวรรณ  

ศรีสะเกษ - พิษโควิด "หมอลำสุนันทา" งานหด ต้องเปลี่ยนอาชีพมาปิ้งหมูนมสด ทำปลาเผาขาย หารายได้เลี้ยงครอบครัว

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 64  ที่สำนักงานหมอลำแม่บุญโฮม ตั้งอยู่เลขที่ 73/1 หมู่ 11 ต.หญ้าปล้อง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นสำนักงานหมอลำที่มีหมอลำและดนตรีมาสังกัดอยู่หลายคณะด้วยกัน ทั้งคณะลำเรื่องต่อกลอน หมอลำเซิ้ง หมอลำหมู่ หมอลำทรง หรือหมอลำผีฟ้า หมอลำพื้น หมอลำผญา และหมอลำเพลิน ที่เป็นศิลปวัฒนธรรมของชาวอีสานและมักจะมีการจ้างหมอลำไปแสดงตามงานประเพณีต่าง ๆ เป็นประจำอยู่เสมอ 

ปรากฏว่า หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มานานร่วม 2 ปีแล้ว ทำให้บรรดาหมอลำที่มีอยู่ในสังกัดได้รับผลกระทบมีความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่า บรรดาเจ้าภาพที่มาจ้างหมอลำเอาไว้ได้พากันยกเลิกงานจ้างหมอลำทั้งหมด  เพราะเกรงว่า หากมีการจัดงานแล้วจะเป็นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้

บรรดาหมอลำต้องพากันเปลี่ยนอาชีพไปทำมาหากินอาชีพอื่นจนหมดสิ้น จนแทบจะทำให้อาชีพหมอลำสูญพันธุ์ไปเลยทีเดียว  เพราะว่า บรรดาหมอลำหากยังคงรอรับงานอีกต่อไปก็คงจะไม่มีรายได้อะไรมาเลี้ยงตนเองและครอบครัว

นางละมุล  พรหมมา อายุ  43 ปี  หมอลำกลอนชื่อดังของ จ.ศรีสะเกษ ในชื่อการแสดงคือ หมอลำสุนันทาไก่แก้ว เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา  งานจ้างหมอลำของตนจะเยอะมาก เดือนละประมาณ 5 – 6 งาน และหมอลำคนอื่นก็จะมีงานจ้างเข้ามาคิวแน่นมากเช่นกัน มีรายได้ต่อเดือน เดือนละ 20,000 – 30,000 บาท แต่ว่าหลังจากที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้บรรดาเจ้าภาพพากันยกเลิกงานจ้างหมอลำกันหมด  ส่งผลให้บรรดาหมอลำทุกคนต้องพากันเปลี่ยนอาชีพไปทำไร่ไถนา และรับจ้างทั่วไปเพื่อให้ได้เงินมาประทังชีวิต 

ส่วนตนนั้นยังคงปักหลักอยู่ที่สำนักงานแห่งนี้ แต่ว่าได้เปลี่ยนอาชีพจากการเป็นหมอลำมาทำหมูปิ้งนมสด ข้าวเหนียว ข้าวจี่ ตับย่าง หมูยอ น่องไก่ ทำปลาเผาขาย รวมทั้งรับทำข้าวกล่องด้วย เพื่อให้มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว ที่จะต้องเลี้ยงลูกชาย 2 คน คนโตเรียนมหาวิทยาลัย  ส่วนลูกชายคนเล็กเรียนระดับมัธยมศึกษา มีรายได้วันละ 500-1,000 บาท บางวันก็ขายไม่ได้ 

โดยหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วจะมีเงินเหลือเล็กน้อยพอได้ใช้จ่ายในครอบครัว  หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หมดสิ้นไปแล้วตนก็จะกลับมารับงานเป็นหมอลำเช่นเดิมต่อไป เนื่องจากว่า ตนมีความชื่นชอบในอาชีพหมอลำมากนั่นเอง    


ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ - ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 ประกาศเจตจำนงสุจริตในการบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.64 ที่ห้องประชุมเพชร สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ว่าที่ ร.ต.ดร.ทวีศักดิ์ นามศรี ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 พร้อมด้วย น.ส.รุ่งอรุณ เมธาภัทรกุล นายสุเทพ ศรบุญทอง นายคำโพธิ์ บุญสิงห์ รอง ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 และบุคลากรในสำนักงาน ได้ร่วมกันประกาศเจตจำนงในการบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และเพื่อเป็นแบบอย่างให้บุคลากรทุกคนปฏิบัติงานด้วยความมุ่งมั่น ปฏิบัติงานตามภารกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม และปราศจากการทุจริต ตามโครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม ศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2564 โดยมี นางวิไรรัตน์ เครื่องทอง ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ

ว่าที่ ร.ต.ดร.ทวีศักดิ์ นามศรี ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 กล่าวว่า สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 มุ่งเน้นที่จะบริหารจัดการองค์กรอย่างมีธรรมาภิบาล โดยให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อสร้างความศรัทธาและเชื่อมั่นแก่สังคมว่า สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 เป็นองค์กรธรรมาภิบาล ในฐานะผู้บริหาร สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 จึงขอประกาศเจตจำนงในการบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ พร้อมรับผิดชอบและต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ

ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 กล่าวต่อไปว่า ตนขอให้บุคลากรทุกคนมุ่งมั่นปฏิบัติงานตามภารกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม และปราศจากการทุจริตภายใต้นโยบาย ดังต่อไปนี้ ด้านความโปร่งใส คือ เปิดเผยข้อมูลการดำเนินภารกิจของหน่วยงาน รวมถึงข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง เปิดโอกาสให้ประชาชนหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ และมีระบบการบริหารจัดการเรื่องร้องเรียนที่ชัดเจน ด้านความพร้อมรับผิด คือ มุ่งมั่นตั้งใจปฏิบัติราชการอย่างเต็มประสิทธิภาพภายใต้กฎหมาย ระเบียบ วิธีการที่ถูกต้อง รับผิดชอบต่อการตัดสินและการบริหารงาน และความพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นต่อ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1

ด้านความปลอดจากการทุจริต คือ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือรับสินบน ด้านวัฒนธรรมคุณธรรมในองค์กร คือ ไม่ยอมรับการทุจริตทุกประเภทและไม่เพิกเฉยที่จะดำเนินการ เพื่อยับยั้งการทุจริตในหน่วยงาน และด้านคุณธรรมการทำงานในหน่วยงาน คือ กำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานที่ชัดเจน มีความเป็นธรรมในการปฏิบัติงาน อำนวยความยุติธรรมและมีความโปร่งใสในการบริหารงานบุคคล การบริหารจัดการงบประมาณและการมอบหมายงาน ทั้งนี้ ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมดังกล่าวภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีจุดตรวจวัดอุณหภูมิ เจลแอลกอฮอล์ มีการเว้นระยะห่าง และสวมหน้ากากอนามัยทุกคน


ภาพ/ข่าว  ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

'อนุทิน' ไม่หวั่น!! แม้เพื่อไทยบุก 'ไล่หนู' ลั่น!! หัวใจคิดบวก เตรียมกวาด ส.ส.ศรีสะเกษยกทีม

(19 มิ.ย. 65) เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 18 มิ.ย. 65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Anutin Charnvirakul” ระบุว่า คนภูมิใจไทย หัวใจคิดบวก ยินดียิ่งแล้ว แขกแก้วมาเยือน #ศรีสะเกษยกทีม #พรรคภูมิใจไทย”

สำหรับภาพที่โพสต์มี ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ปัจจุบัน และ ส.ส. ที่จะย้ายมาสังกัด และลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทยในอนาคตรวม 6 คน คือ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ, นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ ส.ส.ศรีสะเกษ, นายปวีณ แซ่จึง อดีตส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย, นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย, นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย และ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกรัฐบาล

แสง สี เสียง จัดเต็ม ชวนคนไทยเที่ยว ‘เทศกาลดอกลำดวนบาน’ หนุนการท่องเที่ยว-ชมประเพณีสี่เผ่า ‘ไทศรีสะเกษ’

ชวนคนไทย เที่ยว เทศกาลดอกลำดวนบานฯ ศรีสะเกษ ททท. ส่งเสริมการท่องเที่ยว ชมอัตลักษณ์ วิถีชีวิต ศิลปะ วัฒนธรรม 4 เผ่าไท  

(11 มี.ค.66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอเชิญชวนประชาชน ร่วมงานเทศกาลดอกลำดวนบาน สืบสานประเพณีสี่เผ่าไทศรีสะเกษ ประจำปี 2566 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-12 มี.ค. 2566 ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ โดยเทศกาลดอกลำดวนบานฯ เป็นการแสดงอัตลักษณ์ วิถีชีวิต ศิลปะ วัฒนธรรม ของชาว จ.ศรีสะเกษ ที่มีความหลากหลายของ 4 เผ่า ไทศรีสะเกษ ได้แก่ กูย เขมร ลาว เยอ อยู่ร่วมกันมานับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ เพื่อคงความเป็นเอกลักษณ์ รักษามรดกทางวัฒนธรรม รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันเทศกาลดอกลำดวนบานฯ ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งกิจกรรมโดดเด่นในปฏิทินที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) แนะนำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติไปเยี่ยมชมด้วย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า เทศกาลดอกลำดวนบานฯ มีกิจกรรมทั้งภาคกลางวันและภาคกลางคืน โดยกิจกรรมช่วงกลางวัน มีการแสดงรากวัฒนธรรม อาทิ บ้านจำลองของ 4 เผ่า ไทศรีสะเกษ (กูย เขมร ลาว เยอ) การแสดงที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อ พิธีกรรมประเพณี และวิถีชีวิตของชุมชน ที่มีความงานและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละชนเผ่า พร้อมอาหารพื้นบ้านของแแต่ละชนเผ่า  มีการจัดจำหน่ายสินค้าโอทอป (OTOP) อาหาร เครื่องดื่ม สมุนไพร ผ้าทอเบญจศรี ของใช้ เครื่องประดับ เป็นต้น กิจกรรมภาคกลางคืน ชมการแสดง เเสงสี เสียง "อารยธรรมแห่งศรัทธา มนตราศรีพฤเธศวร" ตอน รอยบรรพชน ซึ่งเป็นชุดการแสดงที่มีความยิ่งใหญ่ ใช้นักแสดงร่วมกว่า 400 คน

‘เพื่อไทย’ ปลุกใจชาวศรีสะเกษ ปชช.หนาแน่น เชียร์ให้เป็นนายกฯ อ้อน!! เดินเข้าคูหา กา พท. 2 ใบ เพื่อไปแก้ทุกปัญหาของพี่น้องชาวไทย

(29 เม.ย.66) ที่จ.อุบลราชธานี นายเศรษฐา ทวีสิน ​แคนดิเดตนายกฯ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แวะทานไข่กระทะที่ร้านสามชัย โดยนายเศรษฐา เลือกกินเกาเหลาเลือดหมูกับก๋วยจั๊บญวน และไข่กระทะ เป็นอาหารเช้า

จากนั้นนายเศรษฐา นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้งส.ส.พรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง ​กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ​ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ​​ผู้สมัครส.ส. ศรีสะเกษ เขต 3 ​พรรคเพื่อไทย เบอร์ 9, นายภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ ​​ผู้สมัคร ส.ส. ศรีสะเกษ เขต 4​ พรรคเพื่อไทย เบอร์ 8 และนายอมรเทพ สมหมาย​​ ผู้สมัครส.ส. ศรีสะเกษ เขต 5​ พรรคเพื่อไทย เบอร์ 7 ขึ้นปราศรัยเวทีย่อย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีพี่น้องประชาชนให้ความสนใจร่วมฟังปราศรัยมากกว่า 10,000 คน

นายเศรษฐา กล่าวตอนหนึ่งว่า เสียงโห่ร้องไล่พล.อ.ประยุทธ์เมื่อสักครู่นี้ดังไปทั่วประเทศแล้ว ทั้งนี้ 8 ปีที่ผ่านมา พี่น้องต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน ทำงานได้เงินไม่พอใช้ ต้องอยู่อย่างไม่มีศักดิ์ศรี พอแล้วใช่หรือไม่ อีกไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 66 พวกเราชาวเพื่อไทยหวังว่าจะเป็นวันประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนการเมืองไทย ขอให้พี่น้องเดินเข้าคูหา กาพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ไม่มีพรรคพี่ ไม่มีพรรคน้อง ไม่มีปันใจ ภารกิจนี้ใหญ่หลวง ถ้าเราไม่ได้แลนด์สไลด์ 2 ลุง กลับมาแน่นอน อย่างไรก็ตาม สำหรับปัญหาเรื่องค่าไฟแพง ราคาพืชผลที่ตกต่ำ ปัญหาแล้ง ถ้าพรรคเพื่อไทยมา เราจะแก้ปัญหาทั้งหมด เราจะทำให้รายได้ของพี่น้องเกษตรกรโตขึ้น 3 เท่าภายใน 4 ปี นายกฯจากพรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปต่างประเทศ ไปเปิดตลาดใหม่ๆ เอาสินค้าของพี่น้องประชาชนคนไทยไปขายทั่วโลก นอกจากนี้ หนี้เกษตรกรจะพักทั้งหนี้ทั้งดอกให้เกษตรไทย 3 ปีเต็มๆ พี่น้องจะต้องมีสิทธิในที่ดินทำกิน พรรคเพื่อไทยจะออกโฉนดให้พี่น้องประชาชนจำนวน 50 ล้านไร่ในเวลา 4 ปี นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยจะเพิ่มพื้นที่ชลประทานอีก 15 ล้านไร่เพื่อป้องกันปัญหาน้ำแล้ง

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายด้านเศรษฐกิจหลายนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทในปี 70 โดยปีแรกที่เราเข้ามาเป็นรัฐบาลค่าแรงขึ้นทันทีเป็น 400 บาท และเงินเดือนปริญญาตรีต้อง 25,000 บาท นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่ใครว่าเราทำไม่ได้ แต่พรรคเพื่อไทยคิดใหญ่ ทำเป็น เราอยากทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี มีต้นทุน มีศักดิ์ศรี โดยไม่ต้องคอยแบมือขอเงินตลอดไป เป้าหมายสูงสุดของพรรคเพื่อไทยคือทำให้พี่น้องพ้นจากความยากจน ขณะที่เรื่องสุขภาพ และจิตใจของพี่น้องประชาชนเราก็ไม่เคยละเลย เราจะยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค บัตรประชาชนใบเดียวเข้ารักษาได้ทุกโรงพยาบาล ส่วนเรื่องปัญหายาเสพติด ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาลูกหลานเราถูกมอมเมา ราคายาบ้าถูกกว่าน้ำอัดลม มันเป็นไปได้อย่างไร จับเท่าไหร่ก็ไม่หมด หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ผู้เสพต้องกลายเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัด ผู้ค้ายาต้องถูกปราบปรามอย่างเด็ดขาด ไม่เห็นเดือน เห็นตะวัน ถ้าตนเป็นนายกฯกระทรวง ทบวง กรมใด ที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามยาเสพติดต้องขึ้นตรงกับนายกฯ ต้องมีการยึดทรัพย์ผู้ค้าให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด กัญชาก็เช่นกัน เราไม่ยอมให้กัญชามามอมเมาลูกหลานแน่นอน อย่าเลือกพรรคที่สนับสนุนกัญชาเสรี วันนี้ตนมาที่นี่ ดูจากแววตา และเสียงตอบรับของพี่น้อง ตนหวังว่า ส.ส.ศรีสะเกษทั้ง 9 คน ของพรรคเพื่อไทยจะได้รับเสียงตอบรับจากจากพี่น้องทุกคน ถ้าพลาดไปแม้แต่คนเดียว การจะทำนโยบายต่างๆคงเกิดขึ้นได้ยาก วันนี้ตนในฐานะนักการเมืองหน้าใหม่ มาขอวิงวอน มาขอความรัก ความเห็นใจ ว่าการเดินทางเข้าทำเนียบ เราต้องมีเสียงสนับสนุนอย่างเต็มที่ เลือกพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ เป็นภูมิต้านทาน ให้เราไปต่อสู้เพื่อพี่น้อง เอาความยากจนออกจากชีวิตของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top