Thursday, 16 May 2024
ลิซ่า

‘ลิซ่า’ คอนเฟิร์ม!! เตรียมปรากฏตัวใน ‘The White Lotus’ ซีรีส์ชื่อดังของ HBO จ่อบินลัดฟ้ามาถ่ายทำที่เมืองไทย

(13 ก.พ.67) หลังจากปล่อยให้แฟนชาวไทยรอลุ้นอยู่นาน ในที่สุดก็มีการคอนเฟิร์มเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าซีรีส์ตลกร้าย เสียดสีประเด็นสังคมอย่าง The White Lotus ซีรีส์จาก HBO จะมาถ่ายทำที่ประเทศไทย

ล่าสุดวันนี้ก็เซอร์ไพรส์คอซีรีส์และแฟน K-pop อีกครั้ง เพราะมีการยืนยันผ่านทางค่าย LLOUD เผยว่า ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล จะร่วมแสดงในซีรีส์ The White Lotus ในซีซั่น 3 ด้วย

นับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็น สาวลิซ่า โลดแล่นในวงการซีรีส์ ท่ามกลางแฟน ๆ ที่ตั้งตารอชมบทบาทใหม่ในอุตสาหกรรมบันเทิงของเธอ

สำหรับซีรีส์ The White Lotus เป็นออริจินัลซีรีส์ของ HBO ฝีมือการเขียนบทและกำกับโดย Mike White ซึ่งกวาดรางวัลมากมาย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผู้คนที่เข้าพักในโรงแรมหรู ก่อนจะเจอเหตุการณ์สุดอลเวงที่คาดไม่ถึง

ตัวซีรีส์เต็มเปี่ยมไปด้วยการจิกกัด เสียดสีประเด็นในสังคม ผ่านตัวละครที่มีความหลากหลาย ทั้ง เพศ เชื้อชาติ ชนชั้น และความเชื่อ

โดยในซีซั่น 3 นี้ มีการเปิดเผยรายชื่อนักแสดง มีนักแสดงไทยมาโชว์ฝีมือ ได้แก่ ‘ดอม เหตระกูล’ ‘เมธี ทับทิมทอง’ มีกำหนดเริ่มถ่ายทำในเดือนกุมภาพันธ์ที่กรุงเทพฯ, ภูเก็ต และเกาะสมุย

‘ครูเล็ก’ โพสต์ภาพคู่ ‘ลิซ่า’ เผย “เธอเป็นคนที่อบอุ่นมาก” พร้อมคอนเฟิร์มเตรียมชิมลางซีรีส์ดัง เริ่มถ่ายทำที่ไทยแล้ว

(26 ก.พ.67) เรียกว่าแฟนๆ ทั่วโลก ต่างเซอร์ไพร์ส หลัง ‘ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล’ หรือ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ เซย์เยสชิมลางงานแสดง ใน ‘The White Lotus’ ซีซัน 3 ออริจินัลซีรีส์ของ HBO ที่จะเริ่มถ่ายทำที่เกาะสมุย ภูเก็ต และกรุงเทพฯ

โดยการันตีด้วยรางวัลเอ็มมี่ สร้างสรรค์ เขียนบท และ กำกับโดย ‘ไมค์ ไวท์’ ร่วมกับทีมนักแสดง เลสลีย์ บิบบ์, แคร์รี่ คูน, ฟรานเชสกา คอร์นีย์ ฯลฯ

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผย นักแสดงชาวไทยมากฝีมืออีกหลายชีวิต ที่ร่วมถ่ายทอดชีวิตจริงของมนุษย์สู่สายตาแฟนๆ ทั่วโลก อย่าง ครูเล็ก-ภัทราวดี มีชูธน, ดอม เหตระกูล และ เมธี ทับทิมทอง อีกด้วย

ขณะเดียวกัน แฟนๆ ซีรีส์ ก็ยังคงร่วมลุ้นว่า ลิซ่า และนักแสดงคนอื่นๆ จากเมืองไทยจะได้รับบทบาทอย่างไรในเรื่องนี้ รวมถึงรอคอยการถ่ายทำที่ประเทศไทย

ล่าสุด ‘ครูเล็ก’ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง และยังเป็นหนึ่งในนักแสดงซีรีส์เรื่องดังกล่าว ออกมาโพสต์ภาพคู่กับลิซ่าในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมแคปชันน่ารักว่า “เธอเป็นคนที่อบอุ่นมาก”

ทำเอาแฟนๆ ที่เห็นภาพนี้ ต่างอบอุ่นหัวใจ ที่ลิซ่าได้ร่วมงานกับปรมาจารย์ด้านการแสดง และบอกว่าใครที่ได้ร่วมงานกับลิซ่า ต่างชื่นชมและเอ็นดูในความน่ารัก

พร้อมคาดการณ์กันอีกว่า ลิซ่าเเละทีมซีรีส์ เรื่อง ‘The White Lotus season 3’ เดินทางมาถ่ายทำที่ประเทศไทยกันเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว

‘ม้า อรนภา’ ปลื้ม!! ‘ลิซ่า’ โผล่ทักทายหลังบังเอิญเจอในเกาหลี ชื่นชม!! เป็นเด็กน่ารัก ไม่แปลกใจที่โด่งดังระดับโลกขนาดนี้

(13 มี.ค. 67) ‘ม้า อรนภา กฤษฎี’ นักแสดงอาวุโส เผยแพร่รูปถ่ายคู่กับ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ หรือ ‘ลิซ่า BlackPink’ ผ่านทางเฟซบุ๊ก ‘Ornapa Krisadee’ ระบุว่า…

มาเกาหลีครั้งนี้ ดีใจมาก เดินดูเสื้ออยู่ในร้านแบรนด์หนึ่ง ใน section ที่เงียบสงบ ได้ยินเสียงผู้หญิง 2 คนคุยกันเป็นภาษาอังกฤษที่โซฟา แต่เราไม่ได้สนใจ นอกจากดูเสื้อไปเรื่อย ๆ พอเดินใกล้ 2 คนที่นั่งอยู่นั้น ก็มีเสียงผู้หญิงคนหนี่งเรียก “พี่ม้า” เราหันไปมองเสียงที่อยู่ใกล้มาก ๆ เห็นหญิงสาวใส่หน้ากากยืนอยู่ ดิฉันทำหน้างง ผู้หญิงคนนั้นพูดว่า “ลิซ่าค่ะ” ฉันก็ยังงงอยู่ลิซ่าไหน จึงบอกว่า ถอดหน้ากากสิ พอถอดมาคือ ลิซ่า จริง ๆ ด้วย”

นักแสดงอาวุโส ระบุเพิ่มเติมว่า “ดิฉันตกใจมาก และดีใจมาก ๆ ที่ได้เจอเธอ ดิฉันจึงพูดว่า ขอบคุณมากนะที่ทักพี่ (คนดังระดับโลกทักดิฉัน) ดิฉันขอกอดนาง และตามด้วยขอถ่ายรูปได้ไหม ต้องถามเพราะนางมากับผู้จัดการ นางบอกว่าได้ แต่ขอทาปากหน่อย เพราะพึ่งลงเครื่องมาจากปารีส ยังไม่ได้ล้างหน้าเลย แต่มาช้อปปิ้งได้อิอิ เพราะคืนนี้นางต้องไปงานของ Bvlgari จึงได้รูปนี้มา โดยการขออนุญาตเป็นที่เรียบร้อย เราคุยกันอยู่นานพอสมควร ด้วยความภาคภูมิใจที่เธอก้าวมาอยู่ถึงจุดนี้ได้ ปลื้มใจนางจริง ๆ นางบอกว่าจะไปเล่าให้แม่ฟังว่าเจอใคร และบอกว่าไม่คิดจะได้เจอพี่ม้า นางตื่นเต้นพอกับเรา ใช้เวลาเม้าส์นาน เราเลยบอกด้วยว่าบอกผู้จัดการเธอด้วยนะว่าพี่เป็นใคร จะได้ไม่หงุดหงิด แต่ผู้จัดการนางก็เป็นคนถ่ายรูปให้เรา ดีใจเป็นที่สุดที่ลิซ่าทักดิฉัน เด็กคนนี้น่ารักจริง ๆ ถึงไปได้ไกลขนาดนี้ ถึงยิ่งใหญ่ระดับโลกขนาดนี้”

‘ลิซ่า’ ประกาศจับมือกับค่ายยักษ์ใหญ่ ‘RCA Records’ เดินหน้าผลิตผลงานเพลง ในฐานะศิลปินเดี่ยวอย่างเต็มตัว

เมื่อวานนี้ (10 เม.ย. 67) ‘ลิซ่า’ และ Lloud Co. ได้ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่กับ RCA Records ภายใต้ข้อตกลงนี้ ‘ลิซ่า’ จะปล่อยเพลงเดี่ยวใหม่กับ RCA Records ที่จะเป็นเจ้าของผลงานเพลงทั้งหมดของเธอโดยสมบูรณ์ตามแถลงการณ์

โดย ลิซ่า บอกในแถลงการณ์ว่า "ตื่นเต้นมากที่ได้เข้าร่วมเป็นครอบครัว RCA และมั่นใจว่าพวกเขาเป็นทีมที่ดีที่สุดที่จะสร้างแรงกระเพื่อม ในการทำเพลงโซโล่ของฉันในครั้งนี้”

ขณะที่ฝั่ง RCA โดย ปีเตอร์ เอ็จ และ จอห์น แฟลคเคนสไตน์ ประธาน/CEO ของบริษัทได้ยืนยันข่าวในแถลงการณ์ว่า "เราภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับ ลิซ่า และ Lloud Co.! ลิซ่าเป็นผู้มีความสามารถหลากหลาย และทรงอิทธิพลในระดับโลก เราจึงรู้สึกตื่นเต้นจริง ๆ ที่จะได้ต้อนรับเธอ และทีมงานของเธอสู่ครอบครัว RCA Records ของเรา”

ทั้งนี้ RCA Records เป็นค่ายเพลงสัญชาติอเมริกันในเครือของ Sony Music Entertainment ซึ่งช่วยผลิต และจัดจำหน่ายงานเพลงให้กับศิลปินหลากหลายแนว ทั้ง ป๊อป คลาสสิก ร็อค ฮิปฮอป แอโฟรบีต อิเล็กทรอนิกส์ อาร์แอนด์บี บลูส์ แจ๊ส และคันทรี่

ศิลปินระดับโลกที่อยู่ภายใต้สังกัดนี้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็มีทั้ง เคลลี่ คลาร์กสัน, ไมลีย์ ไซรัส, ชากีรา, เซีย, บริทนีย์ สเปียร์ส, จัสติน ทิมเบอร์เลค, ไชลด์ดิช แกมบิโน, H.E.R., คาลิด, ไคโก้, เทต แม็คเร, มาร์ค รอนสัน, ซาชา สโลน, แจซมิน ร็อกลิแวน, วาซ่า, เซน และอีกมากมาย

สำหรับตัวของ ลิซ่า นอกจากผลงานในฐานะสมาชิกของ Blackpink ก็ยังเคยออกผลงานเดี่ยวที่ใช้ชื่อว่า ‘Lalisa’ ที่มียอดขายเกือบ 750,000 ชุดในสัปดาห์แรกของการเปิดตัวในเกาหลีใต้มาแล้ว

นอกจากงานเพลง ลิซ่า ยังได้ร่วมแสดงในซีซันที่ 3 ของซีรีส์ยอดนิยมทาง HBO เรื่อง ‘The White Lotus’ ข่าวบอกว่าบทของ ลิซ่า จะเป็น ‘ตัวละครหลัก’ ในซีรีส์ปีนี้ที่กำลังถ่ายทำอยู่ในประเทศไทยในขณะนี้ด้วย

‘ลิซ่า’ ซื้อบ้านใหม่ที่อเมริกา มูลค่ากว่า 140 ลบ. คาด!! เตรียมตัวเดินหน้าลุยตลาดอินเตอร์เต็มตัว

(17 เม.ย.67) แมนชัน โกลบอล (Mansion Global) นายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์หรูระดับโลก รายงานว่า ‘ลิซ่า’ ลลิษา มโนบาล เพิ่งซื้อบ้านหรูในย่านเบเวอร์ลี ฮิลส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มูลค่า 3.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 144 ล้านบาท

ทั้งนี้ รายงานอ้างข้อมูลจากเอกสารการทำธุรกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งระบุว่า ลิซ่าปิดดีลซื้อบ้านหลังนี้ไปตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยบ้านหลังนี้เพิ่งได้รับการรีโนเวทเสร็จเรียบร้อย

ลอรี ฮาร์ริส จากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Keller Williams Los Feliz ซึ่งเป็นคนนำบ้านหลังนี้ออกขายให้ข้อมูลว่า ถึงแม้บ้านของลิซ่าจะได้รับการรีโนเวทให้มีความทันสมัย แต่ตัวบ้านที่สร้างมาตั้งแต่ปี 1924 ยังคงให้ความรู้สึกแบบโลกเก่า ประกอบกับอาณาบริเวณที่มากถึง 1.3 เอเคอร์ (ประมาณ 3.3 ไร่) จึงทำให้บ้านที่ตั้งอยู่บนเนินเขา Coldwater Canyon หลังนี้มีความเป็นส่วนตัว แถมยังล้อมรอบด้วยเนินเขา และทัศนียภาพอันสวยงาม

รายงานระบุว่า House of Rolison ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบชื่อดังในลอสแองเจลีส ซื้อบ้านหลังนี้มาในปี 2023 ก่อนจะรีโนเวทบ้านที่มีอายุเก่าแก่ถึง 100 ปีให้ออกมาในสไตล์คฤหาสน์ขุนนางแถบชนบทของอังกฤษ โดยตัวบ้านมีเถาองุ่นปกคลุมเป็นบริเวณกว้างถึง 3,387 ตารางฟุต มี 4 ห้องนอน หลังคามุงกระเบื้องดินเผา พื้นปูด้วยหิน มีเพดานทรงโค้งทำจากไม้

ในเรื่องของความเป็นส่วนตัว มีพุ่มไม้สูงทำหน้าที่เปรียบเสมือนรั้วกั้นตัวบ้านออกจากถนน ส่วนด้านนอกตัวบ้านมีระเบียงไม้กว้างพร้อมเตาอบพิซซ่า และสระน้ำอีก 1 แห่ง

ทั้งนี้ การที่ลิซ่าตัดสินใจซื้อบ้านในย่านเบเวอร์ลี ฮิลส์ เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่านักร้องสาววัย 27 ปีน่าจะเดินหน้าลุยงานในฐานะศิลปินระดับโลกอย่างเต็มตัว หลังจากที่เธอไม่ต่อสัญญาเดี่ยวกับ วายจี เอ็นเตอร์เทนเมนต์ โดยหันมาเปิดบริษัท LLOUD เป็นของตัวเอง ตามมาด้วยการเซ็นสัญญากับค่ายเพลงระดับโลกอย่าง RCA Records

นอกเหนือจากการทำงานในแวดวงแฟชั่น และการทำเพลงแล้ว ลิซ่ายังหันไปจับงานด้านการแสดงเป็นครั้งแรกด้วย โดยล่าสุดเธอกำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำซีรีส์ยอดนิยมของ HBO เรื่อง The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งอยู่ระหว่างการถ่ายทำที่ประเทศไทยเป็นเวลานาน 6 เดือน

‘ลิซ่า’ โชว์แก๊ง ‘มอลลี่’ ทั้งขนาดใหญ่-ไซส์มินิแบบยกเช็ต แถมล่าสุดพบขายหมดเกลี้ยง - ราคารีเซลพุ่งเรียบร้อยแล้ว

(2 พ.ค.67) เขย่าวงการอาร์ตทอยอีกครั้ง! หลัง ‘ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล’ โพสต์ไอจีสตอรี่โชว์แก๊ง ‘มอลลี่’ (Molly) ตุ๊กตายอดฮิตจากบริษัทของเล่นรายใหญ่ POP MART

ทำเอาคนรักอาร์ตทอยรีบหาซื้อสะสม กลัวว่าราคาของอาร์ตทอยสุดชิคนี้จะราคาพุ่งอีกเหมือน 
‘ลาบูบู้’ มอนเตอร์ฟันแหลมที่ ‘ลิซ่า’ คลั่งรักไม่ไหว โชว์ให้เห็นภาพอยู่บนไอจีสตอรี่บ่อย ๆ

วงการนี้เข้าแล้วออกยากคงไม่เกินจริง เพราะครั้งล่าสุดนี้ ‘ลิซ่า’ ได้โชว์ภาพของเจ้ามอลลี่ที่ไม่ได้มีแค่ตัวหรือสองตัว แต่มาแบบยกแก๊ง แถมยังมีหลายขนาด ไม่ว่าจะเป็น…

- MEGA ROYAL MOLLY 400% MIKA NINAGAWA
- MEGA ROYAL MOLLY 400% Van Gogh Museum Almond Blossom
- One Day of MOLLY (เซ็ตมอลลี่ไซส์มินิ)

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจบนเว็บไซต์ POP MART พบว่าทั้งหมดนี้ขายหมดเกลี้ยงเป็นที่เรียบร้อย และราคารีเซลสำหรับมอลลี่ขนาด 400% จากหลัก 7,000 บาท ก็ราคาพุ่งกว่าเท่าตัว มีให้เห็นตั้งแต่ในราคา 17,000 - 30,000 บาท ขณะที่มอลลี่ไซส์มินิก็พุ่งไปหลัก 500 บาทต่อกล่อง ยกเซ็ตตก 6,000 บาท

'ปราชญ์ สามสี' มองวิวัฒนาการ 'ตลกร้าย' ของ 'โน้ส-อุดม'  ความรุนแรงที่ทวีคูณ เพียงแค่ให้ 'ตนเอง-ผลงาน' ถูกพูดถึง

(5 พ.ค.67) จากเพจ 'ปราชญ์ สามสี' ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดรามา 'โน้ส-อุดม' จากทอล์กโชว์เดี่ยวสเปเชียล ว่า...

มีคนเรียกร้องให้ผมพูดถึง คุณโน้ส อุดม แต้พานิช จากการเดี่ยวครั้งล่าสุด ที่กลายเป็นประเด็นดรามา โดยเฉพาะที่ไปพาดพิงความเป็นเด็กผู้ใหญ่รวมไปถึงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ผมว่าทั้งหมดนั้นมันเป็นเรื่องของ Gallows humor หรือที่แปลเป็นไทยว่า 'ตลกร้าย' นั่นแหละครับ

ข้าพเจ้าเลยจำเป็นที่ต้องออกมาพูดเรื่องของคุณโน้ส อุดม เพราะตลกร้ายของเขานั่นแหละครับ

ผมเชื่อว่าดรามาครั้งนี้จริงๆ...คุณโน้ส อุดม ก็อาจจะต้องการให้มันเกิดดรามา เพื่อชื่อเสียงของเขา เพราะตลกร้ายกระแนะกระแหนเสียดสีดูถูกเหยียดหยามเป็นสิ่งที่ไปกระตุ้นความรู้สึกให้เกิดอารมณ์สอดคล้องหรือต่อต้านกลายเป็นบทสนทนาทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ทั้งหมดนี้ก็เพื่อ Viral Content ครับ

แต่ผมว่าเขาไม่สนหรอกครับว่ามุกตลกของเขามันจะไปทำร้ายจิตใจใคร เหยียดหยามใครดูถูกใครเพราะสิ่งที่เขาต้องการก็เพียงแค่การถูกพูดถึง

Gallows humor เป็นรูปแบบหนึ่งของแนวสุขนาฏกรรม ที่ทำให้ประเด็นละเอียดอ่อนที่โดยทั่วไปถือเป็นเรื่องต้องห้ามให้กลายเป็นเรื่องตลกขบขัน โดยเฉพาะเรื่องที่ปกติถือว่าร้ายแรงหรือเจ็บปวดที่จะพูดคุย

นักแสดงตลกมักใช้เป็นเครื่องมือในการเสาะหาประเด็นหยาบคาย โดยกระตุ้นความไม่สบายใจ ความคิดรุนแรง และสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ชม

ดังนั้นไม่แปลกครับที่คุณจะเริ่มรู้สึกว่าตลกร้ายของคุณโน้ส อุดมนั้นมันเริ่มไม่ตลก แล้วมันกลายเป็นการรังแกคนบนเวทีด้วยเอาคำพูดติฉินนินทาแซะกะแนะกระแหน แล้วมันเริ่มมากขึ้นทุกๆ ปี

ผมติดตามโน้สอุดมมาได้ตั้งแต่โน้ส อุดมครั้งที่ 1 เลยนะครับ แล้วผมก็ยังจำได้ว่าบนเวทีตูดหมึก ก็เคยประกาศว่าจะยุติบทบาท 

โดยบอกว่าเวทีครั้งนั้นจะเป็นเวทีครั้งสุดท้าย แต่นั่นไม่ใช่ความจริง เพราะหลังจากนั้นเขาก็ทำต่อมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน

แม้ว่าโน้สอุดมจะมีวิธีการเล่าเรื่องมีเรื่องใหม่ๆ มาเล่าตลอดในทุกๆ ปี แต่สิ่งนึงที่มีทุกปีเหมือนเดิมทุกครั้งคือตลกร้ายที่ทวีคูณความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และในช่วงปีหลังๆ เริ่มจับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทางการเมืองและบุคคลสำคัญ

ประเด็นนี้เองที่ทำให้โน้ส ถูกจับตามองมากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อสังคม และเริ่มถูกมองในมิติที่ชัดเจนมากขึ้น

ยกตัวอย่างเช่นเรื่องของการโจมตีเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ที่เขาบอกเลยว่า เขาไม่ขอเป็นคนพอเพียงแล้วเพราะมันไม่เวิร์คสำหรับเขา

เขาบอกให้เข้าใจได้ว่า "มีแต่ผู้คนดัดจริตทำ..."

ทั้งๆ ที่ตัวเองตั้งชื่อบริษัทว่า พอดีจำกัด โคตรตลกร้ายนะครับ

เขาไม่เคยรู้เลยหรือว่า ตลกร้ายของเขานั้นกำลังให้ร้ายกับเรื่องที่พระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งยอมสละทั้งชีวิตนับสิบๆ ปี เพื่อสร้างปรัชญาชีวิตให้ผู้คนสามารถอยู่รอดท่ามกลางภัยพิบัติทางเศรษฐกิจ สามารถทำให้ผู้คนอยู่ได้อย่างมั่นคง

แต่กลับถูกตลกร้ายทำลายคุณค่าดูหมิ่นเหยียดหยามเพลงเพราะมันไม่เวิร์คกับเขา ....

แน่สิเพราะว่าคุณโน้ส อุดม หากินบนตลกร้ายการเหยียดหยามผู้อื่นเพื่อบันเทิงผู้ชม โน้สอุดมเลยไม่เคยเข้าใจชีวิตที่ปกติสุข โดยไม่ทำร้ายผู้อื่นด้วยปาก

ผมไม่ได้หมายความว่าจะไปบังคับให้คุณโน้ส อุดมทำเศรษฐกิจพอเพียงหรือชื่นชมสิ่งเหล่านี้ เพราะมันก็จะเป็นเรื่องที่ดัดจริตเช่นกัน เพราะเขาเองก็บอกว่า เขาทำไม่ได้

แต่ตลกร้ายของเขาได้สร้างความรู้สึกให้ผู้ชมในเวลานี้ ว่าโน้สอุดมกำลังกลั่นแกล้งในหลวงรัชกาลที่ 9 จนเกินไปมันล้ำเส้นเกินความพอดีที่จะรับได้

ผมขอวิจารณ์คุณอุดมว่าเขากำลังเสพติดตลกร้ายของเขาเองที่เที่ยววิจารณ์ผู้อื่นจนลืมวิจารณ์ตัวเองที่เที่ยวกระแนะกระแหนผู้อื่นจนลืมดูรากเหง้าของตัวเอง 

เรียกว่าดังแล้วลืมความเป็นคน...
...ลืมว่าตัวเองเคยเป็นใคร

สำหรับข้าพเจ้าแล้วจุดที่โน้สอุดมได้รับความเมตตาจากผู้ชมมากๆ คือ ความกตัญญูต่อมารดา ความใกล้ชิดหยิกแก้มหยอกแซวนิดแซวหน่อย ผมว่าน่ารักอยู่ครับ

แต่ปัจจุบันคุณโน้สอุดมทำตัวเอาแม่มาหาแดกครับและเป็นอยู่อย่างนี้หลายครั้งหลายหนแล้ว มันเริ่มไม่น่ารักครับ

ครั้งล่าสุดเนี่ยโน้สอุดมก็เที่ยวไปบอกว่าให้คนแก่อยู่เฉยๆ พอให้เด็กมันกราบไหว้ได้สนิทใจเถอะ

นี่ไม่ใช่คำพูดของคนที่รู้จักความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณในบ้านแต่เป็นคำพูดของคนกร่างที่เชื่อว่าตัวเองจะชนะโลกใบนี้ด้วยสองมือสองแขนของตนเอง

นั่นไม่ใช่วิถีชีวิตที่ถูกต้องครับ

และขอบอกเลยว่า 'ลิซ่า' ไม่ใช่คนแบบนี้
ลิซ่าที่โด่งดังไปทั่วโลกเวลานี้
เขารู้จักครอบครัว
เขาก็ดูแลครอบครัวเขา
เขารู้จักประเทศของเขา
เขารู้ว่าที่ใดเป็นที่ของเขา
เขารู้อะไรควรทำให้คนทำ

อย่าเอาหลักคิดต่ำทรามไปชี้ว่า ศิลปินคนนั้นคนนี้เขามีพฤติกรรมเหมือนกับคุณ

สวัสดีครับ

‘สื่อเกาหลี’ เผยข้อมูลใหม่ ‘YG’ ทุ่ม 2,700 ลบ. หวังยื้อ ‘ลิซ่า’ ต่อสัญญา สุดท้ายไม่เป็นผล 'ลิซ่า' ตอบปฏิเสธ ก่อนร่วมงานกับ RCA Records

เมื่อวานนี้ (8 พ.ค.67) ที่ผ่านมาสื่อเกาหลีอย่าง Money Today ได้มีการรายงานบทความเกี่ยวกับการฟ้องร้องสิทธิ์เครื่องหมายการค้าของวงการไอดอลที่ตอนนี้มีบางวงในบางค่ายเจอปัญหาในการใช้ชื่อไม่ได้ หนึ่งในนั้นก็คือวงบอยแบนด์อย่าง Shinhwa

แต่ที่น่าสนใจก็คือในบทความดังกล่าวได้มีการเผยถึงข้อมูลด้วยว่าในปี 2023 ที่ทางค่ายวายจี เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ได้มีความพยายามจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะต่อสัญญากับสาว ๆ วง ‘แบล็กพิ้งค์’ นั้น ทางค่ายวายจีฯ เองได้มีการเสนอเงินเป็นจำนวนถึง 2,700 ล้านบาทให้กับ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ ด้วย

โดยตัวเลขดังกล่าวก็ต้องบอกว่ามากกว่าข่าวที่ทางจีนเสนอให้นักร้องหญิง ซึ่งอยู่ที่ 2,600 ล้านบาท

แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีว่าสุดท้ายลิซ่าก็ปัดที่จะเซ็นสัญญาในนามบุคคล แต่ยอมเซ็นสัญญาร่วมกับเพื่อน ๆ ในนามของ ‘แบล็กพิ้งค์’ ก่อนที่เธอและบริษัท Lloud Co. ของเธอจะไปเซ็นสัญญาในรูปแบบพาร์ทเนอร์ชิปกับทางค่าย RCA Records ของอเมริกาด้วยมูลค่าสัญญาเกือบ 6,000 ล้านบาท

‘YG’ ประกาศขาดทุน 7 พันล้านวอน หลังชวดต่อสัญญา ‘ลิซ่า BLACKPINK’

(12 พ.ค.67) YG Entertainment อดีตค่ายเพลงของ ลิซ่า BLACKPINK ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของปีที่ 10 พบว่าการไม่มีอยู่ของวงดังส่งผลกระทบให้ค่ายเพลงขาดทุนทันที 7,000,000,000 วอน ซึ่งต่างจากปีก่อนช่วงเวลาเดียวกัน บริษัททำกำไร 36,500,000,000 วอนและตั้งแต่หมดสัญญาราคาหุ้นก็ตกลงอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเวลาแค่ 6 เดือน หุ้นของบริษัทตกลงมาเกือบ 30%

ทางบริษัทอ้างว่าการขาดทุนนี้มาจากการลงทุนใน 
ทรัพย์สินทางปัญญา และการปั้นวงใหม่ชื่อ BABYMONSTER โดยไม่ได้กล่าวถึงวง BLACKPINK แต่อย่างใด

และถึงแม้ทางค่ายจะพยายามต่อสัญญากับ ‘ลิซ่า’ ด้วยราคาแพงหูฉี่ 2,700 ล้านบาท แต่ลิซ่าก็ปฏิเสธ และไปเซ็นสัญญาแบบพาร์ตเนอร์กับ RCA รับเงินค่าสัญญาพร้อมอิสรภาพในการทำเพลงรวมถึงได้ครอบครองลิขสิทธิ์ผลงานตนเองในราคา 6,000 ล้านบาท


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top