Wednesday, 8 May 2024
ยุบสภา

เปิด 18 ผลงาน 'รัฐบาลลุงตู่' 8 ปีพัฒนา 'ภาคกลาง'

#จดหมายเหตุลุงตู่ #8ปีที่เปลี่ยนไป #ยุบสภา

ตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาบริหารประเทศ เกิดการพัฒนาทั่วทุกภาคของประเทศ ทั้งการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐาน การปฏิรูปคุณภาพชีวิตในชุมชน แก้ไขปัญหาสะสมเรื่องความไม่สงบในประเทศ ออกมาตรการทางเศรษฐกิจ มีการจัดทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  มารดาประชารัฐ โครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการชิมช็อปใช้ โครงการต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนจับต้องได้ทั้งสิ้น และคนที่ได้รับประโยชน์คือประชาชนไทยทุกคน

ในส่วนภาคกลาง มีการประกาศระเบียงเศรษฐกิจภาคกลาง-ตะวันตก ประกอบด้วยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดนครปฐม จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อผลักดันการลงทุนของภาครัฐและเอกชนเพื่อเป็นศูนย์กลางขนส่งและโลจิสติกส์ เชื่อมโยงระหว่างภาคตะวันออกและตะวันตก และภาคตะวันตกกับภาคใต้ตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน

เน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมการแปรรูปอาการเกษตร การท่องเที่ยว และการพัฒนาอุตสาหกรรมมูลค่าสูง โดยสามารถพัฒนาศักยภาพในการเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจหลักของประเทศและระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC  มีโครงการที่สามารถจับต้องและเอื้อประโยชน์ต่อชาวภาคกลางดังนี้

1. โครงการทางพิเศษสายศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหาคร เพื่อขยายโครงข่ายทางพิเศษไปทางตะวันตกของ กทม

2. โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน – นครราชสีมา

3. โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี

4. โครงการก่อสร้างทางหลวงชนบท สาย ฉ และ ค ผังเมือง รวมเมืองชัยนาท จ.ชัยนาท 

5. โครงการถนนสาย ค ผังเมืองรวมเมืองนครสวรรค์ (บริเวณถนนมหาเทพ) 

6. โครงการขยายถนนราชพฤกษ์ระยะที่ 2 (ตอนที่ 2) ซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 - คลองมหาสวัสดิ์)

7. โครงการถนนต่อเชื่อมถนนราชพฤกษ์ – ถนนกาญจนาภิเษก (แนวเหนือ - ใต้) ตอน NS1

8. โครงการถนนต่อเชื่อมถนนราชพฤกษ์ – ถนนกาญจนาภิเษก (แนวเหนือ - ใต้) ตอน NS2

20 โปรเจกต์ หนุน EEC เดินหน้า

#จดหมายเหตุลุงตู่ #8ปีที่เปลี่ยนไป #ยุบสภา

โครงการ EEC (Eastern Economic Corridor) ซึ่งมีอีกชื่อเป็นภาษาไทยว่า ‘โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก’ อีกหนึ่งความหวังใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย ในยุคอุตสาหกรรม 4.0 โดยปัจจุบันมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และเงื่อนไขในการเอื้อต่อการลงทุนแล้วหลายประการ

1. พัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา)
2. พัฒนารถไฟทางคู่ (ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย)
3. พัฒนาท่าเรือมาบตาพุด / ท่าเรือแหลมฉบัง เป็น ‘ประตูการค้า’ เชื่อมโยงกับประเทศในอาเซียน
4. พัฒนาท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ หรือท่าเรือจุกเสม็ด รองรับนิคมอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวทางทะเล
5. ปรับปรุงสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ยกระดับเป็นสนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์หลัก แห่งที่ 3

6. ก่อสร้างมอเตอร์เวย์ 3 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ-ชลบุรี, พัทยา-มาบตาพุด และแหลมฉบัง-นครราชสีมา
7. ต่อยอด 5 อุตสาหกรรมเดิม (ยานยนต์สมัยใหม่, อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ, การท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ, การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ, อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร)

8. ผลักดัน 5 NEW S-curve อุตสาหกรรมใหม่ (หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม, การแพทย์ครบวงจร, ขนส่งและการบิน, เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ, ดิจิทัล)

32 ปี ที่รอคอย!! เหตุการณ์สำคัญ หลังฟื้นสัมพันธ์

#จดหมายเหตุลุงตู่ #8ปีที่เปลี่ยนไป #ยุบสภา

บันทึกเหตุการณ์สำคัญ ฟื้นสัมพันธ์ ไทย - ซาอุฯ สู่ระดับปกติเหมือนเมื่อ 32 ปีก่อน

ย้อนไทม์ไลน์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย ตามคำเชิญของมกุฎราชกุมาร แห่งซาอุฯ ซึ่งเป็นการเยือนระดับผู้นำของสองประเทศครั้งแรกในรอบ 32 ปี เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกัน และพัฒนาการในทางบวกที่จะเป็นประโยชน์ต่อสองประเทศ หลังมีปัญหาระหว่างกันเมื่ออดีตมากกว่า 30 ปีก่อน

รัฐบาลประยุทธ์ 'สร้างชาติ' ชำระหนี้มากที่สุดและลงทุนเพื่ออนาคตมากที่สุด

#จดหมายเหตุลุงตู่ #8ปีที่เปลี่ยนไป #ยุบสภา

รัฐบาลประยุทธ์ 'สร้างชาติ' ชำระหนี้มากที่สุดและลงทุนเพื่ออนาคตมากที่สุด

'ระบบสาธารณสุข' ยุคลุงตู่ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

#จดหมายเหตุลุงตู่ #8ปีที่เปลี่ยนไป #ยุบสภา

รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้มุ่งเน้นด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังใส่ใจด้านคุณภาพชีวิตประชาชนอีกด้วย นับเป็นความมุ่งมั่นของรัฐบาล ที่จะดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างดีที่สุด รวมทั้งยกระดับมาตรฐานด้านสาธารณสุขที่ได้รับการชื่นชมจากทั่วโลก รวมถึงองค์การอนามัยโลก นำไปสู่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และดูแลรักษาสุขภาพโลก และยังพัฒนาต่อไปตามนโยบายยุทธศาสตร์ชาติ โดยมีหลักยึดที่สำคัญ คือ เราจะเดินหน้าไปพร้อมกัน และ ‘ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง’ ภายใต้คำขวัญ ‘ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ร่างกายแข็งแรง เศรษฐกิจประเทศแข็งแรง’ เพื่อให้เห็นภาพรวมในการพัฒนาด้านสาธารณสุข ขอสรุปให้เห็นเป็นรูปธรรมดังนี้

- ยกระดับและต่อยอดบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค ไปเป็น ‘บัตรทองพรีเมี่ยม’ เพิ่มสิทธิประโยชน์ เพิ่มคุณภาพบริการ

- บัตรทองพรีเมี่ยม รักษาโควิดฟรี

- ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565 ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองสามารถเข้ารักษาในหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ทั่วประเทศโดยที่หน่วยบริการจะไม่มีการเรียกให้กลับไปรับใบส่งตัวมาเหมือนในอดีตที่เคยเป็นปัญหา

- บัตรทองทำให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งไปรับบริการที่ไหนก็ได้

- บัตรทองให้สิทธิ์การย้ายหน่วยบริการ ได้สิทธิทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน

- ผู้ถือบัตรทองได้สิทธิฟอกไตฟรี 

- มาตรการลดการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 มีการรณรงค์เพื่อการเพิ่มระยะห่างทางสังคม (และส่งเสริมการทำงานที่บ้าน รวมถึงกลไกในการทำงานที่ขันแข็งของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กว่าหนึ่งล้านคนทั่วประเทศ

- ระบบประกันสุขภาพครอบคลุมประชาชนเท่าเทียม

- พัฒนาระบบบริการสาธารณสุข แพทย์สมัยใหม่ และแพทย์แผนไทย

- พัฒนาและยกระดับความรู้อาสาสมัครสาธารณสุขประจาหมู่บ้าน (อสม.)

- ลดภาระการเดินทางไปสถานพยาบาลของประชาชน

- ลดความแออัดในโรงพยาบาลขนาดใหญ่

- รับยาที่ร้านขายยาแผนปัจจุบันใกล้บ้านสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หืด จิตเวช และโรคเรื้อรังอื่นๆ 

- ส่งยา/เวชภัณฑ์ถึงบ้านทางไปรษณีย์ การบริการสาธารณสุขระบบทางไกล (Telehealth/Telemedicine) และการตรวจทางห้องปฏิบัติการนอกโรงพยาบาล

- เพิ่มบริการสำหรับแม่และเด็ก 

- การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก การเพิ่มวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก 

- คัดกรองภาวะ Down Syndrome ในหญิงตั้งครรภ์ (อายุไม่เกิน 35 ปี)

- ผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมสำหรับเด็กหูหนวก

'ซาอุดีอาระเบีย' ปักหมุด EEC ลงทุนในไทย ร่วม 3 แสนล้านบาท!!

#จดหมายเหตุลุงตู่ #8ปีที่เปลี่ยนไป #ยุบสภา

สำหรับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ราชอาณาจักร ‘ไทย-ซาอุดีอาระเบีย’ ที่ห่างหายมานานกว่า 32 ปี ได้สำเร็จนั้น ส่งผลในทางบวกที่ประชาชนทั้ง 2 ประเทศต่างรอคอย และชาวโลกก็เฝ้าติดตามเช่นกัน ในที่สุดความหวังที่มีมาอย่างยาวนานถึง 14 รัฐบาล ก็เกิดขึ้นจริงในปี 2565 มีการแลกเปลี่ยนการเยือนอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) 

โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 25 ม.ค.65 และเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เสด็จเยือนไทย เมื่อวันที่ 18 พ.ย.65 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top