Friday, 17 May 2024
ยะลา

ยะลา - ผบ ฉก ยะลา กำชับกำลังพลป้องกันชายแดนพร้อมรับคนไทยถูกทางการมาเลเซียผลักดันสกัดช่องทางธรรมชาติหวั่นเชื้อแพร่ในพื้นที่

ผบ ฉก ยะลา กำชับกำลังพลป้องกันชายแดนที่ 4 พร้อมรับคนไทยถูกทางการมาเลเซียผลักดันกำชับขุดจรยุทธ์สกัดการหลบหนีทางช่องทางธรรมชาติที่ไม่ผ่านการคัดกรองหวั่นเชื้อแพร่ในพื้นที่ หลังจากคนไทยถูกทางการมาเลเซียผลักดันเดินทางกลับเป็นวันสุดท้าย ผ่านด่านพรมแดนเบตง จำนวน 49 คน โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้มีการคัดกรองอย่างละเอียดทุกคน

เมื่อวันที่ 21เม.ย.64 บรรยากาศที่ด่านพรมแดนเบตง  อำเภอเบตง จังหวัดยะลา โดยในวันนี้มีแรงงานไทยที่ไปทำงานและอาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซียกรณีวีซ่าหมดอายุและลักลอบอยู่แบบผิดกฎหมาย ซึ่งทางการมาเลเซียได้ผลักดันกลับเป็นวันสุดท้ายต่างทยอยเดินทางกลับผ่านทางด่านพรมแดนเบตงจำนวน49 คน ที่ทางการมาเลเซียผลักดันกลับมาจากมาตรการป้องกันโควิด-19 ของมาเลเซีย โดยมีเจ้าหน้าที่ สาธารณสุขอำเภอและกรมควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ คัดกรองคนไทยกลุ่มนี้อย่างละเอียดทุกคน ตามมาตรการป้องกันโควิด-19

โดยมีการวัดไข้ วัดอุณหภูมิร่าง หากมีอุณหภูมิสูงกว่า 37 องศา ทางเจ้าหน้าที่ ก็จะส่งตัวไปยังโรงพยาบาลทันที และได้แยกแรงงานไทยแต่ละพื้นที่ ซึ่งอาศัยอยู่ใน 5 จังหวัด ภาคใต้ ทั้งสตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ให้ทางจังหวัดนั้นมารับตัวกลับไปกักตัวตามภูมิลำเนาของตนเองที่อาศัยอยู่

โดยในส่วนของ อ.เบตงให้กักตัวอยู่ที่ศูนย์ กักตัวอำเภอเบตง เป็นเวลา 14 วัน หากรายใดมีอาการผิดปกติก็จะถูกส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลทันทีและทำการตรวจหาเชื้อเพาะเชื้อโควิด – 19 นอกจากนี้ทางอำเภอเบตงได้เตรียมชุดปฏิบัติการ รวมทั้งสถานที่ Local Quarantine ในการรองรับผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย เพิ่มขี้นด้วย อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ช่วยกันสอดส่องดูแล หากพบเห็นว่ามีบุคคลต่างด้าว หลบหนีเข้ามากก็ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ อสม. ประจำหมู่บ้านเข้าตรวจสอบ ในเบื้องต้น

ขณะที่ พันเอก อายุพันธ์ กรรณสูต ผู้บังคับชุดป้องกันชายแดน  เดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ ชป.จรยุทธ์ โดยได้เน้นย้ำในการเฝ้าตรวจควบคุมบุคคลหลบหนีข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามแนวชายแดน  ตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่า COVID19 และได้สั่งการเพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวัง และสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามแนวชายแดนไทย – มาเลเซียรวมทั้ง เพิ่มมาตรการในการลาดตระเวน อย่างเข้มข้นทุกตารางนิ้ว สกัดกั้นทุกช่องทางตลอดแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย และชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ตามแนวชายแดน พร้อมทั้งเข้มงวดควบคุมพื้นที่  โดยมีตำรวจตระเวนชายแดนชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4405 และ 4406 บูรณาการคนและเครื่องมือร่วมกันในการบังคับใช้กฎหมายตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด รวมทั้งการเสริมกำลังตามแนวชายแดน  โดยเฉพาะช่องทางที่มีชุมชนหรือหมู่บ้านอาศัยอยู่ใกล้แนวชายแดน

โดยให้มี การจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และการจัดตั้งแหล่งข่าว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้นการลักลอบการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พร้อมทั้งชี้แจง สร้างความเข้าใจให้กับประชาชนตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า COVID -19 รวมทั้งขอความร่วมมือจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนในพื้นที่ เป็นหูเป็นตา ช่วยกันสกัดกั้นการกระทำผิดตามแนวชายแดน ตัดต้นตอของขบวนการ ก่อนเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่ายเฝ้าระวังป้องกันตนเอง ให้มีความปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า COVID-19 ด้วย พันเอก อายุพันธ์ กรรณสูต ผู้บังคับชุดป้องกันชายแดน กล่าว


ภาพ/ข่าว  ธานินทร์  โพธิทัพพะ / ปื๊ด เบตง

ยะลา – ด่วน !! โควิดเบตงดับแล้ว 1 ราย พบมีโรคประจำตัวด้วย หลังได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเบตง

พบมีโรคประจำตัว ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเบตง ด้วยอาการรู้สึกเหนื่อยง่าย นอนไม่หลับ มีไอ โดยแพทย์ได้วินิจฉัยเบื้องต้น Pneumonia  ทำการสุ่มเก็บตัวอย่างหาเชื้อโควิด หลังพบเชื้อ เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2564 จึงทำการย้ายผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในตึกcohort ชองโรงพยาบาลเบตง ต่อมาผู้ป่วยได้เสียชีวิต ซึ่งผู้ป่วย มีโรคประจำตัว

เมื่อวันที่ 26 เม.ย.64ในพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เพื่อให้การปฏิบัติการในการค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 เชิงรุกฯ และให้เป็นไปตามมาตรการ การควบคุมวิกฤตโควิด-19 อย่างเด็ดขาด  ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา โดยได้ทำการยกระดับในการสแกนตัวบุคคลในการเดินทางเข้าพื้นที่เขตอำเภอเบตง ภายหลังจากมีผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่องในพื้นที่ จำนวน 8 ราย และมีเคสผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเสียชีวิตแล้ว 1 ราย ผู้ป่วยเพศชาย อายุ 63 ปี 10 เดือน 

โดยผู้ป่วยมีโรคประจำตัว ซึ่งผู้ป่วยมีประวัติเกี่ยวกับโรคไตวาย และได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเบตง เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2564 ที่ผ่านมา โดยมีอาการ รู้สึกเหนื่อยง่าย นอนไม่หลับ มีไอ แพทย์ได้ทำการ วินิจฉัยเบื้องต้น  Pneumonia  โดยได้ทำการสุ่มเก็บตัวอย่างหาเชื้อโควิด เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2564ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าพบเชื้อ เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2564 จึงได้ทำการย้ายผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในตึก cohort ของโรงพยาบาลเบตง ต่อมา เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2564 เวลา 06.45 น.ผู้ป่วยได้เสียชีวิตลงและได้ทำการฌาปนกิจในวันเดียวกันทันทีโดยทีมแพทย์ไม่ให้ญาติเข้าไปเกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการติดเชื้อ


ภาพ/ข่าว  ธานินทร์  โพธิทัพพะ / ปื๊ด เบตง

ยะลา – นายอำเภอเบตง ตรวจเข้มจุดคัดกรองสกัดโควิด-19 เข้าพื้นที่หลังผู้ติดเชื้อเสียชีวิตลงภายใต้ “ร่วมใจเบตงสู้ไปด้วยกัน”

นายอำเภอเบตงตรวจเข้มจุดคัดกรองเดินทางข้ามอำเภอ ตำบล  พื้นที่รอยต่อระหว่างพื้นที่ควบคุมสูงสุด เพื่อเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการของจังหวัดยะลาภายใต้ “ร่วมใจเบตงสู้ไปด้วยกัน” หลังผู้ติดเชื้อเสียชีวิตรายแรกของอำเภอเบตง

เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2564 นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง  จ.ยะลาพร้อมด้วย พ.ต.ท.ทศพล พลอยงาม รองผกก.ป.สภ.เบตง พร้อมด้วย สมาชิกแม่บ้านมหาดไทยอำเภอเบตง  พัฒนาการอำเภอ  สมาชิกสภาเทศบาลเมืองเบตง  ผู้นำชุมชนและประชาชนจิตอาสา ออกเยี่ยมเยียนเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ จุดคัดกรองการเดินทางข้ามอำเภอ ตำบล  พื้นที่รอยต่อระหว่างพื้นที่ควบคุมสูงสุด เพื่อเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการของทางราชการ พร้อมทั้งมอบน้ำดื่มและแอลกอฮอล์  เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย ให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ณ จุดตรวจ/จุดคัดกรอง เข้าพื้นที่ อ.เบตง  พร้อมกันนี้ นายอำเภอเบตงยังได้ตรวจเยี่ยมบ้านผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงโดยให้คำแนะนำ ตามมาตรการป้องกันโรคโควิด - 19 และให้ อสม.ประจำตำบล ติดตามในการปฏิบัติตัวให้เป็นตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง  เปิดเผยว่า มาตรการของจังหวัดยะลา ได้ดำเนินการเข้มทุกมาตรการ ประชาชนโดยส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ยังมีชาวบ้านบางส่วน ที่อาจมีความจำเป็นต้องทำภารกิจในพื้นที่เสี่ยงพื้นที่ระบาด ส่งผลให้การตรวจหาเชื้อบุคคลกลุ่มเสี่ยง ในเชิงรุกโดยในพื้นที่มีผู้เดินทางกลับมาในพื้นที่จำนวน 240 คนโดยมี อสม.ประจำตำบลติดตามในการปฏิบัติตัวให้เป็นตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด สำหรับผู้ที่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงทางอำเภอเบตงได้ขอความร่วมมือ หากหลีกเลี่ยงไม่ไปไม่ได้ในการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงกลับมา ก็ต้องป้องกันตัวเอง และเมื่อกลับมาต้องกักตัวเองอยู่บ้าน 14 วัน และรีบเข้ารับการตรวจเชื้อเพื่อความปลอดภัย

นอกจากนี้ นายอำเภอเบตง พร้อมด้วย สมาชิกแม่บ้านมหาดไทยอำเภอเบตง  พัฒนาการอำเภอ  สมาชิกสภาเทศบาลเมืองเบตง  ผู้นำชุมชนและประชาชนจิตอาสา ลงพื้นที่เยี่ยมเยียน และมอบถุงยังชีพของอำเภอเบตง  ให้กับญาตผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 รายแรกของอำเภอเบตงและ มอบถุงยังชีพของอำเภอเบตง  ให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีฐานะยากจน ยากไร้ ผู้ป่วยติดเตียง มีความยากลำบากในการดำรงชีวิต ในพื้นที่ หมู่ที่ 1และ หมู่ 2 ตำบลตาเนาะแมเราะ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ประชาชนและ ขอเป็นกำลังใจให้ อสม.และเจ้าหน้าที่ทุกคน  ช่วยกันฝ่าวิกฤตโรคติดต่อโควิด 19 ไปให้ได้ควบคู่ไปกับมาตรการป้องกันโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยให้ยึดหลัก D-M-H-T-T  D : Distancing คือ เว้นระยะห่างระหว่างกัน M : Mask Wearing คือ สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัยตลอดเวลา H : Hand Washing คือ ล้างมือบ่อย ๆ T : Testing คือ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้างาน T : Thai Cha Na คือ เช็กอินผ่านแอปพลิเคชัน "ไทยชนะ" ทุกครั้ง เมื่อเข้าไปในสถานที่ต่าง ๆโดยในพื้นที่อำเภอเบตงจะไม่มีการสูญเสียเพิ่มขึ้นอีก ภายใต้ “ร่วมใจเบตงสู้ไปด้วยกัน”


ภาพ/ข่าว  ธานินทร์  โพธิทัพพะ / ปื๊ด เบตง

ยะลา - เคอร์ฟิววันแรก เมืองเบตงเงียบสงัดทั้งเมือง มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง กู้ภัย ที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบ

เมื่อวันที่ 1 พ.ค.64 เวลา 21.00 น. ที่บริเวณหอนาฬิกาเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง ได้เป็นประธานปล่อยแถว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เบตง, นปพ.ยะลา32, ตชด.445, ฉก.ตชด.445, ทหาร ชุดป้องกันชายแดนที่4, ฝ่ายปกครอง และกู้ภัยในพื้นที่อำเภอเบตง จำนวน 200 นาย เพื่อดูแลรักษาความสงบในห้วงเวลาเคอร์ฟิว และเป็นการทำตามนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ที่ประกาศ ห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 22.00 น.-04.00 น. เพื่อเป็นมาตรการยกระดับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 COVID-19  โดยเริ่มจากวันนี้เป็นวันแรกจนถึงวันที่ 18 พ.ค.64 ผู้ที่ฝ่าฝืนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยมีพ.ต.อ.เอกชัย พราหมณกุล ผกก.สภ.เบตง หัวหน้าหน่วยกำลังในพื้นที่เข้าร่วม

ทั้งนี้เมื่อถึงเวลา 22.00 น. นายอำเภอเบตงพร้อมเจ้าหน้าที่ได้เวียนไปตรวจดูตามถนนหนทาง สถานที่ร้านค้าต่างๆ ภายในเขตเทศบาลเมือง พบว่า ตามถนนหนทางภายในเขตเทศบาลเงียบสงัด ไม่มีประชาชน ออกมาพลุกพล่านเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา มีเพียงเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามจุดต่าง ๆ เท่านั้น ส่วนตามร้านสะดวกซื้อก็ปิดบริการหมดแล้วตั้งแต่เวลา 21.00 น. เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานต่าง ๆ ได้ทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน และร้านค้าต่าง ๆ ทราบมาก่อนหน้านี้แล้ว


ภาพ/ข่าว ธานินทร์ โพธิทัพพะ / ปื้ดเบตง  

ยะลา – เบตง เพิ่มความเข้มหวั่นคนไทยลักลอบเข้าเมืองก่อนเทศกาล ‘ฮารีราย’ นำไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ แอฟริกาใต้ เข้าตามแนวชายแดน

นายอำเภอเบตงสั่งวางกำลัง บูรณาการหลายฝ่าย สกัดกั้น โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ แอฟริกาใต้ หลังมาเลเซียพบยอดติดสูง  บูรณาการร่วมหน่วยกำลังตรวจเข้มช่องทางธรรมชาติ ด้านชายแดนอำเภอเบตง จังหวัดยะลา หวั่นลักลอบเข้าเมืองก่อนเทศกาลฮารีรายอในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้

วันที่ 4 พ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา ได้ออกคำสั่งให้ทุกฝ่าย ทหารชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4  ตำรวจ สภ.เบตง  ฝ่ายปกครอง ตรวจคนเข้าเมือง  ตชด.445 ชุดเฝ้าตรวจ 4405 และ 4406  กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน วางมาตรการ จัดกำลังวางแผน บูรณาการร่วมออกลาดตระเวน เฝ้าระวังหมู่บ้านติดชายแดนมาเลเซียเพื่อป้องกัน กลุ่มคนไทยที่ทำงานในประเทศมาเลเซียที่ยังหลบซ่อนตัวอยู่ตามแนวชายแดนลักลอบเข้ามาแบบผิดกฎหมาย ตามช่องทางธรรมชาติ รอยต่อประเทศมาเลเซีย ในช่วงก่อนเทศกาล‘ฮารีราย’ ในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ ทังนี้เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สายพันธุ์ใหม่คือสายพันธุ์ แอฟริกาใต้ โดยเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มงวด ความถี่ ขึ้นกว่าเดิม ขณะที่ในเขตเทศบาลเมืองเบตงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เบตงได้ออกประกาศขอความร่วมมือประชาชนงดออกภายนอกเคหะสถานช่วงเวลา 22.00 – 04.00 น. เพื่อป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยได้เริ่มบังคับใช้มาตั้งแต่ 1-18 พ.ค.2564

ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ต่างให้ความร่วมมือในการคัดกรองตามจุดต่าง ๆ ในเขตเทศบาลและที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตงได้มีการตั้งจุดคัดกรองลงทะเบียนไทยชนะ เพื่อการติดตามหากมีการพบผู้มีอาการและกำหนดให้มีทางเข้า – ออก ตลาดเพียง 2 ช่องทางเพื่อป้องกันการแออัด และเป็นการเว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

ขณะที่บรรยากาศย่านการค้า ซึ่งถือว่าเป็นย่านการค้าที่เป็นแหล่งรวบรวมสินค้าที่จำหน่ายนักท่องเที่ยว ต่างปิดตัวลงชั่วคราว  โดยตั้งแต่มีการระบาดของโควิดระลอก 3 ซึ่งที่ผ่านมาอำเภอเบตงที่ไม่เคยมีการติดเชื้อในระลอก 1 และ 2 ปรากฏว่าในระลอกที่ 3 มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตด้วย ทำให้บรรยากาศเงียบเหงาไร้นักท่องเที่ยว ทำให้หลายร้านโดยเฉพาะผู้ค้ารายย่อยที่เป็นร้านค้าขนาดเล็กหาเช้ากินค่ำ ต้องปิดกิจการชั่วคราวทิ้งไว้แต่ร้านร้างว่างเปล่าลงจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ป่วยยืนยัน 13 ราย กำลังรักษา 6 ราย เสียชีวิต 1 ราย รักษาหายกลับบ้าน 5 ราย ส่งต่อ 1 ราย และการคัดกรองเชิงรุกกลุ่มเสี่ยง โดยกลุ่มเสี่ยงสูง 180 ราย กลุ่มเสี่ยงต่ำ 135 ราย รอผลเสี่ยงต่ำ 2 ราย


ภาพ/ข่าว  ธานินทร์  โพธิทัพพะ / ปื้ดเบตง

ยะลา – เฝ้าระวังการก่อเหตุก่อนเทศกาล ‘รายอ’ หวั่นตอบโต้กรณีปะทะกรงปินัง

เจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ก่อนเทศกาลรายอ ที่คนร้ายมักใช้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ นอกจากนี้จากกรณีเจ้าหน้าที่สนธิกำลังติดตามจับกุมผู้กระทำผิด กฏหมายในพื้นที่บ้านบาตูบือละอ.กรงปินัง จ.ยะลา จนเกิดปะทะกับผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ เป็นเหตุทำให้ทหารพรานพลีชีพ 1 นาย ส่วนโจรใต้ดับ 2 รายมอบตัว 1 ราย

เมื่อวันที่ 6 พ.ค.64 จากกรณีเจ้าหน้าที่สนธิกำลังร่วม 3 ฝ่าย ตำรวจทหาร ฝ่ายปกครอง ทำการติดตามจับกุมผู้กระทำผิด กฏหมายในพื้นที่บ้านบาตูบือละ หมู่ที่ 2 ต.สะเอะ อ.กรงปินัง จ.ยะลา จนเกิดปะทะกับผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ เป็นเหตุทำให้ อส.ทพ.นพรัตน์ สุขสอน อายุ 27 ปี ร้อย.ทพ.4701 ฉก.ทพ.47 ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ที่ 5 ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย เสียชีวิต จากการปะทะเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายวันฮาซัน อะซู อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 42/2 หมู่ที่ 10 บ้านแอร้อง ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เป็นสมาชิกระดับปฏิบัติการ ต่อมาเจ้าหน้าที่ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 และเจ้าหน้าที่ ชุด เก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด(EOD.)เข้าตรวจที่เกิดเหตุบริเวณเชิงเขาป่าสวนยางพาราอย่างละเอียดพบศพคนร้าย จำนวน 2 ราย คือ นายรีสวัน เจ๊ะโซะ อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 58/2 บ้านอุเป หมู่ที่ 9 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา สมาชิกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ระดับปฏิบัติการ และนายอีลียัส เวาะกา อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 9 หมู่ที่ 4 บ้านลูโบะกาโล ต.ปุโรง อ.กรงปินัง จ.ยะลา จนท.สามารถยึดอาวุธปืนสงครามอาก้า (AK-47)ในที่เกิดเหตุ จำนวน 2 กระบอก และอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.40 น.ของวันที่ 4 พ.ค.64 ที่ผ่านมานั้น

ต่อมาเมื่อวันที่ 6 พ.ค.64 พ.ต.อ.วงศกร เหมือนเขียว ผกก.สภ.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกลาดตระเวนบนถนนสายหลัก ยะลา – เบตง และในพื้นที่สุ่มเสี่ยง คอสะพาน ท่อลอด ระบุว่า ในช่วง 10 วัน ก่อนที่จะถึงเทศกาลรายอ ของ ชาวไทยมุสลิมในทุกปีและคาดว่ากลุ่มก่อความสงบอาจจะสร้างสถานการณ์ในการตอบโต้เจ้าหน้าที่ในการปะทะจนทำให้สูญเสียผู้ร่วมขบวนการไป 2 รายโดยคนร้ายจะฉวยโอกาสก่อเหตุหนักยิ่งขึ้น  

อย่างไรก็ตามหน่วยกำลังทหารชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4  ตำรวจ  ฝ่ายปกครอง และ กำลังภาคประชาชน ได้เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบ เพิ่มความถี่ในการ เฝ้าระวังยานพาหนะที่จะเข้ามายังตัวเมือง อย่างละเอียด โดยเฉพาะการค้นหารถยนต์ต้องสงสัย คันล่าสุด เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดราก้อนอาย ที่แหล่งข่าว แจ้งเตือนว่า เป็นรถที่ประกอบระเบิดสำเร็จแล้ว เตรียมใช้ก่อเหตุเป็นคาร์บอมในเขตเมือง ของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 

โดยหลังจากนี้ได้เน้นย้ำทุกหน่วยทุกกำลังในพื้นที่ให้เพิ่มความระมัดระวังและดูแลเป้าหมายอ่อนแอในพื้นที่ตลอดจนสาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่เป็นสาธารณะที่ประชาชนใช้ประโยชน์ อาทิ เส้นทางสัญจร ถนนสายหลัก สายรอง ระบบการสื่อสารต่าง ๆ ที่ผู้ก่อความไม่สงบเข้ามาทำร้ายทำลายเพื่อตอบโต้เจ้าหน้าที่ ได้เน้นย้ำเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนในมาตรการการควบคุมพื้นที่และบังคับใช้กฎหมายและขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน ได้ช่วยกันเฝ้าระวังและเป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแส หากพบเห็นบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็วโทร.191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ยะลา – นายอำเภอเบตง กำชับเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเบตง และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเบตง

เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเบตง ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเบตง ตำรวจท่องเที่ยว ทหารชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4 เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเบตง ให้เพิ่มความเข้ม เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าทางรั้วชายแดนไทย – มาเลเซีย ทางช่องทางธรรมชาติ โดยกำชับการตรวจสแกนควบคุมโรคคนไทยที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย โดยทุกคนต้องผ่านการตรวจสแกนอย่างละเอียดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์อินเดียอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้มีการหลุดลอด

ยะลา - เบตง ไม่หลาบจำ จับพ่อค้าแม่ค้า ขายใบกระท่อมให้กลุ่มวัยรุ่น

เบตง ตชด. อส.อำเภอเบตง บุกค้นบ้าน จับพ่อค้า แม่ค้า ขายใบกระท่อม ให้กลุ่มวัยรุ่นและผู้ใช้แรงงาน รับสารภาพจำหน่ายมานานแล้ว ถูกจับดำเนินคดีหลายครั้งแล้ว เสียค่าปรับเสร็จขายต่อ

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 13 พ.ค.64 นายพิชัย แก้วจำรัส ปลัดอำเภอเบตง รับผิดชอบงานยาเสพติด สืบทราบว่าพื้นที่บ้านบ่อน้ำร้อน หมู่2 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา มีการลักลอบจำหน่ายใบกระท่อมให้กลุ่มวัยรุ่นและผู้ใช้แรงงานเพื่อนำไปต้มเป็นยาเสพติด 4x100 ซึ่งเป็นยาเสพติดที่ได้รับความนิยมในพื้นที่ภาคใต้ จึงได้ประสาน พ.ต.ท.อรรถพล  จินตาคม ผบ.ร้อย ตชด.445 ร.ต.อ.มาตุภูมิ ธรรมเนียม หัวหน้าชุดปฏิบัติการการข่าว ร้อย ฉก.ตชด.445 และผู้ใหญ่บ้าน นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตชด. อส.อำเภอเบตง เข้าตรวจค้นจับกุม

เจ้าหน้าที่ได้วางแผนแบ่งกำลังเป็น 2 ชุด โดยชุดแรกเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 58/11 หมู่2 ซ.วังน้ำวน ต.ตาเนาะแมเราะ จับกุม น.ส.นิตย์ พุทธจักจันทร์ อายุ 45 ปี พร้อมของกลางใบพืชกระท่อมสดจำนวน 35 ถุง น้ำหนักรวม 2.38 กิโลกรัม เครื่องชั่งจำนวน 1 เครื่อง ซึ่งใช้สำหรับชั่งใบพืชกระท่อมสด อยู่ภายในห้องนอนของบ้าน จากการสอบถามเบื้องต้น รับสารภาพ จำหน่ายใบกระท่อมมาประมาณ 1 ปี แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจค้นบ้านจับกุมมาแล้วประมาณ 3 ครั้ง ทุกครั้งแฟนจะเป็นคนรับ แต่ครั้งนี้ ตนได้เลิกกับแฟนแล้ว จึงต้องรับไว้เอง ใบกระท่อมซื้อมากิโลกรัมละ 850 บาท แล้วจะนำมาแบ่งขายให้กับกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใช้แรงงานในราคา ขีดละ 120 บาท

ด้านเจ้าหน้าที่อีกชุด เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 80/2 หมู่2 ซ.อีสาน ต.ตาเนาะแมเราะ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านที่เจ้าหน้าที่ชุดแรกตรวจค้น ประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่จับกุมนายสุเด็ง ยารง อายุ 43 ปี พร้อมของกลางใบพืชกระท่อมสดจำนวน 20 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 1.9 กิโลกรัม น้ำต้มใบกระท่อม 2 ขวด น้ำหนักประมาณ 2.2 ลิตร สอบถามเบื้องต้นรับสารภาพ ขายใบกระท่อมมาประมาณ 4 ปี แล้ว โดนเจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดีมาแล้ว 4 ครั้ง พอเสียค่าปรับเสร็จ ก็กลับมาขายอีก จะรับใบกระท่อมมาครั้งละ 15 กิโลกรัม ในราคา 12,000 บาท แล้วมาขายขีดละ 100 บาท

เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหา น.ส.นิตย์ มียาเสพติดให้โทษประเภท5 (ใบพืชกระท่อมสด) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และตั้งข้อหานายสุเด็ง มียาเสพติดให้โทษประเภท5 (ใบพืชกระท่อมสด,น้ำต้มพืชกระท่อม) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมทั้งนำตัวและของกลางทั้งหมดส่ง ร.ต.อ.พรชัย ชูนวล พนักงานสอบสวน สภ.เบตง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อ

ยะลา – บุคลากรทางการแพทย์ ทหาร ตำรวจ สื่อมวลชน ในพื้นที่อำเภอเบตง ฉีดวัคซีนซิโนแวคกันโควิด-19 เข็มแรก

เมื่อวันที่ 25 พ.ค.64 ที่โรงพยาบาลเบตง อ.เบตง จ.ยะลา  แพทย์หญิงปัทมพันธ์  อนันตาพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบตง  นายวงศ์วิทย์  อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง นำสื่อมวลชนใน อ.เบตง จ.ยะลา รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร นำโดย พ.ต.อ.เอกชัย พราหมณกุล ผกก.สภ.เบตงและ  ร.อ.เอกชัย ชัยสาลี ผู้บังคับกองร้อย ป้องกันชายแดนที่ 4  นำกำลังพลชุดเฝ้าตรวจชายแดน เข้ารับวัคซีนซิโนแวคป้องกันโควิด-19 โดยมีเจ้าหน้าที่และประชาชน กลุ่มเสี่ยง มารับการฉีดวัคซีนในวันนี้จำนวน 240 คน

ด้านนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา กล่าวว่า ขอให้พี่น้องประชาชนขาวอำเภอเบตงทุกท่านได้ร่วมมือร่วมใจกันมา ลงทะเบียนจองวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้ต่อต้านกับไวรัสโควิด -19 และเมื่อวัคซีนมาถึงก็จะได้รับการฉีดวัคซีนกันทุกคน โดยขณะนี้ได้เปิดจองในกลุ่มของผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและกลุ่มที่มีโรคประจำตัว 7 โรค ซึ่งสามารถลงทะเบียนจองได้แล้วถึง 31 พฤษภาคม 2564 ตาม 4 ช่องทางที่สะดวก ประกอบด้วย รพ. ที่ท่านมีประวัติการรักษา อสม. รพ.สต. ใกล้บ้าน ไลน์หมอพร้อม และ QR-code ชาวยะลาจองวัคซีนโควิด-19 ทั้งนี้เพื่อตนเองครอบครัวและคนที่เรารักตลอดจนเพื่อจังหวัดยะลาของเรา

ขณะที่ ในส่วนประชาชนทั่วไปที่กลุ่มอายุ 18-59 ปี และสนใจในการฉีดวัคซีนนั้น ขณะนี้ทางจังหวัดยะลาก็ได้เปิดจองแล้วเช่นกัน ซึ่งสามารถจองได้ 3 ช่องทาง คือ รพ. รพ.สต. คลินิกหมอครอบครัวใกล้บ้าน อสม. และ QR-code ชาวยะลาจองวัคซีนโควิด-19  ยกเว้นไลน์หมอพร้อม  นอกจากนี้ รพ.ทุกแห่งในจังหวัดยะลา ก็ยังได้เปิดสายด่วนจองวัคซีนโควิด- 19 แล้วก็สามารถโทรจองและสอบถามรายละเอียดได้ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ อสม. จิตอาสา ที่จะลงพื้นที่ไปเคาะประตูบ้านของพี่น้องประชาชนและบริการจองถึงหน้าบ้าน

อย่างไรก็ตาม วัคซีนที่ดีที่สุดคือการฉีดเข้าร่างกายเร็วที่สุด โควิด -19 จะป่วยหรือตาย วัคซีนจะช่วยลดการป่วยและรอดจากการเสียชีวิต จองก่อนได้สิทธิ์ฉีดก่อน ถึงเวลาช่วยชาติ เป้าหมายคือ ยะลาต้องชนะ คนยะลาต้องปลอดเชื้อไวรัสโควิด-19


ภาพ/ข่าว  ธานินทร์  โพธิทัพพะ / ปื๊ด เบตง

ยะลา - ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แก่บุคลากรด่านหน้า ทั้ง AstraZeneca และ Sinovac ไร้อาการข้างเคียง

ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ บุคลากรทางการแพทย์ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า อสม. ผู้นำชุมชน ที่มีความเสี่ยงมีทั้ง AstraZeneca และ Sinovac ไร้อาการข้างเคียง

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2564 ที่ ห้องประชุมภู่พัฒน์ โรงพยาบาลเบตง  จังหวัดยะลา นายแพทย์สวรรค์ กาญจนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบตง มาคอยให้บริการแก่บุคลากรด่านหน้า ทั้ง บุคลากรทางการแพทย์  ข้าราชการตำรวจ ทหาร  เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า อสม. ผู้นำชุมชน ที่มีความเสี่ยงในการให้บริการแก่ประชาชนมารับวัคซีนซิโนแวค เข็มที่ 2

บรรยากาศเป็นไปด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีป้ายบอกจุดให้บริการอย่างชัดเจน มีเก้าอี้เว้นระยะห่าง มีน้ำดื่มให้บริการ และมีเจ้าหน้าที่มาคอยให้คำแนะนำทุกจุด ทำให้การฉีดวัคซีนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมี นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง มาเยี่ยมให้กำลังใจบุลากรและผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 2 ด้วย

นพ.สวรรค์ กาญจนะ ผอ.รพ.เบตง เปิดเผยว่า วันนี้ตั้งแต่เช้าประชาชนทยอยมาฉีดกันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มฉีดวัคซีนมาภายในอาทิตย์นี้ คาดว่าจะฉีดวัคซีนได้ 1,997 คน เป็น AstraZeneca  1,523 คน  Sinovac 475 คน สำหรับวันนี้ เป้าหมายตั้งไว้ 413 คน โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่ม และกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ซึ่งขณะนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 นอนักรักษาตัวอยู่ใน รพ.อยู่ 36 คน ซึ่งทั้งหมด มีอาหารดีขึ้นตามลำดับ และปลอดภัยดี ขณะเดียวกันได้ลงพื้นที่หาผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงใน หมู่บ้านอัยเยอร์เวงไปแล้วทั้งหมด 751 คน ทั้งผู้ป่วยเสี่ยงสูงและความเสี่ยงต่ำ พบทั้งสิ้น 34 รายและได้นำมารักษาพยาบาลที่ รพ เบตงทุกราย เพื่อชาวเบตงปลอดภัยมีภูมิคุ้มกันหมู่ นพ.สวรรค์ กาญจนะ ผอ.รพ.เบตง กล่าว

สำหรับวันนี้ฉีดวัคซีน AstraZeneca และ Sinovac แก่บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ อสม. ผู้นำชุมชน ที่ปฏิบัติงานด่านหน้าในพื้นที่ อำเภอเบตง เข็มที่ 2 จำนวน 413 คน และกลุ่มบุคคล อายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว 7 โรคเรื้อรัง สำหรับผู้ที่จองลงทะเบียนผ่าน Line และ App หมอพร้อม และมีการลงนัดเรียบร้อยแล้วจะได้รับการฉีดวัคซีนเป็นชุดแรกตามนโยบายของรัฐบาล และตามคิวการจอง เพื่อให้ได้รับการฉีดวัคซีนเร็วขึ้น

ส่วนผู้ที่จองลงทะเบียนผ่านช่องทางอื่น ๆ จะได้รับนัดกำหนดฉีดวัคซีนเป็นลำดับถัดไป ซึ่งทางทีมสาธารณสุขฯ จะติดต่อแจ้งให้ทราบเป็นลำดับต่อไป หากผู้ที่จองลงทะเบียนผ่าน Line และ App หมอพร้อม แล้วระบบแจ้งยกเลิกนั้น ไม่ต้องไปจองลงทะเบียนใหม่ เพราะข้อมูลของท่านอยู่ที่ทีมสาธารณสุขฯ แล้ว ขอให้รอการรับแจ้งนัดจากทีมสาธารณสุขฯ เพื่อเข้ารับการฉีดวัดซีนในรอบต่อไป


ภาพ/ข่าว  ธานินทร์  โพธิทัพพะ / ปื๊ด เบตง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top